Skip to content

บุพเพรักข้ามกาล 9

Chapter 9

นางเป็นเมียข้า

จ้าวราชคีร์พยักหน้า ส่วนพวกนางทาสก็ลอบแอบมองอย่างอยากรู้ปนสงสัยว่า เหตุใดจ้าวราชคีร์ถึงเมตตานังเชลยคนนี้ยิ่งนัก? หรือว่าเขาจะโปรดนางเสียกระมัง

ต่างคนต่างก็คิดกันไปต่างๆ นานา มากกินข้าวจนเกลี้ยงจานมิเหลือซักเม็ด พอกินอิ่มแล้วก็เช็ดมือกับผ้านุ่งพลางเหลือบมองหาน้ำดื่ม รุ้งมณีเห็นท่าทีลุงมากก็ยกขันน้ำส่งให้ มากเหลือบมองคนๆ นั้น เห็นมิได้พูดหรือทำท่าห้ามปรามจึงกล้ารับขันน้ำไปยกดื่มอึกๆ รุ้งมณีกินข้าวเสร็จแล้วก็หันหาผ้าจะเช็ดมือ นางทาสรีบขยับเข้าไปยกขันน้ำอีกใบพร้อมกับทำท่าว่าให้ล้างมือในขัน รุ้งมณีมองอย่างเข้าใจ เธอล้างมือในขันพลางยิ้มให้นางทาส “ขอบใจจ้ะ”

จากนั้นเธอก็หันไปมองหาน้ำดื่ม นางทาสอีกคนก็ยกขันน้ำดื่มส่งให้ พอรุ้งมณีกินเสร็จ จ้าวราชคีร์ก็โบกมือให้นางทาสยกจานชามไปเก็บพร้อมกับสั่งว่า “เอ็งหาหมอนหาผ้ามาให้ไอ้คนนั้นที อูย…ข้าจะให้มันนอนในนี้”

นิ้วก็ชี้ไปที่เชลยเฒ่า

“เจ้าค่ะ” นางทาสรับคำสั่งแล้วก็ยกข้าวปลาอาหารออกไป มากเห็นคนๆ นั่นชี้มาที่ตัวเองก็นึกกลัว รีบคลานเข้าไปแอบอยู่ข้างหลังรุ้งมณี

“อะไรจ๊ะลุงมาก?” รุ้งมณีถาม

“ก็ไอ้…เอ่อพ่อคนนั้นน่ะซินังหนู มันชี้มาที่ข้าแล้วก็พูดอะไรกับนังพวกนั้นก็มิรู้ มันจะสั่งให้เอาตัวข้าไปฆ่าไปแกงรึนังหนู” มากบอกอย่างกลัวๆ รุ้งมณีหันไปมองอย่างระวังตัว เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาสั่งอะไรกับพวกนั้น แต่ถ้าจะเอาตัวลุงมากไปฆ่า เธอก็ยอมสู้ตาย!

สักพักนางทาสกลับเข้ามาพร้อมกับหมอนและผ้าห่มเอามายื่นให้เชลยเฒ่า มากรับมาอย่างงงๆ พลางยิ้มแหยๆ ให้นางทาส จ้าวราชคีร์พูดว่า “ข้าให้เอ็งนอนในนี้แหละ โอย…ดูท่าทางเอ็งคล่องงานดีก็อยู่เสียที่นี่แหละ หากแม่รุ้งจะใช้สอยอะไรจะได้เรียกหาได้สะดวกหน่อย”

“จ้ะพ่อ” มากพยักหน้ารับแล้วก็เอาหมอนเอาผ้าห่มคลานไปจัดที่หลับที่นอนตรงมุมกระโจม จ้าวราชคีร์มองอย่างพอใจ แล้วก็หันไปสั่งกับนางทาสว่า “โอย…พวกเอ็งจงไปตามช่างมา ให้มาต่อแคร่นอนให้นางให้เสร็จในวันนี้ แล้วก็จัดหาหมอนมุ้งฟูกนอนอย่างดีมาให้นางใช้เสียใหม่ อูย… ผ้าผ่อนท่อนสไบก็จงเลือกเอาผืนงามๆ มาให้นางนุ่งห่มให้งาม อ้อ…แล้วก็ให้ช่างต่อกระโจมอีกหลังติดกับของข้านี่แหละ ข้าจะให้แม่รุ้งอยู่ นางจะได้อยู่เป็นสัดส่วนมิปะปนกับผู้ใด”

“เจ้าค่ะ” นางทาสรับคำสั่งแล้วก็ลุกออกไปจัดการตามคำสั่ง จ้าวราชคีร์ยหันไปแย้มยิ้มให้เชลยสาว “ข้าสั่งให้คนมาต่อกระโจมให้เจ้าแล้วรวมทั้งแคร่นอนที่หลับที่นอนข้าก็สั่งให้นังพวกนั้นจัดหาให้เจ้าเสียใหม่ เจ้าต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่แม่รุ้ง?”

เขาถามอย่างใส่ใจ รุ้งมณีส่ายหน้าตอบว่า “ไม่มีจ้ะ ขอบใจจ้ะ”

เธอยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มให้เขา สักพักนางทาสกลับเข้ามาตามด้วยช่างไม้ ช่างไม้หมอบกราบแล้วก็ถามว่า “ท่านราชคีร์จะให้ข้าต่อกระโจมต่อแคร่ตรงที่ใดหรือขอรับ?”

จ้าวราชคีร์ขยับตัวหันไปพูดกับช่างไม้ว่า “โอย…เอ็งต่อกระโจมใหม่ข้างๆ กระโจมของข้านี่แหละ อูย…เอ็งจงเร่งมือให้เสร็จภายในวันนี้”

“ขอรับ” ช่างไม้รับคำสั่งแล้วก็รีบคลานออกไปทำงาน จ้าวราชคีร์ก็ขยับตัวลงนอน รุ้งมณีรีบลุกไปช่วยประคอง พอเขานอนแล้วเธอก็ขยับตัวไปนั่งข้างตั่งคอยเฝ้าดูแล จ้าวราชคีร์มองวงหน้าหวานจนนอนหลับไป รุ้งมณีขยับไปจับผ้าห่มคลุมให้แล้วก็ถอยไปนั่งตามเดิม เธอหันไปหยิบล่วมยามาตรวจดูข้าวของว่ามีสิ่งใดขาดไปบ้าง พอดูล่วมยาเสร็จเธอก็เอาล่วมยาวางไว้ข้างๆ ตัว อยากจะออกไปเดินข้างนอกก็ไม่กล้ากลัวทหารข้างนอกจะทำร้ายเอา อย่างน้อยอยู่ในนี้ก็น่าจะปลอดภัยมากกว่าเพราะคนเจ็บดูท่าทางจะเมตตาต่อเธออยู่มาก

นั่งจับเจ่าดูรอบๆ ตัวไปมาจนเริ่มหาวง่วงนอน เธอจึงเอนตัวลงนอนข้างตั่ง สักพักเธอก็หลับไป ส่วนมากหลับไปตั้งแต่ตอนที่รุ้งมณีดูล่วมยา พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย คืนที่ผ่านมาก็มิได้หลับเต็มตาเพราะมัวหวาดระแวงว่าเมื่อใดจะถูกไอ้พวกกาสีลากไปฆ่าไปแกง นางทาสชะเง้อชะแง้มองพลางหันไปซุบซิบคุยกันเบาๆ บางคนก็คลานออกไปข้างนอกเหลือนางทาสคอยเฝ้ารับใช้อยู่ 2 คน

เบื้องหน้ากระโจมของจ้าวราชคฤห์ เหล่าแม่ทัพนายกองกำลังรายงานสถานการณ์ภายในกองทัพ จ้าวราชคฤห์ฟังแล้วก็สั่งกับแม่ทัพนายกองตามที่เห็นสมควร ครั้นพอสั่งราชกิจเสร็จแล้วเขาก็รีบกลับไปหาน้องชาย

“ท่านพี่เจ้าขา” เสียงพระสนมเอกเรียก จ้าวราชคฤห์หันไปมอง “มีอะไรรึ?”

พระสนมเอกรีบเดินเข้าไปหมอบแทบเท้า “ท่านพี่เฝ้าจ้าวราชคีร์มาหลายวันแล้วนะเจ้าคะ ข้าได้ยินว่าจ้าวราชคีร์อาการดีขึ้นมากแล้ว ท่านน่าจะพักบ้างนะเจ้าคะ ข้าจะได้คอยนวดให้ท่านคลายเหนื่อยเมื่อยล้าเจ้าค่ะ”

“ข้าขอบใจที่เจ้าอาสารับใช้ข้า แต่ข้ายังมิต้องการ เจ้ากลับไปที่กระโจมของเจ้าเถอะ หากข้าต้องการให้เจ้ารับใช้เมื่อใดข้าจะให้คนไปตาม” จ้าวราชคฤห์บอกแล้วก็เดินไป

พระสนมเอกหน้าม้านที่จ้าวราชคฤห์มิสนใจ เหล่านางสนมคนอื่นๆ ซึ่งชะเง้อมองอยู่ห่างๆ ต่างพากันยิ้มเยาะสมน้ำหน้า พอพระสนมเอกเดินผ่านนางสนมคนหนึ่งก็พูดลอยๆ กับนางทาสว่า “ข่าวว่าจ้าวราชคฤห์มัวแต่สนใจนางเชลยที่จับมาใหม่ท่าจะจริงเสียกระมัง ดูซิขนาดคนที่โปรดนักโปรดหนาท่านยังหมางเมินเสียแล้ว”

พระสนมเอกหันขวับไปเอาเรื่อง “เอ็งว่าใครรึนังขี้ข้า!?”

“ข้าก็แค่พูดกับคนของข้า ท่านเดือดร้อนอันใดรึ?” นางสนมแกล้งยานคางลอยหน้าลอยตาตอบ

“อีนังขี้ข้า!” พระสนมเอกโกรธจัดเงื้อมือจะเข้าไปตบ นางสนมเงื้อมือขึ้นรออย่างไร้ความเกรงกลัวพลางถามว่า “ท่านอยากโดนอีกซักกี่ฉาดหรือเจ้าคะ?”

พระสนมเอกชะงักกึก! เพราะครั้งที่แล้วที่มีเรื่องกัน นางถูกตบเสียหลายที ครั้นพอฟ้องจ้าวราชคฤห์ก็ถูกคาดโทษว่า หากมีเรื่องกันอีกจะยกพวกนางให้แก่แม่ทัพนายกองเสียเลย อีกทั้งรอยเก่ายังมิทันจางหาย ฝีมืออีกฝ่ายรึก็เหนือชั้นกว่า นางจึงเลี่ยงว่า “ครั้งนี้ข้าจะมิเอาเรื่องเพราะจ้าวราชคฤห์คาดโทษพวกเอ็งเอาไว้ เพราะข้าสงสารหรอกนะ ข้ายังมิอยากเห็นพวกเอ็งถูกยกให้พวกทหาร”

พูดแล้วนางก็สะบัดหน้าเดินไป นางสนมเบะปากเยาะ “ชิชะ…นึกว่าจะเก่ง เฮ้อะ”

พระสนมเอกเดินปึงๆ กระแทกเท้าไปอย่างโกรธจัดที่ทำอะไรมิได้ อีกทั้งจ้าวราชคฤห์ก็หมางเมินอย่างเห็นชัดจะแจ้ง

“หนอย…อีนังเชลยนั่นมันงามสักปานใดกัน ท่านพี่ถึงได้หลงมันนัก! ข้าอยากจะเห็นหน้ามันยิ่งนัก” พระสนมเอกพูดกับนางทาสของตัวเอง

“ข้าได้ยินพวกนางทาสของจ้าวราชคีร์คุยว่าอีนังคนนั้นมันงามมากเจ้าค่ะ” นางทาสบอก พระสนมเอกก็ยิ่งกระฟัดกระเฟียด “ข้าจะต้องเห็นมันให้ได้ คอยดูซิ!”

“อย่าเชียวนะเจ้าคะ” นางทาสรีบห้ามพลางเตือนสติว่า “หากท่านไปแถวกระโจมจ้าวราชคีร์ ใครต่อใครจะเอาไปพูดให้ท่านเสียหายได้เจ้าค่ะ อีกทั้งจ้าวราชคีร์ก็มิเคยไว้หน้าผู้ใดเสียด้วย”

พระสนมเอกคิดตาม เพราะรู้ดีว่าจ้าวราชคีร์มิเคยไว้หน้าพวกนางสนมเลยสักคน อีกทั้งจ้าวราชคฤห์ก็รักน้องชายยิ่งนัก หากมีเรื่องคราใดจ้าวราชคฤห์ก็เข้าข้างน้องชายเสียทุกครั้งไป ช่างน่าเจ็บใจยิ่งนักที่เสน่หามารยาหญิงมิสามารถจะมัดใจจ้าวราชคฤห์เอาไว้ได้ นางสนมคนอื่นๆ ก็จ้องจะแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ช่างน่าเจ็บใจเสียจริง!

พระสนมเอกเดินกลับกระโจมของตัวเองอย่างกระฟัดกระเฟียดขัดอกขัดใจ

จ้าวราชคฤห์รีบกลับไปที่กระโจมน้องชาย พอเข้าไปข้างในก็มองน้องชาย พอเห็นว่าน้องชายนอนหลับอยู่ก็โล่งใจ แล้วเขาก็มองหานางเชลยคนงาม นางหายไปไหน? เขาคิดในใจ เขามองหาพลางก้าวเท้าเดินไปนั่งบนตั่งทอง พอเหลือบเห็นนางนอนหลับอยู่ข้างตั่งก็แย้มยิ้ม…นางอยู่นี่เอง

เสียงตอกโป๊กเป้กๆ ข้างๆ กระโจม ก็หันไปถามนางทาสว่า “นั่นใครทำอะไรรึ?”

“ช่างกำลังสร้างกระโจมตามคำสั่งท่านราชคีร์เจ้าค่ะ” นางทาสตอบ จ้าวราชคฤห์ขมวดคิ้ว

ราชคีร์สั่งให้สร้างกระโจมเพื่อการใดกัน? เขาคิดในใจ เพราะคนออกคำสั่งกำลังหลับอยู่ เอาไว้ให้ตื่นเสียก่อนค่อยถาม แล้วเขาก็หันไปชะโงกมองนางเชลยคนงาม ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นว่านางงดงามเหนือสตรีนางอื่นที่เคยพานพบ แม้ยามหลับนางก็ยังดูงดงามยิ่งนัก เขาขยับลุกจากตั่งทอง ก้าวเท้าอ้อมตั่งไปนั่งชันเข่าข้างนาง แล้วก้มหน้าลงไปหมายจะหอมแก้มนวลลออ รุ้งมณีลืมตาขึ้น เห็นใบหน้าห่างแค่คืบเธอก็ตกใจ “อ่ะ!”

มือเล็กกำหมัดแน่นแล้วก็ต่อยโคร้ม! ตามสัญชาตญาณ

“โอ๊ย!” จ้าวราชคฤห์ร้อง หน้าหงายตามแรงหมัดเล็กๆ แต่หนักหน่วง รุ้งมณีรีบกระถดตัวหนี นางทาสหันไปมองอย่างงุนงงว่าเกิดเหตุอันใด? พอเห็นเลือดไหลจากจมูกจ้าวราชคฤห์ก็ตกใจร้อง “ว๊าย!”

จ้าวราชคฤห์จ้องนางอย่างกริ้วจัด “เอ็ง!”

เขาคว้าหมับ! ที่ข้อมือเล็กแล้วก็กระชากนางเข้าหาตัวเอง

“ปล่อย!” รุ้งมณีตวาดพร้อมกับเงื้อมือข้างที่ว่างต่อยเปรี้ยง! จ้าวราชคฤห์เบี่ยงหน้าหลบพร้อมกับจับข้อมืออีกข้างทันควัน! นางทาสร้องลั่น “ว๊าย! ตายแล้ว!”

รุ้งมณีพยายามบิดข้อมือออก “ปล่อยนะ!”

“เอ็งบังอาจต่อยข้า 2 หนแล้วนะ!” จ้าวราชคฤห์ตวาดอย่างกริ้วจัด ยืนพร้อมกับพยายามฉุดนางให้ลุกขึ้น จ้าวราชคีร์ได้ยินเสียงเอะอะก็สะดุ้งตื่น “โอย…มีอะไรรึ?”

พอเห็นพี่ชายกำลังฉุดกระชากนางเชลย เขาก็รีบลุกขึ้นห้าม “โอย…ท่านพี่อย่าทำนาง”

“เจ้าอย่ายุ่ง! นางบังอาจทำร้ายข้า 2 หนแล้ว ข้าจะสั่งสอนให้นางได้สำนึกเสียบ้างว่าควรทำตัวเช่นไร” จ้าวราชคฤห์ตวาด

“ปล่อย!” รุ้งมณีตวาดพร้อมกับขืนตัวไว้

“มานี่!” จ้าวราชคฤห์ฉุดกระชากอย่างกริ้วจัด จ้าวราชคีร์รีบเข้าขวาง “อย่า…ท่านพี่”

เพราะรู้ดีว่าหากพี่ชายพานางไปได้ นางจะมีชะตากรรมเช่นไร คงมิแคล้วถูกข่มเหงรังแกเป็นแน่ ดูท่าทางนางมิยอมคนเช่นนี้ นางคงมิยอมให้ถูกข่มเหง หากสู้มิได้นางคงยอมตายเสียดีกว่า

“โอย…ท่านพี่ได้โปรด นางเป็นเมียข้า” เขารีบบอก จ้าวราชคฤห์ชะงักงัน! “อะไรนะ!?”

รุ้งมณีไม่รู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกัน จ้าวราชคีร์รีบฉวยโอกาสแกะมือพี่ชายออกจากข้อมือเล็ก แล้วก็ขยับตัวเข้าขวางกลางทั้งๆ ที่เจ็บแผล รุ้งมณีรีบหลบข้างหลังคนเจ็บ เพราะรู้สึกว่าเขาพยายามปกป้องเธออยู่ นางทาสตะลึงนิ่งอึ้ง! “เอ่อ…”

ส่วนมากก็นอนหลับกรนคร่อกๆ จ้าวราชคฤห์จ้องหน้าน้องชาย จ้าวราชคีร์ก็จ้องตาพี่ชายอย่างต้องการบอกให้รู้ว่าเขามิยอมให้พี่ชายทำอะไรนางเป็นอันขาด!

จ้าวราชคฤห์สะบัดหน้าแล้วก็ดินออกไปอย่างกริ้วจัด จ้าวราชคีร์หันไปมองเชลยสาวแล้วก็เดินไปนั่งที่ตั่งอย่างเจ็บแผล “โอย…”

นางทาสลอบถอนหายใจที่จ้าวราชคฤห์จากไปแล้ว “เฮ้อ…”

รุ้งมณีรีบช่วยประคองคนเจ็บให้นอนลง “ค่อยๆ นะจ๊ะ”

จ้าวราชคีร์นอนลง ตาก็มองเชลยสาวอย่างหมายมั่นในใจ ข้าจะปกป้องเจ้าเอง…เจ้าน้องน้อยของข้า

ส่วนจ้าวราชคฤห์ก็เดินไปหาที่ระบายอารมณ์ ซึ่งคงจะถูกใจพระสนมเอกยิ่งนัก จ้าวราชคฤห์คิดในใจอย่างสงสัยว่า ราชคีร์ได้นางเป็นเมียตั้งแต่เมื่อใด? ในเมื่อน้องข้ามิเคยมีทีท่าว่าจะสนใจสตรีนางใดเลย หรือว่าตอนที่ข้ากำลังหารือกับแม่ทัพนายกองกระนั้นหรือ?

พอถึงกระโจมของพระสนมเอก เขาก็เข้าไปในกระโจมทันที พระสนมเอกก็รีบถวายการรับใช้อย่างรู้งาน ส่วนนางทาสก็รีบออกจากกระโจมอย่างว่องไว ก็หมูเขาจะหามมัวไปนั่งขวางอยู่ประเดี๋ยวหัวก็ได้หลุดจากบ่าปะไร

รุ้งมณีห่มผ้าให้คนเจ็บแล้วก็พูดว่า “ขอบใจจ้ะที่ช่วยฉัน”

“เจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่?” จ้าวราชคีร์ถาม ตาก็มองสำรวจตามเนื้อตัวอีกฝ่าย รุ้งมณีส่ายหน้าแล้วถามกลับ “ฉันไม่เป็นไรมากจ้ะ แล้วคุณล่ะเจ็บแผลมากไหม?”

จ้าวราชคีร์สะดุดหู “คุน?”

รุ้งมณีชี้มือไปที่เขา “คุณ…ก็คุณนั่นแหละ”

“ข้าชื่อราชคีร์ มิได้ชื่อคุน” จ้าวราชคีร์บอก “เจ้าเรียกข้าว่าพี่ราชคีร์เถอะ ดูแล้วเจ้าคงอายุน้อยกว่าข้ามากนัก”

รุ้งมณีพยักหน้า “จ้ะพี่ราชคีร์ แล้วพี่เจ็บแผลมากไหมจ๊ะ?”

จ้าวราชคีร์พยักหน้า “อูย…”

รุ้งมณีเลิกผ้าห่มขึ้นดูแผล ไม่เห็นรอยเลือดซึมก็เบาใจ เธอลดผ้าลงห่มให้เขา

“เจ้าอย่าได้ทำร้ายท่านพี่เช่นนั้นอีกเชียว หากเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่” จ้าวราชคีร์เตือนอย่างเป็นห่วง แล้วบอกว่า “เจ้าจงอยู่ใกล้ๆ ข้าไว้ หากเจ้าอยู่กับข้า ท่านพี่คงมิกล้าทำอะไรเจ้าหรอก”

เขาเอื้อมมือไปลูบหัวอย่างเอ็นดู รุ้งมณีชะงัก! ผงะออกอย่างระวังตัว จ้าวราชคีร์ชะงัก! หดมือกลับ

“เขาเป็นพี่ของพี่ราชคีร์เหรอจ๊ะ?” รุ้งมณีได้โอกาสถาม จ้าวราชคีร์พยักหน้า “ใช่ ท่านพี่เป็นพี่ของข้า แต่คนละแม่ จ้าวแม่ของท่านพี่เป็นพระมเหสี ส่วนแม่ของข้าเป็นเพียงพระสนม”

รุ้งมณีพยักหน้ารับรู้ นางทาสยกข้าวปลาอาหารเข้ามา “ข้าวเจ้าค่ะ”

จ้าวราชคีร์ผงกศีรษะมองนางทาสแล้วถามว่า “ท่านพี่ล่ะ?”

“อยู่กับพระสนมเอกเจ้าค่ะ” นางทาสตอบแล้วก็วางสำรับกับข้าวลงข้างๆ นางเชลย จ้าวราชคีร์ปลอดโปร่งใจ พูดกับแม่หญิงรุ้งว่า “กินข้าวกินปลาเสียซิ แล้วประเดี๋ยวกินข้าวปลาเสร็จแล้ว ข้าจะให้นางพวกนั้นแต่งเนื้อแต่งตัวให้เจ้าเสียใหม่ โอย…”

“อืม” รุ้งมณีพยักหน้ารับ เอาเถอะเขาจะให้ทำอะไรก็ทำไปก่อน แต่ถ้ามาทำร้ายกัน เธอก็ขอสู้ตายเท่านั้นเอง แล้วเธอก็หันไปกินข้าวอย่างไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เพราะได้แต่นั่งๆ นอนๆ ไม่ได้ออกแรงทำอะไรเลยไม่ค่อยรู้สึกหิว อาหารที่เธอกินได้มากที่สุดก็เป็นพวกผลไม้เสียเป็นส่วนใหญ่ จ้าวราชคีร์ขยับตัวลุกขึ้น “อูย…”

เขาชี้ที่ข้าวปลาอาหารให้นางช่วยป้อน รุ้งมณีก็หยิบป้อนอย่างไม่รังเกียจ จ้าวราชคีร์กินได้มากขึ้น พอกินเสร็จแล้วนางทาสก็ยกถ้วยชามออกไป จ้าวราชคีร์หันไปสั่งนางทาสว่า “พวกเอ็งเอาผ้าผ่อนมาให้แม่รุ้งนุ่งเสียใหม่ อูย…ให้สมฐานะเมียข้า”

นางทาสตะลึงกับคำว่า ‘เมีย’ พอตั้งสติได้ก็รีบรับคำสั่ง “เจ้าค่ะ”

แล้วก็คลานออกไป สักพักพวกนางทาสก็คลานกลับเข้ามาพร้อมกับผ้าผ่อนแพรพรรณชั้นดี รุ้งมณีมองอย่างสนใจในความสวยงามของเนื้อผ้า จ้าวราชคีร์มองผ้าผ่อนที่พวกนางทาสเอามาแล้วก็ชี้สั่ง “เอ็งเอาผ้าผืนนั้นทาบกับตัวแม่รุ้งซิ”

“เจ้าค่ะ” นางทาสคลานไปคลี่ผ้าทาบตัวนางเชลย รุ้งมณีมองแล้วก็จับเนื้อผ้าดู ผ้านิ่มลื่นมือลวดลายก็งดงาม

“เอาผ้านุ่งผืนนั้น” จ้าวราชคีร์สั่ง นางทาสพยักหน้า “เจ้าค่ะ”

แล้วจ้าวราชคีร์ก็ชี้เลือกเครื่องประดับให้เข้าชุดกัน พอเลือกเสร็จก็สั่งว่า “พวกเอ็งจงนุ่งห่มให้แม่รุ้งเสียใหม่ กั้นผ้าให้นางผลัดผ้าในนี้นี่แหละ”

เขาสั่งเช่นนี้พราะมิอยากให้นางออกไปนอกกระโจม ประเดี๋ยวพี่ชายเห็นเข้าก็จะฉวยพานางไปข่มเหงรังแกเอา ตัดไฟเสียแต่ต้นลมให้นางอยู่ใกล้หูใกล้ตาเช่นนี้แหละ พี่ชายก็มิกล้าทำสิ่งใดหักหาญน้ำใจเขาแน่

“เจ้าค่ะ” นางทาสรับคำสั่งแล้วก็กุลีกุจอไปขึงผ้าตามคำสั่ง จากนั้นพวกนางก็คลานเข้าไปจูงมือรุ้งมณีให้ตามไป รุ้งมณีลุกตามไปโดยดี พอเข้าไปในผ้ากั้น นางทาสก็ช่วยกันถอดผ้าผืนเก่าออก อีกคนก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ พอเช็ดเนื้อตัวเสร็จก็ช่วยกันแต่งตัวให้รุ้งมณี

“อยู่นิ่งๆ ซิเจ้าคะ” นางทาสบอก รุ้งมณีฟังไม่ออกแต่ก็ยอมยืนให้แต่งตัวอย่างเขินๆ เธอก้มลงมองตัวเองพร้อมกับคอยเอามือปิดหน้าอกเอาไว้ พอแต่งตัวเสร็จนางทาสก็จะเก็บผ้ากั้นออก รุ้งมณีก็โวยวายว่า “เดี๋ยวซิ แล้วผ้าอีกผืนล่ะ?”

นางทาสทำหน้างงๆ มิรู้ว่านางพูดอะไร

“โอย…เจ้าจะเอาผ้าอีกผืนไปทำอะไรรึ?” จ้าวราชคีร์ถาม

“ก็เอามาห่ม…เอ่อ…ห่มหน้าอกจ้ะ” รุ้งมณีบอกอย่างเขินๆ จ้าวราชคีร์งง สักพักเขาก็เข้าใจ เพราะนางนุ่งห่มมิเหมือนผู้ใด แม่หญิงลวปุระก็มิได้ห่มผ้าปิดอก มีบ้างบางคนที่ออกสู้รบก็จะห่มตะเบงมาน แม่หญิงกาสีก็มิได้ห่มผ้าปิดอก มีนางนี่แหละที่ห่มผ้าปิดพันอกเสียมิดชิด

“เอาผ้าอีกผืนไปให้นาง” เขาสั่งนางทาส

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!