บทที่ 1323 ร่วมเรียงเคียงหมอน 4
ถึงแม้นางจะหลับไปงีบหนึ่งแล้ว แต่รอยคลํ้าใต้ตายังคงเข้มยิ่งนัก ดวงตาดั่งนํ้าในฤดูใบไม้ร่วงคู่นั้นเต็มไปด้วยเส้นสีแดง ริมฝีปากที่เคยชุ่มชื้นก็แปรเปลี่ยนเป็นแห้งผาก เส้นผมพันกันยุ่งเหยิง เรียกได้ว่าไม่น่าดูเอาเสียเลย เขาทั้งอบอุ่นหัวใจ ทั้งเจ็บปวด ตบมือนางเบาๆ “ข้าฟื้นขึ้นมาก็ไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าไปล้างหน้าล้างตาหาอะไรกินก่อนเถิด”
คำพูดนี้เตือนใจกู้ซีจิ่ว เธอลูบหน้าตัวเองโดยไม่รู้ตัว พลันคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองยุ่งอยู่ตรงนี้มาสี่วัน แม้แต่หน้าก็ไม่ได้ล้าง…
เวรเอ้ย หน้าตาเธอในตอนนี้คงอธิบายได้ด้วยคำเดียวเท่านั้น…
มอมแมม!
เธออยู่ต่อหน้าเขาด้วยใบหน้ามอมแมมมาตั้งนาน!
ซํ้ายังมุดเข้าอ้อมกอดของเขาด้วย!
เธอหน้าแดง รีบลุกขึ้นยืนส่งเสียงพูด “ข้าจะไปล้างหน้าล้างตา”
แล้วเดินจากไปโดยเร็ว
หลัวจั่นอวี่อดนวดหว่างคิ้วไม่ได้ สตรีแต่งกายงามเพื่อคนที่ตนรัก น้องสาวที่แข็งแกร่งมาตลอด เมื่ออยู่ต่อหน้าตี้ฝูอีก็มีกลิ่นอายของหญิงสาวในที่สุด ดูเหมือนน้องสาวตัวน้อยจะตกหลุมรักเข้าแล้วจริงๆ!
เขาหันหน้ามองไปทางตี้ฝูอี “ท่านชอบกู้ซีจิ่วจริงๆ หรือ?”
ตี้ฝูอีหลับตาลงเล็กน้อย “ยังต้องให้พูดอีกหรือ?”
“ชอบจนถึงขั้นอยากแต่งนางเป็นภรรยา?”
“หากนางไม่หนีมา ห้าวันก่อนหน้านี้คือคืนวันแต่งงานของข้ากับนาง”
หลัวจั่นอวี่ตกตะลึง สีหน้าจริงจังขึ้นมา “หนีมาก่อนการแต่งงาน…เช่นนั้น ต้องมีเรื่องอันใดที่ทำให้นางรับไม่ได้เกิดขึ้นแน่นอน มิเช่นนั้น ด้วยนิสัยของนางและความรู้สึกที่มีต่อท่าน ไมน่าจะถึงกับหนีไป ท่านทำเรื่องอันใดที่ผิดต่อนาง?”
ตี้ฝูอีลืมตาขึ้น ในชีวิตนี้ เขาไม่เคยถูกถามราวกับผู้ร้ายถูกสอบสวนเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งคนที่ถามยังเป็นผู้น้อย หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงคร้านจะสนใจเด็กน้อยผู้นี้ หากแต่ยามนี้…
ยามนี้เขาเป็นพี่ชายของซีจิ่ว ซึ่งก็คือพี่เขยของเขา…
ช่างเถิด เห็นแก่หน้าของซีจิ่ว เขาจะไม่ลดตัวไปมีเรื่องกับเด็กไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่คนนี้ “ระหว่างข้ากับนางมีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ข้ามาครั้งนี้ก็เพื่อจะอธิบายให้นางเข้าใจ”
“เสี่ยวจิ่วเป็นคนใจกว้าง ตรงไปตรงมา นางไม่ใช่ผู้หญิงคิดเล็กคิดน้อย แถมนางยังชอบท่านขนาดนั้น หากเป็นเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย ข้าว่านางไม่มีทางหนีการแต่งงานมา…” หลัวจั่นอวี่เฉลียวฉลาดยิ่งนัก
ตี้ฝูอีหลุบตาลง “ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย แต่ข้าจะอธิบายให้นางเข้าใจ”
หลัวจั่นอวี่พูดอย่างดุดัน “ข้าไม่สนว่าระหว่างท่านกับนางมีเรื่องเข้าใจผิดอันใด แต่ในเมื่อนางหนีการแต่งงานมา เช่นนั้นก็พิสูจน์ได้ว่าความรู้สึกในช่วงนี้ของนางกับพวกท่านไม่สู้ดีนัก ท่านทำให้นางรู้สึกไม่มั่นคง…”
เห็นได้ชัดว่าเขาคิดถึงความแค้นระหว่างพ่อแม่ของตนเอง หากไม่เจ็บชํ้านํ้าใจจนถึงจุดหนึ่ง ตอนนั้นท่านแม่จะหนีไปด้วยเหตุอันใด?!
หากไม่ใช่เพราะพ่อกดดันแม่เช่นนั้น นางคงไม่มีทางกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย…
ดังนั้นเขาจึงรังเกียจเรื่องที่เอาความรู้สึกมากดดันให้สตรีอยู่ข้างกายเป็นที่สุด!
“ตี้ฝูอี ข้ารู้ว่าท่านคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้ทรงศักดิ์ ฐานะของท่านสูงส่งกว่าเสี่ยวจิ่วนัก อายุของท่านมากกว่าปู่ข้าเสียอีก แผนการในใจของท่านย่อมต้องลํ้าลึกกว่าเสี่ยวจิ่ว อย่างไรเสีย ทั่วทั้งทวีปนี้ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายรอบคอบยิ่งนัก นอกจากท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดก็ไม่อยู่ในสายตาท่าน…”
ตี้ฝูอีนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็เอ่ยถาม “นี่เจ้ากำลังชมข้างั้นรึ?”
หลัวจั่นอวี่ส่งเสียงฮึ “ข้ากำลังพูดความจริง!”
ตี้ฝูอีทอดถอนใจ “อือ เช่นนั้นก็คือชื่นชมข้า ถึงแม้การชมของเจ้าค่อนข้างพิลึกพิลั่นก็เถอะ เจ้าเอ่ยชมข้ามาตั้งนานต้องการจะสื่อถึงอะไรกันแน่?”
หลัวจั่นอวี่กระชับหมัดไว้ใต้แขนเสื้อ “สิ่งที่ข้าต้องการจะบอกก็คือไม่ว่าฐานะของท่านสูงส่งแค่ไหน แต่ในใจของข้า…”