บทที่ 1325 ร่วมเรียงเคียงหมอน 6
เนื่องจากมารดาทิ้งรอยแผลบาดลึกไว้ให้เขา เขาสูญเสียความทรงจำไปแล้ว ทว่าเขายังจำหนังสือเล่มนั้นได้รางๆ ดังนั้นหลังจากรักษาบาดแผลเรียบร้อย จึงเริ่มศึกษาตำราเล่มนั้น พลังวิญญาณถึงได้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภาพจำเลือนรางเกินไป หลัวจั่นอวี่จึงคิดมาตลอดว่าตอนนั้นผู้ที่ช่วยเหลือเขาคือเทพเซียน ตำราเล่มนั้นคือสิ่งที่เทพเซียนประทานให้เขา ถึงกับสงสัยว่าตัวเองได้รับพรจากสวรรค์ ผู้ที่ประทานตำราให้เขาคือเทพเซียนที่เบื้องบนส่งมา…
ที่แท้ตอนนั้นคนที่ช่วยเขาไว้เป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย!
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขาไว้ ท่าทีเดือดดาลของหลัวจั่นอวี่ลดลงกึ่งหนึ่ง “ท่าน…ข้าได้ยินว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโหดเหี้ยมเลือดเย็น ตอนนั้นเหตุใดท่านจึงช่วยข้า?”
ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว “ช่วยคนจำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยหรือ?”
หลัวจั่นอวี่กล่าว “สำหรับคนอื่นไม่จำเป็น แต่สำหรับท่านจำเป็น”
ตี้ฝูอีครุ่นคิด ตอบกลับเขาไปสองคำว่า “ลืมแล้ว”
หลัวจั่นอวี่นิ่งอึ้ง
ตี้ฝูอีเหลือบมองเขา ทอดถอนใจเบาๆ “พักเรื่องของซีจิ่วไว้ก่อน หลัวจั่นอวี่ ตอนนั้นข้าช่วยเจ้าไว้ เจ้าก็ควรตอบแทนข้าสักนิดใช่หรือไม่?”
หลัวจั่นอวี่มองเขาอย่างระแวดระวัง “บุญคุณที่ท่านช่วยชีวิต ข้าจดจำได้เป็นอย่างดี แต่ข้าไม่มีทางเอาความสุขของน้องสาวมาตอบแทนท่าน อย่าได้คิดว่าข้าจะขายน้องสาวตัวเอง!”
ตี้ฝูอีขบเม้มริมฝีปาก “เจ้าคิดมากเกินไปแล้วจริงๆ เรื่องของข้ากับนาง พวกเราจะแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ต้องลำบากเจ้า”
“เช่นนั้นท่านอยากให้ข้าตอบแทนท่านอย่างไรดี?”
ตี้ฝูอีมองอาหารที่โต๊ะแล้วมองเขาอีกครั้ง “รบกวนยกอ่างให้ข้าล้างมือหน่อย แล้วยกข้าวมาให้ข้าด้วย ข้าหิวแล้ว”
หลัวจั่นอวี่กล่าวไม่ออก เขาถอนใจด้วยความโล่งอก “แค่นี้หรือ? นึกไม่ถึงว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ต้องกินข้าว…”
เขายังคิดว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอดข้าวอดนํ้าซึมซับลำแสงสุริยันจันทร์เพื่อความอยู่รอดเสียอีก!
ตี้ฝูอีหลับตาลง “อืม เรื่องที่เจ้าไม่คาดคิดมีอยู่ถมไป ช่วยเอากระโถนมาให้ข้าใบหนึ่งด้วย”
หลัวจั่นอวี่แน่นิ่ง
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายติดดินเยี่ยงนี้ หลัวจั่นอวี่ค่อนข้างรับไม่ไหว หันกายไปเตรียมการด้วยนํ้าตานองหน้า
ตี้ฝูอีปรับลมปราณอยู่บนเตียง ฟื้นฟูพลังวิญญาณและพลังกายของตัวเองอย่างต่อเนื่อง การผ่าตัดที่กู้ซีจิ่วทำให้เขาสำเร็จลุล่วง ต่อไปเขาปรับ สมดุลเองต่อก็ได้แล้ว การบาดเจ็บครั้งนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพียงแต่หลังจากเข้ามาเกิดเรื่องไม่คาดคิดเล็กน้อย ทำให้เขากับกู้ซีจิ่วเกือบจะคลาดกันเช่นนี้!
เคราะห์ดีที่เหตุการณ์ร้ายแรงแต่ไม่อันตราย ในที่สุดเขาก็ผ่านด่านนี้เข้ามาได้แล้ว!
ขอเพียงเขาตื่นขึ้นมาอย่างแท้จริงแล้ว รักษาตัวเองเช่นนั้นย่อมคุ้มแรงที่เสียไป อีกทั้งเขายังพกโอสถติดตัวมาเพียงพอ จึงหายเป็นปกติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตอนที่เขาเริ่มตื่นขึ้นมายังไม่มีแรงสักนิด จับชายเสื้อยังต้องออกแรงมากมาย ทว่าหลังจากปรับลมปราณ เขารู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้างเล็กน้อยแล้ว
หลัวจั่นอวี่เดินเข้ามา ยกนํ้าและหยิบกระโถนเข้ามาจริงๆ เขาส่งกระโถนให้ตี้ฝูอีกก่อน “ท่านจัดการเสียก่อน?”
ตี้ฝูอีเหลือบมองแวบหนึ่ง ขมวดคิ้ว “นี่ของใคร? ไม่มีอันใหม่หรือ?”
หลัวจั่นอวี่อยากเอากระโถนฟาดหน้าเขา ใช้กระโถนยังจะเรื่องมากขนาดนี้ เหตุใดไม่ขึ้นสวรรค์ไปเสีย?!
เขากล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา “มีแค่อันนี้อันเดียว จะใช่หรือไม่ใช้!”
คนส่วนมากที่นี่เป็นชายฉกรรจ์หยาบโลน ปกติมักจะฝ่าแดดฝ่าลมฝน เรื่องเช่นนี้หากไม่มีสตรีอยู่ด้านข้าง พวกเขาก็จัดการได้ทุกที่ ไฉนเลยต้องเตรียมกระโถนอะไรนี่?
กระโถนใบนี้เขาก็ทำมันขึ้นมาเองกับมือ!
ตี้ฝูอีมีหลักการเป็นอย่างมากในด้านนี้ “เช่นนั้นช่างเถิด ข้าไม่ใช้แล้ว”