บทที่ 337
กู้ซีจิ่วจะลงมือสังหารจริงๆ!
คนของเหลิ่งเซียงอวี้พากันส่ายหน้าหัวเราะคิกคัก ส่อให้เห็นว่าไม่ได้ยิน
“เจ้าดูสิ น้งเด็กชั้นต่ำ ไม่มีใครได้ยินเลย! เจ้านึกว่าที่นี่คือแท่นเบิกสวรรค์หรือ? ชั้นต่ำ นังเด็กชั้นต่ำ คนชั้นต่ำที่ไม่มีมารดาคอยอบรมสั่งสอน แม่เจ้าเป็นคนต่ำช้า เจ้าก็เช่นเดียวกัน…” เหลิ่งเซียงอวี้กล่าววาจาลำพองใจยังไม่ทันจบ เงาร่างที่อยู่เบื้องหน้าพลันวูบไหว ได้ยินเพียงเสียงเพี๊ยะๆ ดังขึ้น 2 ครั้ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของทุกคน ร่างของเหลิ่งเซียงอวี้ลอยละลิ่วออกไปดุจว่าว! ชนกับกำแพงที่อยู่ด้านข้างเสียงดังตึง!
“นังคนต่ำช้า เจ้าทำอะไร?!” กู้เทียนเฉาไม่นึกว่ากู้ซีจิ่วจะลงมือ และยิ่งไม่นึกว่าฝีมือของนางจะว่องไวปานนี้!
รวดเร็วจนเขาตอบโตไม่ทัน! ได้แต่เบิกตาค้างมองมารดาของตนกระเด็นออกไป!
เขาโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง ยกมือขึ้นแล้วซัดเข้าใส่กู้ซีจิ่ว!
เขามีพลังวิญญาณขั้นสี่ระดับกลาง เป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้ กระบวนท่าที่ฝึกฝนทั้งหมดล้วนเป็นสายดุดันห้าวหาญ พลังทั้งหมดที่เค้นออกมายามอยู่ในสภาวะโกรธเกรี้ยวสามารถซัดทั่งเหล็ก หินผาให้แหลกได้!
หากซัดใส่ร่างคน สามารถทำให้คนที่โดนซัดแหลกเป็นเนื้อสับ!
“อ๋า…” เสียงอันน่าเวทนาเปล่งออกมาเพียงครึ่งหนึ่ง บนพื้นมีเนื้อแหลกเละก้อนหนึ่งอยู่ท่ามกลางโลหิตสดที่สาดกระจาย…
กู้เทียนเฉาตะลึง ไม่คิดว่าจะสำเร็จง่ายดายปานนี้ เขาพลันนึกถึงเรื่องศิษย์ของเทพศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ขวัญเสียจนเหงื่อตก ใบหน้าขาวซีด!
แม้แต่มารดาที่ทรุดอยู่บนพื้นก็ไม่สนใจแล้ว หันหลังคิดจะหลบหนีไป!
“ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะก็คิดหนีแล้วหรือ?” เสียงเยือกเย็นกังวานดังขึ้นมาจากด้านหลัง เป็นเสียงของกู้ซีจิ่ว!
กู้เทียนเฉาหันกลับมาทันที มองเห็นกู้ซีจิ่วยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่บุบสลาย เสื้อผ้าที่สวมไม่ยับยู่ยี่สักนิด และเสื้อผ้าของเศษเนื้อบนพื้นนั้นคล้ายกับเสื้อผ้าที่บ่าวอาวุโสสวม…
ที่แท้ฝ่ามือสะท้านสะเทือนเมื่อครู่ของเขามิได้ซัดกู้ซีจิ่วจนตาย แต่ซัดบ่าวอาวุโสคนหนึ่งที่ภักดีต่อมารดาตาย!
เขายังขวัญหนีดีฝ่ออยู่ จ้องกู้ซีจิ่วเขม็ง “เจ้า…วิชาตัวเบาของเจ้าไม่เลวเลย…”
กู้ซีจิ่วยิ้มนิดๆ ดวงตาฉายแววดุดันแวบหนึ่ง “ข้าไม่เพียงแต่วิชาตัวเบาไม่เลวเท่านั้น วรยุทธ์อื่นๆ ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน…” ร่างกายเธอพลันพุ่งขึ้น โผเข้าโจมตีเขา!
กู้เทียนเฉารู้สึกพะว้าพะวง เกรงว่าถ้าสังหารนางตายเข้าจริงๆ ตน ต้องเดือดร้อนแน่
ถึงอย่างไรอีกสองวันถัดไปน้องสาวผู้นี้ก็ต้องเข้าสู่ป่าทมิฬแล้ว หากถึงเวลาที่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมารับตัวแล้วพบว่านางตายไปแล้ว…
ถึงแม้ว่าตั้งแต่กลับมาทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะไม่เคยมาถามไถ่เรื่องราวของกู้ซีจิ่วอีกเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจเรื่องนี้
ดังนั้นแม้กู้เทียนเฉาจะชิงชังน้องสาวผู้นี้จนกัดฟันกรอด แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรนางจริงๆ
ในใจของเขา น้องสาวตัวน้อยผู้นี้ยังคงเป็นสวะไร้ค่าชิ้นหนึ่ง มีดีแค่วิชาตัวเบาและวิชาแพทย์
แต่หลังจากประมือกันไปสองกระบวนท่า เขาก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องแล้ว!
อีกฝ่ายออกกระบวนท่าพิสดาร ดุดัน เขาไม่อยากจะยอมรับเลยว่า ต่อให้ทุ่มพละกำลังทั้งหมดก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง!
ยามที่เขาตระหนักถึงปัญหาข้อนี้ เขาก็ถูกกู้ซีจิ่วโจมตีจนไร้เรี่ยวแรงตอบโต้แล้ว เมื่อเห็นอีกฝ่ายใช้กระบวนท่าสังหาร เขาก็หวาดหวั่นจนเหงื่อผุดท่วมร่าง ตะโกนเสียงดังอย่างอดไม่ได้ “กู้ซีจิ่ว เจ้าคิดจะสังหารข้าจริงๆ หรือ?!”
กู้ซีจิ่วจะลงมือสังหารจริงๆ!
คนผู้นี้ก่อกวนหาเรื่องนาง น่ารังเกียจเหมือนไม้กวนอุจจาระไม่มีผิด!
ฝ่ามือเมื่อครู่ของเขาไม่เหลือหางรอดเอาไว้เลย เขาไม่มอบทางรอดให้เธอ แล้วทำไมเธอต้องเหลือทางรอดให้เขาด้วย?!
เธอไม่พูดไม่จา ลงมือต่อไป
เธอสวมชุดดำ เคลื่อนไหวว่องไวดุจภูตผี ไอสังหารพลุ่งพล่านอยู่รอบกาย ประหนึ่งอสูรรัตติกาล
กู้เทียนเฉาขวัญกระเจิง หนาวยะเยือกไปทั้งร่าง เขาไม่เคยเห็นกู้ซีจิ่วมีกลิ่นอายเช่นนี้มาก่อน!
คนที่อยู่รอบข้างเหล่านั้นตกใจจนกระเจิงไปตั้งนานแล้ว บ้างก็ไปประคองเหลิ่งเซียงอวี้ บ้างก็ถูกไอสังหารที่แผ่ออกมาจากกู้ซีจิ่วข่มขวัญจนลงไปคุกเข่าโขกศีรษะ บ้างก็กรีดร้องแล้วเผ่นหนีไป…
สถานการณ์ยุ่งเหยิงอลหม่านยิ่งนัก