Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 65

บทที่ 65

พับได้บรรจงถึงเพียงนี้…เจ้าพับหรือ?

เมื่อทหารนายอื่นได้ยินเสียงตะโกนถามของเขาก็พากัน วิ่งไปดูที่ตรงนั้น จึงเห็นฉากนี้เข้าพอดี ทุกคนล้วนตกตะลึง

เพราะเป็นช่วงฟ้าสาง ทุกคนจึงเห็นลักษณะของเสื้อผ้าที่หล่นลงไป แล้วไม่ชัด เจนนัก

ทหารคนหนึ่งที่มีวรยุทธ์สูงและใจกล้าได้กระโดดลงจากกำแพงเมือง ทุกคนเห็นเขาค่อยๆ หายเข้าไปในเงามืด ต่างก็รู้สึกเป็นกังวลแทนเขากันถ้วนหน้า

สักครู่หนึ่งนายทหารคนนั้นก็โผล่ศีรษะออกมาจากที่แห่งนั้น ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่หลายที ก่อนจะเหินกายขึ้นมาบนกำแพงเมือง ครั้งนี้เขาหอบสิ่งของมากมายเอาไว้ด้วย

เป็นเสื้อผ้าสีดำชุดนั้นที่ยามนี้ถูกพับซ้อนกันไว้อย่างบรรจง รอยยับสักรอยก็ไม่มี บนเสื้อผ้าที่ถูกพับไว้ยังมีไม้ต่อขาอยู่คู่หนึ่งและหน้ากากปีศาจอีกหนึ่งอัน…

“นี่คือ?” ในตอนนี้เองนายกองทหารรักษาการณ์ก็ขึ้นมาบนกำแพงเมือง

นายทหารคนนั้นทำความเคารพเขาแล้วกล่าวรายงาน “เรียนใต้เท้า ของเหล่านี้ถูกพบที่ริมคูเมือง แต่มิพบตัวคนเลยขอรับ”

“พับได้บรรจงถึงเพียงนี้…เจ้าพับหรือ?” นายกองผู้นั้นไต่ถาม

“ยามที่ข้าน้อยพบ พวกมันก็ถูกพับวางอยู่บนหินก้อนใหญ่เช่นนี้แล้ว”

เมื่อสักครู่นายกองผู้นั้นได้ฟังคำรายงานจากทหารนายอื่นไปแล้ว เมื่อเขามองเสื้อผ้าที่ถูกพับไว้จึงรู้สึกหวาดหวั่นอยู่บ้าง

เริ่มจากพบเสื้อผ้าชุดนี้ลอยอยู่กลางอากาศราวกับเงาผี ไปจนถึงตอนที่มีทหารกระโดดลงไปตรวจสอบดู ระหว่างนี้เป็นเวลาไม่ถึงชั่วจิบชาด้วยซํ้า

ทว่าเสื้อผ้าชุดนี้กลับถูกพับแล้ววางซ้อนกันไว้อย่างเป็นระเบียบภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้ ต่อให้เป็นช่างซักรีดของกองอาภรณ์ภายในครึ่งชั่วยามก็ยังไม่มีทางทำได้หมดจดเอี่ยมอ่องถึงเพียงนี้..

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้หากไม่ใช่ถูกผีในคูเมืองหลอกก็คงเป็นก่อนหน้านี้มียอดฝีมือสูงส่งปรากฏตัวขึ้นที่นั่น!

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนก็ล้วนผิดปกติทั้งสิ้น ต้องรายงานให้เบื้องบนทราบ…

กู้ซีจิ่วนอนหลับสบายอุราอยู่ในห้องของตนเองทั้งวัน ถ้าไม่มีคำสั่งจากเธอ ใครหน้าไหนก็ไม่กล้าไปรบกวนเธอ ยามเย็นยํ่าใกล้คํ่าเธอถึงได้ถูกเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอกปลุกให้ตื่น เธอเคยเป็นนักฆ่าที่เกลือกกลั้วอยู่ในโลกมืด ตามปกติแล้วตอนที่หลับก็แทบจะลืมตาไว้ข้างหนึ่งด้วยซํ้า หากมีอะไรเคลื่อนไหวแม้เพียงน้อยนิดก็จะสะดุ้งตื่นทันที ทั้งยังไม่นอนหลับนานขนาดนี้

เธอยกมือขึ้นนวดขมับเล็กน้อย อาจเพราะร่างนี้ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่งกระมัง?

พวกเด็กๆ มักจะง่วงนอนอยู่เสมอ หากทำงานหนักเข้าหน่อยก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย

หากเป็นตัวเธอยามที่ยังอยู่ในยุคปัจจุบัน ต่อให้ไม่หลับไม่นอนสามวันสามคืนก็ยังคึกคักกระปรี้กระเปร่าได้เหมือนเดิม

เธอเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวด้านนอก หลังจากฟังอยู่พักหนึ่งก็ทราบเรื่องได้พอสมควร

ผู้ที่อยู่ด้านนอกคือกู้เซี่ยเทียนบิดาราคาถูกคนนั้นของเธอ ผู้ที่มาพร้อมกับเขายังมีพี่สาวราคาถูกลำดับที่ห้ากู้เทียนอี

เนื่องด้วยไม่มีคำสั่งจากกู้ซีจิ่ว บรรดาสาวใช้ของเธอย่อมไม่อาจปล่อยให้กู้เซี่ยเทียนเข้ามาได้

คงจะเป็นครั้งแรกที่กู้เซี่ยเทียนถูกบุตรสาวปฏิบัติด้วยเช่นนี้จึงเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังมีกู้เทียนอีคอยใส่สีตีไข่อยู่ด้านข้างอีก ทำให้กู้เซี่ยเทียนโกรธมากขึ้นไปอีก

กู้ซีจิ่วฟังออกว่าครั้งนี้สาวใช้ของตนทุ่มเทอย่างเต็มที่ ไม่หวั่นกลัวต่ออำนาจของแม่ทัพกู้ไม่ว่ากู้เซี่ยเทียนจะข่มขู่กดดันสักเท่าใด พวกนางก็ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว ทำให้กู้เซี่ยเทียนรู้สึกโมโหมาก หลังจากยุ่งยากกันอยู่สักพัก เขาก็ออกคำสั่งให้ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างกายนำตัวพวก ‘บ่าวไพร่’ เหล่านี้ที่เพิกเฉยต่ออำนาจของเขาไปคุมขัง กู้เทียนอียืนอยู่ด้านข้างอย่างสาแก่ใจนัก นางขัดหูขัดตาสาวใช้ข้างกายพวกนี้ของกู้ซีจิ่วมานานแล้ว ยามนี้คนพวกนี้ยังกล้ามาขัดขวางผู้นำแห่งจวนแม่ทัพอีก เท่ากับรนหาที่ตายให้ตนเองชัดๆ!

กู้เซี่ยเทียนมีนิสัยฉุนเฉียว ยามอยู่ในค่ายทหารหากทหารคนใดพูดจาไม่เข้าหูก็จะถูกเฆี่ยนตี หลังจากเข้ามาดำรงตำแหน่งแม่ทัพบัญชาการกองพันทหารม้าในเมือง หลวง ถูกสังคมเมืองหลวงกล่อมเกลามากเข้าจึงสงบเสงี่ยมลงไม่น้อย แต่อย่างไรเสียนิสัยเดิมก็ยากจะเปลี่ยนแปลง ความดุดันของชายชาติทหารนั้นยังคงมีอยู่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!