บทที่ 834 ข้าน้อยล่วงเกินแล้ว
หลงซือเย่บิดด้ามดาบคราหนึ่ง ดาบเล่มนนั้นก็บิดไปรอบทรวงอกของคนชุดม่วงผู้นั้นเช่นกัน
คนชุดม่วงผู้นั้นเอ่ยคำนี้ได้เพียงคำเดียว ร่างกายก็ทรุดฮวบลงไป และในยามนี้เองอวิ๋นชิงหลัวที่อยู่ข้างกายเขาถึงได้กรีดร้องออกมา ถูกโลหิตของคนชุดม่วงผู้นั้นพุ่งกระเซ็นอาบหน้า
ในกลุ่มคนชุดเขียวเหล่านั้นก็มีมนุษย์จริงๆ อยู่ด้วย คนเหล่านี้ก็คือผู้ที่เป่าขลุ่ยพวกนั้น ควบคุมให้หุ่นตายเหล่านั้นโจมตีโดยเฉพาะ
เนื่องจากคนชุดม่วงผู้นั้นถูกจู่โจมรวดเร็วเกินไป คนชุดเขียวเหล่านั้นจึงไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองเลย!
จวบจนคนชุดม่วงผู้นั้นล้มลงไปพวกเขาถึงรู้ตัว คนเหล่านี้คิดจะเป่าขลุ่ยโลหิตในมือทันที แต่เพิ่งจะยกมือขึ้น พลันมีแสงสารพัดส่องวาบขึ้นมา บ้างก็ซ้าย บ้างก็ขวา บ้างก็หน้า บ้างก็หลัง ของพวกเขา…
ด้วยเหตุนี้มือหรือท่อนแขนของที่จับขลุ่ยไว้ของคนเหล่านี้พลันกระเด็นออกไปทันที!
คนเหล่านี้ตกตะลึง มองดูสหายร่วมกลุ่มที่ลอบโจมตีตนอย่างไม่อยากเชื่อ ทันใดนั้นก็พบว่าคนที่ลอบโจมตีพวกเขาไม่ใช่หุ่นตายชุดเขียวจริงๆ!
เนื่องจากคนเหล่านี้ปลดหน้ากากบนหน้าลง เผยให้เห็นโฉมหน้าจริง พวกเขาไม่ใช่หุ่นตาย แต่เป็นยอดฝีมือผู้เลิศลํ้าของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์จำนวนสิบกว่าคน!
กู่ฉานโม่ผู้เดือดดาลก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
คนเป่าขลุ่ยทั้งหมดล้วนถูกคุมตัวไว้ ไม่มีหลุดอดไปสักคน หัวหน้าถูกสังหาร คนเป่าขลุ่ยถูกควบคุม หุ่นตายเหล่านั้นสูญเสียผู้บงการ จึงยืนทึ่มทื่ออยู่ตรงนั้น และในหมู่คนชุดเขียวก็มีคนอีกมากมายที่ปลดหน้ากากบนหน้าออก พวกเขาล้วนเป็นคนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์…
ชัดเจนยิ่งนัก ที่กล่าวว่าจะไปล่าสัตว์ล้วนเป็นเรื่องลวงทั้งสิ้น เป็นเพียงการหลอกให้ผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง ระเบิดแผนการใหญ่ออกมา!
สีหน้าอวิ๋นชิงหลัวไร้สีเลือดทันที!
นางทราบว่านางติดกับเสียแล้ว!
นี่คือกับดักของตี้ฝูอี!
ทั้งหมดเป็นกับดัก!
หัวใจนางหนาวเหน็บ ขาอ่อนยวบ คุกเข่าลงไป…
ดวงตานางมองตี้ฝูอีที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากสั่นระริก “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ชิงหลัว…ชิงหลัวถูกบังคับ…”
คนชุดเขียวทั้งสองที่จับตัวตี้ฝูอีไว้ในตอนแรกก็ปลดหน้ากากออกเช่นกัน เป็นมู่เฟิงกับมู่เตี่ยน พวกเขาค้อมตัวทำความเคารพตี้ฝูอีพร้อมกัน “นายท่าน! ข้าน้อยล่วงเกินแล้ว”
ตี้ฝูอีสะบัดมือผ่านร่างแวบหนึ่ง โลหิตที่เดิมทีอาบย้อมอยู่ทั่วร่างหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที เขาถือโอกาสโยนถุงเลือดหลายใบทิ้งด้วย ทำให้ร่างกายสะอาดเอี่ยมอ่องอีกครั้งราวกับเพิ่งผลัดเสื้อผ้ามา เขาเหลือบมองอวิ๋นชิงหลัวแวบหนึ่ง แววตาเยียบเย็นดั่งสายนํ้า สั่งเพียงประโยคเดียว “จับกุมนาง!”
ผู้อาวุโสหน่วยลงทัณฑ์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เข้ามาคุมตัวอวิ๋นชิงหลัวไว้ อวิ๋นชิงหลัวก็ไม่กล้าขัดขืนเช่นกัน…
วิกฤตใหญ่หลวงจึงสลายไปด้วยประการฉะนี้
เดิมทีควรเป็นศึกที่ดุเดือดฉากหนึ่ง แต่เป็นเพราะอุบายผนวกด้วยกับดัก จึงจับตายตัวหัวหน้า จับกุมตัวผู้สมรู้ร่วมคิดได้ แผนนี้ของตี้ฝูอีแทบไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อเลย ไม่มีไพร่พลได้รับบาดเจ็บเลยสักคน
แม้แต่มู่อวิ๋นที่ถูกคนชุดเขียวซัดตกนํ้าก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางคนชุดเขียวที่อยู่ด้านหลังของตี้ฝูอี ชัดเจนยิ่งนักว่าหลังจากเขาตกนํ้าไป ก็หลบหนีไปทางนํ้าตามที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า จากนั้นก็ปลอมตัวเป็นคนชุดเขียวไปอยู่กับสหาย…
หนนี้คนชุดม่วงผู้นั้นพากองกำลังชุดเขียวมาด้วยนับพันตัว เขาเองก็นับไม่ถ้วนเช่นกัน อีกทั้งคนชุดเขียวเหล่าก็แยกกันเข้ามาเป็นกลุ่ม จากนั้นหุ่นตายชุดเขียวสิบกว่าตนก็ถูกยอดฝีมืออย่างพวกกู่ฉานโม่ที่ดักซุ่มอยู่จับกุมไว้ แล้วถูกลอกคราบ ด้วยเหตุนี้พวกกู่ฉานโม่จึงสวมรอยเป็นคนชุดเขียวแล้วบุกเข้ามาพร้อมกัน
วรยุทธ์ของพวกเขาทุกคนลํ้าเลิศยิ่ง แทรกซึมอยู่ในกลุ่มคนชุดเขียว ค้นหาคนชุดเขียวผู้เป่าขลุ่ยที่ปะปนอยู่ในหมู่หุ่นตายได้ว่องไวยิ่ง จากนั้นก็เข้า ประชิดอย่างเงียบๆ…
การลงมือของหลงซือเย่คือสัญญาณลับอย่างหนึ่ง