Skip to content

สะดุดรักยัยกะล่อน 4

ตอนที่ 4

เกินเก็บข่ม

ปล่อยข้า!หลี่เซียวเหยายังคงเอ่ยเสียงเครียดขณะถูกเจินเจินเล่นไม่ซื่อโดยการสั่งบุรุษปริศนาให้เข้ามาช่วยกันจับเขาเอาไว้ถึงสามคน

มัดเขาเอาไว้ที่เสาตรงนี้เลยเสียงอ่อนหวานของเจินเจินเอ่ยสั่งการบุรุษปริศนาทั้งสาม

ขณะนี้เจินเจินได้ใช้กลอุบายหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการโกง

เมื่อเวลาแห่งการประมือกันผ่านไปได้ซักพักนางจึงรู้ตัวว่าสู้ฝีมือของหลี่เซียวเหยาไม่ได้จึงแอบส่งสัญญาณให้ลูกน้องของตนเองที่สั่งให้แอบติดตามมาเพื่อคอยรับใช้อยู่ที่แคว้นต้าหลี่ด้วยให้โผล่ออกมาและให้ช่วยกันถึงสามคนเพื่อรุมหลี่เซียวเหยาแล้วจับเขาพาเข้ามายังตำหนักของเขา และมัดเขาไว้ในห้องของเขาเสียเลย

เสร็จแล้วออกไปได้จบคำสั่งของเจินเจิน บุรุษทั้งสามก็รีบคารวะอย่างแข็งขันและพุ่งตัวพรึ่บออกไปในทันทีโดยไม่มีการไต่ถามใดๆให้มากความ

เจ้า!หลี่เซียวเหยายังคงจ้องมองพร้อมคำรามไปทางเจินเจิน

สตรีเจ้าเล่ห์นางนี้ นาง…

ดูนางทำ!

นางช่างกล้า!!

บังอาจยิ่ง!!!

เจ้าช่างน่ารังเกียจเขายังคงเอ่ยเสียงทุ้มต่ำไปทางหญิงสาว ดวงตาคมดำดิ่งบนใบหน้าคมเข้มงดงามยังคงจ้องมองเจินเจินอย่างเอาเรื่อง

อย่าด่วนสรุปเยี่ยงนั้นเลยเจินเจินยืนกอดอกใช้สายตาแววหวานผสมผสานความเจ้าเล่ห์หรี่ตามองหลี่เซียวเหยาที่ถูกจับมัดเอาไว้ที่เสาภายในห้อง

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

นางรู้สึกชอบเวลาเขาโกรธ

ท่านยังไม่เคยได้ชมความงดงามที่แท้จริงของข้า จะกล่าวอย่างนั้นได้อย่างไร รังเกียจรังงอนอันใดกัน หืม…หญิงสาวกล่าวขณะย่างกรายเข้าหาชายหนุ่มที่ถูกมัดไว้กับเสากลางห้องจนร่างระหงของนางประชิดถึงลำตัวสูงใหญ่ของเขา ก่อนช้อนสายตาแวววาวทอประกายขึ้นมองจ้องตอบดวงตาคมกริบคล้ายอาฆาตของชายหนุ่มอย่างไม่นึกหวั่นเกรง

นางยกมือเรียวงามของตนขึ้นลูบไล้ไปทั่วแผงอกบึกบึนของชายหนุ่มอย่างยั่วยวนผ่านอาภรณ์เนื้อดี

หญิงสาวใช้นิ้วมือไล้เกลี่ยไต่ขึ้นไปทางลำคอและเกลี่ยไล้ไปเรื่อยๆจนทั่วใบหน้าของเขา พลางส่งยิ้มหวานละมุนอยู่ตรงมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์จ้องมองด้วยสายตาท้าทายแกมยั่วเย้า

ท่านช่างมีเสน่ห์ของบุรุษเพศมากมายปานนี้ ไฉนเลยถึงกักขังเก็บกดซ่อนมันเอาไว้หญิงสาวเอ่ยขึ้นขณะยังคงลูบคลำไปทั่วเรือนร่างของหลี่เซียวเหยา

หน้าอกของนางอยู่ใกล้กันกับแผงอกของเขา กลิ่นหอมรัญจวนจากเนื้อนวลนางลอยคละคลุ้ง สร้างความปั่นป่วนให้เขาอยู่ไม่น้อย

เจินเจินยังคงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยอย่างมีเสน่ห์ชวนมอง อดีตก็ส่วนหนึ่ง ธรรมมะก็ส่วนหนึ่ง ใยท่านต้องเอามันมาปะปนกันจนทำให้ตนเองไร้ความสุข

หืม……เจินเจินจบประโยคของตนด้วยเสียงลากยาวชวนสยิว

หลี่เซียวเหยาได้แต่พยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่านบางอย่างเอาไว้

เขาต้องทำอะไรซักอย่างกับนาง

เจินเจินสังเกตเห็นอาการเก็บข่มอารมณ์ปรารถนาของชายหนุ่มจนหูแดงหน้าแดงอย่างนั้นจึงหลุดขำออกมา ก่อนเอ่ยเสียงหวาน ท่านช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก ข้าชักจะชอบท่านขึ้นมาจริงๆเข้าแล้ว คิกคิก

เจ้า!หลี่เซียวเหยาหน้าแดงยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เขากำลังถูกนางมารตนนี้ย่ำยีของจริง

อืม… ข้าจะแกล้งอะไรท่านอีกดีน๊าเจินเจินเอ่ยพลางยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอของชายหนุ่ม ส่งผลให้ใบหน้างามๆเข้าใกล้ใบหน้าร้อนผ่าวของเขาในระยะประชิด

นางรู้สึกสนุกยิ่งนักกับบุรุษผู้นี้

อา… ทำไมกันนะ

อืม…ดูแววตาของเขาเวลาโกรธนั่นสิ ริมฝีปากได้รูปนั่นอีก เป็นเส้นตรงเชียว อ๊ะอ๊ะ หน้าแดงไปถึงลำคอแล้วนั่น คิกคิก แดงไปถึงแผงอกหรือไม่กันน๊า…

หญิงสาวคิดในใจพลางหัวเราะขยุกขยิกอยู่ตรงหน้าของหลี่เซียวเหยา ยิ่งทำให้ชายหนุ่มโกรธจนตัวสั่นสะท้าน กล้ามเนื้อพลันกระตุกรุนแรง

นางกำลังทำเขา

ตบะแตก! ของจริง

เวลานี้ธรรมะบทไหนก็ไม่ช่วยให้ใจของเขาสงบลงได้

สตรีนางนี้

นาง…

นาง…

เขาจะฆ่านางด้วยวิธีไหนดี?

คิดอยากจะฆ่าข้าอีกล่ะสิ อืม ไม่ง่ายหรอกนะเพคะองค์ชายเจินเจินเอ่ยอย่างรู้ใจผ่านสายตาของเขาด้วยน้ำเสียงลากยาวอย่างไม่กลัวเกรงพลางส่งสายตายั่วเย้ารอยยิ้มยั่วยวนในขณะที่มือไม้ยังคงลูบคลำอยู่ตรงแผ่นหลังตึงเครียด

การกระทำนั้นรอยยิ้มนั้นยิ่งสร้างไฟโทสะแก่หลี่เซียวเหยาให้ลุกโชน

พอกันทีอารมณ์เก็บข่มใดๆ

ท่าทีสงบสุขุมเยือกเย็นใช้ไม่ได้กับสตรีนางนี้เป็นแน่

ชายหนุ่มคิดในใจด้วยไฟโทสะผ่านม่านตาคมดำที่บัดนี้ทอประกายร้อนแรงด้วยอารมณ์คล้ายคมเพลิง

เจินเจินยังคงเอ่ยต่อเรื่อยๆมิได้นำพากับอาการโกรธเกรี้ยวของ หลี่เซียวเหยาแต่อย่างใด

ท่านรู้อะไรหรือไม่ ข้าน่ะชมชอบบุรุษเป็นชีวิตจิตใจ มีบุรุษมากมายในอาณัติของข้า บุรุษพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสมุนผู้ภักดีของข้าหญิงสาวกล่าวอย่างอารมณ์ดีขณะปล่อยชายหนุ่มให้เป็นอิสระจากวงแขนงามๆก่อนถอยห่างจากร่างของเขา

หญิงสาวเพียงเดินนวยนาดด้วยท่วงท่าพลิ้วไหวไปทั่วห้องอย่างเพลิดเพลินรื่นเริงอารมณ์ดีตามวิสัยโดยไม่มีหวาดหวั่นประการใดต่อหลี่เซียวเหยา

แต่ไม่มีใครทำให้ข้ารู้สึกอยากเอาชนะได้เหมือนเช่นท่าน บุรุษมากมายมิได้ทำให้ข้าใจกระตุกได้เหมือนท่าน อืม…หญิงสาวทำท่าทางเอานิ้วเรียวของตนขึ้นแตะคางได้รูปเบาๆด้วยท่าทางชวนมองพราวเสน่ห์น่าหลงใหล

นางเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงแว่วหวานเรียบเรื่อย อืม…ยามท่านโกรธท่านช่างดูดีมีเสน่ห์เร้าใจข้ายิ่งนัก ไม่รู้ว่าทำไมข้าจึงชอบเวลาท่านโกรธ อืม…ข้า…

เจ้า…ทำไมเสียงของหลี่เซียวเหยาเอ่ยขึ้นเนิบๆอยู่ด้านหลังของเจินเจิน

หญิงสาวรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

หือ!?

!!!????”

นางค่อยๆหันหน้าไปทางชายหนุ่มที่กำลังพ่นลมหายใจร้อนกรุ่นอยู่เหนือศีรษะของนางในขณะนี้

เขา…

เขา…

ไม่ได้อยู่กับเชือกตรงเสาแล้ว!

เจินเจินเอ่ยเสียงเบาแผ่วเกือบกระซิบ ท่าน… ท่าน…” พลางชี้นิ้วไปตรงต้นเสาต้นหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางห้อง

“เชือกขาดตั้งแต่เมื่อไหร่นางเอ่ยเสียงเบายกยิ้มกลบเกลื่อน

สำคัญด้วยหรือ หืม…หลี่เซียวเหยาเอ่ยเสียงเบาพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือก

ดวงตาที่เคยดำดิ่งลึกลับ บัดนี้กลับแวววับซ้อนทับด้วยภาพของสตรีนางหนึ่ง

นางผู้ซึ่ง…น่าตายนัก!

เจินเจินค่อยๆช้อนสายตาของนางขึ้นมองตอบสบสายตาของเขา

อา…

พลาด

พลาดมหันต์

ทั้งสองจ้องตากันนิ่งงัน

เจินเจินใช้ความเร็วเพียงนิดเอียงหน้าขึ้นจูบหลี่เซียวเหยาแบบพริบตา ก่อนหมุนตัววิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต

หลี่เซียวเหยาแม้จะตกตะลึงกับการแอบกินเต้าหู้อย่างมืออาชีพของสตรีตรงหน้า แต่ยังคงวิ่งตามติดอย่างเร็วกว่าความคิด พลางตะโกนคำราม

จะหนีไปไหน…

ไม่….นะ….

และภาพของว่าที่สามีที่กำลังไล่ล่าฆ่าฟันว่าที่ภรรยาก็พลันเกิดขึ้นอีกครั้ง…

ครานี้พวกเจ้าคิดว่าใครจะชนะเสียงเดิมเสียงที่หนึ่งเอ่ยขึ้นตรงมุมห้องภายในตำหนักของหลี่เซียวเหยา

ข้าคิดว่าองค์ชายสี่นะเสียงเดิมเสียงที่สองตอบคำ

ข้าก็คิดว่าองค์ชายสี่เสียงเดิมเสียงที่สามเอ่ยบ้าง

ทั้งสามสาว หยางเจียน เว่ยฟาง และหลิวฉวนหยู่ร์ต่างมองหน้ากันและกัน ก่อนจะทำท่าไว้อาลัยให้ เจินเจิน…

ณ มุมมืดมุมหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสองหนุ่มสาวที่กำลังไล่ล่าฆ่าฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ได้ปรากฏร่างของสตรีนามว่าเซียงอวี๋อยู่

หญิงสาวได้แอบมองคนทั้งคู่อยู่ไม่ไกลเช่นเดียวกัน

นางรับรู้ได้ถึงการกระทำของทั้งสองชายหญิงคู่นั้น ทั้งหลี่เซียวเหยาและเจินเจิน

หญิงสาวจึงเริ่มจะตระหนักได้แล้วว่า การยั่วยวนเช่นนั้นคงไม่ใช่ผลดี

อา…

นางคงต้องคิดแผนใหม่

นางต้องใช้ตัวช่วย…

นางจะทำอย่างไรดี…..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!