ตอนที่ 1030 แยกย้าย
เผ่าเหริงอูอยู่ใจกลางทะเลดาราต้นกำเนิดจิต เป็นเผ่าที่ลึกลับที่สุดในสี่เผ่าประหลาดใหญ่
เผ่านี้อยู่มานานไม่รู้กี่ปีก็ยังไม่เสื่อมสลาย ยังคงยึดตำแหน่งเผ่าแรกของทะเลดาราต้นกำเนิดจิตตลอด ไม่มีสั่นคลอน
อยู่ตรงใจกลางทะเลดาราต้นกำเนิดจิตมาอย่างยาวนาน เข่นฆ่ากับสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน ทำให้เผ่านี้มีผู้แข็งแกร่งโผล่มา ในเวลาเดียวกันก็ยังกลายเป็น….สัตว์ร้าย!
ชาวเผ่าของพวกเขามีรูปร่างแทบจะต่างกันโดยสมบูรณ์ มองจากภายนอกยังคงรูปคน ทว่ามีบางคนละทิ้งกายมนุษย์ไปแล้ว กลายเป็นร่างดุร้ายครึ่งคนครึ่งสัตว์
ตอนนี้ วินาทีที่ชาวเผ่าเหริงอูปรากฏตัวในทะเลลำดับห้า พวกจื่อหลงก็เพ่งสายตามองทันที พอมองไป พวกเขาต่างหน้าเปลี่ยนสี
ในเผ่าเหริงอูมียอดฝีมือขั้นกุมไม่ใช่คนเดียว แต่มีถึง….สามคน!
เพียงเท่านี้ก็มากพอจะให้เผ่าเหริงอูกลายเป็นจ่าฝูงของสี่เผ่าใหญ่แล้ว อีกทั้ง…..นอกจากสามคนนี้แล้ว ชายชราผมขาวที่ยืนอยู่หน้าสุด ตอนนี้เดินอากาศเท้าเปล่า สองเท้าเต็มไปด้วยเกล็ด ส่วนอื่นก็ไม่มีอะไรต่างเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่ว่าขั้นพลังที่เผยออกมากลับอยู่เหนือกว่ายอดฝีมือขั้นกุมสามคนข้างหลัง
คนนี้คือบรรพบุรุษรุ่นแรกของเผ่าเหริงอู ขั้นพลังเขา…..ดูจากมวลอากาศบิดเบี้ยวเป็นบางครั้งแล้ว เหมือนกับว่าตรงที่เขาอยู่สามารถเปลี่ยนกฏให้กลายเป็นกฏชะตาได้ เห็นได้ชัดว่า…..เขาคือยอดฝีมือขั้นชะตา!
แต่นี่ยังเป็นรอง ข้างกายชาวเผ่าเหริงอูยังล้อมไปด้วยแรงกดดันวูบวาบ แรงกดดันนี้ก็มาจากการเรียกหาที่ซ่อนอยู่ในสายเลือดของชาวเผ่าเหริงอู
การเรียกหานั้นคือการรวมพลังของบรรพบุรุษทุกสมัยจากไม่รู้กี่ปีของเผ่าเหริงอู กลายเป็นการปกป้องโดยบรรพบุรุษรุ่นแรกที่ทำให้เผ่าเหริงอูกลายเป็นเผ่าหมาย เลขหนึ่งในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต
พลังการปกป้องนี้มีความแกร่งถึงขั้นที่จูโหย่วไฉยังต้องลืมตา
โดยรอบเงียบสงัด ชาวเผ่าเหริงอูที่มาเหล่านั้นล้วนตาแดงฉาน ดูคลุ้มคลั่ง แต่กลับยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไหว สงบนิ่งอย่างยิ่ง
ยิ่งเป็นแบบนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งมีแรงกดดันหนาแน่นปกคลุมรอบๆ
ชายชราเผ่ารวมธรรมเส้นผมขาวดอกเลา ร่างงูหัวเป็นคนและเกล็ดทั่วร่างเน่าผุข้างกายบรรพบุรุษเหริงอู ตอนนี้ดวงตาฉายประกายเหี้ยมโหด
“หินลำดับห้าปรากฏครั้งนี้มีระลอกคลื่นเหนือกว่าครั้งก่อนทั้งหมด ดังนั้นจึงดึงดูดคนจำนวนมาก แต่ข้าจะไม่แย่งหินนี้ด้วยก็ได้ ข้าต้องการเพียง…..หัวมันคนนั้น!” บรรพบุรุษขวางคุณธรรมยกมือขวาขึ้นชี้ซูหมิง
“หากไม่ใช่เพราะระลอกคลื่นรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ข้าคงไม่มาด้วยตัวเอง” เสียงแหบแห้งดังแว่วเนิบๆ มาจากปากบรรพบุรุษเหริงอู
“ผนึกโลกภายนอก แจ้งกับทุกคนที่มาว่า…..ที่นี่จะถูกเผ่าเหริงอูยึดครองครึ่งปี ผู้ใดเข้ามา เผ่าพันธุ์ต้องสูญสิ้น” ชายชราเผ่าเหริงอูตาเป็นประกายบางจนไม่อาจ ตรวจพบ ตอนที่เขากล่าวราบเรียบ ชาวเผ่าเหริงอูหลายร้อยคนข้างหลังต่างถอยไปอย่างเงียบเชียบ จนกระทั่งถอยไปหมื่นจั้งแล้วก็เชื่อมต่อกันเป็นเส้นโค้ง แต่ละคนเปล่งแสงหม่น หากมองไกลๆ จะเหมือนกับผนึก
“ไม่ต้องลงมือ ผู้ปกปักทะเลลำดับห้ามาถึงแล้ว” บรรพบุรุษเหริงอูยิ้มเยาะ ขณะกล่าว ทั้งทะเลลำดับห้าพลันไหลเชี่ยวอย่างรุนแรง
จากนั้นเกิดเสียงดังก้องกังวาน การเปลี่ยนแปลงทำให้พวกจื่อหลงสนใจทันที ยามที่มองไปก็เห็นว่าทะเลลำดับห้าเกิดเสียงดังสนั่นไม่หยุด เห็นรางๆ ว่าข้างในมี ร่างเงาสี่คนกำลังเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ด้านหลังร่างเงาสี่คนนั้นมีสายรุ้งยาวนับไม่ถ้วนตามเข้ามา
พวกเขาถูกหมอกทะเลปกคลุมจึงเห็นเป็นรางๆ เมื่อพวกเขาเข้ามากันเรื่อยๆ ครู่เดียวพอเห็นรูปร่างพวกเขาชัด พวกจื่อหลงพลันหน้าเปลี่ยนสี
สี่คนที่นำหน้าสุดเป็นคนสวมหน้ากากขาวสี่คน รูปลักษณ์ของหน้ากากแบ่งเป็น ดีใจโกรธเศร้าแค้น ส่วนด้านหลังพวกเขา ในสายรุ้งจำนวนมากก็เป็นคนสวมเกราะดำ ทุกคนต่างใบหน้าไร้อารมณ์
ระหว่างที่คนเหล่านี้เหยียบสายรุ้งเข้ามาใกล้ ก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังพวกซูหมิงทันที
ซูหมิงลืมตาขึ้นจากสมาธิ นัยน์ตาฉายแววประหลาดใจ
“ในที่สุดก็มาแล้ว” ซูหมิงกล่าวคนเดียวเงียบๆ ความจริงก่อนหน้านี้ที่เปิดหินลำดับห้า ตอนที่สายรุ้งข้ามผ่านทะเลลำดับห้า ในใจเขาก็รู้สึกถึงผู้ปกปักทะเลลำดับห้าตรงส่วนลึกของสายรุ้งแล้ว
“เซ่นไหว้!” ยามนี้ในใจซูหมิงมีเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยินดังก้องอยู่ ต้องเป็นคนที่มี หินลำดับห้าเท่านั้นถึงจะได้ยินคำพูดของผู้ปกปักทะเลลำดับห้า
หลังจากได้ยินเสียงนี้ ซูหมิงหลับตาลง
สภาพการณ์ตอนนี้ตรงหน้ามีเผ่าเหริงอูปิดล้อม ด้านหลังมีผู้ปกปักจากทะเลลำดับห้า ภยันตรายร้ายแรงพลันพรั่งพรูในใจพวกจื่อหลง
โดยเฉพาะสี่คนที่สวมหน้ากากขาว ดวงตาเย็นชา ระลอกคลื่นพลังจากตัวพวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือขั้นกุม
“ส่งหินลำดับห้ามา แล้วพวกเจ้าออกไปได้” ภายในกลิ่นอายหนาวเยือกกลางทะเลลำดับห้า คนที่สวมหน้ากากดีใจกล่าวขึ้นราบเรียบ
สิ้นเสียงเขา ฟ้ากระจ่างดาวรอบๆ พลันเกิดเสียงดังสนั่น มีสายฟ้าขมุกขมัวนับถ้วนวนเวียนไปรอบๆ เมื่อเขาเอ่ยขึ้น โดยรอบจึงกลายเป็นดินแดนสายฟ้า
“วาจาสะเทือนสายฟ้า!” จื่อหลงหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง เขาถอยหลังไปโดยจิตใต้สำนึก
บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงหน้าขาวซีด หลงไห่ข้างๆ ดวงตาวาววับ พอมองซูหมิงแล้วก็มองจูโหย่วไฉ
“ถึงอิสระจะล้ำค่า ถึงใช้หนึ่งปีแลกพันปีจะหายาก ทว่าหากใช้ชีวิตเป็นราคา เรื่องนี้แซ่หลงต้องตัดสินใจใหม่” หลงไห่กล่าวเรียบนิ่งพร้อมกับขยับวูบไหวถอยหลังไปช้าๆ
“ต่อให้เรื่องนี้ผิดคำสัญญาระหว่างเราที่ข้าไม่ปฏิบัติตามคำสาบาน หากเจ้าจะทำลายคำสาบาน ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้” บรรพบุรุษหลงไห่กล่าวพลางถอยไป พุ่งไปหาเผ่าเหริงอู
“บรรพบุรุษเหริงอูยังจำแซ่หลงได้หรือไม่ เรื่องในวันนี้แซ่หลงมีเหตุผลที่ต้องปกปักที่นี่ ตอนนี้ในเมื่อไม่มีพลังพลิกสถานการณ์ให้ดีขึ้นแล้ว ก็หวังว่าบรรพบุรุษเหริงอูจะเปิดทางให้แซ่หลงออกไป ภายภาคหน้าข้าจะต้องตอบแทนบุญคุณอย่างแน่นอน” บรรพบุรุษหลงไห่ประสานมือคารวะบรรพบุรุษเหริงอู
บรรพบุรุษเหริงอูดวงตาวาววับ มุมปากยกยิ้ม
“ที่แท้ก็เป็นสหายหลงไห่ เรื่องนี้ช่วยไม่ได้ และยังมีสหายท่านอื่น หากอยากไปข้าจะไม่สร้างความลำบากใจให้ สิ่งที่พวกข้าต้องการมีเพียงหินลำดับห้า และยังมีคนที่ครองมันในตอนนี้ ส่วนคนอื่นไปได้”
บรรพบุรุษเหริงอูกล่าวพลางยกมือขวาขึ้น ทุกคนที่อยู่ข้างหลังต่างแยกออกเป็นสองข้างเผยเป็นเส้นทางสายหนึ่ง จากนั้นบรรพบุรุษหลงไห่ก็รีบเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนคารวะอีกครั้ง แล้วกลายเป็นสายรุ้งยาวบินไกลออกไปตามเส้นทาง
ซูหมิงมีสีหน้าปกติกับการจากไปของบรรพบุรุษหลงไห่ เขายังคงหลับตานั่งฌานนิ่ง
บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงลังเลอยู่ชั่วครู่ ยามที่มองซูหมิง นัยน์ตาเขาฉายแววดิ้นรน ผ่านไปพักใหญ่ถึงถอนหายใจยาว เขาจินตนาการได้ว่าหลงไห่นั่นจะต้องมีการเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้วแน่ๆ ดังนั้นจึงสลัดหลุดไปได้ แต่ตน….
จื่อหลงเงียบ สายตามองซูหมิงแล้วก็ไปหยุดอยู่ที่จูโหย่วไฉครู่หนึ่ง เขาก้มหน้าคารวะซูหมิง ไม่เอ่ยถึงเรื่องน้ำหวานดอกผนึกจิตแม้แต่น้อย เพียงหมุนตัวกลับ ห้อเหยียดไปทางเผ่าเหริงอู
เขาเลือกยอมแพ้
ไม่ใช่ว่าจื่อหลงไม่คิดถึงว่ามีจูโหย่วไฉอยู่จะช่วยแก้ไขทุกอย่าง แต่ตอนที่เขาเห็นเผ่าเหริงอู ความเชื่อมั่นก็สั่นคลอน บางทีคนอื่นอาจไม่รู้จักเผ่าเหริงอูมากนัก รู้เพียงแค่เผ่านี้ลึกลับและเป็นเผ่าอันดับหนึ่งในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต
ทว่าเขาเป็นคนจากสี่มหาโลกแท้จริง จึงได้ทำการตรวจสอบเผ่าเหริงอูอย่างละเอียดยิบ และรู้ชัดว่าในเผ่าเหริงอูมีมรดกลึกลับอยู่ชนิดหนึ่ง มันทำให้หลังจากบรรพบุรุษทุกรุ่นที่สิ้นลงไปแล้วเหลือจิตแรกเอาไว้ พอรวมกันหลายสมัยเข้าจึงเกิดเป็นบางสิ่งคล้ายกับเทพเจ้า
บางสิ่งนี้ต่างหากคือสาเหตุจริงๆ ที่สี่มหาโลกแท้จริงหวาดกลัว
ส่วนบางสิ่งนั้นมีขั้นพลังระดับใดกันแน่ก็เป็นความลับที่สุดของเผ่าเหริงอู อีกทั้งเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับบางสิ่งนี้ยังถูกเผ่าเหริงอูปิดเอาไว้อย่างเต็มที่
และก็เป็นขุมอำนาจสี่โลกแท้จริงที่ตรวจสอบได้บ้าง จากการวิเคราะห์ของสี่โลกแท้จริง บางสิ่งนี้น่าจะมีข้อบกพร่องกับขีดจำกัดอยู่ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น มันก็ยังทำให้….ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสี่มหาโลกแท้จริงชำเลืองตามอง ดังนั้นจึงไม่เข้ามารบกวนเผ่านี้เลย
ฉะนั้นแล้วตอนที่เห็นเผ่าเหริงอู จื่อหลงจึงใจสั่นโคลงเคลง พอเห็นผู้ปกปักทะเลลำดับห้า โดยเฉพาะเห็นสี่คนที่สวมหน้ากากดีใจโกรธเศร้าแค้น เขาจึงไม่มีความมั่นใจกับซูหมิงเลย
สี่คนที่สวมหน้ากากดีใจโกรธเศร้าแค้นดูเหมือนมีขั้นพลังเพียงขั้นกุม ทว่าจื่อหลงก็รู้อีกว่าพวกเขาอยู่มานานมากแล้ว ดีใจโกรธเศร้าแค้นก็เป็นตัวแทนของการสืบทอดทุกยุคสมัย
ดังนั้นแล้วเขาจึงเลือกจากไป ถึงน้ำหวานดอกผนึกจิตจะสำคัญ แต่เทียบกับชีวิตแล้วก็ยังเป็นรอง
เห็นจื่อหลงจากไป บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงเกิดความปั่นป่วนในใจถึงขีดสุด แต่เขามองซูหมิงอีกครั้งแล้วกัดฟัน….ไม่จากไป
หุ่นเชิดเพลิงในยามนี้ แม้แต่เขายังไม่รู้ว่าตนคิดอย่างไร เขารู้สึกเพียงว่าพอได้ติดตามซูหมิงในเตาหลอมลำดับห้า ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เขาน่าตื่นตะลึงไม่หยุดตลอดทาง มันทำให้เขารู้สึกรางๆ ว่า…ภยันตรายครั้งนี้เหมือนจะ…แก้ไขได้
ตอนนี้เอง คนที่สวมหน้ากากดีใจในผู้ปกปักกลางทะเลลำดับห้าแค่นเสียงเย็นชา เขาขยับเดินหน้า ระหว่างนั้นปรากฏเงาซ้อนทับบนตัวเขา เหมือนจะแยกออกมาเป็นหนึ่งร่างแยก
ร่างจริงยังอยู่ตรงนั้น แต่ร่างแยกเดินหน้าออกมา เหยียบสายฟ้าตรงไปหา บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิง บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงดวงตาขยับประกายวาวคมกริบ ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้วก็ต้องเตรียมตัวทุกอย่างให้พร้อม ตอนที่ร่างแยกคนสวมหน้ากากดีใจเข้ามาใกล้ เขาพุ่งไปข้างหน้า จากนั้นสองคนปะทะกันกลางอากาศ เสียงโครมคราม ดังขึ้น