Skip to content

สู่วิถีอสุรา 553

ตอนที่ 553 เหอเฟิง

ชั้นสี่ ฟ้าดินยังคงเป็นสีแดงฉาน ทว่าสีแดงนี้กับชั้นสามต่างกันโดยสิ้นเชิง ชั้นสามเป็นสีแดงเปื้อนโลหิต ส่วนชั้นสี่เป็นแสงสะท้อนเปลวเพลิง!

ทั้งผืนฟ้าปานเผาไหม้ สายลมคลื่นความร้อนระอุแผ่กระจายกลางฟ้าดินในชั่วขณะที่ซูหมิงก้าวเข้าสู่ชั้นสี่

บนผืนดินเป็นเปลวเพลิงลุกโชติช่วง กลางทะเลเพลิงมีภูเขาลูกหนึ่ง ภูเขานี้สูงตระหง่าน มองไปยังคงถูกทะเลเพลิงโอบล้อม บนยอดเขานั้นมีควันลอยโชยขึ้น

มันเป็นภูเขาเพลิง!

ยอดเขาเป็นลักษณะวงล้อม ตรงขอบยอดเขามีคนนั่งอยู่ผู้หนึ่ง คนผู้นี้เป็นชายวัยกลางคน ใบหน้าหล่อเหลาอย่างยิ่ง เขานั่งอยู่ตรงนั้นราวกับไม่รู้จักความร้อน

เส้นผมเขาเป็นสีแดงเพลิง อาภรณ์ก็แดงเพลิงเช่นกัน ดูประหนึ่งเพลิงกำลังลุกไหม้

วินาทีที่ซูหมิงเข้ามาในชั้นสี่ บุคคลนี้เงยหน้าขึ้น ตรงระหว่างคิ้วมีตราประทับเปลวเพลิง มุมปากเผยรอยยิ้มน้อยๆ เพียงแต่รอยยิ้มนั้นดูชั่วร้ายยิ่งนัก

ทันทีที่เขาเห็นซูหมิง นัยน์ตามีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้น ประดุจว่าลูกตาเผาไหม้

“ไม่เจอกันนาน” เสียงแหบแห้งดังเนิบๆ จากปากเขา ขณะเดียวกับที่เสียงกังวานรอบๆ ทะเลเพลิงก็โถมเข้ามาพร้อมกัน และแผดเผารุนแรงยิ่งขึ้น

ซูหมิงยืนอยู่กลางอากาศ มองบุรุษเสื้อคลุมแดงคนนั้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

“ไม่เจอกันนานจริงๆ เหอเฟิง”

ช่วงที่ซูหมิงเอ่ยคำว่าเหอเฟิง บุรุษเสื้อคลุมแดงคนนั้นเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะเขาแฝงไว้ด้วยความอวดดีและคลุ้มคลั่ง

เขาคือเหอเฟิง!

เป็นศัตรูคนแรกตอนอยู่ในเมืองเขาหาน สองคนนี้ต่อสู้กันจนกระทั่งเหอเฟิงกลายเป็นผู้ติดตาม จนกระทั่งหักหลังหนีไปในช่วงมหาสงครามหมานกับเชมัน จวบจนตอนนี้ผ่านมายี่สิบปี ทั้งสองก็กลับมาพบกันอีกครั้งในฝ่ายนภา

“เหอเฟิง…ข้าไม่ได้ยินคนอื่นเรียกข้าว่าเหอเฟิงมานานมากนัก…”

รอยยิ้มเหอเฟิงชั่วร้ายมากขึ้น เขามองซูหมิง ขณะหัวเราะก็ยืนขึ้นช้าๆ บนภูเขาเพลิงแล้วสะบัดแขนเสื้อ

“ข้าในตอนนี้คือทูตฝ่ายขวาของฝ่ายนภา หรือเรียกอีกอย่างว่าเจ้าปกครองหมานเพลิง ผู้กุมความเป็นตายของคนนับไม่ถ้วน!” ตอนที่เหอเฟิงกล่าว เขาสะบัดแขนเสื้อขวาตามมา ภูเขาเพลิงด้านหลังพลันปะทุ พ่นหินหนืดมาจำนวนมาก ควันดำลอยโชยไปรอบๆ ทำให้ที่นี่ร้อนระอุยิ่งกว่าเดิม

อีกทั้งขณะปะทุ ซูหมิงเห็นว่าในหินหนืดนั้นยังมีโครงกระดูกสีดำอยู่เล็กน้อย มีชรามีเด็ก กำลังป่นปี้อย่างรวดเร็ว…

“ข้าเปลี่ยนชั้นสี่ให้เป็นทะเลเพลิงเพื่อต้อนรับเจ้า สังหารชนเผ่าที่เตรียมจะใช้พลังทั้งหมดช่วยเหลือเจ้า ใช้ร่างกายพวกเขาเป็นของเซ่นไหว้เปลวเพลิง

เพราะมีแต่สภาพแวดล้อมแบบนี้เท่านั้นถึงจะคู่ควรกับฐานะเจ้าปกครองหมานเพลิงอย่างข้า และคู่ควรกับการต่อสู้ระหว่างข้ากับเจ้า!”

ขณะเหอเฟิงกล่าวก็เดินหน้าหนึ่งก้าว

“ข้าต่างหากคือหมานเพลิง!” ยามกล่าวประโยคนี้ เขาทำสัญลักษณ์มือขวาชี้ลงดิน เปลวเพลิงบนพื้นลอยขึ้น ม้วนตัวตรงมายังซูหมิงทั้งหมด

อีกทั้งหลังจากเขาชี้ไปแล้วก็ชี้ท้องฟ้าต่ออีก พริบตาเดียว เปลวเพลิงบนท้องฟ้าม้วนก็ตรงเข้ามาหาซูหมิงพร้อมกับเปลวเพลิงบนผืนดิน

ซูหมิงยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง ไม่เปลี่ยนแปลงมาก เขามองเหอเฟิงผู้โอหังอย่างเย็นชาแล้วส่ายศีรษะ

“เจ้าไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า” ซูหมิงยกมือขวา วินาทีที่เปลวเพลิงจากฟ้าดินตรงเข้ามา เขาคว้ามือขวาไปข้างหน้าก่อน

เปลวเพลิงโดยรอบพลันสั่นไหว ก่อนพากันม้วนตรงมายังฝ่ามือซูหมิง ทะเลเพลิงด้านหลังเมื่อกลบตัวเขาแล้วก็กวาดผ่านไปเฉยๆ หากมองไกลๆ จะเป็นภาพที่น่าทึ่งยิ่งนัก เพราะเหมือนว่าซูหมิงกุมเปลวเพลิงจำนวนมากนี้ รวบรวมไว้ในมือขวาตัวเอง

ซูหมิงในยามนี้คือราชากลางหมู่เพลิง ภายใต้การรวมทะเลเพลิง บนฝ่ามือซูหมิงปรากฏขึ้นเป็นลูกเพลิงยักษ์

ลูกเพลิงนี้ลุกโชติช่วง ซูหมิงดุนเอาไว้ด้วยมือขวา สายตายังมองเหอเฟิงด้วยความเย็นชา

เหอเฟิงมีสีหน้าชั่วร้าย นัยน์ตาฉายแววประหลาดใจ ยิ้มมุมปากเย็นชา

ทันทีที่อีกฝ่ายเผยรอยยิ้มเย็นชานั้น บนลูกเพลิงที่ซูหมิงกุมเอาไว้มีใบหน้าคนนูนออกมาในทันใด ใบหน้าคนนี้คือเหอเฟิง เขาอ้าปากกว้างประหนึ่งแบ่งลูกเพลิงเป็นสองส่วนแล้วเขมือบไปทางซูหมิง

นี่คือดวงจิตที่แฝงอยู่ในเพลิง ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองปากใหญ่เหอเฟิงที่เขมือบเข้ามา และมองตัวลูกเพลิงที่มีไฟลุกท่วมไปทั่ว

“ไม่อยากเชื่อว่าจะผสานรวมจิตให้อยู่ในเพลิงได้ ไม่เลว หลายปีมานี้เจ้าขยันมากจริงๆ ทว่า…” ซูหมิงกล่าวนิ่งๆ ตอนที่ลูกเพลิงเขมือบเข้ามา เขายกมือขวาขึ้นแล้วกำมือ

ลูกเพลิงยักษ์ที่อยู่ห่างจากซูหมิงไม่ถึงครึ่งจั้งพลันสั่นสะท้าน ชั่วพริบตาเดียวมันก็ระเบิดกระจายตรงหน้า

หลังจากนั้นทะเลเพลิงจำนวนมากม้วนถอยไป ทว่ากลับไม่มีเปลวเพลิงสักเสี้ยวโดนตัวซูหมิง เขายืนอยู่กลางเปลวเพลิง มองเหอเฟิงพลางส่ายศีรษะ

“…ก็ยังไม่พอ”

เหอเฟิงหรี่ม่านตา เขากระโดดขึ้นกลางอากาศพร้อมกับร้องคำราม อาภรณ์ด้านหลังพลันฉีกขาด มีปีกสีดำงอกออกมาสองปีก จังหวะที่กระพือปีกก็มีเปลวเพลิงอาบท่วมอยู่บนนั้น สองมือขยับนิ้วทำสัญลักษณ์ มองซูหมิงด้วยสีหน้าเหี้ยมโหดก่อนแล้วค่อยผลักมือไปข้างหน้า

“ยังไม่พออย่างนั้นรึ? ค้างคาวจันทรา!” เหอเฟิงตะโกนพร้อมผลักมือไป เขากัดปลายลิ้นพ่นโลหิตออกมา เมื่อพ่นมาแล้วโลหิตสดเผาไหม้ในทันใด จากนั้นรวมกันแล้วกลายเป็นค้างคาวจันทราตัวหนึ่ง!

ทว่าค้างคาวจันทราตัวนี้สร้างขึ้นจากเปลวเพลิง ดวงตาเหี้ยมโหด ทั้งยังร้องคำราม ร่างกายมันสร้างขึ้นจากโลหิตเหอเฟิงและเปลวเพลิง ยามนี้เมื่อปรากฏตัวแล้วก็ร้องลั่น รอบๆ ตัวมันปรากฏค้างคาวจันทราอีกจำนวนมาก พริบตาเดียวตรงหน้าเหอเฟิงก็มีค้างคาวจันทราเช่นนี้เกือบร้อยตัว

ครั้นเหอเฟิงชี้นิ้วไปยังซูหมิง ค้างคาวจันทราเปลวเพลิงเหล่านั้นก็คำรามตรงไปหาเขา

เหอเฟิงยิ้มมุมปากชั่วร้าย เขาเชื่อว่าตนหลุดจากการควบคุมของซูหมิงแล้ว ทั้งยังเป็นหมานเพลิงอย่างสมบูรณ์ ยี่สิบปีมานี้เขาเฝ้ารอคอยมาตลอดถึงวันที่จะได้เจอกับซูหมิงอีกครั้ง เขาอยากให้ซูหมิงรู้ว่าเขาเหอเฟิงต่างหากที่เป็นหมานเพลิงหนึ่งเดียวในโลกนี้!

ต่อให้หมานเพลิงนี้จะมาจากซูหมิง เหอเฟิงก็เชื่อว่าตนคือหมานเพลิงที่เก่งกาจที่สุด!

เขาสามารถผสานรวมดวงจิตเข้ากับเพลิง และยังเปลี่ยนค้างคาวจันทราผู้ซื่อสัตย์ต่อซูหมิงให้กลายเป็นเปลวเพลิงได้ ทุกอย่างนี้อธิบายได้ถึงสาเหตุที่เหอเฟิงเชื่อมั่นในตนเอง เขาเชื่อว่าตนจะต้องสังหารซูหมิงได้แน่นอน และยุติบุญคุณความแค้นในตอนนั้น!

ขณะเดียวกับที่ค้างคาวจันทราเกือบร้อยตัวตรงมายังซูหมิง เหอเฟิงก็เดินหน้าหนึ่งก้าวเช่นกัน ปรากฏเปลวเพลิงโอบล้อมรอบตัวเขาไว้โดยพลัน ก่อนรวมขึ้นเป็นค้างคาวจันทราเพลิงขนาดร้อยจั้งตัวหนึ่งหุ้มไว้ข้างใน ทำให้เหอเฟิงเองก็กลายเป็นค้างคาวจันทรา!

ซูหมิงยังคงนิ่งเฉยต่อวิชาหมานเพลิงต่างๆ ของเหอเฟิง ยามนี้เขายกมือขวาขึ้นเนิบๆ แล้วก้มหน้ามองเส้นลายมือของตัวเอง

“คนที่ไม่เข้าใจว่าอะไรคือหมานเพลิงที่แท้จริงและไม่เข้าใจว่าหมานเพลิงเกิดขึ้นเพราะอะไรอย่างเจ้า ไม่ว่าอย่างไรก็ยังไม่พอ” ซูหมิงกำมือขวา ตอนคลายออกในมือเขามีไข่มุกสามเม็ด

ตอนที่ปรากฏไข่มุกสามเม็ด ค้างคาวจันทราเกือบร้อยตัวล้วนตัวสั่นแล้วระเบิดพร้อมกัน กลายเป็นเปลวเพลิงจำนวนมากตรงมายังมือขวาซูหมิง

เหตุการณ์นี้ทำให้เหอเฟิงอึ้งงัน ชั่วขณะเดียวกันนี้ เขาก็พบว่าค้างคาวจันทราร้อยจั้งที่ปกคลุมร่างเขาอยู่กลับสั่นไหวอย่างรุนแรง ยังไม่ทันได้สติกลับมา ค้างคาวจันทราก็ระเบิดกระจุยกลับมาเป็นเปลวเพลิงอีกครั้ง ก่อนตรงไปยังไข่มุกสามเม็ดของซูหมิง

ทันทีที่เหอเฟิงเห็นไข่มุกสามเม็ดในมือซูหมิง ในใจเขาสั่นไหว เกิดความรู้สึกวิญญาณจะออกจากร่าง ความรู้สึกนี้เพิ่งปรากฏขึ้น เขาก็พบอีกว่าตนกับที่นี่เหมือนจะขาดการเชื่อมต่อกันทั้งหมดในฉับพลัน!

ราวกับถูกที่นี่ขับไล่ เพลิงที่คุ้นเคยในทุกวันพลันแปลกหน้ากัน

และทุกอย่างเป็นเพราะไข่มุกสามเม็ดในมือซูหมิง

เพลิงของฟ้าดินที่นี่ม้วนตรงไปยังไข่มุกสามเม็ดของซูหมิง ชั่วพริบตาเดียว หลังจากเปลวเพลิงทั้งหมดถูกสูบเข้าไปหมดแล้ว ที่นี่ก็ไม่มีทะเลเพลิงอีก แม้แต่ภูเขาเพลิงยามนี้ยังสั่นสะเทือนปานจะมอดดับ ไม่มีเปลวเพลิงพ่นออกมาอีก

“อะไรคือเพลิง เหตุใดต้องมีข้า เหตุใดต้องเข้าใจเพลิง เจ้ายังไม่เข้าใจคำถามเหล่านี้ แล้วมีหน้ามาเรียกตัวเองว่าหมานเพลิงต่อหน้าข้าอย่างนั้นรึ?” ซูหมิงกำมือเก็บไข่มุกสามเม็ดไป แล้วมองเหอเฟิงด้วยความเย็นชา

จนถึงตอนนี้ซูหมิงยังไม่ลงมือเลยสักครั้ง เขาปล่อยให้เหอเฟิงแสดงอภินิหารเหล่านี้อย่างอิสระปานตัวตลก ยามนี้ในสายตาเขา เหอเฟิงหน้าซีดขาว นัยน์ตาฉายแววบ้าคลั่ง

“เป็นไปไม่ได้ ข้าต่างหากคือหมานเพลิง ข้าต่างหากคือหมานเพลิงโดยแท้จริง!” เขาตะโกนพร้อมกับขยับตัว ช่วงที่เตรียมจะใช้วิชาต่อไปนั้น ซูหมิงส่ายศีรษะ

“เจ้าไม่ใช่หมานเพลิง ข้าเองก็ไม่ใช่ เพราะในชะตาชีวิตข้า…ไม่ขาดเพลิง!”

ซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าว ยกมือขวาสะบัดไปข้างหน้า ตรงหน้าเหอเฟิงเกิดพายุคลั่งขึ้นในทันใด แล้วกลายเป็นพายุหมุนปะทะใส่จนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น

เหอเฟิงกระอักโลหิต ร่างกระเด็นถอยไปหลายก้าว เขาผู้ถูกเปลวเพลิงขับไล่ ยามนี้สัมผัสไม่ได้ถึงเพลิงใดๆ อีก

“ข้าคือหมานเพลิง ข้ามอบชีวิตมอบทุกอย่างให้กับเพลิง โลกใบนี้ ข้าคือคนที่ซื่อสัตย์ต่อเพลิงที่สุด ข้าต่างหาก…..คือหมานเพลิงอย่างแท้จริง!” เหอเฟิงกระอักโลหิต ยังมีสีหน้าเหี้ยมโหด เขาเงยหน้าร้องตะโกนโดยไม่สนบาดแผลบนตัว ภายใต้เสียงคำรามอย่างเสียสติ เขาเหลือสติสัมปชัญญะไม่มากแล้ว ในความคิดเหลือเพียงความรู้สึกไม่ยินยอมและจิตใจอันแน่วแน่!

เขาคิดเสมอว่าตนคือหมานเพลิงขนานแท้

อยู่กับเพลิงมายี่สิบปี นี่คือรากฐานที่เขาเหยียบย่ำอยู่เหนือคนอื่นและมีฐานะเฉกเช่นทุกวันนี้ ทว่าตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าซูหมิงกลับถูกชิงอำนาจในการใช้เพลิงไป นี่คือสิ่งที่เขาไม่อาจยอมรับและทำให้เขาคลุ้มคลั่ง!

ชั่วขณะที่เหอเฟิงคำรามลั่น กลับมีเปลวเพลิงเสี้ยวหนึ่งผุดขึ้นบนตัวเขาในโลกที่ไร้เปลวเพลิงแห่งนี้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!