Skip to content

สู่วิถีอสุรา 556

ตอนที่ 556 ของเดิมพัน

ซือหม่าซิ่นสวมเสื้อคลุมยาวสีขาว เส้นผมยาวถึงบ่า เขานั่งมองซูหมิงอยู่ตรงนั้น ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยแรงดึงดูดมหาศาล ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความสงบนิ่งปานฟ้าดินถล่มก็ไม่สน กระทั่งรอยยิ้มเขาก็เช่นเดียวกัน

ทว่าขั้นพลังจากในตัวเขาเป็นเพียงขั้นวิญญาณหมานตอนต้นเท่านั้น

เขามองซูหมิง แม้ยิ้มน้อยๆ ทว่านัยน์ตากลับไร้ปรานี เขาใช้มือขวาจับปอยผม แววตาเย็นชามากขึ้น

“ซูหมิง ข้าฝันมาตลอดว่าวันหนึ่งเจ้ากับข้าจะได้เจอกันอีกครั้ง” ซือหม่าซิ่นยิ้มบางๆ เสียงเขาตอนนี้ฟังแล้วดูนุ่มและเย็นชายิ่งกว่าเดิม เสียงนี้ดังก้องกังวาน ทำให้ฟ้าดินเกิดระลอกคลื่นกระจายไปรอบๆ

ขณะเดียวกับที่เอ่ย แววตาพลันขยับวูบไหว

ร่างกายโปร่งใสในชั่วพริบตาอย่างน่าประหลาด ข้างกายมีนิ้วมือสังหารยื่นมาจากมวลอากาศ ก่อนกดตรงระหว่างคิ้วซือหม่าซิ่น ทว่ากลับทะลวงผ่านร่างไป ตอนที่ซูหมิงเดินออกมาก็เงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา

ในสายตาซูหมิง ร่างของซือหม่าซิ่นบนท้องฟ้าเป็นภาพมายา

“เจ้ายังเหมือนกับเมื่อก่อน ลงมือเหี้ยมโหดไม่มีลังเล…ทว่าข้าไม่ใช่อย่างตอนนั้นแล้ว” ซือหม่าซิ่นมองซูหมิง ยิ้มพลางส่ายศีรษะ จากนั้นยกมือขวาสะบัด ท้องฟ้าบิดเบี้ยวในทันที

หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ผุดภาพขึ้นมา ตอนที่เห็นภาพนั้น ซูหมิงเงียบงันไป

ในภาพนั้นเป็นสถานที่ที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ดูเป็นโลกที่ผ่านเวลามาเนิ่นนาน ซูหมิงเห็นไป๋ซู่อยู่บนพื้นดิน เห็นชายชราคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลังนาง ชายชราคนนี้มีสีหน้ามัวหมอง ลืมตาขึ้นเป็นบางครั้ง ดูเศร้าสร้อยและเดียวดาย

ไป๋ซู่หน้าซีดขาว ทว่ากลับยืนตรงหน้าชายชราอย่างแน่วแน่ หน้าตานางไม่ต่างกับตอนนั้นมากนัก เพียงแค่ใบหน้าไม่มีความไร้เดียงสาและเยาว์วัยอย่างในตอนนั้นอีก แต่มีความแน่วแน่และเด็ดเดี่ยวเข้ามาแทน

บนใบหน้านางมีหนึ่งรอยแผลเป็นน่าสะพรึง แผลเป็นนี้เชื่อมผ่านทั้งใบหน้า เมื่อมองในแวบแรกคงต้องตื่นตกใจบ้าง

นางยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ ในมือถือกระบี่ยาวสีดำเล่มหนึ่ง ตรงหน้าเป็นคนกึ่งเป็นตายดวงตาสีเทาและไม่มีมือซ้ายนับไม่ถ้วน!

คนเหล่านี้ร้องคำรามพร้อมกับเดินมาอย่างช้าๆ มองไปแล้วมากมายสุดลูกหูลูกตา

ไกลออกไปอีก แผ่นดินสั่นสะเทือน มีคนยักษ์สูงหลายสิบจั้งสองสามตนกำลังก้าวเท้ายาววิ่งมายังไป๋ซู่ ขณะคนยักษ์กำลังวิ่งทะยาน พวกมันก็สะบัดแขนทั้งสองข้าง บ้างก็จับคนกึ่งเป็นตายที่ขวางหน้ามายัดใส่ปากกินลงไป ดวงตาเหี้ยมโหดจ้องมายังจุดที่ไป๋ซู่อยู่พลางห้อวิ่งเข้ามา

“เจ้าวางใจเถอะ นางจะไม่ตายในเร็วๆ นี้แน่ หลายปีมานี้ไป๋ซู่อยู่ที่นี่ ข้าแค่สร้างรอยแผลบนใบหน้านางเท่านั้น ไม่ได้ทำร้ายนางแม้แต่น้อย” ซือหม่าซิ่นยืนอยู่กลางอากาศ กล่าวเสียงนุ่มนวล

“ข้าแค่ไม่ยอม ไม่ยอมแพ้เจ้าในตอนนั้น เจ้าก็รู้ว่าข้าต้องทนเจ็บปวดในอุโมงค์เหมันต์สวรรค์มากเพียงใด ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า!” ซือหม่าซิ่นมองซูหมิง น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความแค้นอันแรงกล้า

ซูหมิงละสายตาจากในม่านแสงบิดเบี้ยวมามองซือหม่าซิ่น

“พูดจบรึยัง” ซูหมิงมีสีหน้าเช่นปกติ แต่กลับหายตัวไปในพริบตาเดียวแล้วมาปรากฏตัวอยู่ข้างซือหม่าซิ่น เมื่อยกมือขึ้น แสงสายฟ้าระเบิดปะทุในมือทันที

การระเบิดของสายฟ้าสร้างเป็นกระแสสายฟ้าไหลเวียนจำนวนมากเข้าปกคลุมทั่วร่างซือหม่าซิ่น ทำให้ตัวเขาเกิดเสียงดังปุดๆ ก่อนแหลกสลายไปต่อหน้าซูหมิง

ซูหมิงขมวดคิ้ว ขณะเดียวกันก็มีเสียงซือหม่าซิ่นดังแว่วมาจากบนแผ่นดิน ท่ามกลางศพสีเทาจำนวนมากที่นอนอยู่บนพื้น มีอยู่ร่างหนึ่งใบหน้าหลอมละลายแล้วกลายเป็นรูปร่างหน้าตาซือหม่าซิ่น เขาลุกขึ้นยืนก่อนยิ้มมองซูหมิงบนฟ้า

“ข้ายังพูดไม่จบ ซูหมิง การต่อสู้ครั้งแรกระหว่างข้ากับเจ้าในตอนนั้น ข้าพ่ายแพ้เจ้าอย่างหมดรูป พวกเรา…มาสู้กันอีกครั้ง!” ซือหม่าซิ่นจ้องซูหมิง มุมปากยกยิ้มพิลึก เขาในร่างใหม่นี้มีขั้นพลังแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของขั้นวิญญาณหมานตอนต้น

“ของเดิมพันคือไป๋ซู่ บิดาของนาง จื่อเชอผู้ติดตามของเจ้า และคนจากฝ่ายนภาที่ยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้ทั้งหมด…อ้อ ยังมีหู่จื่อศิษย์พี่ของเจ้าด้วย”

“เรามาพนันกัน ยี่สิบปีผ่านมาแล้ว ระหว่างข้ากับเจ้าใครจะแข็งแกร่งที่สุด!”

คำพูดซือหม่าซิ่นพลันดังสนั่น ภายใต้เสียงกึกก้อง ทั้งฟ้าดินสั่นสะเทือน ศพดวงตาสีเทาที่นอนอยู่บนพื้นจำนวนมาก ยามนี้นัยน์ตาขยับประกายสีเทาวูบวาบพร้อมกัน

“มาเถอะ การต่อสู้ครั้งนี้เจ้ามาสายยี่สิบปีแล้ว!” ซือหม่าซิ่นหัวเราะเสียงดังพร้อมกับพุ่งตัวขึ้นฟ้า

ซูหมิงหรี่ตาลง แทบเป็นวินาทีที่ซือหม่าซิ่นเข้ามาใกล้ รอบตัวเขาขยับแสงสีม่วง ยกทวนฝังอสูรในมือขึ้นแล้วปาเข้าใส่ ในเวลาเดียวกันก็เคลื่อนตัวไปพร้อมกับทวน กลายเป็นสายรุ้งสองสายตรงไปหาซือหม่าซิ่น

สองฝ่ายปะทะกันในพริบตา ท่ามกลางเสียงระเบิดดังเลื่อนลั่น ซูหมิงถอยไปหนึ่งก้าว นัยน์ตาฉายแววเย็นชา ส่วนซือหม่าซิ่นร่างสลายเป็นชิ้นๆ ถูกทวนยาวทะลวงผ่านไป

ทว่าเมื่อเขาตายลง กลับมีศพสีเทาสองร่างบนพื้นยืนขึ้นหัวเราะเสียงดังแทบจะทันที ก่อนกลายเป็นซือหม่าซิ่นอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่ขั้นวิญญาณหมานตอนต้นอีก แต่เป็นขั้นวิญญาณหมานตอนกลาง และตอนนี้กำลังบินขึ้นมาหาซูหมิง

ซูหมิงแผ่กระจายจิตสัมผัส กวาดมองด้วยสีหน้าทะมึน ในสายตาเขามองไม่ออกว่าซือหม่าซิ่นสองคนนี้จริงหรือปลอม ซึ่งดูแล้วก็เป็นของจริงทั้งหมด!

“ยอดวิชาเมล็ดพันธุ์หมานที่สมบูรณ์แบบ ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นร่างกายข้า ซูหมิง…แม้แต่ยอดวิชาเมล็ดพันธุ์หมานของข้าเจ้ายังทำลายไม่ได้ ข้าผิดหวังในตัวเจ้ามาก”

“พูดมากจริงๆ!” ซูหมิงกล่าวเสียงเบา เขายกมือขวาขึ้น ภายใต้แสงม่วงที่โอบล้อมรอบตัว ในมือปรากฏทวนขึ้นอีกครั้ง เหมือนกับรวมสีม่วงทั้งหมดในร่างกายเอาไว้ เมื่อเสื้อเกราะสลายไป วิญญาณนักรบห้าร้อยตนบนทวนฝังอสูรล้วนสมจริงขึ้นมา ต่างพากันพุ่งไปหาซือหม่าซิ่นด้วยความเหี้ยมโหด

ซูหมิงปาทวนยาวไป เกิดเป็นเสียงแหวกมวลอากาศในทันที ทวนนี้สั่นสะเทือนฟ้าดิน มันตรงไปยังผืนดิน โดยเฉพาะวิญญาณนักรบห้าร้อยตนนั้น พวกมันวนเวียนรอบๆ ทวนยาว แผ่จิตอาฆาตและกลิ่นอายชั่วร้ายมหาศาลขณะมุ่งหน้าลงไปด้านล่าง

หากมองไกลๆ ทวนฝังอสูรที่รวมทุกอย่างของซูหมิงไว้ด้ามนี้ช่างดูน่าสะพรึงยิ่งนัก มันสะท้านฟ้าสะเทือนดิน สร้างพายุคลั่งบนพื้นด้านล่าง ทั้งยังทำให้ซือหม่าซิ่นสองคนซึ่งกำลังตรงเข้ามาเพ่งมอง ทว่ามุมปากยังคงเผยรอยยิ้มพิลึก

ชั่วขณะที่ทวนจะตกถึงพื้น…ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น!

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!