ตอนที่ 562 การเปลี่ยนแปลงของซือหม่า
แทบจะเวลาเดียวกับที่ซูหมิงกระเด็นถอย ซือหม่าซิ่นมีสีหน้าเหี้ยมโหด หลังจากประสานสัญลักษณ์มืออย่างรวดเร็วแล้วก็กัดปลายลิ้นพ่นโลหิตอึกใหญ่ โลหิตทั้งหมดสาดบนฝ่ามือยักษ์ใต้ร่างแล้วไหลไปตามเส้นลายมือ แผ่กระจายประดุจน้ำไหลริน ทำให้เส้นลายมือที่เลือนรางดูค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมา
“กายเป็นเทพหมาน กุมชะตาชีวิตเผ่าหมาน กุมฟ้าดิน เส้นลายมือดุจรูปแบบของตนเอง ใช้เส้นลายมือสังหาร ลายเส้นแห่งเทพหมาน!” ซือหม่าซิ่นเอ่ยขึ้นทันใด สองมือยกขึ้นกดไปยังผืนดินอย่างรวดเร็ว
ชั่วขณะที่ซูหมิงถูกซือหม่าซิ่นใช้เสียงคำรามของเทพหมานรุ่นสองจากโบราณกาลโจมตีจนกระเด็นถอยไปไม่หยุดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงซือหม่าซิ่นซึ่งแฝงไว้ด้วยจิตสังหารแว่วเข้ามา
ความรู้สึกเหมือนร่างฉีกขาดกระจายอยู่รอบตัว แต่ซูหมิงกลับไม่มีสีหน้าลนลานแม้แต่น้อย เพียงเปล่งแสงเย็นเยียบ แม้จะกระเด็นถอยมาทว่ายกมือขวาขึ้น ตราสัญลักษณ์มังกรแดงฉานบนมือขวาขยับแสงวูบไหว อีกทั้งดวงตาของมังกรยังฉายแววปราดเปรียว จ้องซือหม่าซิ่นตรงกลางมือซ้ายเทพหมานรุ่นสองด้านล่างเขม็ง
ทันใดนั้นเอง ซือหม่าซิ่นใช้ลายเส้นแห่งเทพหมาน เห็นเพียงชั้นน้ำแข็งด้านบนทั้งหมดพลันมืดมัว อีกทั้งรอบตัวซูหมิงยังปรากฏลายเส้นสีแดงหลายเส้น
ลายเส้นเหล่านี้โอบล้อมรอบทิศ ดูเหมือนยุ่งเหยิง ทว่าหากมองดีๆ จะพบว่าลายเส้นบนท้องฟ้าก็คือเส้นลายมือซ้ายของเทพหมานรุ่นสอง
กลิ่นอายพลังเก่าแก่โบราณแผ่ขยายอยู่ในโลกน้ำแข็ง ซูหมิงหรี่ตาลง จังหวะเดียวกับที่ลายมือปรากฏขึ้นรอบๆ ก็มีเสียงคำรามของมังกรดังมาจากแขนขวา
ก่อนที่มังกรแดงฉานจะปรากฏขึ้นวนรอบซูหมิง มันเงยหน้าคำรามและขยายร่างใหญ่ขึ้นอีกครั้ง
ตัวใหญ่พันจั้งวนรอบกายซูหมิง ตอนที่มันคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว ชั้นน้ำแข็งด้านบนสั่นสะเทือนจนร่วงหล่นลงมาไม่น้อย หลังจากซือหม่าซิ่นเห็นมังกรแดงแล้วก็หรี่ตาอีกครั้ง
อุบายและความแกร่งของซูหมิงเหนือกว่าการคาดเดาของซือหม่าซิ่นหลายต่อหลายครั้ง เขานึกไม่ถึงเลยว่าซูหมิงในยามนี้จะยังมีสัตว์มังกรด้วย อีกทั้งยังแข็งแกร่งมาก
ซือหม่าซิ่นมีสีหน้าทะมึน จังหวะเดียวกับที่เห็นมังกรแดงปรากฏตัว เขาก็ทำสัญลักษณ์มือขวาแล้วกดตรงระหว่างคิ้วตัวเอง ก่อนใช้เล็บนิ้วก้อยกรีดเป็นรอยยาวตรงระหว่างคิ้วจนมีโลหิตไหล
เมื่อโลหิตไหลลงมา ลายเส้นฝ่ามือด้านบนเหมือนเปลี่ยนเป็นฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่ง เพียงแต่ฝ่ามือนี้รวมขึ้นจากลายมือสีแดงฉาน ทว่าก็ยังดูสมจริงยิ่งนัก
เสียงโครมครามดังกึกก้อง ฝ่ามือที่รวมจากเส้นลายมือพลันคว้ามาเหมือนอยากจะบดขยี้ซูหมิง มวลอากาศด้านบนสั่นไหว ลายมือยักษ์รวมตัวขึ้นแล้วหดเล็กลง เหมือนแฝงไว้ด้วยกฎฟ้าดินอะไรบางอย่าง ทำให้คนที่อยู่ข้างในต้องเกิดความรู้สึกคล้ายต้องมนตร์
ทันทีที่ฝ่ามือจากเส้นลายมือคว้าไปทางซูหมิง มังกรแดงฉานคำรามสะเทือนนภา ร่างมันขยายขึ้นอีกครั้งแล้วหมุนวนรอบๆ จนกลายเป็นพายุหมุนมังกรยักษ์ ใช้ร่างกายของมันต่อสู้กับฝ่ามือยักษ์ที่กำลังตรงเข้ามา!
เสียงกึกก้องดังสนั่น พอฝ่ามือบีบแน่น มังกรแดงร้องคำรามชั่วร้าย พลังสองชนิดที่มาจากซูหมิงกับซือหม่าซิ่นก็เข้าปะทะกันกลางอากาศ!
ทุกอย่างเกิดขึ้นในไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น หลังจากพวกมันปะทะกันแล้วก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปรอบๆ ท่ามกลางแรงสั่นสะเทือน ยังมีแรงกระแทกกระจายออกเป็นวงกว้างหนึ่งชั้น
จุดที่แรงกระแทกผ่าน ชั้นน้ำแข็งด้านบนจะพังทลายลงเป็นวงกว้าง ทำให้สีโลหิตของผืนดินดูผสมปนเปมากขึ้น
บนท้องฟ้า ฝ่ามือยักษ์แตกกระจายเป็นชิ้นๆ สุดท้ายก็ระเบิดกระจุย ทว่าถึงอย่างไรมันก็เป็นวิชาเทพหมาน แม้ซือหม่าซิ่นจะมีอุปสรรคในด้านขั้นพลังจึงไม่อาจใช้พลังได้อย่างเต็มที่ก็ตาม แต่แค่ใช้พลังได้เพียงเล็กน้อยก็พอจะให้เขาหยิ่งผยองได้แล้ว
ขณะเดียวกับที่ฝ่ามือระเบิดสลายไป มังกรแดงฉานของซูหมิงตัวสั่นสะท้าน ร่างมันส่งเสียงปุดๆ คล้ายจะระเบิด ดีที่ร่างเดิมของมันสร้างจากปราณปฐพี ไม่ใช่กายเนื้อจริงๆ มิเช่นนั้นแล้วตอนนี้คงต้องตายอย่างแน่นอน!
ต่อให้เป็นร่างปราณปฐพีก็ยังสลายไป ทว่าพอสลายไปแล้วกลับรวมร่างขึ้นมาใหม่ด้านหลังซูหมิง สีหน้ามันดูเหี่ยวเฉา ร่างมายาเหมือนยืนหยัดได้อีกไม่นาน กลายเป็นสัญลักษณ์สีแดงกลับมาอยู่บนแขนขวาซูหมิงอีกครั้ง และตกอยู่ในห้วงการหลับใหลเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
“อภินิหารไม่เลว ทว่าเมื่ออยู่ในมือเจ้าแล้วกลับยังสังหารข้าไม่ได้” ซูหมิงมีสีหน้าสงบนิ่ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขายกเท้าขวาก้าวเดินหนึ่งก้าว ทั้งตัวกลายเป็นสายรุ้งทะลวงผ่านมวลอากาศ มาปรากฏตัวห่างจากซือหม่าซิ่นสิบกว่าจั้ง
วินาทีที่เข้าใกล้ ซูหมิงยกมือขวาขึ้น ไม่ได้ชี้ไปอีก แต่งอห้านิ้วเป็นกรงเล็บคว้าอากาศไปทางซือหม่าซิ่น
ตัวซือหม่าซิ่นสั่นสะท้าน ร่างลอยขึ้นจากมือซ้ายเทพหมานราวสามฉื่อเหมือนถูกควบคุมอยู่!
เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตะลึงให้กับซือหม่าซิ่น ในใจเขาหวาดกลัวซูหมิงแล้ว จากการต่อสู้กันมาเรื่อยๆ อีกฝ่ายมีกลอุบายสร้างความตกตะลึงให้กับเขาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งปรากฏมังกรแดงฉานเมื่อครู่ มันสร้างความทึ่งให้กับเขาถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าซูหมิงจะแกร่งถึงเพียงนี้!
ความแค้นกับความพ่ายแพ้ในตอนนั้นทำให้ซือหม่าซิ่นหดหู่ หลังจากหมดหนทาง ด้วยความที่ได้รับโชควาสนาครั้งใหญ่ เขาเลยได้เจอกับซูหมิงอีก ทว่าความพ่ายแพ้ในฝ่ายนภาและเงามืดมรณะที่มาเยือนอีกครั้ง ทำให้ความมั่นใจของเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรง
เจ็ดก้าวเทพหมานทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ ฟ้าดินรกร้างจากพัดล้ำค่าก็ยังถูกทำลาย ยามนี้พลังจากเส้นลายมือเทพหมานยังถูกต้านเอาไว้เช่นกัน นี่จึงทำให้ซือหม่าซิ่นในเวลานี้แทบจะเกิดความรู้สึกสิ้นหวังแล้ว
ดวงตาเขาแดงฉาน ยามนี้ไม่สนใจแล้วว่ามรดกของตนยังไม่สมบูรณ์ และยังต้องใช้เวลามากกว่านี้เพื่อหลอมรวมกับมือซ้ายเทพหมานรุ่นสอง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาจะสูบกินมือซ้ายนี้ หลังจากเปลี่ยนให้กลายเป็นมือซ้ายของตนแล้ว การสืบทอดถึงจะเสร็จสิ้น
ทว่าตอนนี้ภยันตรายมาถึง เขาเลยฝืนใช้อภินิหารที่แกร่งยิ่งกว่าเดิม ร่างกายจึงถูกแว้งกัด ขณะนัยน์ตาสองข้างแดงก่ำ ซือหม่าซิ่นก็เปล่งเสียงร้องแหลม
ทันใดนั้น บนมือซ้ายเทพหมานรุ่นสองมีหนามแหลมสีดำเก้าอันผุดขึ้นมาในทันใด หนามแหลมเหล่านั้นปล่อยไอหนาว กระทั่งบนปลายหนามแหลมยังมีหยดน้ำสีดำซึมออกมา มีไอหนาวเยือกกระจายมาจากในหยดน้ำ ให้ความรู้สึกเย็นเยียบและชั่วร้าย
“เทพหมาน…หนามกระดูก!”
ซือหม่าซิ่นหน้าซีดขาว ขณะร้องตะโกนร่างกายก็เหี่ยวแห้งอีกครั้ง ครั้งนี้ดูฟื้นตัวช้ากว่าเดิมมากอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างร้องคำราม หนามกระดูกสีดำพลันหลุดจากมือซ้ายเทพหมาน แล้วพุ่งทะลวงผ่านอากาศมายังซูหมิงด้วยความเร็วที่ไม่อาจบรรยายได้
เส้นผมซือหม่าซิ่นปลิวไสว ดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง อาศัยจังหวะที่หนามแหลมตรงไปยังซูหมิง ยกมือขวากดบนมือซ้ายเทพหมานแล้วหลับตาลง ปากพึมพำคำพูด ทว่าคำพูดกลับซับซ้อนจึงได้ยินไม่ชัด
ซูหมิงหรี่ตา ความรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรงพลันผุดขึ้นในใจ แม้หนามกระดูกมีเพียงเก้าอัน ทว่าทุกอันกลับแผ่กระจายกลิ่นอายชั่วร้ายมหาศาลที่เขายังต้องตื่นตระหนก
หนามกระดูกสีดำและของเหลวสีดำชวนให้รู้สึกขนลุก และยังมีความเร็วในการพุ่งตรงเข้ามา…รวมถึงอากาศจุดที่หนามกระดูกเหล่านี้เคลื่อนผ่านล้วนถูกย้อมเป็นสีดำ!
นอกจากนี้ยังมีผนึกแผ่กระจาย กระทั่งซูหมิงยังรู้สึกว่าหนามกระดูกเหล่านี้ผนึกการไหลเวียนของปราณในร่างกายเขาไว้ ให้ความรู้สึกเหมือนถูกตามติดไปชั่วนิรันดร์ เขาคาดเดาล่วงหน้าไว้ว่าหากถูกหนามกระดูกแม้เพียงอันเดียวทะลวงเข้าสู่ร่างกาย ผลสุดท้ายจะต้องหนักหนาอย่างแน่นอน
นี่ไม่ใช่หนามกระดูกธรรมดา แต่มันคือสิ่งที่สั่งสมในร่างกายเทพหมานรุ่นสองมาแต่โบราณกาล หลังจากรวมความแค้น ความบ้าคลั่ง และยังมีผนึกตอนถูกแยกร่างเป็นส่วนๆ ในตอนนั้นแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ผสานรวมเข้าด้วยกัน พอผ่านเวลามาเนิ่นนาน เลยเปลี่ยนกระดูกมือซ้ายเขาให้ออกมาเป็นหนามกระดูก!
หนามชนิดนี้ ต่อให้เป็นขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์ก็ยังต้องหวาดกลัว ดีที่หนามกระดูกมีจำนวนจำกัด ในมือซ้ายเทพหมานรุ่นสองเหมือนว่าจะมีแค่นี้เท่านั้น
แต่ทว่า ขณะเดียวกับที่ซูหมิงหยุดชะงักแล้วถอยร่นไป ซือหม่าซิ่นบนมือซ้ายเทพหมานรุ่นสองเงยหน้าขึ้น เวลานี้ตัวเขาเหมือนโครงกระดูก ใบหน้าหล่อเหลาแห้งเหี่ยวลงประหนึ่งถูกหุ้มด้วยหนังกระดูก เผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น ดูแล้วน่าสะพรึงอย่างยิ่ง
ใบหน้านี้คือใบหน้าที่แท้จริงของเขา!
ผิวหนังเป็นสีน้ำตาล นั่นเป็นเพราะตอนอยู่ในอุโมงค์เหมันต์สวรรค์ใบหน้าเขาถูกน้ำแข็งกัดกร่อนจนลอกออก ทำให้ใบหน้าแท้จริงเหลือเพียงเลือดเนื้อสีน้ำตาล แผลเป็นจากรอยเปิดของเลือดเนื้อเต็มไปหมด ให้ความรู้สึกน่าสะอิดสะเอียนตอนเห็นครั้งแรก รูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้ไม่เหมือนคนแล้ว
ซือหม่าซิ่นคำรามอย่างบ้าคลั่ง พลันยกมือขวาที่วางบนมือซ้ายเทพหมานขึ้นมา ระหว่างนั้นก็ค่อยๆ ดึงหนามกระดูกลักษณะดาบเล่มหนึ่งขึ้นมาจากฝ่ามือซ้ายเทพหมาน ดึงขึ้นมาจนถึงหนึ่งช่วง!
หลังจากดึงหนามกระดูกขึ้นมา มือซ้ายเทพหมานรุ่นสองก็สั่นไหว ชั่วพริบตาที่หนามกระดูกยังอยู่ในฝ่ามือ ซือหม่าซิ่นเงยหน้าร้องคำรามเสียงดังอย่างคลุ้มคลั่ง แล้วดึงหนามกระดูกขึ้นมาทั้งหมด!
มันเป็นดาบหนามกระดูกยาวหนึ่งจั้งกว่า ทุกส่วนเป็นสีดำทึบ ซือหม่าซิ่นกระชากขึ้นมาจากมือซ้ายเทพหมานแล้ว ไอหนาวโดยรอบก็พลันทวีความรุนแรงขึ้นหลายเท่า ทั้งยังมีกลิ่นอายชั่วร้ายที่มากกว่าครั้งก่อนแผ่กระจายสู่โดยรอบ!
ซือหม่าซิ่นถือดาบกระดูกด้วยสีหน้าคลุ้มคลั่ง เขาจ้องซูหมิงด้วยความเคียดแค้น ยามนี้มีเพียงความคิดเดียวคือต้องสังหารซูหมิงด้วยมือตัวเองเพื่อสะสางความแค้นในอดีต!
“ซูหมิง!” ซือหม่าซิ่นเดินอากาศหนึ่งก้าว ออกจากมือซ้ายเทพหมานโดยสมบูรณ์เป็นครั้งแรก สองมือจับดาบกระดูกยักษ์ พุ่งทะยานไปหาซูหมิงพร้อมหนามกระดูกเล็กอีกเก้าอัน จากนั้นก็ฟันดาบเข้าใส่!