ตอนที่ 565 มอบจิต
“ซูหมิง ถ้าเจ้ากับข้าไม่สะสางกัน ข้าซือหม่าซิ่นไม่ยอม! ด้วยหมานของข้า เหนี่ยวนำสายเลือดให้แผดเผา ย้อนคืนสู่….เทพหมานรุ่นสอง!”
เสียงชั่วร้ายของซือหม่าซิ่นดังแว่วมาจากน้ำวนบนผิวทะเล น้ำเสียงมาพร้อมกับลูกคลื่นซัดสาดไปรอบๆ ทำให้ซูหมิงขมวดคิ้ว
ซือหม่าซิ่นผู้นี้สังหารยากยิ่งนัก เป็นเรื่องที่หายากในชีวิตซูหมิง ถึงตอนนี้อีกฝ่ายยังไม่ตาย ซูหมิงเลยได้เข้าใจยอดวิชาเมล็ดพันธุ์หมานอย่างลึกซึ้ง
เขาพลันเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเทพหมานรุ่นสองมีขั้นพลังเพียงครึ่งเดียวของเทพหมานรุ่นหนึ่ง ทว่ากลับทำให้ผู้แข็งแกร่งเผ่าเซียนเคลื่อนไหวจำนวนมากเพียงเพื่อสังหารเขา และสุดท้ายยังแยกร่างเขาเป็นส่วนๆ
สาเหตุทุกอย่างจะต้องเกี่ยวกับเทพหมานรุ่นสองในตอนนั้นกับซือหม่าซิ่นในตอนนี้อย่างแน่นอน ถึงได้สังหารยากเย็นเพียงนี้ ศัตรูเช่นนี้ไม่ว่าใครเจอก็ต้องคิ้วขมวดกันทั้งนั้น
ซือหม่าซิ่นในยามนี้ถูกซูหมิงสร้างบาดแผลสาหัสให้นับครั้งไม่ถ้วน หากนับดูแล้วคงจะกล่าวได้ว่าเขาสังหารซือหม่าซิ่นหลายครั้ง ทว่าตอนนี้…อีกฝ่ายก็ยังคงอยู่
อีกทั้งตอนนี้กลิ่นอายพลังจากในน้ำวนบนผิวทะเลยังแกร่งกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย!
เมื่อเสียงดังกึกก้อง น้ำทะเลหมุนวน มือซ้ายเทพหมานรุ่นสองพลันสั่นสะท้าน พบว่ากลางฝ่ามือตรงจุดที่ดึงดาบกระดูกออกมามีแสงเปล่งวูบวาบ ในแสงนั้นมีร่างเงาซือหม่าซิ่นอยู่!
ซือหม่าซิ่นยังคงสภาพเดิม ร่างกายอยู่ครบสมบูรณ์ ทว่ากลับเหี่ยวแห้งเป็นหนังหุ้มกระดูก ดวงตาแดงก่ำ สีหน้าเหี้ยมโหดถึงขีดสุด
เขาไม่ได้ยืนขึ้น แต่สองมือกดตรงกลางฝ่ามือเทพหมาน ยามเงยหน้าจ้องซูหมิง ตัวเขาอยู่ท่ามกลางแสงวูบวาบ ตอนที่มองซูหมิงก็เอ่ยคำพูดประหลาดออกมา
“เคล็ดหนึ่งธูปตัดวิญญาณ สายเลือดแผดเผา!” ซือหม่าซิ่นเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ในร่างกายประดุจจุดเปลวเพลิง ความร้อนระอุลอยขึ้นจากรอบๆ ตัว ขณะเดียวกันใบหน้าซือหม่าซิ่นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มือซ้ายเทพหมานด้านล่างก็เหี่ยวแห้งอย่างเร็วเช่นกัน แก่นสำคัญจำนวนมากถูกซือหม่าซิ่นสูบไปหมด
นอกจากนี้กลางอากาศยังมีเสียงคำรามบ้าคลั่งแว่วเข้ามาเนิบๆ เสียงคำรามนี้ไม่ใช่ของซือหม่าซิ่นและไม่ใช่ของซูหมิง มันปรากฏขึ้นกลางอากาศประหนึ่งเดิมทีก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่มีเพียงช่วงเวลาพิเศษและบุคคลเฉพาะเท่านั้นถึงจะได้ยินเสียงคำรามนี้
นี่คือ…เสียงคำรามอันเต็มไปด้วยความแค้นต่อเผ่าเซียนของเทพหมานรุ่นสองผู้ซึ่งไม่ยินยอมต่อความตาย!
ทันทีที่เสียงคำรามดังกังวาน ซือหม่าซิ่นเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าเช่นกัน เสียงคำรามราวผสานรวมกับเสียงคำรามของเทพหมานรุ่นสองจนกลายเป็นความถี่เดียวกัน พอได้ฟังแล้วก็แยกไม่ออก
นัยน์ตาซูหมิงวาววับ ก่อนหรี่ม่านตาพร้อมกับเดินหน้าหนึ่งก้าว ชั่วพริบตาเดียวก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างมือซ้ายเทพหมานรุ่นสอง แล้ววาดดาบกระดูกเป็นลักษณะโค้งพลางเคลื่อนตัวตรงเข้าไปหาซือหม่าซิ่น
แทบเป็นช่วงที่ซูหมิงเข้าใกล้ ร่างซือหม่าซิ่นพลันขยายขึ้น เส้นผมยาวเหยียดไร้สิ้นสุด เลือดเนื้อทั่วร่างมีบางอย่างชอนไช ร่างกายกำยำขึ้นหลายเท่า ส่วนสูงเพิ่มขึ้นจนถึงสามจั้ง!
ตัวเขาในยามนี้ไม่ใช่ซือหม่าซิ่นอีก แต่คล้ายกลายเป็นอีกคนหนึ่ง พลังบ้าระห่ำปะทุมาจากในตัวเขา ในเวลาเดียวกันซือหม่าซิ่นยกเท้าขวาเหยียบมือซ้ายเทพหมานอย่างแรงทีหนึ่ง ตัวเขาพลันลอยขึ้น ก่อนชกหมัดไปยังดาบกระดูกของซูหมิง!
หมัดนี้อาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่ของซือหม่าซิ่น เพราะเขาในตอนนี้มีสติปัญญาเลอะเลือน การเผาผลาญสายเลือดฝืนรับมรดกอย่างสมบูรณ์เช่นนี้ อีกทั้งยังใช้พลังต่อ ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาในตอนนี้จะควบคุมไหว การฝืนลงมือแบบนี้ส่งผลร้ายอย่างรุนแรง มีเพียงชีวิตเท่านั้นที่จะเติมเต็มได้!
ชีวิตที่ว่าก็คือชีวิตของเขา ใช้ชีวิตเซ่นไหว้ ใช้พลังชีวิตของคนที่ปลูกเมล็ดพันธุ์หมานทั้งหมดแลกมาเพียงเพื่อสังหารซูหมิง!
หนึ่งหมัดนี้ซือหม่าซิ่นใช้ความเร็วสูงสุด กระทั่งยังทิ้งเศษเสี้ยวเงาไว้บนมือซ้ายเทพหมาน ร่างจริงมาปรากฏตัวตรงหน้าซูหมิงแล้ว ครั้นเห็นหมัดตรงเข้ามา ซูหมิงก็หรี่ตาลง เขารู้สึกถึงแรงกดดันสุดจะบรรยายที่พุ่งตรงมาจากข้างหน้า
อาภรณ์เขาขยับไปด้านหลัง ขนลุกชันทั้งตัว ความรู้สึกถึงภยันตรายรุนแรงปะทุขึ้น ซูหมิงไม่ทันตรึกตรองอะไรมากก็ยกดาบกระดูกขึ้นฟันใส่อากาศตรงหน้า
พลันเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เสียงระเบิดดังกังวาน โดยรอบทั้งหมดสั่นสะเทือน ซูหมิงรู้สึกเพียงว่าด้านหน้ามีแรงสะท้อนกลับมหาศาลไหลย้อนมาตามดาบกระดูก ไหลไปในแขน ก่อนกระจายเข้าสู่ทั่วร่าง ด้วยแรงสะท้อนกลับนี้ ซูหมิงเกิดความรู้สึกเหมือนถูกภูเขาใหญ่หนึ่งแสนลูกทับบนตัว เขากระอักเลือดกองใหญ่ ร่างโซเซถอยไปติดกันหลายร้อยจั้ง มองไปด้วยสีหน้าจริงจัง
เห็นเพียงร่างซือหม่าซิ่นปรากฏกลางอากาศ ทั้งแขนขวาระเบิดกระจุย เลือดเนื้อเป็นแผลเหวอะหวะ ทว่ากลับฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาด สีหน้าเขาเฉยชา ดวงตาไร้ประกาย แต่กลับมีพลังแก่กล้าแผ่มาจากในตัว
นี่คือวิชาสายเลือดแผดเผาของเทพหมาน เป็นวิชาพิลึกในมรดกของเทพหมานรุ่นสอง ส่งผลให้กำลังรบทะยานขึ้นในชั่วพริบตา วิชานี้…มีส่วนคล้ายอันน่าทึ่งกับวิถีแห่งซู่มิ่งของซูหมิง!
วิชาชนิดนี้ ตอนนั้นเทพหมานรุ่นสองเคยใช้มัน จึงทำให้ทั้งเผ่าหมานกราบไหว้บูชา ทำให้คนเผ่าเซียนตื่นตกใจ อีกทั้งยังสร้างความทรงจำฝังใจให้กับเผ่าเซียนหลังจากเทพหมานรุ่นหนึ่งจากไปอีกด้วย
และนี่ก็คือสาเหตุที่เขาตาย!
ยามนี้ซือหม่าซิ่นมองซูหมิงด้วยสายตาเฉยชา ไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ จากนั้นก็ก้าวเดินไปหาซูหมิง วินาทีที่เหยียบเท้าลง ฟ้าดินสั่นสะเทือน ซูหมิงกระเด็นถอยก่อนหายวับไปในพริบตา
ทันทีที่หายตัวไป มวลอากาศตรงจุดที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้แหลกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นน้ำวนสีดำยักษ์กวาดไปรอบๆ ซือหม่าซิ่นเดินออกมาจากข้างน้ำวนนั้น แล้วมองซูหมิงที่ปรากฏตัวอยู่ไกลออกไป
ซูหมิงมีสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง ซือหม่าซิ่นในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นหรือหมัดเมื่อครู่ ในสายตาเขามันเพียงพอจะเหยียบย่ำขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์
หากซูหมิงแปลงเป็นซู่มิ่งได้อีกก็ยังต่อสู้กับเขาได้ แต่ยามนี้คืนร่างจากซู่มิ่งแล้ว จึงยังผสานรวมกับซู่มิ่งไม่ได้ในเวลาสั้นๆ ฉะนั้นการรับมือกับซือหม่าซิ่นที่มีพลังต่อสู้ทะยานขึ้นแบบนี้จึงค่อนข้างปวดศีรษะเล็กน้อย
เห็นซือหม่าซิ่นมองมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนไม่มีจิตวิญญาณ และตอนนี้ยังยกเท้าขึ้นอีก ซูหมิงพลันหรี่ม่านตา โดยรอบในตอนนี้ยังมีเสียงคำรามของเทพหมานรุ่นสองที่ไม่ยินยอมดังแว่วอยู่ ส่งผลให้มวลอากาศโดยรอบยิ่งขุ่นมัว
คลื่นน้ำทะเลซัดสาด ชั้นน้ำแข็งด้านบนถล่มมาอย่างต่อเนื่องราวกับจะจมที่นี่ให้มิด ช่วงเวลาสำคัญนี้ ในใจซูหมิงสั่นไหว ทันทีที่ซือหม่าซิ่นก้าวเท้าแล้วพุ่งเข้ามาอีกครั้ง เขายกมือขวาขึ้นตบถุงเก็บวัตถุ ก่อนปรากฏเม็ดโอสถลักษณะกลมเม็ดหนึ่งกลางฝ่ามือ
โอสถเม็ดนี้คือโอสถมอบจิต!
โอสถชนิดนี้สามารถสูบรับวิญญาณชั่วร้าย หากกินไปจะสามารถรวมขึ้นเป็นรูปร่างวิญญาณ มีพลานุภาพไม่อาจคาดเดา และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูบรับวิญญาณชั่วร้ายอย่างใหญ่หลวง!
“รับจิตแปดรกร้าง เสี้ยวจิตชั่วร้ายในผืนนภา ร่างมายาแห่งวิญญาณ ทุกอย่าง…สูบรับได้!” สองนิ้วมือคีบโอสถมอบจิต นัยน์ตาซูหมิงฉายแววประหลาดพลางกล่าวเร็วๆ ด้วยเสียงเบา
ทันทีที่เอ่ย โอสถมอบจิตในมือพลันเปล่งแสงหม่นจ้าตา แสงหม่นนี้ดุจดวงตะวันแสงอ่อน ส่องสะท้อนโดยรอบในพริบตาเดียว ตอนนี้ชั้นน้ำแข็งด้านบน น้ำทะเลด้านล่าง และยังมีน้ำทะเลที่ยังคงไหลทะลักเข้ามา ทั้งหมดล้วนถูกส่องสะท้อนอยู่ในแสงหม่นนี้
แสงหม่นโอบล้อมโดยรอบ ห่างจากตรงหน้าซูหมิงไปหลายสิบจั้งพลันปรากฏร่างซือหม่าซิ่นขึ้น ดูจากลักษณะแล้วเหมือนถูกแสงหม่นบีบให้ออกมา
แทบจะเป็นวินาทีที่เขาเผยร่าง ภายในโลกชั้นน้ำแข็งในทะเลก็มีเสียงคำรามของเทพหมานรุ่นสองดังขึ้นถึงขีดสุด
เสียงคำรามดังกึกก้องและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ พริบตาเดียวก็เหมือนเงยหน้าคำรามด้วยความโกรธอยู่ข้างหู ในเวลาเดียวกันก็มีเส้นสีดำหลายเส้นปรากฏจากอากาศรอบๆ แล้วตรงไปยังโอสถมอบจิตของซูหมิงในทันใด
นอกจากนี้ มือซ้ายเทพหมานที่ตั้งตระหง่านอยู่ในน้ำวนบนผิวทะเลด้านล่างยังสั่นไหว นี่เป็นครั้งแรกที่มันถูกคนอื่นที่ไม่ใช่ซือหม่าซิ่นเขย่าให้สั่นสะเทือน!
ควรรู้ว่าซือหม่าซิ่นฝึกวิชาของเทพหมานรุ่นสอง และเพราะแขนนี้เขาจึงได้รับมรดกของรุ่นสองมา คนอื่นๆ ไม่มีทางได้รับโอกาสนี้ ต่อให้หาแขนนี้เจอก่อนซือหม่าซิ่นก็ยังยากจะได้รับมรดก
ฉะนั้นซูหมิงเองจึงไม่มีทางได้รับมรดกนี้ โดยเฉพาะเมื่อซือหม่าซิ่นเอาไปก่อนแล้ว นี่เท่ากับว่าในมือซ้ายรุ่นสองมีตราประทับของซือหม่าซิ่นอยู่
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แม้ซูหมิงจะใช้เศษหินสีดำเปลี่ยนกลิ่นอายพลังเพื่อหลอกรับมรดก ทว่ามันก็ยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดี
แต่การปรากฏของโอสถมอบจิตกลับเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง!
โอสถมอบจิตสามารถสูบกลืนวิญญาณทุกตนในโลก ในวิญญาณเหล่านี้…รวมถึงเทพหมานรุ่นสองด้วย!
วิญญาณของเทพหมานรุ่นสอง หากมิใช่ว่าคงอยู่มาโดยตลอด ก็ไม่น่าจะมีตำนานต่อเนื่องกันที่มีช่วงเวลาพิเศษ และบุคคลเฉพาะเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้ อีกทั้งแขนเทพหมานรุ่นสองนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นจุดที่มีวิญญาณของเขามากที่สุด
ฉะนั้นวิญญาณที่โอสถมอบจิตสูบมา…จะต้องเป็นวิญญาณของเทพหมานรุ่นสองอย่างแน่นอน!
ยามนี้ขณะมือซ้ายเทพหมานสั่นไหวก็มีเส้นสีดำลอยมาจากข้างในจำนวนมาก กลายเป็นหมอกมายาตรงเข้ามายังโอสถมอบจิต
ชั่วพริบตาเดียวก็เข้าไปในโอสถมอบจิต เม็ดโอสถสั่นไหวอย่างรุนแรง สีสันมันวาวพลันเปลี่ยนไป กลิ่นอายพลังโบราณแผ่กระจายมาจากภายใน เวลานี้มันสูบวิญญาณทั้งหมดของที่นี่อย่างต่อเนื่องราวกับน้ำวนยักษ์!