Skip to content

แบล็คเมล์ไฮโซ 8

Chapter 8

ปรียาควงสองหนุ่มออกงาน

ปรียาเหลือบเห็นเขาหลับก็ไม่คิดจะชวนคุยอะไรต่อ ขับรถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงบ้านของเขา เธอจึงได้ปลุกเขา “คุณยะ ถึงบ้านแล้วค่ะ”

อ้อยเห็นรถคุณปรียามาจอดหน้าบ้านก็รีบเดินไปไขกุญแจเปิดประตูรั้วให้

เมื่อประตูเปิดออก ปรียาก็ขับรถเข้าไปจอดข้างใน แล้วก็ก้าวลงจากรถ เดินไปเปิดที่เก็บของ ร้องบอกแม่บ้านว่า “ป้าอ้อย วันนี้ปรีซื้อกุ้งแม่น้ำมา ป้าช่วยเอาไปทำเมนูเด็ดๆ นะคะ”

“ค้าคุณปรี” อ้อยรับคำแล้วก็เดินไปยกถุงใส่กุ้งออกมาจากรถหรู แล้วก็รีบเข้าครัวไปจัดการทำอาหาร

อารยะลงจากรถแล้วก็หันไปพูดกับปรียาว่า “เชิญครับ”

ปรียายิ้มให้เขา แล้วก็เดินเข้าไปในบ้านอย่างคุ้นเคย เธอมาที่นี่บ่อยจนกลายเป็นแขกขาประจำไปแล้ว พอๆ กับตะวันที่มักจะมาขลุกอยู่ที่นี่เช่นกัน คิดถึงตะวันยังไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงของตะวันร้องเรียกอยู่หน้าบ้านแล้ว “ไอ้ยะ มาช่วยหิ้วของเร็ว”

อารยะได้ยินเสียงเพื่อนรักก็หันไปมองเห็นรถเพื่อนมาจอดขวางอยู่หน้าบ้านแล้ว

ส่วนตะวันก็ลงมาเปิดที่เก็บของท้ายรถ หิ้วถุงใส่ของหลายใบทีเดียว

อารยะจึงเดินไปช่วยถือ ถามว่า “ซื้อไรมาเยอะแยะ?”

“หนังสือคุณจันน่ะซิ” ตะวันตอบพลางส่งถุงให้เพื่อน

อารยะก็รับมา เขารู้สึกว่าเพื่อนใส่ใจคุณเจ้าหญิงจากต่างโลกเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากแซวอะไร

แล้วคนทั้งสามก็เดินเข้าไปในบ้านซึ่งเปิดแอร์เย็นๆ ไว้แล้ว

เบื้องนอกมีมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง คนขี่ก็โทรศัพท์รายงานว่า “คุณปรีมาที่บ้านนายอารยะอีกแล้วครับคุณภาส”

ภาสกรได้ฟังก็ขบกรามแน่น สั่งว่า “จับตาดูต่อไป”

“ครับ” คนขี่มอเตอร์ไซต์รับคำสั่งแล้วก็ทำทีไปจอดดักซุ่มอยู่มุมหนึ่ง

ส่วนภาสกรก็กำลังแต่งตัวเตรียมไปงานแต่งงานของไฮโซหนุ่มคนหนึ่งที่จัดงานอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ณ โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งงานนี้เขาได้ข่าวว่าปรียาก็จะไปด้วย จึงคิดจะไปดักเจอในงาน วันนี้แหละเขาจะต้องหาทางรวบหัวรวบหางยัยไฮโซนี่ให้ได้ ยิ่งปล่อยเวลาเนิ่นนานไป เกิดพลาดขึ้นมา ไอ้ที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงตามจีบไปก็สูญเปล่าแล้ว อีกทั้งเจ้าหนี้ก็ตามทวงยิกๆ แล้ว อย่างน้อยเขาต้องได้ไถเงินแม่นี่มาบ้างก็ยังดี

ภายในบ้าน 4 หนุ่มสาวนั่งคุยกันไปสารพัดสารพัน

อ้อยก็ทำอาหารยกไปเสิร์ฟเป็นระยะๆ

จนกระทั่งตะวันหยิบโทรศัพท์ซึ่งส่งเสียงแจ้งเตือนขึ้นมา เขาเห็นว่าเป็นแจ้งเตือนงานแต่งงานของเพื่อนไฮโซที่รู้จักกันคนหนึ่งก็หันไปมองปรียาแล้วถามว่า “ค่ำนี้มีงานแต่งของไอ้พอลกับคุณดาราที่ชื่อมิรันตรีนี่ บ้านคุณก็ได้รับเชิญไม่ใช่เหรอ?”

“ค่ะ” ปรียาพยักหน้า ตอบว่า “ปรีก็ต้องไปงานนี้เหมือนกัน”

แล้วเธอก็มองตะวันด้วยสายตามาดหมาย

ตะวันรีบโบ้ยไปทางอารยะทันที “คุณเอาไอ้ยะไปควงออกงานเลยนะ ไม่ต้องคิดมาควงผมออกงานเด็ดขาด ขืนคุณกับผมควงออกงานด้วยกัน มีหวังพวกแม่ๆ ของเราได้ไปมิตติ้งคุยกันเรื่องสินสอดแน่”

ปรียาก็เบนสายตาไปทางอารยะทันที ทำสายตาขอร้อง เอ่ยว่า “ยอมให้ควงออกงานเสียดีๆ นะคะ”

อารยะปากอ้าค้าง “ง่ะ!”

ไหงหวยมาตกใส่หัวเขาล่ะ!?

ตะวันก็ตบๆ ไหล่ เอ่ยว่า “ไปเถอะ”

สายตาก็มองประมาณว่า ‘นายไม่รอดหรอก เหอะๆๆๆ ไม่ต้องคิดปฏิเสธเลยไอ้ยะ’

อารยะถอนหายใจอย่างจำยอม พยักหน้ารับ “เอาๆ จะลากไปลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ที่ไหนก็ตามแต่ใจคุณแล้ว”

“น่ารัก” ปรียาชม ยิ้มแย้มให้ แล้วก็หันไปถามตะวันว่า “แล้วนี่คุณจะไปชุดนี้เหรอ?”

“ผมมีสูทอยู่ในรถแล้ว เดี๋ยวแต่งตัวแล้วก็ไปได้เลยครับ” ตะวันตอบพลางยกไวน์ขึ้นจิบ

“ปรีก็มีเสื้อผ้าอยู่ในรถ” ปรียาบอกแล้วเบนสายตาไปทางอารยะ “คงต้องขอยืมห้องน้ำบ้านคุณอาบน้ำแต่งตัวแล้วล่ะ”

“ครับ” อารยะพยักหน้า จิ้มกุ้งเผาใส่ปาก

“ถ้างั้นผมว่าคุณปรีไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ กว่าจะแต่งตัวเสร็จจะได้ไม่ไปงานสายเกินไป” ตะวันแนะนำพลางมองนาฬิกา

“ค่ะ” ปรียาพยักหน้ารับ แล้วก็หันไปพูดกับอารยะว่า “ขอรบกวนหน่อยนะคะ”

“ครับ” อารยะพยักหน้า ปรียาก็ลุกไปที่รถ หยิบชุดที่จะใส่ไปงานออกมาพร้อมกับกระเป๋าเครื่องสำอาง เธอหิ้วของเข้ามาในบ้าน

อารยะก็ลุกขึ้นผายมือเชิญ “งั้นคุณขึ้นไปใช้ห้องผมล่ะกัน”

ปรียาก็พยักหน้าตกลงอย่างไม่เรื่องมาก

แล้วอารยะก็เดินนำปรียาขึ้นไปข้างบน

ตะวันก็ชวนเจ้าหญิงจันทราคุยนั่นนู้นนี่ไปเรื่อย

เจ้าหญิงจันทราก็คุยกับตะวันอย่างคุ้นเคย ความรู้สึกดีๆบางอย่างก่อเกิดขึ้นในหัวใจ รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับเขา

ส่งปรียาเข้าห้องไปแล้วอารยะก็เดินลงมานั่งดื่มกินต่อ 3 คนก็คุยกันไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งปรียาแต่งตัวเสร็จแล้ว หิ้วเสื้อผ้าชุดเดิมกับกระเป๋าเครื่องสำอางลงมา

ทั้งสามคนก็มองปรียาเป็นตาเดียว

ตะวันก็ยกนิ้วโป้งให้ ชมว่า “สวยครับ”

ปรียายิ้มรับอย่างมาดมั่น แล้วก็บอกว่า “คุณสองคนก็ไปแต่งตัวเถอะ จะได้ไปกันเสียที”

“ครับผม” ตะวันรับคำแหมือนทหารรับคำสั่งผู้บังคับบัญชา แล้วก็เดินไปที่รถตัวเอง หยิบชุดสูทออกมาแล้วก็กลับเข้ามาอีกครั้ง เขาเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนเพื่อนรักอย่างถือสนิท

อารยะก็เดินตามไปด้วย เพราะไม่อยากให้ปรียาต้องรอนาน

เมื่อสองสาวอยู่กันตามลำพัง ก็คุยกันประสาหญิงสาว ส่วนใหญ่เป็นปรียาพูดๆ เล่าๆ

เจ้าหญิงจันทราก็ฟังพลางหัวเราะอย่างขบขันไปด้วย

จนกระทั่งสองหนุ่มเดินลงมา

ปรียาก็กวาดตามองทั้งสอง ยกนิ้วโป้งให้ ชมว่า “อืม หล่อเลิศ น่าควงแพ็กคู่จริงๆ”

“คุณควงไอ้ยะน่ะดีแล้ว ไม่ต้องหาเหามาใส่หัวผมเลย” ตะวันบอกอย่างตัดรอน

ปรียาตวัดค้อนให้ทีหนึ่ง “เฮอะ”

เจ้าหญิงจันทรามองตะวัน รู้สึกว่าเขาดูสง่างามยิ่งกว่าวันอื่นๆ

“เอาล่ะ ไหนๆ ก็พร้อมแล้ว งั้นก็ไปกันเถอะค่ะ ไปแล้ว อวยพรแล้วก็รีบชิ่ง” ปรียากล่าวอย่างติดตลก

ตะวันพยักหน้าแล้วก็หันไปร่ำลาเจ้าหญิงจันทรา “ผมกลับก่อนครับ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาใหม่”

“ค่ะ” เจ้าหญิงจันทราพยักหน้ารับ

ปรียาก็โบกมือให้ “บ๊ายบายค่ะ”

เจ้าหญิงจันทราโบกมือตอบ ยิ้มแย้มให้ทั้งสาม

แล้วปรียาก็เดินนำไปที่รถ

ตะวันก็เดินตามออกไป อารยะหันมาพูดกับเจ้าหญิงจันทราว่า “นอนก่อนได้เลยนะครับ พี่คงกลับดึก ดูปิดประตูปิดหน้าต่างให้ดีๆ ล่ะ สมัยนี้โจรขโมยมันเยอะ”

“ค่ะ” เจ้าหญิงจันทราพยักหน้ารับ

แล้วอารยะก็เดินออกไป เขาเดินไปหาปรียาแล้วก็แบมือ “กุญแจรถ”

ปรียาก็ส่งกุญแจให้ แล้วอารยะก็เดินไปเปิดประตูรถให้ตามประสาสุภาพบุรุษ เมื่อปรียาขึ้นรถแล้วเขาก็ปิดประตูรถแล้วเดินมานั่งประจำที่คนขับ จากนั้นก็ถอยรถออกไป

อ้อยก็เดินไปปิดประตูรั้วแล้วล็อคกุญแจให้ดี

ส่วนตะวันก็ขับรถนำหน้าไปก่อนแล้ว

คนขี่มอเตอร์ไซต์ซึ่งซุ่มดูอยู่ก็โทรรายงานภาสกรว่า “คุณปรีออกมาแล้วครับ”

ภาสกรรับรู้แล้วก็ตัดสาย เขาตบกระเป๋ากางเกงซึ่งมีขวดยาเสียสาวอยู่ แล้วก็เปิดไฟเลี้ยว ค่อยๆ เลี้ยวรถเข้าไปในโรงแรมที่จัดงาน

ภายในรถ ปรียาก็มองใบหน้าด้านข้างของอารยะ แอบชมในใจว่า หล่อกว่าพวกดารานายแบบที่เคยควงเสียอีก งานดีขนาดนี้ยังโสดอยู่ได้ไง? หรือว่าเป็นเก้งกวาง?

“จ้องหน้าผม มีอะไรติดหน้าผมเหรอ?” อารยะถาม ตาก็มองการจราจรบนท้องถนน

ปรียาอดปากไม่ไหวก็ถามว่า “คุณหล่อขนาดนี้ ทำไมยังโสด? หรือว่าเป็นเก้งกวาง?”

อารยะเหลือบมองเธอทีหนึ่ง แล้วก็ตอบว่า “ผมน่ะแมนเต็มร้อย ไอ้ที่ยังโสดนี่ก็เพราะผมยังไม่เจอผู้หญิงที่ผมรักน่ะซิ”

“อ่อ” ปรียาพยักหน้ารับรู้ “งั้นก็ต้องมีผู้หญิงที่คบๆ บ้างซินะ ปรีควงคุณออกงานอย่างนี้หวังว่าคงไม่ทำให้ผู้หญิงของคุณเข้าใจผิดนะ”

“คนคบก็ยังไม่มี คุณสบายใจได้”

“หึ๊ย! จะเป็นไปได้ยังไง? โกหกล่ะ”

“ไม่โกหก วันๆ ผมทำแต่งาน กับคอยดูแลน้องจะเอาเวลาที่ไหนไปคบใครล่ะ อีกอย่างผู้หญิงส่วนมากเขาชอบสายเปย์ ไอ้ผมมันไม่มีเปย์ให้เขาหรอก ใครเขาจะอยากคบด้วยล่ะ”

“อ่อ สายงกนี่เอง” ปรียาพยักหน้าเข้าอกเข้าใจ แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว เขาก็ไม่ได้งกเสียหน่อย ทุกครั้งที่เธอนัดกินข้าวกับเขา เขาก็เป็นคนจ่ายตลอดไม่ยอมให้เธอได้จ่ายเลย ไม่ว่าจะร้านหรูขนาดไหนเขาก็ไม่เคยอิดออด แล้วจะว่า ‘งก’ ได้ยังไง เท่าที่รู้มาตำแหน่งหน้าที่การงานเขาก็ใหญ่โตพอสมควร ชุดสูทที่เขาใส่แม้ไม่ใช่แบรนด์หรู แต่ก็ดูออกว่าเป็นสูทสั่งตัด ฝีมือประณีต

“อ่อ ลืมถาม งานจัดที่ไหนเหรอ?” อารยะถาม สายตาก็มองรถของตะวันซึ่งขับนำหน้าอยู่ลิบๆ

“โรงแรมเซ็นทาร่าแกรนด์”

“อ่อ” อารยะพยักหน้ารับรู้ แล้วก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงแรม

“ขับรถสปอร์ตคล่องเชียว” ปรียาพูดขึ้นมา มองดูเขาขับรถด้วยท่าทีคล่องแคล่วไม่มีติดขัดสักนิด ราวกับว่าขับมานับไม่ถ้วนแล้ว

“เมื่อก่อนผมเคยเป็นเด็กรับรถในโรงแรม กับเคยอยู่ทีมซ่อมรถแข่งน่ะ” อารยะตอบอย่างไม่ปิดบัง

ปรียาก็พยักหน้ารับรู้แล้วก็เงียบไป

อารยะก็คิดว่าเธอคงจะนึกรังเกียจเขาแล้วมั้ง หลังจากนี้เธอคงตีตัวออกห่างแน่ๆ

ปรียาก็กำลังจำข้อมูลของเขาเอาไว้ อืม เคยเป็นเด็กรับรถ เคยอยู่ทีมซ่อมรถแข่ง นี่เขาทำงานอะไรมาบ้างนะ?

จนกระทั่งถึงโรงแรม อารยะก็จอดรถที่ลานจอด แล้วก็เดินไปเปิดประตูให้ปรียา

ปรียาก็ส่งมือให้เขาออกจากรถมายืนเคียงข้างเขา เธอหยิบกระเป๋าใบน้อยมาแล้วพยักหน้าให้เขาทำนองว่า ‘พร้อมแล้ว’

อารยะจึงปิดประตูรถแล้วกดล็อค จากนั้นทั้งสองก็เดินตรงไปยังห้องจัดงานเลี้ยง

ตะวันก็ยืนรออยู่ตรงทางเข้าโรงแรม

พอเห็นตะวัน ปรียาก็ยื่นมือไปคล้องแขนเขาอย่างถือสนิท “มาให้เจ้ควงซะดีๆ สุดหล่อ”

ตะวันกลอกตามองบน หมดคำจะพูด ยอมให้ปรียาควงแขนเขากับอารยะเดินไปยังห้องจัดเลี้ยง

หน้าห้องจัดเลี้ยง เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็กำลังยืนถ่ายรูปกับแขกเหรื่อ

ปรียาก็ควงสองหนุ่มสุดหล่อไปเขียนคำอวยพรในสมุด

ตะวันขยับไปเขียนในสมุดอีกเล่ม ปล่อยให้ปรียาควงอารยะไป จากนั้นก็ไปทักทายเจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวคำอวยพรตามมารยาทแล้วก็ถ่ายรูปร่วมกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ขณะที่ชัตเตอร์ดังอยู่นั้น จู่ๆ ปรียาก็คล้ายกับมองเห็นภาพตัวเองสวมใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวยืนเคียงคู่กับอารยะ เธอกะพริบตา ภาพนั้นความรู้สึกนั้นก็หายวับไป

“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ เชิญเข้างานก่อนนะคะ” เสียงเจ้าสาวทำให้ปรียาดึงสติกลับมา

ตะวันเดินนำหน้าไปก่อนแล้ว

ปรียาจึงควงอารยะเดินเข้างานไป

ภาสกรซึ่งเห็นปรียาเดินเข้างานมาพร้อมกับผู้ชายคนนั้นก็แอบกัดฟันกรอดๆ

ทำให้เพื่อนสนิทซึ่งยืนอยู่ข้างๆ มองตามไป เมื่อเห็นสาวสวยที่เพื่อนคั่วอยู่ควงหนุ่มมาออกงานก็กระซิบว่า “ใครวะ?”

ภาสกรยิ่งกัดฟันกรอดๆ มองก้างชิ้นใหญ่อย่างโมโห แล้วก็กระซิบกับเพื่อนว่า “มึงช่วยกูเผด็จศึกมันทีซิ”

“มึงจะรวบหัวรวบหางมันคืนนี้?” เพื่อนกระซิบถาม

ภาสกรก็พยักหน้ารับ

เพื่อนก็กระซิบว่า “ได้ๆ เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง อีนี่มันก็ควงคนนั้นทีคนนี้ทีอยู่แล้วนี่ เพิ่มมึงเป็นผัวมันอีกซักคนจะเป็นไรไป”

“มึงไปเปิดห้องให้กูที เดี๋ยวยาเริ่มออกฤทธิ์แล้วกูจะรีบพามันขึ้นห้องเลย” ภาสกรกระซิบสั่ง “กูจะคอยหาจังหวะใส่ยา มึงเปิดห้องแล้วก็มาช่วยกูกันท่าไอ้สองตัวนั่นที”

“อืมๆ ได้ๆ” เพื่อนพยักหน้ารับแล้วก็แยกตัวเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยง

ภาสกรก็ปั้นสีหน้ายิ้มแย้มเดินเข้าไปทักทายปรียา “คุณปรี จะมางานนี้ทำไมไม่บอกผมล่ะ ผมจะได้ไปรับ”

ปรียาตัวแข็งเกร็งขึ้นมาทันที เธอไม่ชอบสายตาของภาสกรเลย สายตาที่มองเธอเหมือนเขาเป็นหมาป่าแล้วมองเธอเป็นเหยื่ออันโอชะ เธอมองตอบเขาสายตาเย็นชา พูดว่า “ขอบคุณ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมากับแฟนแล้วค่ะ”

คำว่า ‘แฟน’ ทำให้สายตาของผู้คนแถวนั้นตกไปอยู่ที่ตัวชายหนุ่มหล่อเหลาข้างกายไฮโซสาวทันที หลายๆ คนก็คิดว่า หนุ่มหล่อคนนี้งานดีกว่าทุกคนที่เคยเห็นไฮโซสาวควงซะอีก อืม…หล่อกว่านายภาสกรมากนัก หากยืนเทียบกันแล้ว ราวกับเพชรเม็ดงามกับก้อนกรวดเลยทีเดียว

ส่วนภาสกรก็ลอบกัดฟันกรอดๆ หันไปมองชายหนุ่มข้างกายปรียาเขม็ง แย้มยิ้มขึ้นยื่นมือไปแนะนำตัวเองว่า “ผมภาสกรครับ”

“ผมจำได้ เราเคยเจอกันที่นครวัดครั้งนึง” อารยะตอบแล้วก็ยื่นมือไปเช็คแฮนด์ด้วย แต่ก็ไม่ได้แนะนำตัวเองแต่อย่างใด

ตะวันเห็นบรรยากาศอึมครึมก็ปราดเข้าไปพูดกับปรียาว่า “คุณปรี เราไปดูอาหารกันดีกว่า”

“ค่ะ” ปรียาพยักหน้าแล้วก็ยื่นมือไปควงแขนตะวัน หันไปพูดกับภาสกรว่า “ขอตัวก่อนนะคะ”

ภาสกรพยักหน้ารับ

แล้วปรียาก็ควงสองหนุ่มหล่อเดินไปทางโต๊ะอาหาร ผู้คนก็มองดูสาวไฮโซควงสองหนุ่มแล้วก็แอบซุบซิบกันว่า “อุ้ย ชีช่างมั่นหน้า ควงสองเลยอ่ะ”

“นั่นมันลูกชายคุณหญิงพรรณนานี่นา ต๊าย! ไปสนิทสนมกับแม่คนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“หู้ย อยากควงสองมั่งอ่ะ”

“นี่ๆก่อนจะควงสอง ถามสามีคุณที่ยืนหัวโด่ตรงนี้ว่าอนุญาตยัง”

“คริๆ” ฯลฯ

ปรียาควงสองหนุ่มไปที่โต๊ะอาหารแล้วก็จะเอื้อมมือไปหยิบจานมา

อารยะก็หยิบจานส่งให้

ปรียาจึงรับมาถือไว้ “ขอบคุณค่ะ”

แล้วก็เดินไปเลือกอาหาร เธอเลือกผลไม้กับของหวานนิดหน่อย เพราะกินอิ่มมาจากบ้านอารยะแล้ว

ส่วนอารยะก็ถือจานตักๆ ผลไม้ที่ชอบใส่จาน

ส่วนตะวันก็ขยับไปดูอาหาร แล้วเขาก็เลือกตักอาหารใส่จาน จากนั้นก็หันไปพยักเพยิดกับคนทั้งสอง เหล่ตาไปยังโต๊ะที่อยู่ห่างออกไปซึ่งว่างอยู่ไม่มีคนนั่ง

ผู้คนในงานบางคนก็แอบถ่ายรูปตะวันกับปรียาและหนุ่มหล่ออีกคนเอาไว้ แล้วส่งรูปให้นักข่าวเอาไปเขียนข่าวซุบซิบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!