ตอนที่ 863 โลงศพทองแดงใต้ทะเลเพลิง! (2)

ขณะอยู่ใต้ลาวา และอีกาทองคำกลืนกินลาวาต่อไป แปดวันผ่านไป

ในแปดวันนี้ เขาได้กระตุ้นพลังของนาฬิกาแดดสองครั้ง และใช้วิธีการที่แตกต่างกันในการตรวจสอบ

ครั้งแรกที่เขาปลดปล่อยพลังของนาฬิกาแดดในขณะที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง และพบว่าร่างกายของเขากลับมายังตำแหน่งที่เขาอยู่เมื่อเจ็ดลมหายใจที่แล้ว

ครั้งที่สอง เขาได้นำสิ่งประดิษฐ์วิเศษออกมา และยังทำให้มันเสียหายอีกด้วย เมื่อเขากระตุ้นพลังของนาฬิกาแดดอีกครั้ง เขาก็ค้นพบว่าพลังของมันจะส่งผลต่อเขาเท่านั้น

วัตถุภายนอกยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม สำหรับร่างกายของเขา เขากลับไปยังจุดที่เขาอยู่เมื่อเจ็ดลมหายใจก่อนโดยอาการบาดเจ็บทั้งหมดหายไป

ทั้งหมดนี้ทำให้ ซูฉินมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความสามารถใหม่

“มันส่งข้ากลับคืนสู่สถานะ และที่ตั้งของข้าเมื่อเจ็ดลมหายใจที่แล้ว!”

“หากใช้ความสามารถนี้อย่างเหมาะสม มันก็เหมือนกับการมีชีวิตสำรอง และเป็นอาวุธสังหารที่ทรงพลังอีกด้วย!”

ซูฉินระงับความตกใจ และมองไปที่คริสตัลสีม่วง เขารู้ว่าทั้งหมดนี้มาจากมัน

“คริสตัลสีม่วงนี่คืออะไร…”

“มันสามารถผนึกเงา และเทพเจ้าได้ และมันทำให้ข้ามีความสามารถในการฟื้นฟูที่น่าอัศจรรย์ ยิ่งไปกว่านั้น มันมีพลังแห่งกาลเวลา…”

ซูฉินเงียบไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ฝังความสงสัยทั้งหมด และมองดู อีกาทองคำ

อีกาทองคำมีหางมากกว่า 280 และนี่คือขีดจำกัดของมันแล้ว เว้นแต่ว่ามันจะสามารถดูดซับลาวาที่หนาแน่นกว่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม นั้นขัดแย้งกับความจริงเพราะอีกาทองคำในปัจจุบันไม่สามารถทนต่อเปลวไฟที่ลึกเกินสิบฟุตได้

ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา การเติบโตจาก 100 หางเป็นมากกว่า 200 หางถือเป็นการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งสำหรับอีกาทองคำ ในความเป็นจริง มีสัญญาณจางๆ ว่ามันกำลังจะดึงดูดทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่สอง

เมื่อมาถึงจุดนี้ การบ่มเพาะของซูฉินในทะเลเพลิงสวรรค์ถือได้ว่าสิ้นสุดลงแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เขาอยู่ที่นี่ต่อไป

“ข้าจะคืนลูกตา และไปพบกับพี่ใหญ่ที่ภูเขากระทิงสวรรค์”

ซูฉินอาศัยอยู่ทางทิศตะวันออกมาเกือบครึ่งปี เขาไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ใหญ่ของเขาเป็นยังไงบ้าง และเขาก็เป็นห่วงอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะจากไป ซูฉินมองเข้าไปในส่วนลึกของลาวาในทะเลเพลิงสวรรค์

“ข้าจะไปดูข้อจำกัดของเทวสถานจันทราโลหิตที่ผู้อาวุโสต้วนมู่กล่าวถึง…”

ซูฉินต้องการตรวจสอบว่าเหตุใดเทวสถานจันทราโลหิตจึงตั้งข้อจำกัดไว้ที่นี่ ด้วยพลังของนาฬิกาแดด ซูฉินรู้สึกว่าตราบใดที่เขาระมัดระวัง เขาก็ยังคงสบายดี

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ซูฉินก็บีบลูกตา

ลูกตาสั่นทันที และเปล่งพลังออกมามากยิ่งขึ้น

ซูฉินรู้สึกพอใจ เขาเก็บอีกาทองคำไว้ และคว้าจับลูกตาขณะที่เขามุ่งหน้าตรงไปยังก้นลาวาในไม่ช้า เขาก็จมลงถึง 1,000 ฟุต 2,000 ฟุต และ 3,000 ฟุต…

ยิ่งเขาเข้าไปลึกความร้อนก็ยิ่งรุนแรงขึ้น โชคดีที่ลูกตาประหลาดนี้สามารถแยกความร้อนออกไปได้

ขณะนั้น ซูฉินก็จมลงไปกว่า 9,000 ฟุต

ที่ระดับความลึกเช่นนี้ นอกจากอุณหภูมิสูงแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีแรงกดดัน อีกด้วย หลอดเลือดสีน้ำตาลบนลูกตาก็หนาแน่นขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ ซูฉินยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยที่มาจากด้านล่าง

นั่นคือ พลังเทพของเทพจันทราโลหิต

การค้นพบนี้ทำให้ซูฉินระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ขณะที่เขาเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง ลางสังหรณ์ถึงอันตรายก็แพร่กระจายในใจของเขา เขาไม่ลังเลเลย และวิญญาณแรกเริ่มดวงจันทร์ม่วงในร่างกายของเขาก็ปะทุขึ้นทันที พลังของมันก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาทันที

ในเวลาต่อมา อันตรายจากเบื้องล่างก็ค่อยๆ บรรเทาลง

ด้วยพลังของดวงจันทร์ม่วง เขาสัมผัสได้ถึงต้นกำเนิดพลังของเทพจันทราโลหิตเบื้องล่าง

ซูฉินรอสักครู่ก่อนที่จะเข้าใกล้ต่อไป

ในเวลาเดียวกัน บนทะเลเพลิงสวรรค์ บนท้องฟ้าไม่ไกลจากที่นี่ หัวใจอันใหญ่โตของเทวสถานจันทราโลหิตก็ลอยอยู่ที่นั่น

สะเก็ดดาวหลายสิบลูกกระจายออกไปรอบๆ และร่างบนนั้นไม่ขยับเลย มีเพียงร่างหนึ่งในชุดคลุมสีแดงเท่านั้นที่เดินออกจากวิหาร

นี่คือมนุษย์ผู้หญิง

สีหน้าของเธอเย็นชา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยหงุดหงิด เธอเดินออกจากวิหาร และเมื่อถึงขอบหัวใจเธอก็ก้มศีรษะลง มองดูทะเลเพลิงเบื้องล่าง

เธอกำลังขมวดคิ้ว

เธอไม่ต้องการทำสิ่งที่เธอต้องทำต่อไป ไม่ใช่ด้วยความโหดร้าย แต่เพราะการกระทำดังกล่าวจะถูกทำตีตรา และมีผลกระทบบางอย่างต่ออนาคต

อย่างไรก็ตาม ในฐานะข้ารับใช้เทพ เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ

“ข้าต้องใช้วิธีบางอย่างในภายหลังเพื่อลบตราประทับออก”

ผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจ และก้าวไปข้างหน้า ก้าวเข้าสู่ลาวาด้านล่างโดยตรง ด้วยการโบกมือของเธอ ไข่มุกสีแดงก็ปรากฏขึ้น หลังจากที่เธออมมันไว้ในปาก เธอก็เข้าไปในลาวา

เห็นได้ชัดว่าไข่มุกนั้นเป็นสมบัติหายากของเทวสถานจันทราโลหิต หลังจากกลืนมันลงไป ร่างกายของเธอก็แยกความร้อนออกจากลาวาได้ด้วยตัวเอง

ด้วยเหตุนี้ ความเร็วของผู้หญิงจึงเร็วมาก ขณะที่เธอจมลง ฐานการบ่มเพาะของเธอก็กระจายออกไป ออร่าของคลังความลับแทรกซึมอยู่ในอากาศ แต่มันไม่ได้ถูกล้อมรอบด้วยกฎแห่งเต๋าสวรรค์

เธอยังสร้างคลังความลับไม่เสร็จ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการบำรุงเต๋า

อย่างไรก็ตาม ตัวตนของเธอในฐานะข้ารับใช้เทพ และพรที่สอดคล้องกันจาก เทพจันทราโลหิตทำให้นอกจากคนที่อยู่ด้านในของวิหารแล้ว ไม่มีใครในโลกภายนอกกล้าที่จะยั่วยุเธอเลย

ราคาของการฆ่าข้ารับใช้เทพเป็นสิ่งที่ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดในภูมิภาคจันทร์บวงสรวงสามารถจ่ายได้

ในความเป็นจริง ด้วยสถานะของเธอในฐานะข้ารับใช้เทพ ประโยคเดียวจากเธอสามารถตัดสินชีวิต และความตายของเผ่าพันธุ์เล็กๆ ได้

เหตุผลก็คือเพราะเธอเติบโตในวิหารตั้งแต่ยังเด็ก มีคนหนึ่งในครอบครัวของเธอที่ทำหน้าที่เป็นทูตสวรรค์ เมื่อนั้นลูกหลานถึงจะได้เพลิดเพลินกับพรอันล้ำค่าแบบนี้ในภูมิภาคจันทร์บวงสรวง

ในขณะนั้น เธอเคลื่อนตัวลึกถึง 10,000 ฟุตโดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน

สำหรับซูฉิน เขาก็อยู่ต่ำกว่า 10,000 ฟุต และอยู่ไม่ไกล เขากำลังเข้าใกล้สถานที่ๆ เขารู้สึกถึงบางอย่างก่อนหน้านี้

ทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้สถานที่เดียวกันทีละนิด