Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1086

บทที่ 1086 หยั่งเชิง 2

“ทำให้ตกใจเสียแล้ว” ท่านเจ้าผมเงินหันกลับมามองเธอ ในดวงตาทรงเสน่ห์คล้ายจะเจือรอยยิ้มอ่อนโยนไว้ “ข้าไม่ได้สังเกตไปชั่วขณะ เกือบทำให้เจ้าเป็นอันตรายแล้ว ไม่เป็นไรกระมัง?”

ริมฝีปากน้อยๆ ของกู้ซีจิ่วเม้มแน่น “ไม่เป็นไร!”

สามคำนี้กล่าวอย่างแข็งกร้าว ชัดเจนว่าเธอได้รับความตกใจแล้ว ซํ้าในใจยังมีความขุ่นเคืองด้วย

ท่านเจ้าผมเงินถอนหายใจเบาๆ “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ ไปหารือเรื่องการร่วมมือกัน”

มุมปากของกู้ซีจิ่วยกขึ้นนิดๆ “ท่านเจ้ามีฝีมือถึงเพียงนี้ ซีจิ่วคงมิกล้าอาจเอื้อมไปร่วมมือด้วย”

พลางหมุนกายจากไป

ท่านเจ้าผมเงินเงียบงัน น่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้อื่นทิ้งไว้ที่นี่เช่นนี้ จึงมองเงาหลังของนางอย่างตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้ดีถึงแม้นางสูญเสียความทรงจำของชาตินี้ไปแล้ว แต่ความเฉลียวฉลาดของนางมิได้ต่ำลงเลย ยามนี้นางคงจะมองออกแล้วว่าที่สัตว์ร้ายสองตัวนั้นคลุ้มคลั่งขึ้นมาเป็นเพราะเขาแอบเล่นลูกไม้ลับหลัง ดังนั้นการที่นางขุ่นเคืองก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว

“ท่านเจ้า เด็กสาวผู้นี้สามหาวเกินไปแล้ว! ควรมอบบทเรียนให้นางเสียบ้างนะขอรับ!” สาวกคนหนึ่งเข้ามาประจบประแจงเขา คิดจะฉวยโอกาสสร้างความประทับใจแก่เขาสักหน่อย

ท่านเจ้าผมเงินหันไปมองเขาแวบหนึ่ง ยิ้มนิดๆ รูปโฉมของเขาชดช้อยทรงเสน่ห์ของสตรีเพศ แต่บุคลิกยามปกติกลับเป็นเช่นคุณชายผู้งามสง่า ปฏิบัติต่อลูกน้องเหล่านี้ด้วยสีหน้าอ่อนโยน ดูเป็นกันเองยิ่งนัก

ส่วนสาวกคนนี้ความจริงแล้วเป็นคนของหลงฟั่น ยามปกติยากจะได้พบท่านเจ้าผมเงินผู้นี้ จึงไม่ทราบนิสัยใจคอของเขา ด้วยเหตุนี้ถึงกล้าเข้ามาพูดจาในยามนี้

ท่านเจ้าผมเงินรูปโฉมงามสง่า ยิ้มนี้ของเขาล่มบ้านล่มเมืองยิ่งนัก สาวกผู้นั้นเป็นคนเจ้าชู้คนหนึ่ง ตาแทบค้างแล้ว “ทะ…ท่านเจ้า?”

ท่านเจ้าผมเงินเอ่ยอย่างเฉยชา “เรื่องของข้า มีที่ให้เจ้าสอดปากหรือ?”

นํ้าเสียงนุ่มนวลเยียบเย็นเข้าไปถึงกระดูก

สาวกคนนั้นแข็งทื่อทันที ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ท่านเจ้าผมเงินก็สะบัดแขนเสื้อใส่แล้ว เป็นการสะบัดที่อ่อนโยนยิ่งนัก สายลมที่ปะทะหน้าถึงขั้นแฝงความอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิไว้จากนั้น…จากนั้นสาวกที่เพิ่งต่อสู้กับสัตว์ร้ายสามตัวอย่างทรงพลังคนนั้นก็ละลายเป็นนํ้าทันที…

สาวกคนอื่นๆ ยังคงอยู่ในลานแห่งนี้ด้วย ยามนี้ทุกคนเงียบกริบแล้ว ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซํ้า

ปกติแล้ว ท่านเจ้าผู้นี้ไม่ค่อยเผยใบหน้าที่นี่ง่ายๆ ต่อให้เผยหน้า ก็จะสวมชุดคลุมหน้าสีขาว มองไม่เห็นใบหน้าและมองรูปร่างไม่ออก อีกทั้งรั้งอยู่ครู่เดียวก็จากไปเสมอ ดังนั้นสาวกของที่นี่จึงคุ้นเคยกับหลงฟั่นมากกว่าเขา…

โดยส่วนตัวแล้ว หลงฟั่นเป็นคนที่พวกเขาเคารพและยำเกรงที่สุด สำหรับท่านเจ้าผู้นี้เป็นความรู้สึกห่างเหินแปลกแยกชนิดหนึ่ง

ครั้งนี้ระยะเวลาที่ท่านเจ้ารั้งอยู่ไม่สั้นเลย ผ่านไปสองวันแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะจากไปเลยสักนิด

ที่น่าประหลาดยิ่งกว่าคือครั้งนี้เขาเผยโฉมหน้าที่แท้จริงแล้ว…

หากมิใช่หลงฟั่นเคารพนบน้อบต่อเขาเรียกขานเขาว่าท่านเจ้า คนเหล่านี้แทบไม่กล้าเชื่อเลยว่าคุณชายผู้งามล่มบ้านล่มเมืองคนนี้คือ ท่านเจ้าของพวกเขา…

ยามนี้ในที่สุดพวกเขาก็เชื่อแล้ว และยำเกรงแล้วด้วย!

วิชายุทธ์นี้ของท่านเจ้า น่าหวาดหวั่นโดยแท้!

และไม่อาจไปยั่วยุได้…

….

ท่านเจ้าคนนี้ที่แท้เป็นใครกันแน่?

กู้ซีจิ่วขบคิดปัญหาข้อนี้อยู่ตลอด

ร่างกายเป็นร่างจิตโดยสมบูรณ์ ร่างของเขาเป็นการควบแน่นของดวงวิญญาณงั้นหรือ?

วรยุทธ์ยามอยู่ในร่างจิตยังน่ากลัวถึงเพียงนี้ เห็นทีว่าจะเป็นตัวละครที่รับมือได้ยากคนหนึ่ง…

กู้ซีจิ่วถูกจัดให้อยู่ในห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง สถานที่ที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเช่นนี้ยากจะจินตนาการนักว่าสามารถสร้างห้องพักเช่นนี้ขึ้นมาได้ แถมการตกแต่งภายในห้องยังเป็นรูปแบบอย่างที่กู้ซีจิ่วเคยชมชอบอีกด้วย

ตอนอยู่ที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เรือนพัก ของเธอก็มีรูปแบบเช่นนี้ แม้แต่รูปร่างและสีสันของเครื่องเรือนก็คล้ายคลึงกันทุกอย่าง

ยามที่หลงฟั่นพาเธอเข้ามายังเอ่ยถามประโยคหนึ่งด้วย “ชอบไหม?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!