Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1088

บทที่ 1088 หยั่งเชิง 4

กู้ซีจิ่วเดินวนภายในห้องรอบหนึ่ง นี่คือความเคยชินที่ฟูมฟักมาจากอาชีพนักฆ่าของเธอ ไม่ว่าจะไปที่ไหนล้วนต้องสำรวจที่พักให้ละเอียดหนึ่งรอบ ด้วยเหตุนี้เธอจึงพบกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งบนช่อดอกไม้ที่ปักกระจายอยู่ในแจกันใบใหญ่ใบหนึ่งตรงมุมห้อง…

เธอถือกล้องวงจรปิดตัวนั้นไว้มองแวบหนึ่ง ใบหน้าเฉิดฉันคล้ายจะค่อนข้างโกรธเคือง หัวเราะหยันคราหนึ่ง ทำลายกล้องทิ้งทันที!

ภายในห้องหนึ่งบนผนังกระจกเฝ้าติดตามเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ ด้านที่แสดงฉากภายในห้องของกู้ซีจิ่วกลายเป็นผนังขาวโพลนแล้ว…

หลงฟั่นมองเข้าไปแวบหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า เขารู้อยู่แล้วว่าด้วยไหวพริบของสาวน้อยคนนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พบกล้องวงจรปิดตัวนั้น

ท่านเจ้าผมเงินก็มองเห็นฉากนี้เช่นกัน “หลงฟั่น เจ้าพูดถูกนางมีไหวพริบมากจริงๆ”

มือไม้ของหลงฟั่นเคลื่อนไหวทำงาน พลางตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “ข้าก็เคยบอกไปนานแล้ว นางเป็นนักฆ่าที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุคนั้น!”

พัดจีบในมือของท่านเจ้าผมเงินเคาะโต๊ะทำงานเบาๆ “เจ้าว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พอนางฟื้นขึ้นมาก็พบกล้องวงจรปิดเหล่านั้นแล้ว ดังนั้นจึงแสร้งเล่นละคร?”

หลงฟั่นตะลึงไปครู่หนึ่ง ส่ายหัวทันที “เป็นไปไม่ได้! ตอนที่นางฟื้นขึ้นมาท่านเองก็เห็นแล้ว กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในห้องวิจัยของข้าน้อยเป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นในยุคนี้ คนนอกไม่เคยพบเห็นเลย นางก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่พอลืมตาขึ้นก็เล่นละครได้เลย หากนางมีความทรงจำของโลกนี้อยู่ เมื่อลืมตาขึ้น อย่างไรก็ต้องเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าท่าทางนั้นของนางมิใช่การแสร้งทำ”

ท่านเจ้าผมเงินถอนหายใจเบาๆ “สาวน้อยผู้นี้เฉลียวฉลาดปานจิ้งจอกน้อย ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากน้อยเพียงได้ที่หลงกลนางเข้า เรื่องมากมายที่เป็นไปไม่ได้เมื่อตกอยู่กับนางแล้ว สามารถเป็นไปได้ทั้งนั้น บางทีข้าคงต้องทดสอบนางดูอีก”

หลงฟั่นเหลือบตาขึ้นแวบหนึ่ง สีหน้าไม่น่ามอง “ท่านเจ้าสงสัยความสามารถด้านโอสถของข้าหรือขอรับ?”

พัดของท่านเจ้าผมเงินแตะไหล่เขาคราหนึ่ง “ผิดแล้ว ข้าวางใจในความสามารถด้านโอสถของเจ้ายิ่งนัก ที่ไม่วางใจมีเพียงตัวนาง นางมักจะเป็นตัวแปรอยู่เสมอ วางใจเถอะ การทดสอบครั้งนี้ไม่ทำให้นางมีอันตรายถึงชีวิตหรอก ข้ารู้ว่านางเป็นแก้วตาดวงใจของเจ้า ย่อมกระทำอย่างมีขอบเขต”

แล้วเขาก็หมุนกายจากไป

….

กู้ซีจิ่วนอนอยู่บนเตียง หลับตาแสร้งงีบ ทว่าในใจกลับทอดทอดใจอย่างระทมขมขื่น

บนโลกนี้ยังมีใครที่น่ารันทดกว่าเธออีกไหม?

ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้อยู่กับคนรักอิงแอบแนบซบกันอยู่ในถํ้าบนภูเขา ไหนเลยจะนึกว่าหลังจากไข้ขึ้นสูงคราหนึ่งดวงวิญญาณของเธอก็หลุดลอยแล้ว เบิกตามองดวงวิญญาณตนลอยออกมาจากร่างตน ตอนนั้นเธอร้อนรนยิ่งนัก ไม่อาจควบคุมร่างกายได้ ในความว่างเปล่าราวกับมีมือข้างหนึ่งฉุดดึงเธอไป เนื่องจากในใจเธอมีห่วงอยู่จึงหวาดกลัวยิ่งนัก เกรงว่าตนจะตายไปแบบนี้ ยังคิดจะตะโกนส่งเสียงดังด้วย ไหนเลยจะคาดคิดว่ายามนั้นเธอกลับส่งเสียงออกมาไม่ได้เลย คนใบ้ไร้เสียงยังพอรีดเค้นเสียงอืออาออกมาได้ ทว่าเธอในยามนั้นแม้แต่เสียงอืออาก็เปล่งไม่ออก!

ขณะนั้นเธอร้อนใจยิ่งนัก ในใจพะวงถึงตี้ฝูอีหากเขาออกฌานมาแล้วพบว่าเธอกลายเป็นศพเย็นเฉียบไปแล้วจะปวดใจมากหรือเปล่า?

ด้วยความเศร้าโศกของเขาอาจจะใช้วิชาเรียกวิญญาณต้องห้ามอันใดเพื่อช่วยเหลือเธอหรือเปล่า จะสิ้นเปลืองพลังจนหดเล็กลงอีกครั้งหรือไม่?

ยามนั้นเธอเธอทุ่มเทอย่างกำลังเพื่อจะรั้งอยู่ที่เก่า เล่นชักเย่อกับแรงประหลาดที่ฉุดดึงตัวเธอ…

ยังดึงกันได้ไม่เท่าไหร่ เธอก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าร่างนั้นของตนถูกตี้ฝูอีเรียกจนตื่นขึ้นมาแล้ว…

ตอนนั้นเธอตกตะลึงยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทันได้ระวัง ถูกแรงประหลาดนั้นลากไป เบื้องหน้าพลันมืดมิดไม่รับรู้อะไรอีกเลย ในสภาวะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่ก็ได้ยินบทสนทนของหลงฟั่นกับท่านเจ้าผมเงิน…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!