บทที่ 916 คู่สวรรค์สรรสร้าง 1
อันที่จริงกู้ซีจิ่วก็บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร เธอแค่รู้สึกสนิทสนมกับดาวดวงนั้นเป็นพิเศษ เธอถึงขั้นรับรู้ถึงพลังงานที่ดาวดวงนั้นส่งเข้ามาได้ ยามที่จับจ้องดาวดวงนั้น เธอมีความรู้สึกอบอุ่นประการหนึ่ง
“ดาวดวงนั้นช่างเล็กและมืดมนจริงๆ” กู้ซีจิ่วเอ่ยอย่างเศร้าใจ “มันสว่างสู้ดาวที่อยู่รอบข้างพวกนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
ตี้ฝูอีเอียงศีรษะชิดศีรษะนาง มองดาวดวงนั้นด้วยกัน จากนั้นก็เอ่ยคำพูดประโยคหนึ่งที่มีคติธรรมเตือนใจอย่างยิ่ง “ดวงดาวก็มีช่วงเวลาสำหรับฉายแสง”
“ปกติแล้ว ความสว่างของดวงดาวจะเหมือนเดิมอยู่ตลอดไม่ใช่หรือ? มีช่วงเวลาที่ฉายแสงบ้างเป็นครั้งคราว แต่ดาวดวงเล็กไม่มีทางกลายเป็นดาวดวงใหญ่ได้” กู้ซีจิ่วกล่าวความรู้ทางดาราศาสตร์ที่ตนทราบออกมาอย่างมั่นใจ สายตาของเธอหยุดที่ดาวใหญ่ดวงนั้นอีกครั้ง “ดาวดวงนั้นสว่างไสวจริงๆ! หากดาวน้อยดวงนั้นสามารถสว่างได้สักครึ่งของมันก็คงดี”
หากว่าดาวน้อยที่ไม่สะดุดตาดวงนั้นเป็นตัวแทนของเธอจริงๆ เธอก็หวังว่าจะสามารถอยู่เคียงข้างดาวใหญ่ดวงนี้ได้ ร่วมชมใต้หล้าด้วยกัน ปกป้องปวงประชา มิใช่ทำตัวเป็นฉากประดับเล็กๆ อยู่ด้านหลังมัน…
“ทุกเรื่องล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น ไม่แน่ดาวน้อยดวงนั้นอาจะสว่าง
ไสวกว่าดาวใหญ่ดวงนี้ก็ได้” ตี้ฝูอีเอ่ยอย่างทีเล่นทีจริง ริมฝีปากจุมพิตแก้มนาง “เจ้าต้องพยายามเข้า!”
ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเป่ารดริมหูเธอ พวงแก้มกู้ซีจิ่วพลันแดงเรื่อนิดๆ ค่อยๆ เขยิบหนีไปด้านข้าง ตี้ฝูอีกลับเบียดร่างกึ่งหนึ่งเข้าไปในเก้าอี้เอนหลังตัวนี้ของเธอ
“หนีอะไร? กลัวข้าหรือ? หรือว่าขวยอาย?”
กลัวเขา?
ขวยอาย?
กู้ซีจิ่วยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง ขยับเข้าใกล้เขาทันที ดวงหน้าพริ้มเพราอยู่ห่างจากใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ถึงครึ่งฉื่อ เธอหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง “ท่านคิดว่าข้ากลัวท่านไหมล่ะ?”
ตี้ฝูอีมองใบหน้าของนางที่อยู่ใกลในระยะประชิด อยู่ใกล้ขนาดนี้เขาสามารถมองเห็นไรขนบางๆ บนหน้านางได้ชัดเจน ดวงตาโตที่อ่อนเยาว์มีชีวิตชีวา รูปโฉมของนางดูเย็นชา แต่ยามที่หรี่ตามองคนนั้นกลับคล้ายจิ้งจอกน้อยที่กระฉับกระเฉงปราดเปรียวตัวหนึ่ง ทำให้เขาต้องการสยบจิ้งจอกน้อยยิ่งนัก เลือดลมในทรวงเขาปะทุขึ้นมา ทว่าใบหน้ากลับราบเรียบ ส่ายศีรษะนิดๆ ตอบอย่างซื่อตรงนัก “ไม่กลัว ท่าทางเจ้าคล้ายว่าไม่เคยเกรงกลัวข้าเลย”
กู้ซีจิ่วยิ้มอย่างลำพองแวบหนึ่ง นี่ก็ใกล้เคียง!
เธอเตรียมจะเอนหลังกลับไปจุดเดิม ไม่นึกว่าเบื้องหน้าพลันมืดมัวลง ร่างกายเขาแนบชิดลงมา ริมฝีปากจุมพิตลงบนกลีบปากสีชมพูของเธอ “เพียงแต่ข้าอยากเห็นท่าทางตอนเจ้าหน้าร้อนผ่าวใจเต้นแรงมากกว่า…”
หัวใจกู้ซีจิ่วเพิ่งฝืนข่มให้สงบลงกระโดดโลดเต้นขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่หนนี้ เธอไม่หลบหนีและไม่ได้หลับตาลงตามสัญชาตญาณ เขาอยากเห็นท่าทางเขินอายของเธอเธอจะไม่ยอมให้เขาได้เห็น…
เธอเบิกตาสองข้างมองใบหน้าของเขา คิ้วของเขาเหยียดตรงทว่างดงาม ขนตายาวเป็นแพ งามงอนได้รูปไร้ใดเทียม จมูกโด่งเป็นสัน นัยน์ตาดั่งลงเงาดำสนิทราวกับสามารถดูดกลืนคนเข้าไปได้ ดวงตาสองคู่สบกันระหว่างจุมพิต ดวงตาตี้ฝูอีหยีโค้งนิดๆ สาวน้อยช่างแกร่งกล้าเหนือธรรมดาจริงๆ…
เพียงแต่เขาชมชอบนัก!
ขนตาของเขาสั่นไหวสองครา ราวกับจะปราชัยต่อการจับจ้องของเธอ แล้วหลับตาลงนิดๆ
ความมั่นใจของกู้ซีจิ่วทวีขึ้นมหาศาล ฉวยไหล่เขาไว้แล้วพลิกตัวทันที สลับให้เขาถูกกดอยู่ใต้ร่างแทน หัวใจที่เต้นระรัวอย่างชัดเจนราวกับมิใช่หัวใจของตน ทว่ามุมปากเธอกลับโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มหยอกเย้า “ท่าทางท่านตอนหน้าร้อนผ่าวใจเต้นแรงก็มีเสน่ห์น่ามองมากเช่นกัน”
เธอใช้นิ้วปัดป่ายริมฝีปากเขาเบาๆ ราวกับคุณชายเสเพลก็มิปาน “ริมฝีปากนี้อิ่มเอิบนักน่ามองอย่างยิ่ง…”
ตี้ฝูอีกึ่งเอนหลัง ยู่ตรงนั้น เรือนผมดำขลับแผ่สยายอยู่ใต้ร่างเขาดั่งสายธาร ดวงหน้าเขาสง่างาม มุมปากหยักยิ้มมองดูเธอ ยอมให้เธอแทะโลมอย่างว่าง่าย ท่าทางไร้อันตรายอย่างสิ้นเชิง ดุจกระต่ายขาวตัวน้อย