Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 302


บทที่ 302 คอยข้านะ! (ปลาย)

ทัวป้าเหยียนส่ายหน้า “เสี่ยวเตี๋ย ยังเด็กอาจจะยังไม่เข้าใจว่าอะไรถูกอะไรผิดจึงต้องได้รับโทษ นางเป็นยอดฝีมือที่ดีมากคนหนึ่งทั้งยังมีพื้นฐานที่พิเศษสุดอนาคตยังไปได้ไกล ท่านป้าเจียงคอยจับตาดูไว้ หากนางไม่เปลี่ยนแปลงความคิดเสียก่อน ในภายหน้านางจะได้ฝึกฝนจนสำเร็จในขั้นที่สูงยิ่งขึ้น”

สตรีสูงวัยค้อมกายต่ำลงกว่าเดิมพลางกล่าวตอบ “เข้าใจแล้ว เพคะ” ครู่หนึ่งมีเสียงของฮ่องเต้ดังขึ้นว่า “ส่งคนไปคอยเฝ้าสังเกตการณ์ที่แคว้นเจียง หากมีเหตุร้ายแรง ส่งองครักษ์เงาเข้าไปช่วยเหลือทันที” คนรับฟังมีท่าทีลังเลนิดหนึ่ง ทำท่าจะเอื้อนเอ่ยวาจาบางอย่างทว่าในที่สุดก็นิ่งเสีย

เสียงทัวป้าเหยียนพึมพำแผ่วเบา “ข้ารู้ว่าท่านกังวลใจ การช่วยเหลือแคว้นเจียงและเยี่ยฉวนจะสร้างความขัดเคืองให้แก่ฉางมู่กับดินแดนอันธการและอาณาจักรต้าอวิ๋น……อย่างไรก็ตามท่านไม่ต้องกังวลใจไป เพราะตอนนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างเยี่ยฉวนกับสถานศึกษาฉางมู่และดินแดนอันธการอีกแล้ว”

จบคำพูด ผู้พูดผุดลุกขึ้นและเดินออกไปทางประตูโถงท้องพระโรง “บางทีการจัดการในแผ่นดินชิงถึงเวลาต้องปฏิรูปแล้วกระมัง! เมื่อเทียบกับสถานศึกษาฉางมู่และดินแดนอันธการ ข้าก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขามากกว่าอยู่ดี……”

……….

ณ เมืองชายแดน

เจียงจิ่วออกมาทางประตูเมืองและเดินไปทางเยี่ยฉวน จากนั้นจึงทรุดนั่งลงต่อหน้าก่อนเอ่ยถาม “ข้าอยากถามความเห็นของเจ้าสักอย่างหนึ่ง” เยี่ยฉวนมองเจียงจิ่วตรงๆ “เรื่องอะไรขอรับ?”

เจียงจิ่วเอ่ยเสียงขรึม “เรื่องแคว้นถัง ตอนนี้พวกแม่ทัพต่างถกถียงกันเกี่ยวกับข้อตกลงที่แค้วนเราจะทำกับแคว้นถัง บางคนมีความเห็นว่าในเมือเมื่อเราจับได้ตัวประกันมาแล้ว ดังนั้นทางเราน่าจะเรียกเงินค่าไถ่จากคนพวกนั้น บางพวกกลับเห็นว่าทางเราน่าจะใช้แคว้นถังเป็นแคว้นเมืองขึ้นของแคว้นเจียง……แต่ก็มีบางคนแนะนำให้กำจัดแคว้นถังขั้นเด็ดขาดเพื่อจบปัญหา”

คนพูดจับตามองเยี่ยฉวนแน่วแน่ “แล้วเจ้ามีความเห็นยังไง?” เยี่ยฉวนย้อนถาม “ท่านละ? มีความเห็นอย่างไร?” เจียงจิ่วหน้านิ่ว ตาจ้องเขม็งคนตรงหน้า “ข้าถามเจ้า!” ชายหนุ่มอมยิ้ม “ข้าก็ไม่รู้สินะ!”

หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น “เจ้าคิดยังไง ก็พูดมาตรงๆ! ชายหนุ่มนิ่งไปนิดหนึ่งจากนั้นจึงตอบให้ว่า” ปล่อยพวกเขาไปให้หมด!” เจียงจิ่วนิ่งอึ้ง ด้วยไม่คาดคิดกับคำตอบของเยี่ยฉวน

ชายหนุ่มค่อยขยายความต่อมาว่า “ถ้าแคว้นถังต้องจ่ายค่าไถ่ตัวประกันด้วยเงินจำนวนมหาศาล จะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ก็การก่อจลาจลขึ้นภายในแคว้นถังได้ นั่นยิ่งจะให้เกิดความเกลียดชังแคว้นเจียงขึ้นกว่าเดิม อาจกลายเป็นผลักไสพวกเขาไปเข้าหาอาณาจักรต้าอวิ๋น ส่วนการทำลายแคว้นถังให้สิ้นซาก แคว้นเจียงมิได้แข็งแกร่งถึงขั้นสามารถทำลายแคว้นถังลงได้หรอกขอรับ”

เยี่ยฉวนหยุดนิ่งคิดนิดหนึ่ง ก่อนกล่าวเสียงเบาราวกระซิบ “ถ้าเราไม่ปล่อยพวกเขากลับไป อาณาจักรต้าอวิ๋นจะต้องสร้างคนเป็นหุ่นเชิดขึ้นมาปกครองแคว้นถัง หากเป็นเช่นนั้นคนสองคนที่เราจับไว้ก็จะไร้ความหมาย สู้ปล่อยเขากลับไปและสานสัมพันธไมตรีด้วยกันจะดีกว่า”

“สานสัมพันธไมตรีงั้นหรือ?” สีหน้าของเจียงจิ่วบ่งชัดถึงความงุนงง “แต่สองแคว้นเราเป็นอริกัน!” เยี่ยฉวนสั่นศีรษะ “ท่านเองน่าจะเข้าใจสถานการณ์ของแคว้นเจียงดีที่สุด กองกำลังหลักของแคว้นถังอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเขาจู่โจมเมืองชายแดนของเราชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู โดยร่วมกับกองทัพแค้นเย่วและแคว้นชู ไหนจะอาณาจักรต้าอวิ๋นอีก แคว้นเจียงคงพินาศย่อยยับเป็นแน่”

เจียงจิ่วแย้งเสียงเครียด “แต่ถ้าพวกเขากลับไปแล้วไปเข้ากับอาณาจักรต้าอวิ๋น?” เยี่ยฉวนเหยียดมุมปาก “พวกเขาถูกฉางมู่และดินแดนอันธการหักหลังมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงกลายเป็นประสบการณ์อันแสนเจ็บปวด ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะไม่มีวันหวนกลับไปร่วมมือกับฉางมู่อีกอย่างแน่นอนขอรับ”

หญิงสาวเขม้นมองใบหน้าของเยี่ยฉวน “ถ้าไม่ใช่อย่างที่คิด?” เยี่ยฉวนคลี่ยิ้ม “พวกเราจะไล่ถล่มมันให้พินาศอีกครั้ง ปล่อยพวกแคว้นถังไปและท่านนำข้อความนี้ไปบอกพวกเขา บอกเขาว่าข้าฝากมาบอกว่าอย่างนี้!”

เจียงจิ่วนิ่งมองเยี่ยฉวนราวกับจะชั่งใจอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดหญิงสาวผุดลุกขึ้นและเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้า จากนั้นจึงใช้ฝ่ามือลูบบริเวณที่มีรอยแผลบนใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างเบามือ “เอาละ คราวนี้เจ้าก็ไปได้แล้ว!”

ไป! เยี่ยฉวนสามารถไปได้แล้วจริงๆ ถ้าเขาหันหลังเดินจากไป สถานศึกษาฉางมู่และดินแดนอันธการจะไม่สามารถทำอันตรายต่อเขา ตราบใดที่ไม่มียอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์เข้ามาก้าวก่าย

ชายหนุ่มพูดขึ้นว่า “พี่ๆ น้องๆ และคนที่ข้าต้องดูแล ไหนจะสถานศึกษาฉางหลานพวกเขากำลังคอยข้าอยู่ ข้ารับปากอาจารย์ใหญ่จี้ไว้ว่าจะดูแลพวกเขา!”

คนตรงหน้าถามทันควัน “แล้วข้าล่ะ?” เยี่ยฉวนชะงักกึกตอบพลางยิ้มเจื่อน “ท่านก็เป็นคนข้าเป็นห่วงเหมือนกัน” เจียงจิ่วเหยียดมุมปาก “เป็นห่วงมากไหม?” ชายหนุ่มตอบสุ้มเสียงสีหน้าจริงจัง “มากสิขอรับ”

หญิงสาวพยักหน้า ทั้งสองนิ่งเงียบไปนาน ในที่สุดเจียงจิ่วโผเข้ากอดเยี่ยฉวนไว้แน่น “ถ้าแม่นางน้อยอันและข้าตกน้ำเจ้าจะช่วยใครก่อน?” เมื่อได้ยินคำถามของหญิงสาว เยี่ยฉวนหน้าเผือดซีด ท่าทางกระอึกกระอัก……

เจียงจิ่วปล่อยหัวเราะกิ๊ก ยกฝ่ามือแตะใบหน้าของเยี่ยฉวนเบาๆ “เจ้าทึ่ม!” จากนั้นนางจึงหันหลังกลับออกไป ชุดเกราะสีเงินส่งให้ร่างระหงทะมัดทะแมงดูองอาจยิ่งนัก ชายหนุ่มมองตามหลังพลางส่ายหัวดิก “ผู้หญิงคิดอะไรนักหนา……”

ราวหนึ่งชั่วยามต่อมา ฮ่องเต้แห่งแคว้นถังและแม่ทัพเป่ยเสี่ยวหู่ถูกนำตัวออกมานอกเมืองชายแดน คนทั้งสองหันมาทางเยี่ยฉวน ถังมู่กล่าวแก่ชายหนุ่มตรงหน้า “ขอลาก่อน”

เยี่ยฉวนค้อมศีรษะ “รักษาสุขภาพ” เป่ยเสี่ยวหู่ก้าวขึ้นมายืนเบื้องหน้า สายตามองเยี่ยฉวนอย่างจะค้นหา “เจ้าไม่กลัวหรือว่าเราจะกลับไปจับมือกับฉางมู่และดินแดนอันธการ?”

ชายหนุ่มหันมาเผชิญหน้ากับเป่ยเสี่ยวหู่ “ถ้าเชื่อใจข้า ตราบใดที่แคว้นเจียงยังอยู่แคว้นถังจะไม่มีวันล่มสลาย” เป่ยเสี่ยวหู่ถามกลับ “เจ้าพูดแทนแคว้นเจียงได้หรือ?”

เยี่ยฉวนสั่นศีรษะ “เปล่า! แต่ข้าพูดแทนตัวของข้าเอง ถ้าแคว้นเจียงเป็นฝ่ายทำลายข้อตกลง ข้าจะเป็นคนแรกที่คัดค้าน แต่ถ้าแคว้นถังเป็นฝ่ายทำลายข้อตกลง ข้าขอรับประกันว่าจะไม่มีแคว้นถังอยู่ในโลกอีกเลย”

สายตาของอีกฝ่ายจับแนวนิ่งที่เยี่ยฉวน “ถ้าแคว้นเจียงรักษาสัญญา ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่แคว้นถังก็จะรักษาสัญญาเช่นกัน”

ในขณะนั้น มีชายสวมชุดดำปรากฏออกเบื้องหน้าเยี่ยฉวนและทุกคนอย่างปัจจุบันทันด่วน เมื่อคนที่เพิ่งเข้ามามองเห็นเยี่ยฉวน เขารีบร้อนตรงเข้ามาหาหลังจากแสดงคารวะต่อเยี่ยฉวนแล้วจึงพูดว่า “นายท่านเยี่ยฉวน เวลานี้แคว้นเย่วและแคว้นชูเริ่มปฏิบัติการจู่โจมแล้ว เราถูกยึดชายแดนทิศใต้และตะวันออก! กองทัพของสองแคว้นได้บุกเข้าแคว้นเจียงแล้วขอรับ!”

เยี่ยฉวนหัวคิ้วขมวดมุ่น “เป็นไปได้อย่างไร?”

ชายสวมชุดดำพูดเสียงกร้าว “อาณาจักรต้าอวิ๋นเคลื่อนไหวมาสมทบด้วย” ในตอนนั้นเองเจียงจิ่วนำกำลังทหารม้าจำนวนหนึ่งออกจากประตูเมืองเมือง หญิงสาวดิ่งตรงมาทางเยี่ยฉวน “ข้าจะไปช่วยทางนั้น!” เยี่ยฉวนนิ่งงันไป

เป่ยเสี่ยวหู่ซึ่งได้ยินโดยตลอดพลันพูดขึ้นว่า “องค์หญิงเก้า ถ้าท่านไว้ใจ ข้าจะนำกองกำลังองครักษ์ดาบทมิฬและกองกำลังมัจจุราชตามท่านไปด้วยขอรับ!” เจียงจิ่วหันมามองที่คนพูดพลันนิ่งไปครู่หนึ่ง “ขอบใจมาก!”

จากนั้น นางจึงหันมาทางเยี่ยฉวน ขณะเดียวกันเยี่ยฉวนได้หันมาเผชิญหน้ากับหญิงสาว “คอยข้านะ!” องค์หญิงเก้าคลี่ยิ้ม “วางใจได้ ต่อให้ใกล้ตายข้าก็จะรอให้ได้เห็นหน้าและได้ยินเสียงของเจ้า ไม่อย่างนั้นข้าคงนอนตายตาไม่หลับ!”

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version