Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 97



HH

บทที่ 97 อุ้งเท้า! (ต้น)

หวาดวิตก!

ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าในใจของชายหนุ่มเวลานี้เต็มไปด้วยความหวาดวิตกเพียงใด!

เขาเคยได้รับการบอกกล่าวจากสตรีลึกลับ ว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนชั้นสองของหอคอยนั้นหาใช่สิ่งดี อาจจะเป็นปีศาจซึ่งยากจะต่อกร ถ้าเป็นแบบนั้นจริงละก็ ถ้างั้นชายหนุ่มก็คงไม่มีแม้แต่โอกาสจะต่อกรด้วยเป็นแน่

“ผู้อาวุโส?”

เยี่ยฉวนถอยหลังไปสองก้าว แววตาหวาดระแวงชำเลืองไปรอบบริเวณ “ผู้อาวุโส? อยู่หรือไม่ขอรับ?”

เงียบสนิทปราศจากเสียงตอบรับ

เห็นดังนั้นชายหนุ่มจึงหันหลังเพื่อกลับออกไปในทันที!

ในจังหวะนั้นเอง หอคอยเกิดแรงสะเทือนเล็กน้อย ฝีเท้าบนชั้นเหนือศีรษะพลันหยุดชะงัก ช่องทางขึ้นชั้นสองสงบนิ่งลงอย่างน่าประหลาด

เยี่ยฉวนรู้สึกสะดุ้งในใจ ร้องถามออกไปทันที “ผู้อาวุโส ท่านกำลังจะลงมางั้นหรือ?”

ทว่ายังคงไร้เสียงขานรับเช่นเคย!

ชายหนุ่มกำลังนึกจะถามออกไป พลันเศษกระดาษชิ้นหนึ่งปลิวละลิ่วลงมาจากทางขึ้นชั้นบน

กระดาษ!

เขานิ่งขึงอยู่ชั่วขณะ พอรู้สึกตัวกำลังขยับจะก้าวเท้าออกไป ทันใดนั้นเศษกระดาษพลันปลิวมาตกลงเบื้องหน้า มีรูปวาดรอยยิ้ม ทว่าด้านล่างรอยยิ้มกลับเป็นรอยประทับสองรอย ซึ่งดูแล้วคล้ายคลึงกับรอยเท้าแมว

ชายหนุ่มได้แต่ทำสีหน้างงงัน “……”

ฉับพลันเศษกระดาษอีกชิ้นลอยลงมาจากช่องทางขึ้นชั้นบน กระดาษชิ้นนี้ค่อยๆ ปลิวและตกตรงแทบเท้าของชายหนุ่ม ทว่าครานี้บนกระดาษกลับเป็นรูปโศกเศร้า และข้างท้ายหน้าเศร้ามีรอยประทับเท้าแมว

ทันใดนั้น มีกระดาษปลิวออกมาอีก ไม่ช้านัก มันก็ปลิวตกลงมาที่เบื้องหน้าของเยี่ยฉวน รูปที่ปรากฏใบหน้าร้องไห้ และด้านล่างประทับสองรอยเท้าแมวเช่นเดียวกัน

เยี่ยฉวนเงยหน้ามองไปยังช่องทางขึ้นชั้นสอง “ต้องการให้ช่วยหรือ?”

ขาดคำของชายหนุ่ม ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้นจากบนหลังคา

ชายหนุ่มยิ้มเฝื่อน “ถ้าเช่นนั้น ข้าคงช่วยท่านไม่ได้……”

วินาทีนั้นพลัน–

ตูม!

คราวนี้ทั้งชั้นล่างและชั้นบนของหอคอยแห่งเรือนจำเกิดอาการโยกไหวอย่างแรง พลังบางอย่างปะทะร่างชายหนุ่มกระเด็นไปทันที

เปรี้ยง!

ด้วยไม่ทันระวังตัว ร่างจึงลอยไปกระแทกกับฝาผนัง ชายหนุ่มถึงกับร้องโอดโอยในความรู้สึกราวกับแขนขากำลังจะหลุดออกจากร่าง!

ยังไม่ทันขยับลุกขึ้นยืน ปีศาจและวิญญาณพยาบาทก็ได้ปรากฏขึ้นบริเวณชั้นล่างของหอคอย เมื่อเห็นภาพของปีศาจ ชายหนุ่มพลันหน้าซืดเผือด เขารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและล่าถอยออกจากหอคอยแห่งเรือนจำ เหล่าภูตผีพรั่งพรูออกจากหอคอยไล่หลังชายหนุ่มที่วิ่งพรวดออกมาด้านนอก และในตอนนั้นเอง กระบี่ที่แขวนอยู่พลันบังเกิดแรงสั่นสะเทือนเบาๆ

ตูม!

ในเวลาไม่นาน บรรดาภูตผีที่พรั่งพรูก็พลันสลายไปในทันที หอคอยแห่งเรือนจำหยุดสั่นสะเทือนและกลับสงบนิ่งตามปกติ!

เยี่ยฉวนจับตาดูสภาพของหอคอยที่ค่อยกลับคืนสู่ปกติอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อรู้สึกวางใจจึงถึงกับถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะเขาจะรีบออกจากหอคอยแห่งเรือนจำทันทีโดยไม่ลังเล!

เมื่อกลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริง เยี่ยฉวนถอนใจเฮือกใหญ่ “เห็นทีต้องเร่งค้นหาเต๋า!”

ครานี้เป็นครั้งแรกที่ได้ประสบกับความน่าสะพรึงกลัวของหอคอยแห่งเรือนจำ “นี่เพียงชั้นที่สอง อะไรอีกที่อยู่บนชั้นสาม ยังมีชั้นสี่และชั้นอื่นอีกเล่า?”

“ข้าต้องค้นหาเต๋าให้เจอ!”

หลังจากสงบจิตสงบใจดีแล้ว เยี่ยฉวนจึงไปอาบน้ำชำระกาย ก่อนกลับไปที่ห้องพัก ชายหนุ่มเดินมาถึงทางเข้าสายตาจับภาพร่างเล็กๆ นั่งอยู่ที่เชิงบันไดหิน

ผู้นั้นคือน้องสาว เยี่ยหลิง!

เหมือนเคย ไม่ว่าพี่ชายจะออกไปนานสักเพียงใด เมื่อกลับมาถึงที่พักจะเห็นภาพของเยี่ยหลิงที่นั่งรอการกลับมาของเขาอยู่เสมอ!

เยี่ยฉวนเดินเข้ามาจนถึงตัวนาง เมื่อพบว่าเยี่ยหลิงนั่งรอจนหลับไปแล้ว เขาจึงค่อยอุ้มร่างนั้นอย่างแผ่วเบา พลันเยี่ยหลิงพลิกตัวโดยสัญชาตญาณเอียงศีรษะซบที่หน้าอก ยกแขนสวมกอดแน่น “ท่านพี่……”

ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ พาไปส่งที่พักของนาง ภายหลังจัดที่นอนให้น้องจนเรียบร้อยแล้ว ตนเองจึงกลับออกมาข้างนอกห้อง

ที่ปากทาง ปรากฏร่างของชายชราซึ่งไม่แน่ชัดว่ามาตั้งแต่เมื่อไร

อาจารย์ใหญ่จี้ร้องสั่ง “เดินเล่นกับข้า!”

พูดจบก็หันหลังเดินนำออกไปด้านนอก

เยี่ยฉวนจึงตามออกไป

ระหว่างเดิน ชายชรายกไหน้ำเต้าบรรจุสุราขึ้นดื่มเป็นครั้งคราว “เรื่องของสำนักกับสถานศึกษาฉางมู่เพียงยุติลงชั่วคราว อย่างไรก็ตามหากเจ้าคิดลงจากเขา จะต้องระมัดระวังให้มาก ตอนนี้สถานศึกษาฉางมู่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและกระหายที่จะแก้แค้น ทว่าพวกเขากลับต้องหยุดมือด้วยเพราะคำสั่งจากเบื้องบน แต่อย่างได้วางใจไป พวกเขาไม่เลิกราแน่นอน เพียงแต่พวกเขากำลังคอยการกลับมาของใครบางคน!

“คนที่ว่ามิใช่คนของสถานศึกษาฉางมู่หรือไร?” เยี่ยฉวนถามด้วยความข้องใจ

ชายชราพูดเสียงเรียบ “ถ้าพวกเขาไม่ใช่คนของฉางมู่ ยอดคนเหล่านี้คงไม่มาท้าต่อสู้ในวันนั้น บ่อยครั้งที่สถานศึกษาฉางมู่ไม่มีความเคลื่อนไหว ทว่าเมื่อใดที่พวกเขาตัดสินใจแล้ว นั่นคือศัตรูต้องหมดสิ้นไป!!”

เยี่ยฉวนนิ่งฟัง

อาจารย์ใหญ่พูดต่อไปอีกว่า “ในเมื่อข้ายังอยู่ สถานศึกษาฉางมู่ย่อมไม่กล้าส่งผู้กล้าแกร่งมาลอบสังหารเจ้า แต่อาจไม่จริงเสมอไป เพราะฉะนั้นเจ้าจะต้องระมัดระวังตัวเอง อย่าไปในที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต”

เยี่ยฉวนพยักหน้ารับคำ “เข้าใจแล้วขอรับ!”

ผู้เฒ่าจี้ถามทันทีว่า “อีกครึ่งเดือนเจ้าต้องไปเทือกเขาชายแดนใช่หรือไม่?”

ชายหนุ่มมองอย่างงงงัน “ท่านรู้?”

อาจารย์ใหญ่พยักหน้า “ในแคว้นเจียง ผู้ที่ได้รับอนุญาตมีน้อยคนนัก แม่นางอันมอบสิ่งนั้นให้แก่เจ้า ดูเหมือนว่านางจะเอาใจใส่เจ้าไม่น้อย”

ชายหนุ่มนิ่งงัน

ชายชราคู่สนทนาลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนเอ่ยต่อไปว่า “เจ้าหนุ่ม ทั้งเจ้าและแม่นางอันไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป คนของฉางมู่ชอบอยู่เหนือผู้อื่น ถึงแม้ว่าแม่นางอันประกาศตัดสัมพันธ์กับสถานศึกษาฉางมู่ พวกนั้นยังไม่กล้าแม้จะผายลม ต่อไปเจ้าจะได้เห็นความน่ากลัวของนาง”

ชายหนุ่มยังไม่เข้าใจ “ท่านต้องการบอกอะไรกันแน่?”

— จบตอน —

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version