Skip to content

A Will Eternal 873

บทที่ 873 เสี่ยวฉุน?

เวลานี้ในสมองของป๋ายเสี่ยวฉุนขาวโพลน ไม่มีภาพความคิดใดๆ ลอยขึ้นมา เขาไม่กล้าหวนนึกถึงอะไรอีกแล้ว ในสมองเขามีเพียงแค่ความคิดเดียว!

“ท่านอาหลี่…ต้องยังมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย…”

ในใจป๋ายเสี่ยวฉุนร้อนรน ทั้งยังมากด้วยความหวั่นวิตกรุนแรง ความหวาดหวั่นนี้ไม่ได้เกิดจากความกลัว แต่เกิดจากการที่เขาคิดไปคิดมาแล้วหวาดผวาว่าจะได้ยินหรือได้เห็นภาพที่ทำให้ตัวเองใจสลาย

ทั้งหมดนี้กลายมาเป็นความทุกข์ทรมานที่กระตุ้นให้ตบะของป๋ายเสี่ยวฉุนโคจรอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ดวงตาของเขายิ่งแดงก่ำ ความคลุ้มคลั่งของเขาพุ่งสูงเทียมฟ้า และพอทุกอย่างนี้ผสานรวมเข้าด้วยกันจึงกลายมาเป็นลมมรสุมที่พัดตะลุยให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี

สวบๆๆๆ!

ป๋ายเสี่ยวฉุนเพิ่มความเร็วมากขึ้นจนไต่ระดับไปถึงขีดสูงสุด แม้แต่เถี่ยตั้นเองก็ยังตามมาไม่ทัน พริบตาเดียวก็ถูกทิ้งระยะห่างไปไกล มีเพียงป๋ายเสี่ยวฉุนคนเดียวที่ห้อทะยานไปพร้อมเสียงอากาศระเบิดดังเกินฟ้าผ่าซึ่งสะท้อนกึกก้องอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน

ตูมๆๆ!

เสียงนี้ยิ่งนานก็ยิ่งดังดุเดือด เป็นเหตุให้ตระกูลของผู้ฝึกบำเพ็ญตน ตระกูลชาวบ้านทั่วไป หรือแม้แต่นครหลายแห่งที่อยู่บนพื้นดินต่างก็ได้ยินเสียงนี้กันหมด พวกเขาเงยหน้าขึ้นด้วยหัวใจที่แกว่งสะท้าน

ทว่ากลับมองไม่เห็นเงาร่างของป๋ายเสี่ยวฉุน ที่มองเห็นมีเพียงลายเส้นสีขาวซึ่งแหวกผ่านความว่างเปล่าคล้ายรอยแผลเป็นบนท้องฟ้าที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลังเท่านั้น!

และเสียงกึกก้องนี้ก็ทำให้พวกเขาแต่ละคนตัวสั่น อ้าปากหอบหายใจด้วยความตะลึง แถมคนไม่น้อยยังถึงขั้นร้องอุทานเสียงหลง

“นั่นมันเสียงอะไร!”

“ท้องฟ้า…ท้องฟ้าจะแตกแล้ว!!”

มองไปไกลๆ รอยแผลเป็นนั้นคล้ายรอยปริแตกขนาดใหญ่ยักษ์เส้นหนึ่งอย่างแท้จริง!!

ความเร็วของป๋ายเสี่ยวฉุนมีมากเกินไป

เมื่อเวลาล่วงผ่าน ไม่ถึงหนึ่งก้านธูป ป๋ายเสี่ยวฉุนที่พกพาเอาความเดือดแค้น ความร้อนรนซึ่งมาพร้อมกับพายุบ้าคลั่งเสียงดังครืนครั่นก็มองไกลๆ ไปเห็นสำนักธารมรรคาที่ตั้งอยู่…ท่ามกลางกลุ่มภูเขา!!

ประตูสำนักของสำนักธารมรรคาประกอบขึ้นจากยอดเขาเจ็ดแห่งที่มีสีสันต่างกัน!

เนื่องจากศึกก่อนหน้านี้ ทัพของทั้งสามฝ่ายแตกระส่ำเร็วเกินไปกะทันหันเกินไป ดังนั้นจึงไม่ใช่ทุกคนในสำนักธารมรรคาที่จะรู้เรื่องที่บุรพาจารย์ของพวกเขาถูกพิฆาตเรือนกายตอนอยู่ในสนามรบ ทว่าพอบุรพาจารย์ธารมรรคาหนีกลับมาถึงสำนักก็ยังมีคนส่วนหนึ่งที่รับรู้แล้ว ด้วยความตะลึงพรึงเพริดพวกเขาจึงเปิดค่ายกลใหญ่ปกป้องสำนักไว้รอนานแล้ว

ดังนั้นเวลานี้มองปราดเดียวป๋ายเสี่ยวฉุนจึงเห็นว่าบริเวณโดยรอบของสำนักธารมรรคามีม่านแสงพร่างพราวชั้นหนึ่งปกคลุมสำนักธารมรรคาไว้ภายใน เพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูภายนอก!

และคลื่นของม่านแสงนี้ก็เต็มไปด้วยพลานุภาพสยบ แค่มองก็รู้ว่าน่าครั่นคร้ามอย่างยิ่ง เพราะอย่างไรซะนี่ก็คือ…ค่ายกลใหญ่ของสำนักอันดับหนึ่งในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรแม่น้ำทงเทียนตอนกลางสายตะวันออก!

ทว่าต่อให้ค่ายกลนี้จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ยังไม่เหนือไปกว่าค่ายกลของกำแพงเมืองในปีนั้น ภายใต้ผนึกมิวางวายของป๋ายเสี่ยวฉุน ขนาดค่ายกลกำแพงเมืองเขายังลอดผ่านมาได้แล้ว กะอีแค่ค่ายกลของสำนักแม่น้ำตอนกลางแห่งหนึ่ง ต่อให้คนฟ้าจะเป็นคนสร้างด้วยตัวเอง แล้วจะอย่างไร!

ป๋ายเสี่ยวฉุนตาแดงก่ำ ความเร็วไม่เพียงแต่ไม่ลดน้อยลง กลับยิ่งเร็วมากขึ้นกว่าเดิม ท่ามกลางเสียงอึกทึกกึกก้อง พริบตานั้นเขาก็พุ่งเข้าไปในสำนักธารมรรคา และในสำนักธารมรรคาตอนนี้ก็มีนักพรตหลายหมื่นคนเฝ้ารักษาการณ์ และก็มีผู้แข็งแกร่งก่อกำเนิดสามคนรวมไปถึงรวมโอสถอีกไม่น้อยซึ่งหลังจากที่พวกเขาเห็นรอยปริแตกบนท้องฟ้าที่พุ่งมาตามเสียงแหวกอากาศก็พากันอึ้งงันไปครู่

“นั่นคืออะไร!”

“นี่…ท้องฟ้าแตกออกได้อย่างไร!!”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมรอยแตกนั่นถึงพุ่งมาหาค่ายกลของพวกเรา!!”

คนเหล่านี้ที่ต่อให้จะรวมก่อกำเนิดด้วยก็ยังไม่มีใครมองเห็นความเร็วของป๋ายเสี่ยวฉุนได้อย่างชัดเจน แล้วก็มองไม่เห็นร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนชัดๆ ที่พวกเขามองเห็นมีเพียงรอยแผลเป็นบนท้องฟ้าเส้นนั้นอย่างเดียว!

ทว่าชั่วขณะที่เสียงอุทานด้วยความตกใจของพวกเขาดังออกมา รอยแผลที่เกิดจากร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนซึ่งห้อทะยานมาก็พลันชนโครมลงบนค่ายกลใหญ่ของสำนักธารมรรคา ที่น่าแปลกใจคือค่ายกลนี้กลับไม่มีรอยสั่นไหวแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าไม่ได้ดำรงอยู่อย่างไรอย่างนั้น ปล่อยให้ป๋ายเสี่ยวฉุนทะลุทะลวงเข้าไปโดยที่ไม่มีการสกัดกั้นใดๆ!

นี่ก็คือพลังของผนึกมิวางวาย!

วินาทีที่เขาลอดทะลุไปได้นั้น เงาร่างของเขาก็ชนโครมลงบนยอดเขาหนึ่งในสำนักธารมรรคาทันที เสียงกัมปนาทที่ทำเอาท้องฟ้าของที่แห่งนี้บิดเบือน แผ่นดินสั่นไหวก็พลันดังสะเทือนเลือนลั่นปฐพี

ตูมๆๆ!

ยอดเขานั่นถึงขั้นพังถล่มลงมาครึ่งหนึ่ง เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนร่วงกราวลงมาในชั่วพริบตา นักพรตหลายหมื่นคนในสำนักธารมรรคาแตกตื่นรีบถอยกรูดหลบห่าง และเวลานี้เอง พวกเขาถึงมองเห็นอย่างชัดเจนว่ากลางอากาศเหนือยอดเขาที่พังถล่มแห่งนั้นมีเงาร่างหนึ่งเผยกายขึ้นมา!

เงาร่างนี้ยืนนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น ทว่าความว่างเปล่ารอบกายของเขากลับเกิดคลื่นกระเพื่อมซัดออกมาเป็นวง ทั้งยังมีน้ำวนพายุกระหน่ำที่คล้ายจะกวาดล้างโลกทั้งใบซึ่งระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง

ภาพเหล่านี้ทำให้ลูกศิษย์ทุกคนของสำนักธารมรรคาอ้าปากหอบหายใจดังเฮือก แต่ละคนตัวสั่นระริก ขณะเดียวกันพวกนักพรตก่อกำเนิดก็เริ่มตึงเครียด แต่จะอย่างไรที่นี่ก็คือถิ่นที่ตั้งของสำนักธารมรรคา ต่อให้จะฝืนใจแค่ไหนพวกเขาก็ยังต้องลงมือ ทันใดนั้นแสงของเวทอาคมมากมายจึงพลันทะยานขึ้นมาจากพื้นดิน ตรงดิ่งเข้าหาป๋ายเสี่ยวฉุน

อีกทั้งเวลานี้ในสำนักธารมรรคายังมีเสาลำแสงที่น่าตะลึงหลายต้นซึ่งระเบิดตูมออกมาจากยอดเขาแห่งอื่นแล้วยิงสาดเข้าใส่ป๋ายเสี่ยวฉุน

“ไสหัวไป!!” ป๋ายเสี่ยวฉุนคำรามดังลั่น มือทั้งคู่พลันโบกอย่างแรง ทำให้ลมพายุรอบกายเขาซัดครืนครั่นออกไปแปดทิศ ปานประหนึ่งคลื่นพิโรธที่ถาโถม พริบตาเดียวก็ปะทะและซัดตะลุยให้เวทคาถาและลำแสงเหล่านั้นแตกทลายพังราบเป็นหน้ากลอง ยังไม่สิ้นสุด ลมพายุนี้ยังคงกวาดตะลุยไปสี่ทิศอย่างไม่หยุดยั้ง

ชั่วเวลาเพียงครู่เดียว ฐานที่ตั้งของสำนักธารมรรคาก็พลันสั่นคลอน ลูกศิษย์จำนวนมากกระอักเลือดกันอย่างบ้าคลั่ง รีบถอยกรูดออกห่างด้วยความตะลึงลานหวาดผวา ทว่าเวลาเดียวกันกับที่พวกเขาก้าวถอยนั้นเอง อำนาจจิตของป๋ายเสี่ยวฉุนได้ระเบิดออกมาแล้ว พลังอำนาจจิตของเขารุนแรงเกินกว่าพายุคลั่งเมื่อครู่เสียอีก พริบตาเดียวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งสำนักธารมรรคา

ต่อให้เป็นพื้นที่ต้องห้าม ต่อให้มีค่ายกลขัดขวางก็ยังมิอาจต้านทานอำนาจจิตของป๋ายเสี่ยวฉุนได้ และบัดนี้เขาก็พลันสัมผัสได้ถึงปราณของหลี่ชิงโหวที่ลอยมาจาก…จุดลึกใต้ดินของสำนักธารมรรคา!

จุดลึกใต้ดินของสำนักธารมรรคามีคุกใต้ดินอยู่แห่งหนึ่ง ในคุกแห่งนี้มีเชลยศึกของสำนักธารมรรคาจำนวนไม่น้อยที่ถูกกักขังเอาไว้ หนึ่งในนั้นเวลานี้กำลังหมดสติ ลมหายใจแผ่วเบารวยรินเต็มที เขาก็คือ…หลี่ชิงโหว!

เมื่อสัมผัสได้ว่าหลี่ชิงโหวยังมีชีวิตอยู่ ป๋ายเสี่ยวฉุนก็คลายใจลงได้ในที่สุด ตลอดทางมานี้ความตึงเครียดของเขาพุ่งสูงถึงขีดสุด ทว่าไม่นานเมื่อเขาสังเกตเห็นบาดแผลของหลี่ชิงโหว ไฟโทสะของป๋ายเสี่ยวฉุนก็ถูกจุดให้ลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง ไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาก็พลิ้วกายออกมาแล้วปล่อยหมัดต่อยลงบนพื้นดินที่ตั้งของสำนักธารมรรคาอย่างเหี้ยมหาญ!

เสียงกัมปนาทแหวกฟ้าผ่าดินทำเอาพื้นดินสั่นสะเทือน ก่อนที่รอยปริแตกจำนวนมากจะปรากฏขึ้นพร้อมพลังโจมตีที่ม้วนตลบร่างของลูกศิษย์รอบด้านให้ปลิวลิ่วไปไกล ในสมองของพวกเขายังมีเสียงอื้ออึงเมื่อครู่นี้ดังสะท้อนไม่จางหาย ความหวาดกลัวและตะลึงพรึงเพริดก็ยิ่งแผ่อวลไปทั่วหัวใจของพวกเขา

“คนผู้นี้คือใคร!!”

“เขาคือป๋ายเสี่ยวฉุน เป็นเขาที่…ทำให้สามคนฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ หนึ่งตาย หนึ่งพิการ หนึ่งหนี!!”

“สมควรตายนัก เขามาที่นี่ทำไม…”

ขณะที่ทุกคนในสำนักธารมรรคาพากันตัวสั่น

เมื่อรอยปริแตกบนพื้นดินปรากฏขึ้น ทันใดนั้นยอดเขาเจ็ดลูกของสำนักธารมรรคาที่มีสีไม่ซ้ำกันซึ่งพอลูกแรกถูกป๋ายเสี่ยวฉุนชนจนพังถล่มไปแล้ว

ตอนนี้ก็เหมือนว่าได้ลามมายังลูกที่สอง ทำให้มันพังทลาย เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดกระจายพุ่งชนไปทั่วสำนักธารมรรคา

และตอนนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนก็มองออกแล้วว่าที่ตั้งของสำนักธารมรรคามีความมหัศจรรย์ไม่น้อย พื้นดินของสถานที่แห่งนี้ลึกหนาอย่างถึงที่สุด และได้เชื่อมโยงเข้ากับภูเขาเจ็ดลูกที่โอบล้อมอยู่รอบด้าน มีเพียงภูเขาเจ็ดลูกพังทลายลงเท่านั้นถึงจะทำให้แผ่นดินของที่นี่ระเบิดออกได้

แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนไม่มีอารมณ์มาทำลายภูเขาที่เหลืออยู่อีกห้าลูกทีละลูก เขาจึงพลันทำมุทรา แผดเสียงคำรามแล้วร่ายใช้คาถาคนขุนเขา

ทันใดนั้นก้อนหินรอบด้านที่ปลิวว่อนก็พุ่งมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง ครั้นจึงกลบทับลงบนร่างของป๋ายเสี่ยวฉุน ประกอบกันขึ้นเป็นมนุษย์หินร่างใหญ่ยักษ์ตนหนึ่ง!

ใบหน้าของมนุษย์หินตนนี้ก็คือใบหน้าของป๋ายเสี่ยวฉุน พอร่างประกอบเสร็จเขาก็ไม่มัวรีรอ ง้างหมัดที่สองต่อยลงไปบนพื้นดินพร้อมตะโกนดังก้อง พอหมัดนี้ร่วงลง รอยแตกบนพื้นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แรงโจมตีที่พวยพุ่งขึ้นมาก็ยิ่งหนักหน่วง และคราวนี้ยอดเขาห้าลูกที่เหลืออยู่กลับมีสองลูกที่พังทลายลงมาติดต่อกัน แปดทิศมีแต่เสียงฮือฮาแตกตื่นดังระงม ลูกศิษย์หลายหมื่นคนของสำนักธารมรรคายามนี้บาดเจ็บสาหัสสภาพน่าเวทนา ไม่มีใครกล้าอยู่ในสำนักอีกต่อไป ทุกคนแตกฮือหนีกระเจิงกันไปรอบด้านอย่างขวัญหนีดีฝ่อ

ทว่าวินาทีที่พวกเขาเผ่นหนีไปนั้นเอง เสียงคำรามของป๋ายเสี่ยวฉุนที่ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสีกลับดังขึ้นมาอีกครั้ง ตามมาด้วยหมัดที่สามของเขาซึ่งต่อยตูมลงไปบนพื้น หมัดนี้เหมือนหินอุกกาบาตขนาดใหญ่ยักษ์ที่หล่นลงมาจากฟ้าแล้วกระแทกลงบนพื้นดินที่เดิมทีก็เต็มไปด้วยรอยแตกระแหงมากมาย

ครืนๆๆ!

เสียงคราวนี้ดังเกินกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา พริบตาเดียวภูเขาสามลูกที่เหลืออยู่ก็ถล่มยวบพร้อมกัน สำนักธารมรรคา…แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ!!

นับตั้งแต่ที่ป๋ายเสี่ยวฉุนปรากฏตัวจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหกสิบลมหายใจ!!

และเวลานี้แผ่นดินก็ได้ระเบิดแตกอย่างสมบูรณ์ เผยให้เห็นเป็นหลุมลึกขนาดมหึมาที่ยุบลงไปด้านล่าง!

เบื้องใต้หลุมนี้ก็คือที่ตั้งคุกใต้ดินของสำนักธารมรรคา!

ไม่มีหยุดยั้งแม้แต่เสี้ยวนาที ชั่วพริบตาที่ต่อยให้แผ่นดินระเบิดแตกได้ ร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนที่ขยับวูบหนึ่งก็หายวับไปทันที พอปรากฏตัวอีกครั้งก็มาอยู่กลางคุกใต้ดิน มาอยู่ในห้องขังที่กักตัวหลี่ชิงโหวเอาไว้แล้ว!

หลี่ชิงโหวในเวลานี้กำลังนอนหมดสติ แต่ดูเหมือนว่าเสียงจากข้างนอกจะดังเกินไป เขาจึงลืมตาขึ้นอย่างอ่อนล้า ลมหายใจแผ่วเบา ชั่วขณะที่มองเห็นป๋ายเสี่ยวฉุน เขาก็ดูอึ้งตะลึงไปอย่างเห็นได้ชัด

“เสี่ยวฉุน?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version