ตอนที่ 485
ร่างจำแลงโลหิตถือกำเนิด
กลิ่นอายซึ่งทำให้ แม้แต่เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามของเผ่าห้าพิษก็ยังต้องตกตะลึง เต้นไปมาอย่างบ้าคลั่งจากลูกทรงกลมโลหิต อย่างน่าประหลาดใจ พวกมันใช้ทุกสิ่งที่มีทั้งหมดออกมา ใช้พลังความศรัทธาทั้งหมดที่พวกมันสามารถรวบรวมได้ ไม่ออมรั้งไว้แม้แต่นิดเดียว ขณะที่พวกมันทำการปิดล้อม เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผนึกลูกทรงกลมโลหิต
“พวกเราต้องไม่ปล่อยให้มันออกมา! อย่าให้มันออกมาได้!”
ผู้เฒ่าสูงสุดที่เหลือของเผ่าห้าพิษก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ขณะที่พวกมันพุ่งตรงไปยังลูกทรงกลมโลหิตที่กำลังหดตัวลง พวกมันห้าคนฝ่าเข้าไป และเต็มไปด้วยความประหลาดใจและหวาดกลัว เริ่มส่งพลังเข้าไปช่วยการผนึก
ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งเจ็ดคนรวมพลังกัน และสามเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ช่วยกันส่งพลังไปช่วยพลังผนึกของลูกทรงกลมโลหิต
กลุ่มคนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบๆ ต่างก็ตกอยู่ในความบ้าคลั่ง ขณะที่พวกมันพยายามที่จะฝ่าเข้าไปด้วยเช่นกัน กลุ่มคนเผ่าห้าพิษต่อสู้กลับมาอย่างหมดท่า ทำให้การต่อสู้เริ่มดุเดือดรุนแรงมากขึ้น
ถึงแม้ว่าพลังที่แข็งแกร่งมากที่สุดของเผ่าห้าพิษ ได้มุ่งเน้นไปที่ผนึกลูกทรงกลมโลหิต แต่มันก็ยังคงหดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด มันก็มีความกว้างเพียงแค่หนึ่งจ้าง ในตอนนี้ วิญญาณของกลุ่มคนเผ่าห้าพิษทั้งหมดถูกขับไล่ออกไปหมดแล้ว ใบหน้าเวทเหล่านั้นมีสีหน้าเจ็บปวดทุกข์ทรมานขณะที่พวกมันกระจัดกระจายออกไปในบริเวณนั้น
ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือ กลิ่นอายอันน่ากลัวซึ่งได้ระเบิดออกมาจากลูกทรงกลมโลหิตนั้น มีความแข็งแกร่งจนทำให้ ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งเจ็ดต้องเริ่มหอบหายใจออกมาในทันที ใบหน้าพวกมันซีดขาวขณะที่กลิ่นอายนั้นกระแทกลงมาที่พวกมัน ทำให้เกิดเป็นเสียงกึกก้องดังเต็มอยู่ในจิตใจ และพวกมันก็กระอักโลหิตออกมา
ใบหน้าของสามเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าให้ขยายความมากไปกว่านั้นก็คือ…ร่างของพวกมันเริ่มสั่นสะท้าน!
ในตอนนี้ไม่มีวิญญาณของคนในเผ่าห้าพิษหลงเหลืออยู่บนลูกทรงกลมโลหิตอีกต่อไป เพียงชั่วพริบตา สติสัมปชัญญะทั้งหมดที่อยู่ภายในลูกทรงกลมนั้นหายไป แทนที่ด้วยเวทของเซียนโลหิต ในเวลาเดียวกันนั้น มันก็หดเล็กลงไปจนกลายร่างเป็นคน!
คนผู้นี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเมิ่งฮ่าว!
“สังหารมัน!” หัวหน้าเผ่าห้าพิษแผดร้องคำรามออกมาสุดเสียง ดูเหมือนใกล้จะเริ่มคลุ้มคลั่งไปแล้ว ตอนนี้มันยกเลิกความพยายามที่จะปิดผนึก แต่ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์อันรุนแรงออกมาโจมตีไปยังเงาร่างสีโลหิตนั้น
คนอื่นๆ ก็กระทำเช่นเดียวกัน เสียงระเบิดดังก้องออกมา ขณะที่สามเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์โจมตีมา แต่เงาร่างสีโลหิตนั้นไม่แม้แต่จะมีปฏิกิริยาใดๆ ทำให้ใบหน้าของหัวหน้าเผ่าห้าพิษเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“เมิ่งฮ่าวผู้นี้ได้กลั่นสกัดโลหิตสวรรค์! จริงๆ แล้วมัน…มันได้กลั่นสกัดหยดโลหิตนี้จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งโลหิต!!”
“นั่นเป็นไปไม่ได้! โลหิตสวรรค์นั้นพวกเราได้มาจากหนึ่งในบรรพบุรุษโดยบังเอิญ พลังของมันประกอบด้วยความน่ากลัวอย่างถึงที่สุด ผู้ฝึกตนจะหลอมรวมมันได้อย่างไร…? ตลอดหลายปีมาแล้ว ที่คนในเผ่าเหล่านั้นพยายามที่จะหลอมรวมเข้ากับมันต้องตายไป! สิ่งที่พวกเราทำได้ดีที่สุดก็คือใช้เวทควบคุมมัน!”
หัวหน้าเผ่าและคนอื่นๆ รู้สึกจิตใจหมุนเคว้งคว้าง และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
ที่น่าเจ็บปวดใจมากไปกว่านั้นก็คือ นั่นเป็นของวิเศษอันล้ำค่าของเผ่าพวกมัน เป็นอาวุธลับที่ใช้ทำลายศัตรู ได้ถูกกลั่นสกัดจนสำเร็จเรียบร้อย ราวกับว่าพวกมันได้ยื่นส่งสมบัติอันล้ำค่านี้มาเป็นของกำนัล ทำให้พวกมันรู้สึกเดือดแค้นอย่างน่าเหลือเชื่อ
นี่เป็นจุดวิกฤตสำหรับเมิ่งฮ่าว ในการกลั่นสกัดร่างจำแลงโลหิต ทันใดนั้นเขาก็มีความรู้สึกอย่างรุนแรงว่าร่างจำแลงโลหิตนี้ แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงจากร่างจำแลงโลหิตอื่นๆ ที่เขาเคยสร้างขึ้นมาจากในอดีต พวกมันราวกับเป็นแสงหิ่งห้อย และร่างจำแลงโลหิตนี้เหมือนกับเป็นแสงจันทร์อันเจิดจ้า!
“ร่างจำแลงโลหิตตระกูลจี้นี้ช่างแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง…” ด้วยระดับพลังอันน่าเหลือเชื่อเช่นนั้น ไกลเกินกว่าที่เมิ่งฮ่าวจะคาดคิดได้ ในตอนนี้ เขาตรวจพบได้ถึงสัญญาณอันเลือนลาง ขณะที่เขาทำการกลั่นสกัดต่อไป เจตจำนงของโลหิตค่อยๆ ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ
นี่เป็นหนึ่งในหน้าที่ของเวทเซียนโลหิต จากเงื่อนไขบางอย่างที่เมิ่งฮ่าวไม่ค่อยเข้าใจมากนัก มันสามารถจะบังคับให้พลังของสายโลหิตถูกปิดบังซ่อนเร้นอยู่ภายในโลหิตนี้!
ยิ่งโลหิตเก่าแก่โบราณมากเท่าใด ความบริสุทธิ์ของพลังสายโลหิต ก็จะยิ่งทำให้ร่างจำแลงโลหิตมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น!
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขารู้ว่าสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำในตอนนี้ก็คือ หาบางสิ่งที่จะเป็นแกนกลางของร่างจำแลง ถ้าแกนกลางนั้นไม่อาจจะทำลายลงไปได้ ร่างจำแลงนั้นก็จะไม่ถูกทำลายไป!
ร่างจำแลงโลหิตที่เมิ่งฮ่าวสร้างขึ้นมาในอดีตมีหน้าตาหยาบกระด้าง และถูกกลั่นสกัดด้วยการใช้ผิวหนังของผีโต้ง แต่พวกมันก็ยังมีประโยชน์และสำคัญต่อเมิ่งฮ่าวเป็นอย่างมาก
ความสำเร็จในการกลั่นสกัดร่างจำแลงโลหิตนี้ และระดับพลังอันน่ากลัวของมัน เป็นสิ่งที่แม้แต่ข้อมูลที่เกี่ยวกับเวทเซียนโลหิตก็ยังไม่มีกล่าวถึง แม้แต่เซียนโลหิตก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีบางสิ่งเช่นนี้เกิดขึ้น แม้แต่เซียนโลหิตก็ไม่เคยจะสร้างร่างจำแลงเช่นนี้ออกมาได้…ร่างจำแลงโลหิตตระกูลจี้
นอกจากนี้ เซียนโลหิตยังได้ดูถูกกลุ่มคนตระกูลจี้ธรรมดาทั่วไป เป้าหมายหลักของมันก็คือการกลั่นสกัดโลหิตที่เป็นลูกหลานโดยตรงของตระกูลจี้ แม้ร่างจำแลงโลหิตนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาจากโลหิตของลูกหลานตระกูลจี้โดยตรง แต่ก็ไม่อาจจะเปรียบเทียบได้กับร่างจำแลงตระกูลจี้ซึ่งกำลังจะปรากฎขึ้นมานี้!
นั่นเป็นเพราะว่าหนึ่งในหยดโลหิตที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นร่างจำแลงนี้ มาจากผู้ถูกเลือกของตระกูลจี้ อีกหนึ่งหยดมาจากจี้สือจิ่วผู้เก่าแก่โบราณ หยดสุดท้าย เป็นหยดที่ทำให้ร่างจำแลงโลหิตนี้มีความแข็งแกร่งอย่างน่ากลัว…เป็นโลหิตดั้งเดิมที่แม้แต่จี้สือจิ่วก็ไม่อาจจะดูออกว่าเป็นใคร มันบอกได้เพียงอย่างเดียวว่า หยดโลหิตนี้มาจากครั้งบรรพกาล และมีความแข็งแกร่งเท่ากับหยดโลหิตบรรพบุรุษดั้งเดิมของมัน!
เป็นเพราะหยดโลหิตสุดท้ายนี้ จึงได้ทำให้ร่างจำแลงโลหิตนี่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง อันที่จริง ถ้าเมิ่งฮ่าวสามารถได้รับหยดโลหิตเพิ่มขึ้นในวันข้างหน้าอีกหกหยด และหลอมรวมพวกมันเข้าไปในร่างจำแลงโลหิตนี้ เขาก็จะสามารถสร้างโลหิตศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้โดยสมบูรณ์ ในกรณีนั้น พลังของการปลุกบรรพบุรุษให้ตื่นขึ้นมาก็จะถูกปลดปล่อย และบรรพบุรุษตระกูลจี้อันลึกลับก็จะปรากฎขึ้น!เมื่อเวลานั้นมาถึง ก็อาจจะสามารถจดจำคนผู้นี้…และบ่งชี้ถึงตัวต้นที่แท้จริงของมันได้!
เสียงกึกก้องดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่พลังอันสูงสุดของเผ่าห้าพิษถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อโจมตี เงาร่างสีโลหิตซึ่งปกคลุมไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าวกำลังบิดตัวไปมาด้วยท่าทางที่แปลกๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ระดับไหนมาโจมตีมัน ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งเงาร่างนี้จากการก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ได้
เงาร่างโลหิตนั้นค่อยๆ มีความละเอียดมากขึ้นอย่างช้าๆ รูปร่างหน้าตาของเมิ่งฮ่าวค่อยๆ เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เพียงชั่วพริบตา แสงสีโลหิตฉับพลันนั้นก็เริ่มขยายออกไป ราวกับมีสายน้ำไหลออกไปจากเงาร่างนั้น
สีหน้าของหัวหน้าเผ่าห้าพิษสลดลง มันรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันน่าตกใจ ซึ่งในตอนนี้กำลังถูกสกัดกั้นจากเงาร่างสีโลหิตที่ห้อมล้อมอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว
“ไม่ต้องยั้งมือใดๆ สังหารมัน!” หัวหน้าเผ่าห้าพิษแผดเสียงออกมา มันขยับสองมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ ทันใดนั้นร่างมันก็แห้งเหี่ยวลงไปเล็กน้อย แต่กลับกัน กลุ่มหมอกห้าสีจู่ๆ ก็ปรากฎขึ้น ม้วนตัวตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
สีหน้าของผู้เฒ่าสูงสุดเปลี่ยนไป ขณะที่มันร่ายเวทด้วยมือขวาอย่างรวดเร็ว ภาพศักดิ์สิทธิ์บนร่างของมันปรากฎขึ้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่ผสมรวมกันของสิ่งมีชีวิตห้าพิษทั้งหมด พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวในทันที
ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งอีกห้าคนที่เหลือ ต่างก็ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์อันแข็งแกร่งที่สุดของพวกมันออกมา
สำหรับสามเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ ร่างพวกมันทันใดนั้นก็เริ่มหดเล็กลง จนกระทั่งแต่ละตัวมีขนาดน้อยกว่าครึ่งจ้าง ซึ่งก็หมายความว่าร่างของพวกมันในตอนนี้มีความลึกซึ้งและบริสุทธิ์มากขึ้น พวกมันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ว่าแสงสีโลหิตที่กำลังออกมาจากร่างเขา เป็นบางสิ่งที่มีความแข็งแกร่งอย่างน่าตกใจ ซึ่งสามารถจะกำจัดและบดขยี้ได้แม้แต่พวกมัน
พลังทำลายล้างเช่นนั้นช่างน่าตกใจยิ่งสำหรับพวกมัน และพวกมันก็รับรู้โดยสัญชาตญาณว่า จำเป็นต้องทำลายไปก่อนที่มันจะปรากฎขึ้นอย่างสมบูรณ์ เป็นลางสังหรณ์ที่พุ่งขึ้นจากภายในจิตวิญญาณของพวกมัน เมื่อไหร่ที่แสงสีโลหิตนั้นมีรูปร่างหน้าตาโดยสมบูรณ์ ก็ไม่สำคัญว่าพวกมันทั้งสามจะเป็นเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ตรงเบื้องหน้าของพลังโจมตีเช่นนั้น พวกมันก็จะถูกบดขยี้ราวกับเป็นหญ้าแห้งหรือกิ่งไม้ผุ
นี่เป็นลางสังหรณ์ตามสัญชาตญาณ ที่รับรู้ได้ถึงความน่ากลัว!
แต่ในขณะที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทของพวกมันกระแทกลงไป แสงสีโลหิตซึ่งปกคลุมไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นก็หดเล็กลงไปรวมตัวเป็นจุดสีแดงอยู่บนหน้าผาก ดวงตาเมิ่งฮ่าวทันใดนั้นก็เปิดขึ้นมาในทันที
ทันทีที่สองตาเขาลืมขึ้นมา จุดแสงสีโลหิตที่อยู่บนหน้าผากก็ลอยออกมา มันส่งเสียงกู่ร้องแหลมเล็กอย่างน่าตกใจออกมา ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นเสียงแผ่กระจายออกไป เสียงปังได้ยินมาในทั่วทุกทิศทาง ขณะที่ผนึกทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนั้นแตกกระจายออกไป
จุดสีแดงโลหิตที่กำลังเรืองแสงอยู่ ทันใดนั้นก็กลายเป็นลำแสงสีโลหิต พุ่งตรงไปยังเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์อสรพิษ เซิ่งจู่อสรพิษพุ่งถอยหลังไปในทันที มีท่าทางตื่นตระหนก และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง สั่นสะท้านไปทั้งตัว ความหวาดกลัวพุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ กวาดผ่านไปทั่วร่างราวกับเป็นน้ำป่าอันเชี่ยวกราก เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับลำแสงสีโลหิตนี้ ก็ราวกับว่ามันได้สูญเสียพลังในการต่อสู้กลับไปทั้งหมด ราวกับว่าในความหวาดกลัวนี้ มันได้สูญเสียความเชื่อมั่นทั้งหมดไป!
ลำแสงสีโลหิตเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ขณะที่มันกระแทกเข้าไป และจากนั้นก็พุ่งทะลุผ่านเซิ่งจู่อสรพิษไป
ทั่วทั้งร่างของเซิ่งจู่อสรพิษกลายเป็นสีซีดขาว ขณะที่แก่นแท้, พลังชีวิต, โลหิต ทุกสิ่งทุกอย่างของมันถูกเงาร่างสีโลหิตดูดออกไปในทันที
พลังระดับนี้ราวกับเป็นอำนาจแห่งสวรรค์ ถ้ามันต้องการให้เจ้าตาย เจ้าก็ไร้ทางเลือกนอกจากต้องตายไปเท่านั้น ร่างจำแลงโลหิตนี้เป็นร่างจำแลงโลหิตตระกูลจี้ และตระกูลจี้ก็เป็นสวรรค์ของจิ่วซานไห่! (เก้าขุนเขาทะเล)
ถ้ามันต้องการจะนำทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะต่อต้านอย่างไรก็ไร้ผลใดๆ สำหรับตระกูลจี้ ใครก็ตามที่ไม่ใช่คนในตระกูลจี้ ก็จะเป็นพวกนอกรีต!
ยกตัวอย่างเช่น เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์นี้ เดิมทีมันมาจากสำนักเซียนอสูรโบราณ ซึ่งเป็นสำนักที่…ตระกูลจี้ได้ใช้กำลังขุดรากถอนโคนไป!
การตายไปของเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ราวกับเป็นเสียงสายฟ้าฟาด ทำให้จิตใจของผู้ฝึกตนเผ่าห้าพิษสั่นสะท้านขึ้นในทันที! สีหน้าของหัวหน้าเผ่า, ผู้เฒ่าสูงสุด และคนอื่นทั้งหมดสลดลง!
“เป็นไปไม่ได้!!”
“เซิ่งจู่…เซิ่งจู่ต้าเหรินถูกกลืนกินไป…”
“นี่คือ…นี่คือ…” ในขณะที่ซากศพของเซิ่งจู่อสรพิษเริ่มตกลงไปบนพื้น ก็มีกลุ่มคนเผ่าห้าพิษที่อยู่รอบๆ นับหมื่นกระอักโลหิตออกมา และเริ่มส่งเสียงร้องไห้ออกมา ภาพศักดิ์สิทธิ์บนร่างพวกมันเริ่มจางหายไป และพื้นฐานฝึกตนก็เริ่มตกลงไป
แม้แต่ท่ามกลางผู้เฒ่าสูงสุดมากกว่าสิบคนก็กระอักโลหิตออกมา และเริ่มตัวสั่นสะท้าน สีหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เซิ่งจู่…แตกดับไปแล้ว!!”
ขณะที่ลำแสงสีโลหิตกวาดผ่านไปทั่วในอากาศ เสียงแปลกๆ อันน่าตกใจก็ดังก้องออกมา เป็นเสียงที่คล้ายกับมีบางอย่างกำลังถูกกลืนลงไป เสียงที่ดังออกมานี้ทำให้ทุกคน แม้แต่สองเซิ่งจู่ที่เหลือได้หยุดการโจมตีใดๆ ในทันที และเริ่มล่าถอยหลบหนีไปในฉับพลัน
ใบหน้าสีโลหิตทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้นรอบๆ กายเมิ่งฮ่าว เสียงกระหึ่มกึกก้องได้ยินมา เขาถอยไปด้านหลังสองสามก้าว จากนั้นก็ใช้การเคลื่อนย้ายทางไกลย่อย ไปปรากฎอยู่ในที่ห่างไกลในทันที จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าไปยังกลุ่มคนเผ่าห้าพิษที่ปิดล้อมอยู่
“เซี่ยเซิน…(ร่างจำแลงโลหิต)” เขากล่าวเสียงราบเรียบ “เจ้ากินต่อไป” รังสีสังหารสาดประกายอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว ลำแสงสีโลหิตส่งเสียงแผดร้องออกมา จากนั้นก็รวมตัวกันเป็นเงาร่าง
มันมีรูปร่างเหมือนกับเมิ่งฮ่าว ยกเว้นว่ามันกระจายแสงสีโลหิตออกมา และมีดวงตาเป็นสีแดงจ้า ร่างของมันแวบขึ้นขณะที่พุ่งไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ตรงไปยังสองเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือ
สองเซิ่งจู่ถอยไปด้านหลังตามสัญชาตญาณ เคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่โชคร้ายถึงแม้พวกมันจะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วกว่านี้ ก็ไม่อาจจะรวดเร็วกว่าร่างจำแลงโลหิตตระกูลจี้
“สัตว์ปีศาจ…” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนขึ้นเป็นเสียงดังก้องออกไป “ข้าคือปรมาจารย์อสูรของพวกเจ้า วันนี้ พวกเจ้าจะได้เพลิดเพลินกับการสังหาร!” ฝูงสัตว์ปีศาจแปดหมื่นตัวของเขา ถูกสังหารไปเกือบครึ่ง ในตอนนี้ยังมีเหลืออยู่เพียงแค่สี่หมื่นตัว พวกมันทั้งหมดเงยหน้าขึ้นส่งเสียงแผดร้องคำรามที่ทำให้สวรรค์สั่นสะท้านออกมา ปราณอสูรอันไร้ขอบเขตฉับพลันนั้นก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว และจากนั้นก็กระจายออกถูกสัตว์ปีศาจดูดซับเข้าไป นอกจากนี้สัตว์ปีศาจของเผ่าห้าพิษจู่ๆ ก็เริ่มสั่นสะท้านและส่งเสียงร้องครวญครางอย่างยอมจำนนออกมา
ภายใต้การโต้กลับโดยฉับพลันเช่นนี้ ผู้ฝึกตนเผ่าห้าพิษต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายขึ้นโดยสิ้นเชิง
“จงศรัทธาในตัวข้า! คนในเผ่าใดๆ ก็ตามที่สักการะบูชาข้า ข้าก็จะเป็นเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้า ใครก็ตามที่ให้ความศรัทธาในตัวข้า มีภาพศักดิ์สิทธิ์ของข้า…เผ่าห้าพิษคือศัตรูตัวฉกาจของพวกเรา ถึงเวลาที่จะต้องจบมันลงแล้ว!” เขาโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้ต้นชิงมู่ปรากฎขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ ทะเลแห่งเปลวไฟพุ่งทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า หยดน้ำฝนสีทองกระจายออกไป ดินยะเยียบเริ่มแช่แข็งทุกสรรพสิ่ง!
กลุ่มคนที่เหลือของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์หลายพันคนมีดวงตาเป็นสีแดงจ้า กลายเป็นความบ้าคลั่งโดยสิ้นเชิงเมื่อพวกมันพุ่งตรงไปยังกลุ่มคนเผาห้าพิษที่กำลังหวาดกลัว!
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายด้วยความดุร้ายออกมา และเสียงของเขาก็ดังก้องออกไปราวกับเป็นเสียงฟ้าผ่า ราวกับสามารถแยกสวรรค์หั่นปฐพี “สังหาร!”