ตอนที่ 992
ข้ายังไม่พ่ายแพ้!
เมื่อฟางเว่ยได้ยินเสียงอันเยือกเย็นของเมิ่งฮ่าว มันก็เงยหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นอย่างโหยหวน ขณะที่มันขยับมือร่ายเวท ทำให้กระแสน้ำวนสีดำและขาวหมุนวนไปมาอย่างรวดเร็ว และเริ่มเคลื่อนที่ตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
ในชั่วพริบตากระแสน้ำวนก็มีความกว้างเกือบหนึ่งร้อยจ้าง หมุนวนไปมาอย่างรวดเร็วจนกระทั่งสีดำและสีขาวหลอมรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นสีเทาไป คล้ายกับเป็นความตาย แต่ภายในความตายนั้นก็ยังคงมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
นั่นคือ…การเกิดใหม่!
ฟางเว่ยระเบิดพลังของชีพจรเซียนทั้งหมดเท่าที่สามารถรวบรวมได้ออกมา หนึ่งร้อยเก้าสิบสองชีพจรเซียนกลายเป็นหนึ่งร้อยเก้าสิบสองมังกรเซียน ส่งเสียงแผดร้องคำราม ขณะที่พุ่งทะยานไปรอบๆ กระแสน้ำวน ทำให้พลังของกระแสน้ำวนเพิ่มมากขึ้น และทำให้มันหมุนวนเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
วิญญาณเซียนสิบเก้าดวงของฟางเว่ย พุ่งตรงไปและดูเหมือนว่าจะพุ่งเข้าไปยังกระแสน้ำวนที่ตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
กระแสน้ำวนเริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้น จนกระทั่งมีความกว้างถึงหนึ่งพันจ้าง!
เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ทำให้ผู้ฝึกตนที่เฝ้ามองดูอยู่ทั้งหมดในขุนเขาทะเลที่เก้าต้องสะท้านขึ้นด้วยความประหลาดใจ กลุ่มคนตระกูลฟางต่างก็ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง!
ในตอนนี้ฟางเว่ย…มีความแข็งแกร่งเกินกว่าที่ใครจะสามารถคาดคิดได้ ผู้คนมากมายเริ่มมีคำถามเกิดขึ้น
“ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียนเมิ่งฮ่าว…อาจจะต้องพ่ายแพ้ไป?”
เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ มองไปยังกระแสน้ำวนกำเนิดใหม่ที่ใกล้เข้ามา ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นเยียบ การที่ฟางเว่ยสามารถปลดปล่อยชีพจรเซียนได้ถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบสองจุด ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจขึ้นแม้แต่น้อย
สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับเขาก็คือ ผลเนี่ยผานที่อยู่ในถุงสมบัติของเขา สามารถช่วยเพิ่มชีพจรเซียนได้มากขึ้นถึงสองเท่า ในขณะที่ผลเนี่ยผานของฟางเว่ยกลับสามารถเพิ่มขึ้นได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
“ผลเนี่ยผานของข้าไม่ดีเท่ากับของท่านปรมาจารย์รุ่นแรก? หรือว่ามันไม่เหมาะสำหรับฟางเว่ย?” เมิ่งฮ่าวครุ่นคิด ไม่ยินดีที่จะยอมรับว่าผลเนี่ยผานของตนเองด้อยกว่า แค่นเสียงอย่างเย็นชาออกมา จากนั้นก็ยกมือขึ้นไปอย่างช้าๆ ภายในร่างกาย ชีพจรเซียนหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดเริ่มส่งเสียงดังกระหึ่ม ขณะที่เขาปลดปล่อยเวทลับของตนเองออกมา ทำการหลอมรวมพวกมันทั้งหมดเข้าด้วยกันจนกลายเป็น…เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต!
ทันใดนั้นศีรษะสีโลหิตก็แหวกฝ่าอากาศออกมาปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าฝ่ามือของเมิ่งฮ่าว มีสีหน้าที่ดุร้าย และกระจายแสงสีแดงอันเจิดจ้าออกไปทั่วทุกทิศทาง ไม่ได้ส่งเสียงแผดร้องหรือคำรามใดๆ ออกมา แต่เกิดเป็นแรงกดดันอันยากที่จะอธิบายได้ กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง
ศีรษะอสูรโลหิตชีพจรเซียนนี้มีความแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ ในตอนนี้…พลังของชีพจรหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดระเบิดออกไป ทำให้ศีรษะอสูรโลหิตขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาก็มีความสูงถึงหนึ่งพันจ้าง!
ขนาดของมันเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจยิ่ง ในความเป็นจริงแล้วศีรษะอสูรโลหิตได้บรรลุถึงจุดที่เปลี่ยนจากภาพลวงตามาเป็นของจริงขึ้นอย่างรวดเร็ว!
มันมีสีหน้าที่ดุร้าย และมีเขาที่ยาวแค่ข้างเดียว ผิวหนังเป็นสีโลหิต ยิ่งไปกว่านั้นใครก็ตามที่มองมา ก็จะรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่จู่ๆ ก็รู้สึกว่าไม่อาจจะควบคุมโลหิตของตัวเองได้ ความรู้สึกนี้กระจายออกไปทั่วทั้งดาวตงเซิ่ง
ศีรษะอสูรโลหิตนี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ตัวของอสูรโลหิตเอง แต่เมิ่งฮ่าวก็อยู่ในอาณาจักรเดียวกันกับอสูรโลหิตเมื่อปีก่อนโน้น จึงสามารถจะสร้างเป็นพลังเช่นนั้นขึ้นมาได้ในทันทีด้วยวิชาเวทนี้
การที่เมิ่งฮ่าวคือผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียน ก็หมายความว่าวิชาเวทและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ของเขา จะมีพลังเพิ่มขึ้นหนึ่งร้อยยี่สิบสามเท่าจากพลังดั้งเดิมด้วยเวทลับนี้! ทำให้พวกมัน…เป็นความสามารถของเซียนที่ทรงพลังมากที่สุดในอาณาจักรเซียนแห่งนี้!
ที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าวเป็นวิญญาณเซียนอันน่าตกใจสามสิบสามดวง สวรรค์ทั้งสามสิบสามชั้นปรากฏขึ้น กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง ทำให้เกิดเป็นสายลมหลากสีหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ตัวเขา
ขณะที่สิ่งทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้นมา เวลาก็ดูเหมือนจะช้าลงไปเล็กน้อย ผู้ฝึกตนบนดาวตงเซิ่งแทบจะหยุดหายใจ และเหล่าพวกที่ชมดูอยู่ในขุนเขาทะเลที่เก้าต่างก็จ้องมองไปอย่างไม่กระพริบตา
ฟางเว่ยแผดร้องคำรามออกมา ขณะที่มันทุ่มออกมาจนสุดตัว ส่งผลให้กระแสน้ำวนกำเนิดใหม่ของมันเข้าไปใกล้เมิ่งฮ่าวมากขึ้นเรื่อยๆ
เมิ่งฮ่าวผลักมือออกไป ทำให้ศีรษะอสูรโลหิตแผดร้องคำรามออกมาในทันที ซึ่งเสียงแผดร้องนี้ได้กลายเป็นเสียงที่กระจายเต็มไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี
กรรรรรรร!!
หลังเสียงคำรามนี้ตามติดมาด้วยแสงสีแดงที่พุ่งขึ้นไป ขณะที่ศีรษะอสูรโลหิตพุ่งตรงไปยังกระแสน้ำวนกำเนิดใหม่
หนึ่งพันจ้าง, ห้าร้อยจ้าง, สามร้อยจ้าง…
ในชั่วพริบตากระแสน้ำวนกำเนิดใหม่และศีรษะอสูรโลหิตก็กระแทกเข้าหากัน
เมื่อเป็นเช่นนั้นพื้นดินที่ด้านล่างก็ดูเหมือนจะม้วนตัวเป็นระลอกคลื่น เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไปขณะที่ยอดเขาพังทลายลงไปและแม่น้ำก็ระเบิดขึ้นมา แม้แต่ทะเลที่อยู่บนดวงดาวก็ยังเริ่มเดือดพล่าน
ทุกหนทุกแห่งต่างก็เป็นเช่นนี้ พื้นดินสั่นสะเทือน ภูเขาสั่นสะท้าน แม้แต่สวรรค์ก็ดูเหมือนแทบจะเริ่มฉีกขาดออกจากกัน รอยแตกร้าวขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านบน และกำลังกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
ถ้ามองดูให้ละเอียด ก็จะพบว่ารอยแตกร้าวนั้นจริงๆ แล้วก็เป็นคลื่นเสียงที่ม้วนตัวไปมา และกำลังกระจายออกไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
กระแสน้ำวนกำเนิดใหม่แตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ ไปในทันที และจากนั้นก็ระเบิดออกไปในทั่วทุกทิศทาง ศีรษะอสูรโลหิตกระแทกลงไปทำให้มังกรเซียนหนึ่งร้อยเก้าสิบสองตัว แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา และเริ่มแตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป
นอกจากนั้น วิญญาณเซียนสิบเก้าดวงก็สั่นสะท้านไปทีละดวงด้วยเช่นกัน!
เมื่อกระแสน้ำวนระเบิดออกไป กลิ่นอายการเกิดใหม่ก็กระจายออกมา กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นปากซึ่ง…เริ่มกลืนกินศีรษะอสูรโลหิตเข้าไป
ในตอนนี้ ดวงตาเมิ่งฮ่าวต้องเบิกกว้างขึ้น และเขาก็ชี้นิ้วออกไปในอากาศ
เกิดเป็นสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่อสูรโลหิตแยกออกเป็นส่วนๆ กลายเป็นมังกรโลหิตหนึ่งร้อยยี่สิบสามตัว ส่งเสียงคำรามและฉีกกระชากปากยักษ์นั้นให้ขาดออกเป็นชิ้นๆ ขณะที่พวกมันบินออกมา ก็ดูมืดสลัวลงไปกว่าก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่มีแม้แต่ตัวเดียวที่จะถูกทำลายไป จากนั้นพวกมันก็เริ่มหมุนวนไปรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว ทำให้ดูคล้ายกับเป็นทั้งอสูรโลหิตและเซียนโลหิต!
มันคือการโจมตีที่ตรงไปตรงมา, เรียบง่ายเพียงครั้งเดียว!
ความแข็งแกร่งของเมิ่งฮ่าวในฐานะผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียน ทำให้คนทั้งหมดในขุนเขาทะเลที่เก้าต้องสั่นสะท้าน และภาพที่ได้เห็นนี้ก็ถูกประทับลึกลงไปในความทรงจำของพวกมันอย่างที่ไม่อาจจะลบเลือนไปได้
สายลมกรีดร้อง และเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น มองลงไปยังฟางเว่ย แอบถอนหายใจออกมา
เมิ่งฮ่าวรู้ว่าจริงๆ แล้ว ฟางเว่ยไม่ใช่คนที่มีพื้นฐานจิตใจอันชั่วร้าย มันแค่เย่อหยิ่งมากเกินไปและไม่อาจจะยอมรับความพ่ายแพ้ได้เท่านั้น
“ส่งมอบมา!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็น ขณะที่ลอยลงไปยังฟางเว่ย ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน แต่ฟางเว่ยก็แหงนหน้าขึ้นไปและหัวเราะออกมา
โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากมัน และสั่นไปทั้งร่างขณะที่ถอยโซเซไปทางด้านหลัง ผิวกายมันฉีกขาด จนแทบจะดูคล้ายกับเป็นกลุ่มโลหิต
ขณะที่มันหัวเราะเป็นเสียงแหลมเล็กออกมา แสงแห่งความมุ่งมั่นก็มองเห็นได้ในแววตา
“ข้ายังไม่แพ้!! ข้าคือฟางเว่ย แล้วข้าจะพ่ายแพ้ไปได้อย่างไร!?!?” มันแผดร้องออกไป
ฟางเว่ยยืนตัวสั่นสะท้านอยู่ที่นั่น สีหน้าเต็มไปด้วยความดุร้ายขณะที่มันหัวเราะจนเป็นเสียงแหลมเล็ก ผู้คนมองเห็นความรุ่งโรจน์ของมัน แต่ไม่ได้เห็นคืนวันที่มันใช้ในการฝึกฝนตนเองมาอย่างมากมายไม่รู้จบ ในขณะที่คนอื่นๆ ดื่มกินพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกับครอบครัว มันต้องออกไปต่อสู้และสังหาร! เมื่อคนอื่นๆ กำลังตกอยู่ในห้วงความรัก มันยังคงอยู่ในช่วงการนั่งเข้าฌาณตามลำพัง มันได้กล้ำกลืนต่อความโดดเดี่ยวทั้งปวง ผ่านห้วงเวลาเช่นนั้นไปอย่างไม่ลดละ!
มันมีเป้าหมายเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือการเอาชนะคนอื่นๆ ไปให้ได้ทั้งหมด! มันต้องการจะเป็นผู้ถูกเลือกอันดับหนึ่งแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า! มันไม่สนใจถึงสิ่งที่บิดามันได้กระทำต่อคนอื่นๆ ในตระกูล รวมทั้งแผนการของปู่มันด้วย
มีเพียงสิ่งเดียวที่มันสนใจ คือการเป็นปรมาจารย์รุ่นต่อไปของตระกูลฟาง!
เนื่องจากเช่นนั้น เมื่อปู่ของมันได้มอบผลเนี่ยผานทั้งสองผลมา มันก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ตัดสินใจที่จะดูดซับพวกมันลงไปในทันที เนื่องจากเช่นนั้น เมื่อมันคุกเข่าตัวสั่นสะท้านอยู่ที่เบื้องหน้าของปรมาจารย์รุ่นหก ฟางเว่ยก็เลือกที่จะยอมรับข้อเรียกร้องของมัน
มันรู้ว่าบิดาได้ส่งคนไปสังหารเมิ่งฮ่าวตอนที่เขากลับมายังตระกูล แต่มันก็ไม่สนใจ สำหรับมันแล้วเมิ่งฮ่าวไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากเป็นแค่ความทรงจำในช่วงสั้นๆ เท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถึงแม้ว่าผลเนี่ยผานที่มันกำลังใช้อยู่นี้ จะเป็นของเมิ่งฮ่าวก็ตามที แต่มันก็ไม่สนใจ นอกจากนี้มันมักจะมองว่าตนเองเป็นผู้ถูกเลือกอันดับหนึ่งของตระกูล ทุกสิ่งทุกอย่าง…ต้องเป็นของมันเท่านั้น
“ฟางฮ่าว ถ้าข้าแพ้ก็แน่นอนว่าเจ้าจะได้สิ่งที่เป็นของเจ้ากลับคืนไป แต่ในตอนนี้ข้ายังไม่พ่ายแพ้!” ขณะที่มันมองขึ้นไปยังเมิ่งฮ่าว โลหิตก็ปกคลุมไปทั่วทั้งใบหน้า ทำให้ยิ่งดูดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม
มันแหงนหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา ทันใดนั้นกลิ่นอายแห่งการเกิดใหม่ก็หายไป ถูกแทนที่ด้วย…เจตจำนงแห่งความตาย!
นี่คือหนึ่งรำพึงเต๋าอเวจี!
มันคือเวทแห่งเต๋าที่ทรงพลังมากที่สุดอันดับสองของตระกูลฟาง! มีแต่หนึ่งรำพึงกลายเป็นดวงดาวเท่านั้น ที่จะมีความแข็งแกร่งไปมากกว่านี้!
การฝึกฝนวิชาเวทนี้ ผู้ที่ฝึกจะต้องตายไปก่อน จากนั้นมันต้องค้นหาเศษซากของชีวิตจากในความตาย เศษซากชีวิตนั้นจะป้องกันไม่ให้วิญญาณตกตายไป และทำให้ร่างกายหลอมรวมเข้าไปในช่องว่างระหว่างชีวิตและความตาย จากนั้นก็ก่อตัวขึ้นเป็นเต๋าที่จริงแท้แห่งชีวิตและความตาย
ขณะที่กลิ่นอายนั้นระเบิดออกมา ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบแสงขึ้น ที่ด้านล่างสีหน้าฟางซิ่วซานเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว สถานการณ์ในตอนนี้ของฟางเว่ยทำให้มันเต็มไปด้วยความปวดใจ แต่ความต้องการที่จะเห็นเมิ่งฮ่าวตกตายไปก็ยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น อันที่จริงถ้ามันมีโอกาส…มันก็จะสังหารเขาไปด้วยตนเอง
“สังหารมันไปก็จะสรุปเรื่องราวทั้งหมดได้ ต่อให้ข้าต้องตกลงไปในห้วงอเวจี ข้าก็ยินดี!” ฟางซิ่วซานกัดฟันแน่น ขณะที่พยายามปิดบังรังสีสังหารที่อยู่ลึกลงไปในดวงตาอย่างต่อเนื่อง
พลังของฟางเว่ยพุ่งทะยานสูงมากขึ้นไปเรื่อยๆ มันส่งเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงออกมา แต่ยิ่งมันมีความเจ็บปวดมากขึ้นเท่าใด ดวงตาก็ยิ่งสาดประกายด้วยความมุ่งมั่นมากขึ้นเท่านั้น และพลังของมันก็ยิ่งระเบิดออกไปมากขึ้น
มังกรเซียนหนึ่งร้อยเก้าสิบสองตัวส่งเสียงคำรามอยู่รอบๆ ร่างมัน ฉวัดเฉวียนอยู่ในอากาศ ในตอนนี้เองที่สีหน้างุนงงเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า นั่นเป็นเพราะว่า มังกรเซียนเริ่มปรากฏขึ้นที่รอบๆ กายฟางเว่ยมากยิ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ!
199, 207, 213…
มังกรเซียนตัวแล้วตัวเล่าปรากฏขึ้น ฉีกกระชากอากาศทำให้ดวงดาวต้องสั่นสะเทือน รอยแตกร้าวจำนวนมากฉีกขาดอยู่ในท้องฟ้ารอบๆ ตัวฟางเว่ย
221, 234…ชีพจรเซียนของมันกำลังระเบิดพลังออกไป!
มันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนกระทั่ง…บรรลุถึง 241 ชีพจร!!
ในตอนนี้ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เก้าต่างก็สั่นสะท้านอยู่ภายในใจ พวกมันไม่อาจจะพูดจาใดๆ ออกมาได้ และกลุ่มคนของตระกูลฟางก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายไปโดยสิ้นเชิง ในคฤหาสน์โบราณ ผู้เฒ่าสูงสุดมองขึ้นไปในท้องฟ้ายังฟางเว่ยและเมิ่งฮ่าวด้วยความงุนงง และมันก็ถอนหายใจยาวออกมา
“มัน…มันเพิ่มชีพจรไป 49 จุดอีกแล้ว!”
“ถ้าไม่มีเมิ่งฮ่าว, ฟางเว่ย…จะต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียนแห่งขุนเขาทะเลที่เก้าอย่างแน่นอน!”
“ฟางเว่ยก็เป็นอมนุษย์เช่นเดียวกับเมิ่งฮ่าว! แต่มันกำลังใช้วิธีการอะไรอยู่!?!?”
“241 ชีพจร! นั่นไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ตามจะสามารถทำได้ในเซียนทุกรุ่นแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า! จากตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา ขีดจำกัดที่แท้จริงจะอยู่ที่ 330 ชีพจร แต่มันก็เป็นแค่ในตำนานเท่านั้น!”
ผู้ถูกเลือกที่อยู่ในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวรู้สึกว่าจิตใจกำลังหมุนคว้าง พวกมันเต็มไปด้วยความขมขื่นที่ว่าตระกูลฟาง…มีทั้งเมิ่งฮ่าวและฟางเว่ย ทำให้ผู้ฝึกตนทั้งหมดแห่งขุนเขาทะเลที่เก้าไม่มีทางที่จะลืมตระกูลฟางไปได้เลย!
ปรมาจารย์ปฐพีแห่งตระกูลฟางลอยตัวอย่างเงียบๆ อยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว มันต้องการจะสอดมือเข้าไปขัดขวาง แต่ก็รู้สึกลังเล มันรู้ว่าถ้าไปหยุดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้…มันก็อาจจะสูญเสียคนทั้งสองไป
“ฮ่าวเอ๋อร์…เจ้ากลับมายังตระกูลเพื่อเป้าหมายเดียวคือการกลายเป็นเซียน? เพื่อพิสูจน์ตัวเอง?” ดวงตาของปรมาจารย์ปฐพีสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันลึกล้ำ
“ถ้าเป็นเช่นนั้น กลุ่มคนที่แอบแฝงตัวอยู่ในตระกูล…ก็จะเปิดเผยตัวตนออกมาในที่สุด?”