บทที่ 1267 มิติพันธนาการ
เผ่าพันธุ์วิญญาณอยู่ใจกลางเขตเทพสวรรค์ ส่วนสำนักแก่นแท้ที่จ้าวหุยอยู่ค่อนไปยังรอบนอก
ครั้งที่แล้วจ้าวเฟิงจากสำนักแก่นแท้มายังเผ่าพันธุ์วิญญาณ ระหว่างทางอาศัยค่ายกลส่งข้ามยังต้องใช้เวลาถึงครึ่งปี แต่ตอนนี้พลังของจ้าวเฟิงไม่ธรรมดา หากสำแดงเคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตา ความเร็วจะเพิ่มเป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็สามารถย่นระยะเวลาไปได้ครึ่งหนึ่ง
เขายังมีป้ายฐานะศิษย์หลักเผ่าพันธุ์วิญญาณ ค่ายส่งข้ามของขั้วอำนาจทั้งหมดระหว่างทางก็สามารถใช้ได้ตามสบาย อีกทั้งในยามที่จ้าวเฟิงผ่านขั้วอำนาจเหล่านี้ ก็ดึงดูดกระทั่งผู้นำระดับสูงของขั้วอำนาจนั้นออกมาต้อนรับตนด้วยตัวเอง
“ประโยชน์ในฐานะศิษย์หลักเผ่าพันธุ์วิญญาณมากมายเสียจริง!”
จ้าวเฟิงถอดทอนใจ
นึกถึงในตอนนั้นที่หนีจากเขตผาเก่า เขาไม่อาจหยิบยืมค่ายกลส่งข้ามของขั้วอำนาจใหญ่บางขั้วได้เลยเพราะประกาศไล่ล่า เวลาส่วนมากเขาล้วนอาศัยการบิน
ชั่วขณะหนึ่ง ในครรลองสายตาของจ้าวเฟิงมียอดเขามหึมาสูงถึงพันจั้งลูกหนึ่งปรากฏขึ้น ยอดเขาสูงทะลุทะเลเมฆ ปกคลุมไปทั่วบริเวณหลายหมื่นลี้
ในตอนที่จ้าวเฟิงผ่านภูเขาลูกนี้ กลิ่นอายสะท้านฟ้าก็ปะทุออกมาจากทะเลเมฆเบื้องหน้า
“แย่แล้ว!” สายตาของจ้าวเฟิงพลันจับจ้องไปเบื้องหน้า ส่วนร่างถอยหลบไปข้างหลัง
ครืน! ในตอนนี้เอง พลังเสวียนอ้าวมิติกลุ่มหนึ่งทะลักล้นจากฟ้าดินรอบด้าน
เห็นเพียงทั่วทุกทิศทางพลันปรากฏม่านรัติกาลสีม่วงเป็นทางขึ้น ม่านรัตติกาลมีเมฆดำ จันทราม่วง และเหล่าดวงดารา
สุดท้ายม่านรัตติกาลสีม่วงทั้งหมดเชื่อมต่อกัน กักกั้นทุกอย่างทั่วบริเวณนับหมื่นลี้เอาไว้ข้างใน ฟ้าดินทั้งผืนราวกับกลายเป็นรัตติกาลสีม่วง ปิดกั้นทุกอย่างจากภายนอกโดยสมบูรณ์
“ผู้เยาว์ ในที่สุดเจ้าก็ออกมาสักที!” ในม่านรัตติกาลม่วง ร่างของเทพโบราณเยี่ยหลงค่อยๆ ปรากฏขึ้น
พรึ่บ! จ้าวเฟิงคลุมชุดคลุมมิติทันที
“อย่าเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์เลย ‘ค่ายกลม่วงมิติลวงตา’ เตรียมเอาไว้ให้เจ้าโดยเฉพาะ หากพลังของเจ้าแข็งแกร่งอีกสักหน่อย บางทีอาจจะใช้พลังชุดคลุมมิติหนีไปได้…”
เทพโบราณเยี่ยหลงยิ้มเหี้ยมเกรียม
พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงถึงเทพโบราณแท้จริงขั้นหก มีชุดคลุมมิติ ตำหนักผลึกห้าสี
อีกทั้งเขายังได้รับการยอมรับจากเผ่าพันธุ์วิญญาณ หากเผ่าพันธุ์วิญญาณมอบไพ่ตายรักษาชีวิตบางอย่างให้กับจ้าวเฟิงอีก ต่อให้เป็นเทพโบราณเยี่ยหลงก็ไม่มีความมั่นใจที่จะสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงรีบมาอยู่ต่อหน้าจ้าวเฟิง แล้ววางค่ายกลที่แข็งแกร่งนี้ไว้
ใน ‘ค่ายกลม่วงมิติลวงตา’ ต่อให้เป็นเสวียนอ้าวมิติของตัวเขาเองก็ถูกควบคุมในระดับหนึ่งเช่นกัน
“ใครว่าข้าจะไปจากที่นี่?”
จ้าวเฟิงคลุมชุดคลุมมิติ ไม่ได้กระตุ้นพลังใดๆ ทั้งสิ้น ยิ้มมองมายังเทพโบราณเยี่ยหลง
“หากไม่ใช่ว่าข้าตั้งใจลดความเร็ว ทำให้คนเผ่าเจ้าสามารถตามทันตลอด อีกทั้งตลอดทางยังเป็นทางตรง เจ้าจะตามข้ามาได้ทันและมีเวลาวางค่ายกลใหญ่โตเช่นนี้รึ?”
จ้าวเฟิงเปิดโปงทุกอย่างออกมา หลังจากที่เนตรเทพเจ้าแปรสภาพ ทัศนวิสัยของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก นานนับตั้งแต่ออกมาจากเผ่าพันธุ์วิญญาณ เขาก็สัมผัสได้ถึงคนของเผ่ารัตติกาลม่วงที่สะกดรอยตามมา
ส่วนจ้าวเฟิงวางแผนซ้อนแผน ทำตามแผนของอีกฝ่าย มีเพียงแค่วัตถุประสงค์เดียวเท่านั้น คือสังหารเทพโบราณคนนี้ที่ไล่สังหารเขาในตอนนั้นเสีย!
“เรื่องนี้แน่นอนว่าข้าย่อมรู้ แต่เจ้าคิดว่าทะลวงเทพโบราณขั้นหกได้ มีของล้ำค่ามากมายและอาวุธเทพ ก็จะเป็นคู่มือของข้าได้งั้นรึ?”
เทพโบราณหัวเราะลั่น
เขาก็สัมผัสได้เช่นกัน เส้นทางที่จ้าวเฟิงมุ่งหน้าไปค่อนข้างจะตรงดิ่งไปเรื่อยๆ ราวกับว่าตั้งใจ แต่เขาเป็นเทพโบราณ จะเกรงกลัวเทพแท้จริงขั้นหกอย่างนั้นหรือ?
ต่อให้เผ่าพันธุ์วิญญาณมอบไพ่ตายรักษาชีวิตบางอย่างให้กับจ้าวเฟิง เขาสังหารจ้าวเฟิงไม่ได้ ตัวเองก็ไม่เสียหายอะไร แต่หากเพียงสังหารจ้าวเฟิงลงได้ เขาจะได้รับของล้ำค่าทุกอย่างบนตัวอีกฝ่าย!
“ไม่ลองดูจะไปรู้ได้อย่างไร?” รอยยิ้มของจ้าวเฟิงออกจะเจ้าเล่ห์
“ฮ่าๆ!” เทพโบราณเยี่ยหลงหัวเราะเย้ยหยัน
ครืน! เขากระตุ้นสายเลือดทันที ทั่วร่างตกอยู่ในของเหลวสีม่วงเลือนรางที่ทับซ้อนกัน ผสานเป็นร่างเดียวไปกับม่านรัตติกาลรอบด้าน
จ้าวเฟิงพลันรู้สึกว่าฟ้าดินรอบด้านเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล
ในขณะเดียวกัน เหล่าดวงดารา พระจันทร์สีม่วง และเมฆดำทั่วทุกบริเวณหมุนวนผันเปลี่ยนด้วยกฎเกณฑ์บางอย่างที่น่าอัศจรรย์
“พลังศาสตร์ลวงตา?” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงแผ่กระจายเจตจำนงดวงตาที่แข็งแกร่งออกมากลุ่มหนึ่ง ทำให้เขารักษาสติไว้ได้
“สายเลือดดวงตาของเจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย ทำให้เมินเฉยต่อพลังศาสตร์ลวงตาอย่าง ‘ค่ายกลม่วงมิติลวงตา’ ได้!”
เทพโบราณเยี่ยหลงที่ซ่อนอยู่ในรัตติกาลสีม่วงตกใจเล็กน้อย
ค่ายกลม่วงมิติลวงตามีประโยชน์สามอย่างคือ
หนึ่ง ปิดกั้นโลกภายนอก ห้ามไม่ให้อีกฝ่ายใช้เสวียนอ้าวมิติ
สอง พลังศาสตร์ลวงตา โดยปกติแล้วขั้นเดียวกันยากจะต้านทาน
สาม สามารถเพิ่มพลังสายเลือดของเผ่ารัตติกาลม่วงได้
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ในรัตติกาลม่วง พลันมีเงาคนที่เป็นของเหลวส่องประกายสีม่วงสองร่างปรากฏขึ้น เงาคนเลือนรางขยับไหววูบ ก่อนกระโจนไปยังจ้าวเฟิงพร้อมด้วยพลังที่ชวนให้หวาดผวา
“ขอบเขตอัสนีเทวะห้าธาตุ!”
พลังอัสนีห้าสีพลันเปล่งแสงมาจากร่างของจ้าวเฟิง เห็นเพียงมิติเขตแดนสีห้าสีหอบม้วนไปยังทุกทิศโดยมีจ้าวเฟิงเป็นศูนย์กลาง เงาจันทร์สีม่วงสองเงานั่น หลังจากที่เข้ามาในเขตแดนอัสนีห้าธาตุก็ถูกควบคุมด้วยพลังของอัสนีเทวะห้าธาตุทันที
วู้ม ฟู่ ฟู่!
การโจมตีของเทพโบราณเยี่ยหลงถูกลดทอนลงมากถึงสองส่วน
“หืม? เจ้าเด็กนี่ก็ไม่เลวเลย!” เทพโบราณเยี่ยหลงประหลาดใจเล็กน้อย
ความแตกต่างของเทพแท้จริงขั้นหกและเทพโบราณขั้นเจ็ดมากมายยิ่งนัก อีกทั้งสายเลือดเผ่ารัตติกาลม่วงอยู่ในค่ายกลม่วงมิติลวงตาจะได้รับการเพิ่มพลัง หรือจะให้พูดก็คือ กำลังรบของเทพโบราณเยี่ยหลงในตอนนี้มากกว่าปกติ
แต่เคล็ดวิชาของจ้าวเฟิงกลับยังคงทดลอนการโจมตีของเขาได้
“ปรากฏ!” มุกผลึกห้าสีปรากฏขึ้นในมือจ้าวเฟิง
ทันใดนั้น มุกผลึกห้าสีลอยขึ้นหมุนวน พร้อมแปรเปลี่ยนเป็นตำหนักผลึกห้าสีที่ใหญ่โตมโหฬาร สกัดกั้นพลังโจมตีที่เหลือเอาไว้
“ฮี่ๆ สิ่งที่รอก็คือให้เจ้าเอามันออกมานี่แหละ!” เทพโบราณเยี่ยหลงเผยรอยยิ้มเยือกเย็นขนลุก
ตำหนักผลึกห้าสีของจ้าวเฟิงก็คืออาวุธเทพป้องกันที่แข็งแกร่งชิ้นหนึ่ง ต่อให้เป็นเทพโบราณเยี่ยหลงก็ยากที่จะทำลาย
ฟึ่บ! อีกด้านหนึ่งของตำหนักผลึกห้าสี ร่างของเทพโบราณเยี่ยหลงกระโดดออกมา มือของเขาถือพัดขนนกผลึกม่วง หอบม้วนลำแสงแสงสีม่วงพัดออกไปอย่างรุนแรง
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ! ลำแสงม่วงที่ละเอียดดุจเส้นไหมแต่ละเส้นทะลุผ่านทุกสิ่ง พุ่งแทงไปยังจ้าวเฟิงด้วยความเร็วดุจสายอัสนี
“สิ่งที่รอก็คือให้เจ้าปรากฏตัวขึ้นมาเอง!”
จู่ๆ จ้าวเฟิงก็หัวเราะเสียงเย็น ตาซ้ายแผ่กระจายเจตจำนงดวงตาที่แข็งแกร่งออกมา
วู้ม ฟู่ ฟู่! เปลวเพลิงแสงอัสนีสีม่วงเงินก่อเค้าร่างจากตาสีเงินดุจความฝันของเขา
กลิ่นอายอัสนีที่ชวนให้หวาดผวาทำเอาเทพโบราณเยี่ยหลงพลันรู้สึกไม่ปลอดภัย
ครืน ฉึก! เสี้ยวขณะต่อมา เปลวเพลิงอัสนีเทวะสีม่วงเงินก็ฟาดผ่าไปยังวิญญาณของเทพโบราณเยี่ยหลง
“การโจมตีวิญญาณแข็งแกร่งนัก… ” เทพโบราณเยี่ยหลงร้องเสียงหลง ยิ่งรู้สึกเหตุการณ์ไม่ค่อยจะปกตินัก
ในตอนนี้เอง จู่ๆ เขาก็ได้กลิ่นพลังยิ่งใหญ่ทรงอำนาจ
“เทพโบราณ!” ทันใดนั้น ในสมองของเทพโบราณเยี่ยหลงก็มีคำนี้ผุดขึ้นมา
เสี้ยวขณะต่อมา จ้าวเฟิงก็ไม่ปิดบังพลังอีกต่อไป!
เคร้ง ตูม ตูม! การโจมตีที่เทพโบราณเยี่ยหลงสำแดงถูกลดทอนจากชุดคลุมมิติ เมื่อกระทบไปยังร่างของจ้าวเฟิงก็เกิดประกายแสงอัสนีขึ้นหลายทาง
“ฝ่ามืออัสนีเทวะห้าธาตุ!”
หลังจากที่ฝืนต้านทานการโจมตีของเทพโบราณเยี่ยหลง จ้าวเฟิงก็โคจรพลังอัสนีเทวะอย่างไร้รูปร่าง ผสานพลังแก่นแท้ ซัดฝ่ามือมหึมาที่เปล่งแสงอัสนีห้าสีออกมา
“การโจมตีแข็งแกร่งยิ่งนัก ไม่แพ้เทพโบราณทั่วไปเลย!” เทพโบราณเยี่ยหลงได้สติกลับมาจากความเจ็บปวดที่วิญญาณ สีหน้าสั่นสะท้านเป็นอย่างยิ่ง
“พลังม่วงรางเลือน!” เทพโบราณเยี่ยหลงโคจรพลังสายเลือด รอบกายเขาปรากฏแสงเลือนรางสีม่วงซึ่งขยับวูบวาบเป็นชั้นๆ ขึ้น
เผชิญการโจมตีซึ่งหน้าของจ้าวเฟิงในตอนนี้ เทพโบราณเยี่ยหลงต้องทุ่มสุดพลัง
“เนตรเทพแยกส่วน!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงทะลักคลื่นพลังดวงตากลุ่มหนึ่งออกมา
หลังจากที่แสงมายาส่องประกายอยู่ชั่วขณะหนึ่ง หมอกแสงดุจความฝันก็พุ่งออกมา ในตอนนี้ แสงเลือนรางสีม่วงเป็นชั้นๆ เบื้องหน้าเทพโบราณเยี่ยหลงก็อ่อนแสงไปทันใด จนกระทั่งหายไป
“นี่…เป็นไปได้อย่างไร?” สีหน้าของเทพโบราณเยี่ยหลงหวาดผวา ไม่อาจจะเข้าใจได้
เขาสำแดงเคล็ดวิชาลับป้องกันสายเลือด จู่ๆ พลังในนั้นกลับสลายหายไป
ครืน ฟู่ ฟู่! ฝ่ามือแสงอัสนีห้าสีเคลื่อนผ่านอย่างไร้อุปสรรค บดขยี้ไปยังเบื้องหน้าพร้อมด้วยพลังแก่นแท้พลังอัสนีเทวะที่สยบทั้งเทพและปีศาจ
ในค่ายกลม่วงมิติลวงตา เสวียนอ้าวมิติของเทพโบราณเยี่ยหลงก็ถูกควบคุมไปบางส่วน
ตัวเขารู้ว่าไม่อาจหลบกระบวนท่านี้ได้ จึงหยิบเอาอาวุธเทพป้องกันระดับสูงชิ้นหนึ่งออกมา
ครืน บึ้ม! เทพโบราณเยี่ยหลงกระตุ้นอาวุธเทพป้องกันระดับสูงชิ้นนั้นสุดพลัง
“อาวุธเทพป้องกันระดับสูง!” ตาของจ้าวเฟิงส่องประกายเล็กน้อย
จากการสังเกตของดวงตาซ้าย อาวุธเทพป้องกันระดับสูงชิ้นนี้มีคุณสมบัติไม่สูงมากนัก เพิ่งจะก้าวเข้าสู่ประตูของระดับสูงเท่านั้น
“เนตรเทพ…แยกส่วน!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงจับจ้องไปยังอาวุธเทพป้องกันระดับสูงชิ้นนั้น
วู้ม! หมอกแสงดุจความฝันชั้นหนึ่งส่องประกายขึ้น
ประกายแสงของอาวุธเทพระดับสูงในมือของเทพโบราณเยี่ยหลงพลันหม่นแสงไปหลายส่วน
“นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ตาของเทพโบราณแทบจะหลุดออกจากเบ้า
พลังในเคล็ดวิชาลับป้องกันสายเลือดที่เขาสำแดงเมื่อครู่หลังไหลออกไปอย่างไม่มีสาเหตุ
อาวุธเทพป้องกันระดับสูงในมือของเขาตอนนี้ พลังของมันลดลงเรื่อยๆ
วู้ม ฟู่ ฟู่! ทว่าในตอนนี้ เขาไม่มีเวลามามัวตื่นตะลึง การโจมตีของจ้าวเฟิงปะทะมายังอาวุธเทพป้องกันของเขาแล้ว แต่ต่อให้พลังของอาวุธเทพระดับสูงชิ้นนั้นลดลง จะต้านทานกระบวนท่านี้ของจ้าวเฟิงก็ยังคงไม่เป็นปัญหา
“เนตรเทพ…แยกส่วน!” จ้าวเฟิงรวบรวมพลังของเนตรเทพแยกส่วนไปยังตำแหน่งที่สำคัญจุดหนึ่งบนอาวุธเทพชิ้นนั้น ทันใดนั้น พลังแยกส่วนทั้งหมดก็ปกคลุมไปยังที่แห่งหนึ่ง
แกรก! รอยแตกบางๆ ปรากฏขึ้นบนอาวุธเทพระดับสูง
ทันใดนั้น พลังอัสนีเทวะห้าธาตุในฝ่ามือแสงก็โจมตีไปยังจุดที่อ่อนแอนั้น ภายใต้การใช้พลังทั้งสองร่วมกัน การโจมตีที่สร้างความเสียหายให้กับอาวุธเทพก็แทบจะทำให้คุณสมบัติของมันร่วงลงมาอยู่ระดับกลาง
ครืน บึ้ม! พลังที่เหลือของการโจมตีจากจ้าวเฟิงบีบอัดไปยังร่างของเทพโบราณเยี่ยหลง ซัดเขาไปยังพื้นที่ชายขอบของค่ายกลม่วงมิติลวงตา
“ฝ่ามือครองสวรรค์!”
“ฝ่ามืออัสนีเทวะห้าธาตุ!”
จ้าวเฟิงได้ทีก็ซ้ำเติม ไม่ให้เทพโบราณเยี่ยหลงได้มีโอกาสหายใจ
“บัดซบ เจ้าเด็กนี่…ชั่วช้ายิ่งนัก!” ร่างสีม่วงของเทพโบราณเยี่ยหลงหมองหม่นยิ่งนัก
ครั้งนี้เขาแพ้แล้ว เขาไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิง!
เหตุผลที่สำคัญก็คือจ้าวเฟิงมีพลังฝึกตนถึงเทพโบราณ อีกทั้งพลังสายเลือดดวงตาก็แข็งแกร่งจนน่ากลัว กระทั่งสามารถพูดได้ว่าแปลกประหลาดชั่วร้าย
“แต่ว่าเขาน่าจะใกล้มาถึงแล้ว เจ้าเด็กนี่ต้องตายแน่!”
เทพโบราณเยี่ยหลงแค่นเสียงเย็น
ขวับ! เทพโบราณเยี่ยหลงถอนค่ายกลกักกัน เตรียมหลบหนีไป หากจ้าวเฟิงไล่ตามมาทัน มีแต่เขาจะตายเร็วขึ้น
“จะหนีไปไหน!” จ้าวเฟิงตะโกนเสียงเย็น
ตาซ้ายของเขาโคจรขึ้นอีกครั้ง เจตจำนงดวงตาที่แข็งแกร่งพร้อมด้วยเสวียนอ้าวมิติสูงส่งลอยกระจายมา
“มิติพันธนาการ!” เสวียนอ้าวมิติที่สภาพภายในสอดประสานพลันร่วงลงมายังร่างของเทพโบราณเยี่ยหลง
“นี่มัน…พลัง…ของ…เสวียนอ้าวมิติ!” เทพโบราณเยี่ยหลงร้องอย่างตื่นกลัว
แต่ว่าคำพูดของเขา คนอื่นๆ ได้ยินแล้วกลับรู้สึกว่าช้าเป็นอย่างมาก ราวกับทารกกำลังฝึกพูดอย่างไรอย่างนั้น
จ้าวเฟิงเริ่มฝึกฝน ‘มิติพันธนาการ’ ตั้งนานแล้ว แต่เป็นเพราะระดับความยากสูงมาก ในสมัยก่อนจ้าวเฟิงไม่อาจสำแดงพลังของกระบวนท่านี้ได้ ตอนนี้เขาทะลวงขั้นเทพโบราณได้แล้ว สถานการณ์ก็ไม่เหมือนเดิมอีก
ในตอนนี้ เทพโบราณเยี่ยหลงไม่เพียงแต่ไม่อาจสำแดงเสวียนอ้าวมิติได้
ทั้งยังถูกควบคุมจากเสวียนอ้าวเวลา ราวกับว่าอยู่ในโลกที่การเคลื่อนไหวเชื่องช้า ปล่อยให้จ้าวเฟิงฆ่าแกงตามสบาย!