บทที่ 706 พลังครึ่งเซียน
ในใจกลางของดินแดนโจรสลัดสิบแปดยอด กลุ่มดินแดนวั่นหยวน
ในสนามรบที่โกลาหลวุ่นวายของราชาส่วนหนึ่ง สุริยันและจันทราต่างโดนแสงเมฆสีแดงมืดบดบัง จนเหมือนโดนกักขังเอาไว้จนตัดขาดจากโลกทั้งหมด
โครม เปรี้ยง! ตูม บึ้ม——
จักรพรรดิมู่อวิ๋นไม่ยอมลดราวาศอก ใช้มือข้างหนึ่งกดดันราชาเหมันต์จันทรา ราชาฉลามยักษ์ และราชาผู้เก่งกล้าอีกสี่คน
“อ๊าก!”
เขาลงมือเพียงครั้งเดียว พลังรุนแรงมหาศาลในฟ้าดินก็สามารถสังหารราชันผู้หนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว
ราชันธรรมดาเหล่านั้นล้วนแต่หนีไม่ทัน ทิ้งระยะห่างกับจักรพรรดิมู่อวิ๋นเอาไว้
ราชาเหมันต์จันทรา ราชาฉลามยักษ์ และราชาผู้องอาจรวมหกคน ตกเข้าสู่ภายในสนามรบที่ยากลำบาก จิตใจพะวงหวาดกลัว
ในขณะที่ต่อสู้ ราชาหกคนล้วนแต่ได้รับบาดเจ็บ หนึ่งในราชันระดับลึกซึ้งก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
หากไม่ได้การโจมตีที่รุนแรงของราชาเหมันต์จันทรากับสายเลือดฉลามยักษ์บรรพกาลที่แกร่งกล้าของราชาฉลามยักษ์คอยยันไว้ ราชันในระดับลึกซึ้งหลายคนคงโดนจักรพรรดิสังหารไปตั้งนานแล้ว
“จะชนะได้หรือไม่ต้องดูทางฟากของจ้าวเฟิงแล้ว” ราชาเหมันต์จันทราต้านไว้อย่างทุลักทุเล ร่างกายโบยบินไปรวดเร็ว
สายเลือดฉลามยักษ์ของราชาฉลามยักษ์ มีพลังมหาศาลและร่างกายที่แกร่งกล้า เป็นโล่มนุษย์ผู้เดียวที่ตอบโต้จักรพรรดิมู่อวิ๋นอย่างซึ่งๆ หน้าได้บ้าง
แต่ทว่านี่เป็นเพียงสภาพชั่วคราวเท่านั้น
ราชันในระดับสุดยอดสองคนกระตุ้นเคล็ดวิชาลับเพื่อเพิ่มกำลังรบขึ้นจำนวนมาก แต่สิ้นเปลืองพลังไปมหาศาล จึงไม่สามารถยืดเยื้อไว้ได้นาน
ความหวังเดียวที่มีคือจำนวนคนที่มากกว่า
ถ้าหากฟากของจ้าวเฟิงสามารถจัดการราชันคนอื่นๆ อย่างเช่นราชามังกรดำได้ว่องไว ราชันจำนวนมากล้อมจักรพรรดิเอาไว้ ถึงมีความหวังที่จะเอาชนะได้
จ้าวเฟิงเองก็รู้ดีว่ากุญแจสำคัญในการเอาชนะอยู่ที่จำนวนคนพวกเขามีมากกว่า สามารถกดดันราชามังกรดำและคนอื่นๆ ได้แน่
ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนั้นเอง
“ทางฟากของราชามังกรดำยังเหลือราชันในระดับลึกซึ้งสี่คน”
สายตาของจ้าวเฟิงเป็นประกาย
ราชันธรรมดาอีกสองคน คนหนึ่งถูกจ้าวเฟิงสังหาร ส่วนอีกคนตายไปในสนามรบที่วุ่นวาย
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยโบกธงค่ายกล
จิตและวิญญาณของราชันทั้งสองฝั่งล้วนโดนค่ายกลหุ่นเชิดศพดูดกลืนไปจนสิ้น
เพียงไม่นาน ค่ายกลหุ่นเชิดศพดูดซึมจิตและวิญญาณของราชันไปห้าหกคน ทำให้พลังเพิ่มขึ้นสูง
จิตและวิญญาณของราชันปราณเทวะ สำหรับหุ่นเชิดศพต้องสาปแล้วเป็นการเพิ่มพลังอย่างยิ่ง
แก่นแท้วิญญาณของราชันกลายมาเป็นแรงคำสาปอาฆาต พลังจึงยิ่งแข็งแกร่ง
ที่ผ่านมา การสังหารในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด ทำให้การฝึกตนของหุ่นเชิดศพต้องสาปทั้งหมดแตะถึงขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำช่วงกลาง
อีกทั้งแก่นแท้ร่างกายของหุ่นเชิดศพต้องสาปยังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เหนือกว่าขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำ
และในตอนนี้ หุ่นเชิศพต้องสาปดูดซึมจิตและวิญญาณของของราชันหกคนติดต่อกัน ภายใต้การหล่อเลี้ยงนั้น กลิ่นอายของหุ่นบางร่างเข้าใกล้ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำช่วงปลายไปแล้ว
“เขตแดนเมืองมายา!”
จ้าวเฟิงเข้าร่วมการต่อสู้ของราชันในระดับลึกซึ้ง เงาเขาวงกตมายาที่พร่าเลือนในม่านหมอกควันหลอมรวมเข้ากับอากาศทั้งหมด
เขตแดนศาสตร์วิญญาณนี้ ทำให้ราชันในระดับลึกซึ้งหลายคนจิตใจสั่นไหวเลอะเลือน ประสาทสัมผัสสับสนวุ่นวาน จุดอ่อนจึงปรากฏให้เห็น
“อ๊าก!”
หนึ่งในราชันในระดับลึกซึ้งถูกราชันหลายคนสังหารลงอย่างรวดเร็ว
อีกฟากหนึ่งยังมีราชันระดับลึกซึ้งที่บาดเจ็บหนัก หอบร่างพยายามจะหนีไป
ทว่าเพิ่งจะบินออกไปไม่กี่ลี้ ก็โดนลำแสงธนูสีทองพุ่งมาสังหาร
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยควบคุมค่ายกลหุ่นเชิดศพ กลืนกินจิตและวิญญาณของราชันสองคนนั้นอย่างรวดเร็ว
ราชันในระดับลึกซึ้งส่งผลในการหล่อเลี้ยงหุ่นเชิดศพต้องสาปมากขึ้น
เวลาดังกล่าว
คำสาปอาฆาตและปราณศพที่ค่ายกลหุ่นเชิดศพสาดซัดออกมาถึงขั้นที่น่าสะพรึงขวัญ ขนาดราชันธรรมดายังต้องหลีกหนี
อีกทั้งคำสาปอาฆาตและปราณศพที่แกร่งกล้ายังกลายมาเป็นโล่ชั้นดีได้ ระลอกพลังที่เหลือจากของราชันธรรมดาไม่สามารถสร้างความหวาดกลัวให้ได้เลยแม้แต่น้อย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! สังหารได้สาแก่ใจเสียจริง!”
“สังหารราชามังกรดำเสีย!”
กลุ่มราชันของฟากพันธมิตรโจรสลัดปลิดชีพอย่างหนำใจ
ในเวลานี้
ฝั่งของราชามังกรดำที่เหลือราชันในระดับลึกซึ้งเพียงสองคนถูกล้อมโจมตี บาดเจ็บหนักกันไม่น้อย
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ พวกของราชามังกรดำน่าจะทนได้อีกไม่กี่สิบช่วงลมหายใจ
“สถานการณ์ไม่ดีแล้ว เจ้าเด็กนั่น…”
สีหน้าของราชามังกรดำเคียดแค้น สายตามองไปที่จ้าวเฟิง
แต่ปีกวายุอัสนีของจ้าวเฟิงมีความเร็วน่าตะลึง ถ้าหากต้องการจะหนีเอาชีวิตรอดจริงๆ ไม่ว่าจะราชันคนไหนในที่แห่งนี้ก็ยากที่จะตามได้ทัน
สถานการณ์การต่อสู้ฝั่งนี้เปลี่ยนไปมาก ทำให้จักรพรรดิมู่อวิ๋นหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย
เขาเองก็พอจะดูออกว่าจ้าวเฟิงส่งผลต่อสถานการณ์ทั้งหมดอย่างใหญ่หลวง
“ตายเสียเจ้าหนุ่ม!”
จักรพรรดิมู่อวิ๋นสะบัดแขนสองข้างขึ้น วายุสีแดงมืดเส้นสายหนึ่งหอบเอาพลังมหาศาลในธรรมชาติมา ซัดจนราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์กระเด็นออกไปหลายลี้
ทันใดนั้น เขาพุ่งทะยานไปยังจ้าวเฟิง พลังแข็งแกร่งของจักรพรรดิพุ่งทะยานเข้ามา
โครม!
จ้าวเฟิงรู้สึกเพียงแค่ว่าในชั้นดวงวิญญาณสั่นสะท้าน ถ้าหากว่าเป็นราชันธรรมดาไม่ตายสภาพจิตใจก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่ว่าดวงวิญญาณของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งกว่าราชันธรรมดาไปนานแล้ว ตั้งแต่ที่ดวงตาเทพเจ้าตื่นขึ้นครั้งก่อน บวกกับการชะล้างจากแม่น้ำในห้วงฝัน พลังอัสนีเทวะ
แล้วไหนจะฝึกฝน ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ อย่างไม่หยุดยั้ง ดวงวิญญาณจึงแกร่งกล้าและคงสภาพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ การดูดซึมพลังอัสนีเทวะทำให้ดวงวิญญาณของจ้าวเฟิงแกร่งยิ่งขึ้น เทียบเท่าได้กับราชันระดับสุดยอด แต่ยังแตกต่างกับจักรพรรดิอยู่
ประกายปีกอัสนี!
จ้าวเฟิงกระตุ้นเคล็ดวิชาปีกอัสนีที่เป็นประหนึ่งเศษเสี้ยวสายฟ้า
ในยามที่เขาเผชิญหน้ากับการตามล่าของจักรพรรดิ เขามิได้ลุกลี้ลุกลนแต่อย่างใด
พวกของราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์พยายามขัดขวางจักรพรรดิมู่อวิ๋นอย่างสุดกำลังเช่นกัน
แต่ทว่าบุคคลในระดับจักรพรรดิ หากตั้งใจจะหลีกออกจากวงต่อสู้ก็ยากที่พวกเขาจะรั้งไว้ได้ อย่างมากก็ทำได้เพียงแค่จำกัดความเร็วเท่านั้น
“จักรพรรดิผู้หนึ่งจะลงมือสังหารคนรุ่นหลังในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดด้วยมือตนเองงั้นหรือ?”
กระบี่และดาบของราชาเหมันต์จันทราบินว่อน นางต่อว่าเสียงเย็นชา
จักรพรรดิมู่อวิ๋นหัวเราะเสียงเย็น ยังคงไล่ตามจ้าวเฟิงอยู่ดังเดิม
ถึงแม้จ้าวเฟิงจะว่องไวอย่างยิ่ง แต่ว่าจักรพรรดิมู่อวิ๋นก็ยังคงเข้ามาใกล้ได้
“จ้าวเฟิง ระวัง!”
ราชาเหมันต์จันทรากับพวกชายหนุ่มผมทองอดจะร้องตกใจไม่ได้
บุรุษหนุ่มผู้มีปีกอัสนีคนนั้นดูสบายไม่ทุกข์ไม่ร้อนรน
“คุนอวิ๋นน้อย! ต้องดูปฏิกิริยาของเจ้าแล้ว” จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเรียบ
เมื่อเอ่ยจบ พลังน่ากลัวที่สามารถพลิกชะตาฟ้าดินได้ก็ทะลวงผ่านเหนืออากาศ
พลังนั้น หากจะพูดเรื่องขนาดก็คงไม่เท่ากับจักรพรรดิ แต่หากพูดเรื่องคุณสมบัติที่สอดประสานกลมกลืนกับฟ้าและดินแล้ว ก็ไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดิเลย
“อะไรกัน! นั่นมัน…” จักรพรรดิมู่อวิ๋นใจสั่นสะท้านอย่างไร้สาเหตุ
พรึ่บ!
เด็กน้อยผิวพรรณสีทองในวัยสองสามขวบ ทั่วร่างล้อมรอบด้วยลำแสงเจิดจ้าทรงพลัง ปรากฏขึ้นข้างกายจ้าวเฟิง
เด็กน้อยครึ่งเซียนนั่นเอง!
โครม!
เด็กน้อยครึ่งเซียนส่งหมัดไป สำนึกรู้ในฟ้าดินเหนือกว่าจักรพรรดิ
แสงกำปั้นสีทองเรืองรองราวแสงอาทิตย์ อานุภาพสูงส่งทะลวงผ่านในฟ้าและดิน ชวนให้รู้สึกคล้ายจะทำลายล้างทุกอย่าง
“อ๊าก!”
ราชันในระดับลึกซึ้งที่บาดเจ็บ เพิ่งจะหนีออกมาก็โดนลำแสงหมัดทะลวงจนแหลกเป็นผุยผง
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ผสานเข้ากับพลังครึ่งเซียนก็จะไม่เหมือนเดิมแล้ว”
เด็กน้อยครึ่งเซียนเบิกบานใจยิ่ง
“เจ้าเด็กนี่!”
คนทั้งสองฝั่งล้วนสูดลมหายใจเย็นเข้าปอด
ถึงแม้ว่หมัดเมื่อครู่จะชิงโจมตีก่อน แต่ว่าพลังดังกล่าวยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนึกรู้
ขนาดจักรพรรดิมู่อวิ๋นยังตกใจอย่างยิ่ง ด้วยพลังกระบวนหมัดของฝ่ายตรงข้าม แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถมองทะลุให้ปรุโปร่งได้
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ข้างกายของราชามังกรดำจึงเหลือราชันในระดับลึกซึ้งเพียงผู้เดียว คนทั้งสองตกอยู่ในวงล้อมของราชันสิบกว่า สถานการณ์อันตรายยิ่งนัก
“ฝ่ามือผนึกนภา!”
เด็กน้อยครึ่งเซียนยืนบังอยู่เบื้องหน้าจ้าวเฟิง เหมือนส่งหมัดออกมาช้าๆ หลายครั้ง
ยามนั้น ฟ้าดินในละแวกใกล้เคียงเหมือนตกลงสู่ภายในกองโคลนเหนียวหนืด ถึงกระทั่งเกิดความรู้สึกว่าความเร็วถูกลดทอนให้ช้าลง
โครม! โครม!
ลำแสงฝ่ามือสีทองหลายเส้นสายบิดเบี้ยวไปมา ตกลงเข้าสู่บรรยากาศ พุ่งปะทะที่จักรพรรดิมู่อวิ๋นพอดี
อากัปกิริยาและความเร็วของจักรพรรดิมู่อวิ๋นค้างแข็งไปชั่วขณะหนึ่ง
ถึงแม้ว่ากำลังรบของเด็กน้อยครึ่งเซียนยังไม่สามารถคุกคามเขาได้ก็ตาม
“นี่มันเป็น ‘ฝ่ามือผนึกนภา’ ในตำนาน!”
พลังจักรพรรดิมหาศาลและสำนึกรู้ของเขาล้วนแต่โดนจำกัดและกักบริเวณไว้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เด็กน้อยครึ่งเซียนหลอมรวมพลังครึ่งเซียนเข้าไป ความทรงจำกับพลังดวงวิญญาณฟื้นฟูไปอีกขั้นหนึ่ง จึงสามารถสำแดง ‘ฝ่ามือผนึกนภา’ แบบฉบับอย่างง่ายได้
อีกทั้งการฝึกตนของเด็กน้อยครึ่งเซียนก็แตะถึงขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงช่วงสุดยอด ตำแหน่งราชันก็เข้าใกล้มาเพียงคืบเดียว
“แผนการฟื้นคืนชีพครึ่งเซียน สุดท้ายก็ไม่ได้เสียแรงเปล่า” จ้าวเฟิงลอบผงกศีรษะ
กำลังรบในขณะนี้ของเด็กน้อยครึ่งเซียนเข้าใกล้ราชันระดับสุดยอด สำนึกรู้สามารถกดข่มคนในขอบเขตปราณเทวะได้เป็นจำนวนมาก
“สังหาร!”
ราชาเหมันต์จันทรา ราชาฉลามยักษ์ และเหล่าราชายอดฝีมือนึกครึ้มใจ พุ่งตรงไปสังหารจักรพรรดิมู่อวิ๋น
สำนึกรู้ของจักรพรรดิมู่อวิ๋นและความเร็วในท่าร่างต่างๆ ล้วนโดนจำกัดโดย ‘ฝ่ามือผนึกนภา’ อีกทั้งความเร็วยังลดลงจนอ่อนแอไปหลายส่วน
“มีอย่างนี้ที่ไหนกัน! เด็กน้อยผู้นั้นมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่”
จักรพรรดิมู่อวิ๋นจิตใจว้าวุ่น ถ้าหากว่าเด็กน้อยผู้นั้นฝึกบำเพ็ญถึงขั้นจักรพรรดิ เกรงว่าจะสามารถคุกตามเขาได้แน่
ปะทะกันมาถึงตอนนี้ จักรพรรดิมู่อวิ๋นตกเป็นเบี้ยล่างของอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก
ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นเป็นบุคคลในตำนานเมื่อหลายหมื่นปีก่อน ปัจจุบันรูปลักษณ์เปลี่ยนไปเช่นนี้ ต่อให้เป็นจักรพรรดิส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจินอู่ก็ยากที่จะมองออกได้
“ปีกอัสนีโบยบิน!”
จ้าวเฟิงเรียกใช้เคล็ดวิชาปีกอัสนี ปรี่ไปยังข้างกายของราชามังกรดำ แล้วจึงใช้ ‘คมปีกวายุอัสนี’ ที่หลอมรวมอัสนีเทวะโจมตีอย่างหนักหน่วงเข้าไป
“รีบหนีเร็ว!”
ราชามังกรดำบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว ราชันในระดับลึกซึ้งอีกคนหนึ่งก็ถูกล้อมสังหารโดยราชันทั้งหกคน
ในตอนนี้ฟากของราชามังกรดำเหลือราชันเพียงแค่คนเดียวแล้ว
“ธนูเหนือนภา!”
บนคันธนูสีเงินในมือของจ้าวเฟิงปรากฏแสงลูกธนูสีทองดอกหนึ่ง เสียง ‘วูบ ฟุ่บ’ ดังขึ้น ก่อนทะยานผ่านทะลเหมอกความว่างเปล่าในทันใด
ในวินาทีต่อมา
แสงลูกธนูทองซึ่งรายล้อมด้วยวายุอัสนีสีชาด ผสานด้วยพลังอัสนีเทวะ ทะลวงผ่านบ่าของราชามังกรดำไป
ราชามังกรดำอ่อนล้าอย่างยิ่ง ร่างกายโซซัดโซเซ มุมปากมีคราบเลือดไหลเป็นทาง
ดีที่เขาหนีออกมาจากวงล้อมของจ้าวเฟิงและคนอื่นได้
แล้วในเวลานี้เอง ด้านหน้าปรากฏเพลิงหมอกหุ่นเชิดศพที่คละคลุ้งหนาแน่น มันขยายรัศมีออกเป็นสิบยี่สิบลี้อย่างรวดเร็ว
“อะไรกัน!”
ร่างของราชามังกรดำบาดเจ็บสาหัส จิตและวิญญาณหลั่งไหลราวสายน้ำ
ด้วยเพราะบาดเจ็บ ร่างกายมีบาดแผลไม่น้อย พลังอาฆาตหุ่นเชิดศพจะกัดกร่อนสรรพชีวิตลักษณะนี้มากกว่าปกติหลายเท่าตัว
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยโบกธงค่ายกล เพลิงหมอกหุ่นเชิดศพที่หนาแน่นเป็นกลุ่มก้อน กลายเป็นมังกรที่สมจริงเข้ารัดร่างของราชามังกรดำไว้ตัวแล้วตัวเล่า
“เจ้าแมวขโมย ตายเสีย!”
ราชามังกรดำโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง ตั้งแต่สู้มา เขาก็โดนราชันจำนวนมากล้อมโจมตี ใช้เคล็ดวิชาต่างๆ มากมาย ก็ทำได้เพียงยืดเวลาที่จะพ่ายแพ้เท่านั้น
เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยหายไปจากภายในค่ายกลหุ่นเชิดศพ
ห้วงคิดเซียนที่แข็งแกร่งของราชามังกรดำกลับหาเงาของเจ้าแมวขโมยตัวนี้ไม่พบ
ค่ายกลหุ่นเชิดศพนี้รัดร่างไว้อย่างรวดเร็ว แล้วยังกัดกร่อนจิตของเขาไปด้วย
สีหน้าของราชามังกรดำซีดขาว ไม่กล้าปล่อยให้ยืดเยื้อไปอีก เขาจึงฝืนทำลายค่ายกลหุ่นเชิดศพ
เมื่อเขาฝืนทำลายค่ายกลหุ่นเชิดศพ สีหน้าก็ยิ่งอ่อนแรงลงไปอีกมาก
ในเวลานี้
กริชที่มืดมิดราวกับเงาปรากฏที่อากาศด้านหน้าก่อนทะลวงเข้ามา
โครม ฟุ่บ!
ส่วนศีรษะของราชามังกรดำโดนพุ่งแทงจนเลือดสาดกระจาย ดูไปแล้วเหมือบกับว่าเขาพุ่งเข้าหากริชลี้ลับเล่มนั้นเอง
“กริชจักรพรรดิเงาสังหาร…”
ใบหน้าที่ซีดขาวของราชามังกรดำเผยความประหลาดใจ
กริชจักรพรรดิเงาสังหารนั่น ไม่เพียงแต่พุ่งทะลุเข้าหาร่าง แต่ยังพุ่งผ่านเงาด้านหลังและดวงวิญญาณของเขาอย่างแม่นยำ
ในฐานะที่เป็นอาวุธวิเศษแขนงเงาสังหาร กริชจักรพรรดิเงาสังหารมีความสามารถลี้ลับหลายอย่างที่มากพอๆ กับธนูเหนือนภา
ในอดีตเจ้าแมวขโมยตัวน้อยต้องทุ่มเทแรงทั้งหมด จึงจะได้รับการยอมรับจากกริชจักรพรรดิเงาสังหาร
“คิดจะสังหารข้างั้นรึ ไม่มีทาง…” ราชามังกรดำดิ้นรนสุดแรงเกิด
ฟุ่บ!
กรงเล็บของเจ้าแมวตะปบลงไปบนใบหน้าของเขา แล้วความรู้สึกวิงเวียนก็ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ
“อ๊ากกก…”
ในชั้นดวงวิญญาณเกิดเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น ดวงวิญญาณและร่างกายของราชามังกรดำหลอมละลายหายไปภายในค่ายกลหุ่นเชิดศพอย่างช้าๆ