Skip to content

King of Gods 708

King Of Gods

บทที่ 708 เนตรเพ่งมรณะ

เวินลั่วอันและราชาอินหยางย่อมไม่หยิ่งจองหอง

คิดจะเก็บจักรพรรดิปราณเทวะไว้หนึ่งคน ถึงแม้ว่าจะเป็นจักรพรรดิที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตาม

ใจของจักรพรรดิมู่อวิ๋นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ทุกข์โศกไร้หนทางระบาย

เขาเลียริมฝีปากเล็กน้อย แล้วแย้มรอยยิ้มที่เยาะเย้ยและโหดเหี้ยม จ้องมองคนทั้งสองรวมไปถึง องครักษ์ที่เป็นเหมือนเงาดำส่วนหนึ่งบนเรือสำเภามรณะอย่างตึงเครียด

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขาจึงเกิดความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนล่วงรู้ข้อมูลของคนเหล่านี้จากที่ไหนมาก่อน

“คนผู้นี้มีเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับจ้าวเฟิง จะต้องเก็บเขาเอาไว้” ราชาอินหยางและเวินลั่วอันสบตากัน

จักรพรรดิมู่อวิ๋นโดนทำร้ายจากเนตรพิฆาตผ่านอากาศของจ้าวเฟิงที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายพลังดวงตาที่แกร่งกล้า แถมยังเจือกลิ่นอายพลังมรณะด้วย

ทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันแล้วตัดสินใจได้ในทันที

พรึ่บ! พรึ่บ!

คนทั้งสองล้วงเอาตราคำสั่งมรณะพิเศษแผ่นหนึ่งออกมาพร้อมกัน

ตราคำสั่งนั้นมีกลิ่นอายโบราณลึกล้ำ ดำมืดดั่งสีหมึก บนพื้นผิวสลักตราโบราณเป็นอักษรคำว่า ‘ตาย’ ซ้ำยังสาดซัดกลิ่นอายมรณะที่ทะลวงผ่านวิญญาณออกมา

ดวงวิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋นสัมผัสได้เพียงความเย็นยะเยือก เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างที่อธิบายไม่ได้ ตราคำสั่งมรณะที่มืดมิดสองแผ่นกระจายพลังมรณะออกไปกักตัวจักรพรรดิมู่อวิ๋นเอาไว้

“ตราคำสั่งนี่ หรือว่าจะเป็น…”

จักรพรรดิมู่อวิ๋นเหมือนกับคิดอะไรบางอย่างออก หน้าเปลี่ยนสีในทันที

ชั่วพริบตาต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าตื่นตกใจ

วิ้ง~

ตรงกลางของตราคำสั่งมรณะสองแผ่น แต่ละแผ่นปรากฏนัยน์ตาดำมืดลึกล้ำหนึ่งดวง ข้างในคือน้ำวนที่ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง จุดแสงสีขาวที่เต้นระเร่าน้อยๆ ราวกับเชื่อมต่อกับโลกความตายไม่มีที่สิ้นสุด

“เนตรมรณะ!”

จักรพรรดิมู่อวิ๋นตกใจจนร้องเสียงหลง การคาดเดาที่เกิดขึ้นภายในใจที่ไม่สงบกลายเป็นความจริงขึ้นมา

ในวินาทีนี้ ราชาอินหยางและเวินลั่วอันใช้ตราคำสั่งมรณะทั้งสองแผ่นดึงพลังของเนตรมรณะออกมา กลิ่นอายมรณะของมันแข็งแกร่งกว่ายามปรากฏที่ซากปรักหักพังสือเฉิงหลายสิบเท่า อีกทั้งคุณลักษณะยังต่างกัน

ครั้งก่อน ตอนที่เนตรมรณะปรากฎขึ้นกลางซากปรักหักพังสือเฉิง จะเป็นพลังของตัวตราคำสั่งเองมากกว่าที่สามารถเชื่อมโยงกับ ‘เนตรมรณะ’ ของจักรพรรดิแห่งความตาย

เพราะว่าในตัวของตราคำสั่งมรณะเองก็มีพลังที่แข็งแกร่งของจักรพรรดิแห่งความตายเก็บกักไว้เป็นจำนวนมาก

และในตอนนี้ ราชาอินหยางและเวินลั่วอันใช้มันเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงข้ามระยะทางกับ ‘เนตรมรณะ’ ของจักรพรรดิแห่งความตายโดยตรง

จักรพรรดิมู่อวิ๋นใจเย็นวาบ รู้สึกประหลาดไปเองว่าไม่สามารถควบคุมความเป็นความตายได้

แต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิปราณเทวะ เขาไม่ได้ถอยหนีไปแม้แต่น้อย

ตามทฤษฎีแล้ว จักรพรรดิแห่งความตายกับเขามีพลังฝึกตนพอๆ กัน เพียงแต่ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงจักรพรรดิที่เก่าแก่ในตำนาน แล้วยังเป็นผู้สืบทอดสายเลือดเนตรมรณะ

“เหอะ! จักรพรรดิแห่งความตาย! เจ้าปรากฏตัวออกมาสิ บางทีข้าอาจจะถอยให้ก็ได้ แต่ว่าเนตรมรณะของเจ้าทำได้เพียงแค่เชื่อมต่อข้ามระยะทางกับที่แห่งนี้เท่านั้น”

จักรพรรดิมู่อวิ๋นหัวเราะเสียงเย็น พลังของดวงวิญญาณเกือบจะเผาไหม้จนเกิดเป็นพลังที่มีอานุภาพแข็งแกร่ง

ราชาอินหยางและเวินลั่วอันที่อยู่อีกฟากล้วนแต่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ดวงวิญญาณสั่นระริก

ยังดีที่ตราคำสั่งมรณะในมือให้ความมั่นใจกับพวกเขาว่ายังมีโล่คุ้มครองจากจิตวิญญาณอยู่

กึก เคร้ง!

ตราคำสั่งมรณะสองแผ่นนั้นแตกกระจายในทันที

จากนั้นสองเนตรมรณะที่ลึกล้ำมืดสนิทประหนึ่งหุบเหวลึกแห่งความตาย ก็ขยายใหญ่ออกเป็นพันเป็นหมื่นเท่าในทันที เหมือนกับดวงตาข้ามระยะทางของจ้าวเฟิง

“เนตรเพ่งมรณะ!” เสียงคลุมเครือดังก้องไปถึงในชั้นดวงวิญญาณ

‘เนตรมรณะ’ ที่ข้ามผ่านระยะทางมาเย็นเฉียบไร้ความรู้สึก เพ่งมองไปที่จักรพรรดิมู่อวิ๋นอย่างเงียบเชียบ

“เป็นไปได้อย่างไรกัน…” จักรพรรดิมู่อวิ๋นรู้สึกว่าดวงวิญญาณเหมือนถูกกักขังเอาไว้จนควบคุมตัวเองไม่ได้

พละกำลังทั่วร่างกายของเขาคล้ายถูกผนึกเอาไว้ ยากจะขยับเขยื้อนได้

‘เนตรมรณะ’ ขนาดใหญ่ทั้งสองดวงบนฟ้าเหนือศีรษะ ด้านในมีน้ำวนลึกทะมึนหมุนวนขยายออกไป

“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!” จักรพรรดิมู่อวิ๋นพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ร้องคำรามด้วยความตกใจ

แต่ทว่าการต่อสู้ที่ครั้งใหญ่ผ่านมา ทำให้โลกมิติส่วนตัวแตกละเอียด ไอสวรรค์ได้รับบาดเจ็บหนัก เขามีกำลังรบในระดับสุดยอดเพียงห้าหกสิบส่วนเท่านั้น

การต่อสู้ดิ้นรนของเขา เห็นได้ชัดว่ากำลังใจสวนทางกับกำลังกาย

กายจิตวิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋นค่อยๆ ใหญ่โตขึ้นจนคล้ายพระพุทธรูป ในระหว่างการดิ้นรนก็ถูกพลังที่ไร้รูปร่างดึงออกมาจากร่างกาย

นั่นก็คือดวงวิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋น

พรึ่บ!

วิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋นถูก ‘เนตรมรณะ’ ที่ข้ามระยะทางมาดูดกลืนเข้าไปในน้ำวนมืดทะมึนไร้ก้นบึ้ง

“เนตรเพ่งมรณะ! นี่เป็นท่าไม้ตายชื่อดังในสายเลือดดวงตาของท่านอาจารย์ ด้วยพลังดวงวิญญาณระดับสูง ดวงวิญญาณของเป้าหมายที่ด้อยกว่าผู้ใช้วิชาจะถูกพรากเอาดวงวิญญาณไป”

ในแววตาของเวินลั่วอันฉายแววเคารพยำเกรง

วิชาดวงตาวิญญาณอย่างเนตรเพ่งมรณะประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นวิชาต้องห้าม เป็นดั่งตัวแทนของเทพแห่งความตาย

แต่ว่าหากจะพูดอีกแง่ จักรพรรดิแห่งความตายก็คือตัวแทนของ ‘เทพแห่งความตาย’ นี่เอง

เพราะว่าผู้เป็นนายของเนตรมรณะก็คือเทพแห่งความตาย

แต่ว่านั่นคือบรรพบุรุษผู้ครอบครองเนตรมรณะ มีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แทบไม่เคยปรากฏในชางไห่มาก่อนด้วยซ้ำ

เหนือศีรษะขึ้นไป รูปร่างสมจริงของเนตรมรณะขนาดใหญ่ชะงักไปหนึ่งถึงสองช่วงลมหายใจ อับแสงลงไปจนถึงขีดสุด แล้วจึงหายวับไปกับตา

“แสดง ‘เนตรเพ่งมรณะ’ ข้ามผ่านกลุ่มดินแดนหลายแห่ง เป้าหมายก็ยังเป็นถึงราชันปราณเทวะ ค่าตอบแทนที่เสียไปนั้นเกรงว่าจะ…” ราชาอินหยางย่นหัวคิ้วเล็กน้อย

ผ่านไปได้สักพักใหญ่

วิ้ง!

ในมือเวินลั่วอันปรากฏตราคำสั่งมรณะที่ใช้ติดต่อสื่อสารขึ้นแผ่นหนึ่ง

“ร่องรอยของจ้าวเฟิงนั่นอยู่ที่หุบเขาสิบแปดยอด มรดกดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัด…”

เสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูอ่อนแอลอยออกมาจากภายในตราคำสั่ง

หุบเขาสิบแปดยอด? มรดกจักรพรรดิราชาโจรสลัด!

เวินลั่วอันและราชาอินหยางดวงตาเป็นประกาย ดูเหมือนหลังจากจักรพรรดิแห่งความตายเอาวิญญาณของ ‘จักรพรรดิมู่อวิ๋น’ ไปได้แล้วจะสอบถามเพื่อค้นหาเบาะแสของจ้าวเฟิง

แต่ว่าเพื่อสิ่งนี้แล้ว จักรพรรดิแห่งความตายเองก็จ่ายค่าชดเชยไปเป็นจำนวนมาก

ถึงแม้จะมีตราคำสั่งมรณะพิเศษสองแผ่นเป็นตัวนำ แต่ระยะทางที่เนตรมรณะก้าวข้ามมาไกลอย่างยิ่ง จุดมุ่งหมายก็คือจักรพรรดิปราณเทวะที่มีระดับพลังเดียวกัน ทำให้สิ้นเปลืองพลังไปมหาศาล

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ ‘เนตรเพ่งมรณะ’ ได้สำเร็จลงแล้ว จักรพรรดิแห่งความตายก็ยังต้องซักถามดวงวิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋นอีก

“สภาพจิตใจกับพลังดวงตาของข้าสิ้นเปลืองแรงไปมากมาย จะต้องพักฟื้นเป็นเวลาหนึ่งเดือน พวกเจ้าคอยจับตาดูเป้าหมายไปก่อน…”

เสียงของจักรพรรดิแห่งความตายค่อยๆ รางเลือนหายไป

เวินลั่วอันและราชาอินหยางสบตากัน แล้วเกิดความรู้สึกสงสัยเกิดขึ้นในใจ

เพราะเหตุใดจักรพรรดิแห่งความตายถึงยืนกรานต้องการตามฆ่าจ้าวเฟิง แล้วยังอยากให้มีร่างศพหลงเหลืออยู่

เพื่อตามฆ่าจ้าวเฟิงแล้ว จักรพรรดิแห่งความตายยอมลงแรงและกำลังคนไปมากมาย ซึ่งมีต้นทุนแพงมหาศาล

ทั้งหมดนี้มันคุ้มค่าแล้วหรือ?

ณ หุบเขาสิบแปดยอด ใจกลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด

หลังจากโศกนาฏกรรมการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ ราชาโจรสลัดมากมายได้รับบาดเจ็บ ต่างรู้สึกโชคดีที่ตนผ่านวิกฤตความตายมาได้

หลังการต่อสู้ในครั้งนี้ ราชาโจรสลัดเหล่านั้นมองจ้าวเฟิงด้วยสีหน้าที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ไม่มีใครสงสัย จ้าวเฟิงมีคุณสมบัติในการจะแย่งชิงบัลลังก์จักรพรรดิโจรสลัดกับราชาฉลามยักษ์ และราชาเหมันต์จันทรา

ขนาดเด็กน้อยครึ่งเซียนที่อยู่ข้างกายจ้าวเฟิงก็ยังสามารถทำให้คนเลื่อมใสศรัทธาเช่นกัน

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ตราคำสั่งโจรสลัดกว่าสิบแผ่นลอยขึ้นกลางอากาศของมหาสมุทรความว่างเปล่า

ตามกฎมรดกจักรพรรดิโจรสลัด มีตราคำสั่งโจรสลัดเก้าแผ่นจะสามารถเปิดมรดกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัดได้

แต่ในตอนนี้ จำนวนของตราคำสั่งโจรสลัดเกินเงื่อนไขต่ำที่สุดมามากแล้ว

ตราคำสั่งโจรสลัดหนึ่งในนั้นกับจ้าวเฟิงและเรือหุ่นเชิดศพก็เชื่อมต่อกันอย่างแนบแน่น

ทุกๆ ตราคำสั่งโจรสลัดหนึ่งแผ่น ล้วนปักหลักบนเรือโจรสลัดในตำนานหนึ่งลำ

ตัวของเรือหุ่นเชิดศพเดิมถูกออกแบบมาให้เป็นเรือโจรสลัดและมีชีวิตจิตใจ ดังนั้นจึงได้รับการยอมรับจากตราคำสั่งราชาโจรสลัด

ในฐานะที่เป็นหัวหน้าเรือ จ้าวเฟิงจึงกลายเป็นหนึ่งในราชาโจรสลัด

เปรี้ยง!

ในมหาสมุทรความว่างเปล่า เกิดความรู้สึกสะเทือนจากการที่พื้นผิวโลกสั่นไหว

ความรู้สึกสะเทือนนั้นมาจากพื้นที่หุบเขาสิบแปดยอดอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด

ด้วยพลังมหาศาลระดับนั้น ขนาดขอบเขตปราณเทวะก็ยังรู้สึกได้บ้างเล็กน้อย

“แผนการที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นี่เป็นเพียงมรดกของจักรพรรดิปราณเทวะผู้หนึ่งจริงๆ หรือ?”

สำนึกรู้และประสาทสัมผัสของจ้าวเฟิงกลายเป็นของเล็กจ้อยไม่สำคัญ

เมี้ยว เมี้ยว~

ไม่รู้ตอนไหนที่เจ้าแมวขโมยตัวน้อยปรากฏขึ้นบนไหล่ ดวงตาสองข้างเปล่งประกาย

“ ‘มรดกจักรพรรดิโจรสลัด’ นี่ไม่ธรรมดาเลย”

เด็กน้อยครึ่งเซียนครุ่นคิด

ความรู้สึกสั่นสะเทือนต่อเนื่องเป็นเวลาสิบแปดช่วงลมหายใจทีเดียว

ในเวลาเดียวกัน

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด อาณาเขตเล็กๆ ของหุบเขาสิบแปดยอดปะทุแสงเขียวเข้มทะลวงขึ้นฟ้าพร้อมกัน ราวกับจะฝืนชะตาฟ้า ราวกับอยู่เหนือสรรพสิ่งใดๆ ในจักรวาลนี้

และแน่นอนว่ามีแต่ต้องมองลงจากเบื้องบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอดที่กว้างใหญ่ไพศาล มิฉะนั้นก็ยากที่จะสัมผัสถึงอานุภาพที่รุนแรงนี้

“ปรากฏออกมาแล้ว!” ไม่รู้ว่าใครกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตกใจ

โครม โครม เปรี้ยง!

ใจกลางของมหาสมุทรความว่างเปล่าเกิดน้ำวนลูกใหญ่สูงพันจั้ง ใจกลางน้ำวนค่อยๆ ปรากฏแสงสว่างสีเขียวเข้มออกมา สาดกระจายกลิ่นอายที่เก่าแก่ประหนึ่งพุ่งผ่านอีกฟากฝั่งของดวงดาว

“ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งยิ่ง หรือนี่จะเป็นทางเข้าของมรดกโจรสลัด?” เด็กน้อยครึ่งเซียนหรี่ตาลงเล็กน้อย

ในใจกลางคลื่นใหญ่สูงพันจั้ง วังน้ำวนลึกลับเหมือนกับมีพลังบางอย่างที่คงอยู่เป็นนิรันดร์

“ทางเข้านี้…เกรงว่าต่อให้เป็นจักรพรรดิปราณเทวะก็ต้องโดนตัดร่างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย” จ้าวเฟิงตกใจจนพูดไม่ออก

อีกทั้งลำแสงสีเขียวเข้มที่อยู่ใจกลางน้ำวนยักษ์นี้ ชวนให้รู้สึกเหมือนเคยประสบพบเจอมาก่อน ซึ่งคล้ายคลึงกับกลิ่นอายในความทรงจำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงต่างกันอยู่

“ทุกคนออกเดินทาง!”

เรือรบลำใหญ่ของราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์ออกนำไปก่อน ตรงดิ่งไปที่น้ำวนของใจกลางคลื่นยักษ์นั่น

ที่น่าแปลกใจก็คือเรือรบของพวกเขามีโล่พลังลี้ลับ พลังที่น่ากลัวของน้ำวนลูกยักษ์ไม่อาจสร้างความเสียหายให้ได้แม้แต่น้อย

“น่าสนใจยิ่งนัก” จ้าวเฟิงมองออกว่าเป็นประโชน์จากตราคำสั่งโจรสลัดที่ซึ่งมีกลิ่นอายผสานรวมกับเรือ

เรือหุ่นเชิดศพเองก็มีระลอกของกลิ่นอายที่คล้ายมีคล้ายไม่มี แต่หลังจากที่เข้าใกล้น้ำวนลูกยักษ์แล้วก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น

นี่ยังเกี่ยวโยงกับโครงสร้างทั้งหมดทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดเช่นกัน

จ้าวเฟิงยิ่งประหลาดใจ เพียงแค่กำลังของจักรพรรดิโจรสลัดผู้หนึ่งก็สามารถวางหมากที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ได้เลยหรือ?

สวบ!

เรือหุ่นเชิดศพทะลวงเข้าไปยังใจกลางของน้ำวนลูกยักษ์พร้อมกันกับเรือโจรสลัดในตำนานพวกนั้น

เรือที่เข้าไปในน้ำวนลูกยักษ์นั้นได้มีเพียงเรือที่มีตราคำสั่งโจรสลัดที่สามารถเปิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิ รวมไปถึงเรือที่ได้รับการยอมรับเท่านั้น

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ในขณะเดียวกัน ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด ตราคำสั่งโจรสลัดแผ่นอื่นๆ อีกหลายแผ่นที่กระจายอยู่ทั่วก็หมุนวนเข้าไปน้ำวนลูกยักษ์นั่นด้วยพลังของฟ้าและดิน

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของมรดกจักรพรรดิโจรสลัด ทุกครั้งหลังจากที่เปิดออกแล้ว ตราคำสั่งราชาโจรสลัดสิบแปดแผ่นก็จะถูกจัดสรรใหม่อีกครั้ง

จ้าวเฟิงผ่อนลมหายใจออกมา

ราชาเหมันต์จันทราไม่ได้หลอกตน เมื่อเป็นเช่นนี้ อิสระของเรือหุ่นเชิดศพก็จะไม่โดนจำกัดจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัดอีกต่อไป

ในขณะที่เรือหุ่นเชิดศพเข้าไปในน้ำวนลูกยักษ์ เจ้าแมวขโมยน้อย เด็กน้อยครึ่งเซียน และเจ้าหอโครงกระดูกก็ไม่โดนต่อต้านหรือได้รับผลกระทบใด

แต่เดิมพวกเขาถือเป็นส่วนหนึ่งของเรือทะเล จึงถูกนับว่าเป็นลูกเรือโจรสลัด

สุดท้ายแล้วเรือที่เข้ามาในน้ำวนลูกยักษ์ได้สำเร็จมีเพียงสิบสองลำ

ส่วนเรือที่เหลือไม่ว่าจะมีวัสดุแข็งแรงแค่ไหน ค่ายกลป้องกันแข็งแกร่งเท่าไหร่ ล้วนแต่โดนน้ำวนลูกยักษ์ซัดให้แตกกระจายย่อยยับไปในพริบตาเดียว

ต่อให้เป็นจักรพรรดิปราณเทวะก็ไม่อาจทะลวงผ่านน้ำวนลูกยักษ์ไปได้ เกรงว่าถึงดันทุรังเข้าไปได้ หากว่าไม่มีหัวใจของความเป็นโจรสลัด ก็ยากที่จะได้รับโอกาสช่วงชิงเอามรดกมา

นี่เป็นมรดกของโจรสลัดเท่านั้น!

ตูม!

น้ำวนลูกยักษ์นั่นกลายเป็นใจกลางของพลังฟ้าดินในหุบเขาสิบแปดยอด หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศของมหาสมุทรความว่างเปล่า

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่

เรือสำเภามรณะสีทองลำหนึ่งลอยละลิ่วมาตามคลื่นลม หยุดอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับน้ำวนลูกยักษ์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version