Skip to content

Library Of Heaven’s Path 1300

ตอนที่ 1300 โซนหัวกะทิ

วิ้ง!

มีแสงเรืองรองออกมา ชื่อ ลําดับ และคะแนนบนแผ่นหยกทดสอบเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งสุดท้าย ในที่สุดก็มีข้อมูล 500 บรรทัดอยู่บนแผ่นหยก ไม่ขาดไม่เกิน

เมื่อเห็นผลคะแนน เสียงอื้ออึงเซ็งแซ่ก็ดังขึ้น

“คราวนี้ทำลายสถิติมากทีเดียว!”

“ผมจะไม่พูดว่าพวกเขาทำลายสถิติ แต่เป็นผลคะแนนที่ดีที่สุดที่เราเคยเห็นในการทดสอบตลอด 30 ปีที่ผ่านมา!”

“อันดับ 1 ฟงสืออี้ ที่ได้คะแนน 70,000 คะแนน แม้แต่องค์หญิงน้อยของตระกูลหลัวก็ยังทำคะแนนไม่ได้มากขนาดนี้!”

“เป็นเพราะองค์หญิงน้อยไม่ได้ใช้พละกำลังเต็มพิกัด ถ้าเธอทุ่มเทเต็มที่ล่ะก็ อย่าว่าแต่ 70,000 คะแนนเลย ต่อให้ 700,000 คะแนนก็ไม่มีปัญหา!”

“ในฐานะผู้ครอบครองเคล็ดวิชาผู้เก็บงำมิติ เธอสามารถควบคุมพื้นที่ได้แทบทั้งหมด ยังน่าสงสัยอยู่ว่ามิติลี้ลับของการทดสอบประตูขุนเขานั้นจะต้านทานความแข็งแกร่งของเธอได้หรือไม่หากเธอทุ่มสุดตัว!”

“คนเดียวที่รับมือกับองค์หญิงน้อยแห่งตระกูลหลัวได้ก็คือทายาทน้อยแห่งตระกูลจาง!”

เหล่าปรมาจารย์ที่อยู่โดยรอบพากันออกความเห็น

ในฐานะผู้นำทาง พวกเขาเคยนำผู้เข้าแข่งขันมากมายเข้าสู่ปูชนียสถานนักปราชญ์ และแน่นอนว่า ผลคะแนนที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นคะแนนที่สูงสุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา!

อันดับหนึ่ง, ฟงสืออี้ ได้ 70,000 คะแนน

ถือเป็นความสำเร็จที่น่าสะพรึงทีเดียว!

“จางหยู่ก็ไม่เลว ได้ 69,000 คะแนน ห่างจากอันดับ 1 เพียง 1,000 คะแนนเท่านั้น!”

“ผมไม่คิดว่าหยวนไห่ชิงจะทำคะแนนขึ้นมาได้ในวินาทีสุดท้าย ขึ้นมาเป็นที่สาม”

“ไป๋ชิงฉวนก็ไม่เลว เขาทำคะแนนได้เป็นอันดับที่ 4”

เหล่าผู้นำทางต่างออกความเห็นเกี่ยวกับคะแนนอันดับต้นๆ ขณะที่จับจ้องชื่อบนกระดานคะแนนที่อยู่ตรงหน้า

รายชื่อเหล่านั้นคือเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ได้เข้าสู่โซนหัวกะทิ อัจฉริยะที่ปราดเปรื่องที่สุดในทวีปแห่งปรมาจารย์ บางที อีกหลายร้อยปีนับจากนี้ ชื่อของพวกเขาอาจยังติดปากผู้คนอยู่ และเป็นที่รู้จักถ้วนทั่วทุกตรอกซอกซอย

“ปิงหลิงชิงและเฉิงเล่อเหยาจากศาลาว่าการที่ราบธารน้ำแข็งก็ได้เข้าสู่โซนหัวกะทิเช่นกัน อันดับของปิงหลิงชิงนั้นอยู่ระหว่าง 10-20 ตลอดการทดสอบ ถือว่าไม่เลว ส่วนเฉิงเล่อเหยา อันดับของเธออยู่ที่ 70-80 ในช่วงการทดสอบ 2 วันแรก แต่วันสุดท้ายก็พุ่งพรวดขึ้นมาเป็น 1 ใน 50 คนแรก!”

“เธอคงได้ผ่านการทดสอบที่ยากเย็นบางอย่าง คะแนนถึงพุ่งขึ้นสูงขนาดนั้น ต้องบอกว่าเธอโชคดี”

“จริงด้วย น่าเสียดายมากสำหรับจางเฉี่ยน เขาอยู่ใน 50 อันดับแรกมาตลอดการทดสอบ แต่อันดับของเขาตกฮวบในการทดสอบโค้งสุดท้าย ทำให้ต้องหลุดออกจากโซนหัวกะทิ”

พวกเขาได้ตรวจสอบตารางคะแนนตลอด 3 วันที่ผ่านมา จึงพอรู้คร่าวๆ ว่าผู้เข้าแข่งขันคนไหนทำคะแนนได้เป็นอย่างไรตลอดช่วงเวลาของการทดสอบ

ทันใดนั้น ใครคนหนึ่งท่ามกลางฝูงชนก็ร้องออกมา “เดี๋ยวก่อน ทุกคนดูอันดับที่ 50, จางเซวียน เขามาจากไหน? ตลอดการทดสอบที่ผ่านมา ผมไม่เห็นชื่อของเขาเลย”

ทุกคนรีบหันไปดู และก็ตามนั้น รายชื่ออันดับที่ 50 บนกระดานคือชื่อที่ไม่คุ้นตา จางเซวียน!

“ชื่อนี้ไม่เคยเข้ามาใน 500 อันดับแรกตลอดการทดสอบ แล้วอยู่ดีๆ กระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 50 ได้อย่างไร?”

“คะแนนของเขาคือ 12,700 ครั้งสุดท้ายที่ผมตรวจสอบคะแนนของอันดับที่ 500 น่ะ คือ 2,400 คะแนนเท่านั้น พูดอีกอย่างก็คือ ภายในเวลาก่อนจะถึงโค้งสุดท้าย คะแนนของเขาก็เพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 10,000 คะแนน เป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร?”

“10,000 คะแนนภายใน 2 นาที แม้แต่ฟงสืออี้ก็ยังทำไม่ได้!”

“เขาโกงหรือเปล่า?”

ไม่ช้า น้ำเสียงที่แสดงถึงความสงสัยก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งห้องนั้น

แผ่นหยกทดสอบจะปรับปรุงข้อมูลใหม่ทุก 2 นาที และไม่เคยมีชื่อของ ‘จางเซวียน’ ปรากฏมาก่อน ข้อเท็จจริงที่ว่า ‘จางเซวียน’ ไม่เคยมีชื่อปรากฏอยู่ใน 500 คนแรกนั้นหมายความว่าเขาไม่เคยได้คะแนนสูงกว่าอันดับที่ 500 คือ 2,400 คะแนน!

แต่แล้วคะแนนของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นเป็น 12,700 คะแนนภายในชั่วพริบตา มันออกจะเหลือเชื่อเกินไป!

ผู้เข้าแข่งขันทั้งหนึ่งหมื่นคนใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน แต่ส่วนใหญ่ก็ยังทำได้ไม่ถึง 10,000 คะแนน ส่วนหมอนี่ทำคะแนนได้มากขนาดนั้นภายในเวลา 2 นาที ยังถือเป็นความสามารถของมนุษย์อยู่หรือเปล่า?

ท่ามกลางความขัดแย้งและความสงสัยของฝูงชน จ้าวชิงโม่ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นชื่อของจางเซวียน

เจ้าหนุ่มคนนั้นชอบทำตัวให้เขาเป็นห่วง ทำให้เขานั่งไม่ติดตลอด 3 วันที่ผ่านมา

หัวจิตหัวใจของเขาแทบไม่ได้พักผ่อนเมื่อพบว่าไม่ปรากฏชื่อของหมอนั่นในวันแรก เขาคิดว่าชายหนุ่มคงยังไม่มีโอกาส แต่ใครจะไปคิดว่าอยู่ดีๆ จะได้กว่าหมื่นคะแนนในวินาทีสุดท้าย และผ่านการทดสอบ แถมยังได้ที่นั่งสุดท้ายของโซนหัวกะทิด้วย! ช่างเชือดเฉือนจิตใจกันเหลือเกิน

สำหรับเขา การที่ผู้เข้าแข่งขันซึ่งตนเองพามาได้เข้าสู่ปูชนียสถานนักปราชญ์ และเข้าถึงโซนหัวกะทินั้นถือเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

“จางจิ่วเซี่ยว, หม่าหมิงไห่, ซุนกาน รวมแล้วก็มีผู้เข้าแข่งขัน 7 คนที่เราพามาซึ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบ ถือว่าไม่เลว” จ้าวชิงโม่พยักหน้า

แม้ผลการทดสอบจะต่ำกว่าความคาดหมาย มีเพียง 7 คนจาก 33 คนที่ผ่านการทดสอบไปได้ แต่เมื่อพิจารณาถึงว่าหนึ่งในนั้นเข้าถึงโซนหัวกะทิด้วย ก็ยังถือว่าไม่เลว ด้วยผลงานนี้ เขาคงจะมีคุณสมบัติได้เลื่อนขั้นไปยังสถานที่ที่มีผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่งกว่านี้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้าสู่ปูชนียสถานนักปราชญ์ในปีหน้า

เช่นเดียวกับปฏิกิริยาของเหล่าผู้นำทาง ผู้อาวุโสหลิวขมวดคิ้ว “ผลการทดสอบมีบางอย่างแปลกๆ”

เขาเป็นผู้อาวุโสของปูชนียสถานนักปราชญ์มานานแล้ว ได้พบอัจฉริยะมานับไม่ถ้วน แต่ยังไม่เคยเห็นใครทำคะแนนได้ถึง 10,000 คะแนนภายในเวลา 2 นาที

ผู้อาวุโสหลิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปพูดกับผู้อาวุโสที่อยู่ข้างๆ และสั่งการ “ผู้อาวุโสหานซู ไปตรวจสอบสถานการณ์ที”

“ขอรับ” ผู้อาวุโสหานซูพยักหน้า

เขารีบออกไปจากห้อง ไม่ช้าก็กลับมาพร้อมกับสีหน้าที่อธิบายได้ยาก

เห็นสีหน้าแปลกประหลาดของผู้อาวุโสหานซู ผู้อาวุโสหลิวถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

“ผมตรวจสอบข้อมูลแล้ว ตามที่เห็น จนถึงการปรับปรุงข้อมูลครั้งสุดท้าย จางเซวียนไม่ได้เลยสักคะแนน พูดง่ายๆ ก็คือเขาทำคะแนนได้ 12,700 คะแนนในวินาทีสุดท้าย!” ผู้อาวุโสหานซูตอบพร้อมกับขมวดคิ้ว

แผ่นหยกทดสอบไม่เพียงแต่บอกชื่อและคะแนนของผู้เข้าแข่งขัน 500 อันดับแรก แต่ยังเก็บการขึ้นลงของคะแนนของแต่ละคนเอาไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะระบุได้ไม่ชัดเจนว่าใครผ่านการทดสอบและใครที่ไม่ผ่าน

ก่อนหน้านี้ เขาเช็คข้อมูลที่ผ่านมาของจางเซวียน แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าจนถึง 2 นาทีสุดท้าย ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียว แต่เมื่อการทดสอบถึงจุดสิ้นสุด เขาก็กระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 50 ชัดเจนว่ามีบางอย่างที่แปลกประหลาดมากสำหรับสถานการณ์แบบนี้

“เขาได้ 12,700 คะแนนในวินาทีสุดท้าย มีการทดสอบไหนในการทดสอบประตูขุนเขาที่ทำให้ได้คะแนนมากขนาดนั้นในครั้งเดียวหรือเปล่า?” ผู้อาวุโสหลิวถามอย่างเอาจริงเอาจัง

“ก็อย่างที่คุณรู้ การทดสอบประตูขุนเขาถูกคิดค้นขึ้นโดยนักปราชญ์ขุย และแม้แต่ผู้อาวุโสอย่างพวกเราก็ไม่มีอำนาจที่จะไปตรวจสอบว่ามีการทดสอบชนิดไหนอยู่ในนั้นบ้าง เปิดเผยตำแหน่งที่ตั้งของการทดสอบก็ไม่ได้ แต่จากสถิติตลอด 100 ปีที่ผ่านมา คะแนนสูงสุดที่จะได้รวดเดียวก็คือการทำความเข้าใจค่ายกลลวงตา-สังหาร เกรด 8 ขั้นกลาง คือ 5,000 คะแนน”

มาถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสหานซูลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “สถิตินี้เป็นของจางเฉินจากตระกูลจาง ซึ่งก็ทำให้ตื่นเต้นกันมาก!”

“ผมรู้เรื่องนั้นเหมือนกัน แค่ 5,000 คะแนนนั่นก็แทบไม่น่าเชื่อแล้ว แต่จางเซวียนคนนี้ทำได้ถึง 12,700 คะแนนในรวดเดียว เขาผ่านการทดสอบแบบไหนกัน?” ผู้อาวุโสหลิวยังไม่อยากเชื่อ

มีการทดสอบในการทดสอบประตูขุนเขาที่ผู้เข้ารับการทดสอบสามารถได้คะแนนมากๆ ในรวดเดียว แต่การทดสอบเหล่านั้นก็ผ่านไปได้ยาก

ยิ่งไปกว่านั้น 5,000 คะแนนก็ถือเป็นคะแนนที่น่าทึ่งแล้วในการทดสอบเพียงหนึ่งครั้ง สำหรับผู้เข้าทดสอบที่ได้ 12,700 คะแนนในครั้งเดียวนั้น พูดตามตรง เขายังไม่อาจทำใจให้เชื่อได้

ผู้อาวุโสหลิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนสั่งการ “สำหรับตอนนี้ ประกาศผลก่อนเถอะ จากนั้น จัดการ ท้าทายของผู้พ่ายแพ้ขึ้นเพื่อทดสอบว่าจางเซวียนมีความสามารถในการได้คะแนนทีละมากๆ แบบนั้นจริงหรือไม่”

“ก็ดี” ผู้อาวุโสหานซูพยักหน้า

หลังจาก 3 วันของการทดสอบ ผู้เข้าแข่งขันก็ก็ล้วนเหนื่อยอ่อน ดังนั้น ปูชนียสถานนักปราชญ์จึงประกาศผลอย่างรวดเร็วเพื่อที่พวกเขาจะได้พักผ่อนโดยเร็วที่สุด

แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อยกเว้นอยู่

ยกตัวอย่าง มีบางครั้งที่คะแนนของผู้เข้าแข่งขันหลายคนปรากฏขึ้นอย่างไม่ปกติ ในสถานการณ์แบบนั้น ปูชนียสถานนักปราชญ์จะจัดการแข่งขันขึ้นโดยอนุญาตให้ผู้ที่ไม่ผ่านการทดสอบเข้าท้าทายผู้ที่ผ่านการทดสอบ และให้ผู้ที่ได้คะแนนอยู่ในโซนทั่วไปเข้าท้าทายผู้ที่อยู่ในโซนหัวกะทิ

อันดับแรก สิ่งนี้จะเป็นการแสดงความแข็งแกร่งของนักเรียนให้เหล่าครูบาอาจารย์ได้เห็น เพื่อที่จะเลือกให้คำชี้แนะได้เหมาะสม อันดับที่ 2 คือเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านการทดสอบนั้นผ่านมาได้อย่างชอบธรรมและโปร่งใส ไม่มีการคดโกงหรืออะไรทำนองนั้น

หากเหล่าผู้เข้าแข่งขันได้รู้ว่าจางเซวียนเข้าสู่อันดับที่ 50 ภายใน 2 นาทีสุดท้าย คงจะมีหลายคนที่ตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของการทดสอบ ดังนั้นการท้าทายครั้งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อยืนยันให้เห็นว่าเขาได้ตำแหน่งของตัวเองมาโดยใช้ความแข็งแกร่งที่แท้จริง

“ไปกันเถอะ” หลังจากพูดจบ ผู้อาวุโสหลิวก็เรียกคนอื่นๆ ให้ตามไป

คนอื่นๆ ตามเขาออกไป ไม่ช้าก็มาถึงจัตุรัส

ตอนนี้ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนออกจากประตูขุนเขามาหมดแล้ว และกำลังจ้องมองท้องฟ้าด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความคาดหวังและความตึงเครียด

“ขอแสดงความยินดีที่ผ่านการทดสอบตลอด 3 วันที่ผ่านมา พวกคุณล้วนแต่เหน็ดเหนื่อย ตอนนี้ผมขอประกาศผลการทดสอบ อันดับแรก ขอประกาศชื่อผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับเลือกเข้าสู่โซนหัวกะทิ” ขณะที่เสียงก้องกังวานของผู้อาวุโสหลิวดังไปทั่วจัตุรัส เขาก็คว้าพื้นที่ตรงหน้าไว้ และท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวระยิบระยับ เกิดแสงสว่างวาบ มีรายชื่อปรากฏตามกันมาเรื่อยๆ

ฟงสืออี้, จางหยู่, หยวนไห่ชิง, ไป๋ชิงฉวน

เมื่อแต่ละชื่อปรากฏ ก็จะมีเสียงเชียร์ดังสนั่นจากฝูงชน

“ผมได้ยินชื่อฟงสืออี้มานานแล้ว เขาเป็นศิษย์สายตรงของหนึ่งในผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ของสภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่”

“เขาเป็นศิษย์สายตรงของปรมาจารย์ระดับ 9 ดาวหรือ? ไม่น่าแปลกใจที่เก่งกาจขนาดนั้น! ได้รับคำชี้แนะที่แม่นยำตั้งแต่อายุยังน้อย เขาคงจะเก่งกาจในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือพลังปราณ สมควรแล้วกับอันดับที่ 1”

“ผมคิดว่าจางหยู่น่าจะมีโอกาสได้อันดับ 1 ในการทดสอบครั้งนี้!”

“ตระกูลจางนั้นยิ่งใหญ่มาก และมีอัจฉริยะมากมาย ถึงจางหยู่จะมีความปราดเปรื่องที่โดดเด่น แต่ก็ยังห่างจากอันดับ 1 เป็นธรรมดาที่ทรัพยากรที่เขาเข้าถึงจะมีจำกัด”

รายชื่อส่วนใหญ่ที่ปรากฏนั้นเป็นที่คุ้นตาของฝูงชนที่นี่ สำหรับพวกเขา คนเหล่านี้เปรียบเสมือนดวงดาวบนท้องฟ้าที่เอื้อมไม่ถึง

เฉิงเล่อเหยา? เธอได้เข้าสู่โซนหัวกะทิเช่นกันหรือ? จางเซวียนตั้งข้อสังเกต

เมื่อพิจารณาจากการที่เฉิงเล่อเหยาเข้าสู่โซนหัวกะทิได้ทั้งที่เป็นแค่นักรบการละทิ้งช่องว่างขั้นสูงสุด ก็ดูเหมือนเธอจะมีความปราดเปรื่องที่โดดเด่นไม่เบา

ยิ่งรายชื่อปรากฏมากขึ้นเท่าไหร่ จางเซวียนก็ยิ่งสงสัย มีผู้เข้าแข่งขันมากมายที่ใช้แซ่จาง พวกเขามาจากตระกูลจางทั้งหมดเลยหรือเปล่า?

ไม่ช้า 40 รายชื่อก็ปรากฏ ซึ่ง 10 ชื่อในนั้นใช้ ‘แซ่จาง’ ทุกคนมาจากตระกูลจางหรือ?

การที่ตระกูลจางคว้าไปได้ถึง 10 จาก 50 ที่นั่งของโซนหัวกะทิ พวกเขาจะทรงพลังไปหน่อยไหม?

ขณะที่จางเซวียนกำลังจะหันไปถามจางจิ่วเซี่ยว แสงสว่างบนท้องฟ้าก็กระพริบเป็นครั้งสุดท้าย และชื่อหนึ่งก็ปรากฏขึ้นปิดท้ายรายชื่อทั้งหมด

“จางเซวียน? เขามาจากตระกูลจางด้วยหรือเปล่า?”

“ผมว่าไม่ใช่นะ ผมเห็นรายชื่อของผู้เข้าแข่งขันของตระกูลจางปีนี้แล้ว ไม่มีชื่อนี้เลย”

“ดูเหมือนเขาจะเป็นปรมาจารย์คนหนึ่งจากจักรวรรดิฉิงหย่วน ทันทีที่มาถึงจัตุรัส ก็หาเรื่องเฉิงเล่อเหยาจากศาลาว่าการที่ราบธารน้ำแข็ง และซ้อมจางเฉี่ยนจากตระกูลจางด้วย”

“เขากล้าซ้อมจางเฉี่ยน? ช่างกล้าหาญเสียจริง!”

“ก็ใช่น่ะสิ คนที่มีความแข็งแกร่งพอจะเข้าสู่โซนหัวกะทิน่ะจะขาดความมั่นใจในตัวเองได้อย่างไร?”

เมื่อชื่อของจางเซวียนปรากฏ เสียงเซ็งแซ่ก็ดังขึ้น

ทุกคนดูเหมือนจะรู้จักรายชื่อ 49 คนแรก เพราะล้วนแต่มาจากตระกูลที่โดดเด่นหรือมีชื่อเสียง ซึ่งชื่อเสียงของพวกเขาก็โด่งดังไปไกล มีแต่อันดับที่ 50 เท่านั้น คือจางเซวียน ที่ไม่คุ้นตา

ด้วยวิธีการอันแปลกประหลาด ชื่อของเขาก็ลงเอยด้วยการมาอยู่ในรายชื่อ 50 คนแรก

นักรบจิตวิญญาณต้นกำเนิดขั้นสูงสุด แถมยังเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญจากจักรวรรดิฉิงหย่วนอันห่างไกล แต่เข้าสู่ 50 อันดับแรกได้

ช่างเหลือเชื่อเสียจริงๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version