Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 192

Lord of the Mysteries 192

ตอนที่ 192 : คนสำคัญ

ออเดรย์ก้มหน้าวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในหลายทาง สมองกำลังประมวลผลหนักหน่วง

‘มิสเตอร์แฮงแมนระบุว่า คีลิงเกอร์เป็นหมาป่าเดียวดายไม่ชอบทำงานร่วมกับใคร นอกเหนือจากการค้นพบของเรา ไม่ควรมีใครทราบว่าคีลิงเกอร์เตรียมก่อเหตุลอบสังหาร เรารายงานความผิดปกติของบารอนเกรเมียร์ไปแค่สองคน คือท่านพ่อและมิสเตอร์ฟูล จริงอยู่ว่าคฤหาสน์ของดยุคนีแกนอาจมีสายโทรเลขไปข้างนอก แต่หากมีการแจ้งข้อมูลดังกล่าวออกไป ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปิดบังเรา สีหน้าประหลาดใจของท่านพ่อหมายถึง บุคคลทรงพลังผู้ลงมือสังหารคีลิงเกอร์ไม่ได้อยู่ในขอบเขตความรู้จัก เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน มีโอกาสสูงมากว่าคีลิงเกอร์จะถูกสังหารโดยผู้รับใช้ของมิสเตอร์ฟูล หากจะมีใครสักคนลงมือฆ่าคีลิงเกอร์โดยปราศจากแรงจูงใจ คนผู้นั้นต้องมาจากชุมนุมไพ่ทาโรต์ของพวกเรา คีลิงเกอร์คือลำดับ 6 ผู้รับใช้วายุ แถมยังครอบครองสมบัติวิเศษ ยุบพองหิวโหย การสังหารเหยื่อแบบนั้นได้ในพริบตา มีแต่ต้องเป็นตัวตนระดับครึ่งเทพ หรืออาจเป็นผู้วิเศษขั้นกลางซึ่งพกพาสมบัติวิเศษทรงพลัง? ไม่ว่าจะอย่างไหน แต่ผู้รับใช้ของมิสเตอร์ฟูลต้องแข็งแกร่งมากแน่ สมกับเป็นท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่! ยิ่งไปกว่านั้นเราเป็นคนแจ้งเบาะแส มิสเตอร์แฮงแมนต้องทำตามสัญญาโดยการมอบต่อมใต้สมองของซาลามันเดอร์สีรุ้งให้! ภารกิจแรกของชุมนุมไพ่ทาโรต์จบลงอย่างยิ่งใหญ่อลังการ! พวกเราฆ่าหนึ่งในเจ็ดพลเรือโจรสลัด!’

ขณะจ้องมองบุตรสาวออกอาการตื่นเต้น เคาต์ฮอลล์กระแอมเสียงค่อยพร้อมกับสวมหน้ากากเคร่งขรึม

“ออเดรย์ พ่อทราบมาตลอดว่าเจ้าสนใจเรื่องเหนือธรรมชาติ และไม่เคยกล่าวตำหนิเลยสักครั้ง แต่เจ้าไม่ควรพัวพันกับคดีอันตรายไปมากกว่านี้ พ่อจะไม่เล่ารายละเอียดใดเพิ่มเติมอีก เมื่อถึงสิ้นปีเจ้าจะกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และมีนัดหมายเข้าสู่สังคมชนชั้นสูงอย่างเป็นทางการในงานเลี้ยงของพระราชินี ฉะนั้นจงจำเอาไว้ให้ดีในฐานะผู้ใหญ่ กลุ่มผู้วิเศษและองค์กรนอกรีตคือภัยคุกคามอันตราย เรื่องนี้เข้าใจใช่ไหม?”

“เข้าใจค่ะ ท่านพ่อ”

ออเดรย์ยอมเชื่อฟังอย่างว่าง่าย

“หนูแค่อยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก”

“อยากรู้อยากเห็นก็ไม่ได้!”

เคาต์ฮอลล์พยายามเน้นย้ำ แต่ก็ทำได้เพียงอมยิ้มจืดชืดอย่างจนปัญญา

“ค่ะ!” เด็กสาวผงกศีรษะหงึกหงัก

‘แต่หนูเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดมากกว่าท่านพ่ออีกนะคะ’

เธอแอบทำหน้าทะเล้นในใจ

เคาต์ฮอลล์ยืนไตร่ตรองสักพัก ก่อนอธิบายเสริมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

“แต่ความจริงก็ยังไม่เปลี่ยนไป เจ้าคือนางเอกของค่ำคืนนี้ เป็นผู้มีพระคุณของดยุคนีแกน ความตายของคีลิงเกอร์เกิดจากผลงานของเจ้าเกินกว่าครึ่ง เฉกเช่นเงินค่าหัวของมัน แน่นอนหากไม่มีใครออกมาประกาศว่าเป็นผู้สังหารคีลิงเกอร์และรับค่าหัว เจ้าก็จะได้เงินรางวัลอีกครึ่งหนึ่งเพิ่ม เมื่อรวมกันแล้วจะมีมูลค่าราวหนึ่งหมื่นปอนด์ จริงสิยังมีค่าหัวจากสาธารณรัฐอินทิส จักรวรรดิฟุซัค รวมถึงอาณาจักรอื่นข้างเคียง ค่าหัวทั้งหมดคงประมาณสองหมื่นปอนด์ ดยุคนีแกนสัญญาว่า จะมอบบ้านพักตากอากาศในอ่าวเดซีให้หนึ่งหลังเป็นของขวัญรวมถึงสวนยางพาราขนาดใหญ่อีกหนึ่งแห่ง พ่อเองก็ไม่ทราบกำไรต่อปี แต่มั่นใจว่าไม่น้อยแน่นอน เพราะสมัยนั้นท่านดยุคควักเงินซื้อในราคามากถึงแปดพันปอนด์ แถมยังลงทุนสร้างบ้านและซื้อเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงปลูกด้วย”

ออเดรย์ เด็กสาวผู้มีทรัพย์สินมรดกรวมกว่าสามแสนปอนด์ในปัจจุบัน ฐานะของเธอถูกจัดอยู่ในระดับมั่งคั่ง แต่กระนั้น รางวัลรวมมูลค่ากว่าสี่หมื่นปอนด์ก็ยังถือว่าสูงมาก เพราะแม้แต่สตรีตระกูลขุนนางใหญ่หลายคนของอาณาจักรก็ไม่เคยได้รับสินสอดทองหมั้นมากมายเท่านี้มาก่อน

ย้อนกลับไปในงานแต่งทางการเมืองของเจ้าบ่าวตระกูลขุนนางและเจ้าสาวตระกูลพ่อค้าช่วงเดือนสิงหาคม มิสแมรี·โอล์ดบรี บุตรสาวของอภิมหาเศรษฐี ก็ยังได้รับสินสอดเพียงแปดหมื่นปอดน์เท่านั้น

‘เราไม่เคยคิดเรื่องรางวัลมาก่อน’

ออเดรย์พึมพำ

ทันใดนั้น เด็กสาวพลันตระหนักบางสิ่ง หากตนรับค่าหัวของคีลิงเกอร์จนชื่อเสียงแพร่กระจายออกไป มิสเตอร์แฮงแมนก็จะทราบทันทีว่าจัสติสคือใคร

‘ไม่ดีแน่! ในฐานะสมาชิกชุมนุมไพ่ทาโรต์ เราต้องรักษาความลึกลับเข้าไว้!’

เธอหันไปมองบิดาพลางเรียบเรียงคำพูด

“ท่านพ่อ หนูกลัว”

“ทำไมหรือ? เรื่องไหน?”

เคาต์ฮอลล์ซักถามด้วยสีหน้าห่วงใย

“หากข่าวลือแพร่กระจายออกไปว่า หนูคือผู้พบความผิดปกติของบารอนเกรเมียร์จนเป็นสาเหตุให้คีลิงเกอร์ต้องตาย บางที บรรดาลูกน้องของมันอาจพุ่งเป้าการแก้แค้นมาหาหนูได้ หากเลวร้ายกว่านั้นบุคคลผู้จ้างวานให้คีลิงเกอร์ลอบสังหารดยุคนีแกน อาจโกรธแค้นจนเปลี่ยนเป้ามาเป็นหนูได้เหมือนกัน”

ออเดรย์พยายามทำตัวอ่อนแอเพื่อเรียกคะแนนสงสารอย่างสุดความสามารถ

“พ่อจะจ้างใครสักคนมาปกป้องเจ้าเอง”

เคาต์ฮอลล์ตอบหนักแน่นจากนั้นก็ผงกศีรษะแผ่วเบาหนึ่งหน

“ไม่ต้องห่วง คดีนี้ไม่ได้น่ากลัวดังเจ้าคิด บุคคลผู้ลงมือสังหารคีลิงเกอร์ได้นำยุบพองหิวโหยติดตัวไปด้วย คงไม่กลับมาก่อเหตุซ้ำ แล้วก็เดี๋ยวพ่อจะบอกให้ดยุคนีแกนหาคนมารับรางวัลค่าหัวเป็นฉากหน้าแทน จากนั้นค่อยแอบส่งมาให้เจ้าภายหลัง”

เคาต์ฮอลล์อมยิ้ม

“สมกับเป็นลูกสาวของพ่อ สามารถหาเงินกว่าสี่หมื่นปอนด์ได้ง่ายดายเช่นนี้ มูลค่ามากกว่าทรัพย์สินหนึ่งในสิบของเจ้าเสียอีก”

ทรัพย์สินสามแสนปอนด์คือมรดกเริ่มต้นซึ่งเคาต์ฮอลล์เตรียมล่วงหน้าให้ออเดรย์ ยังไม่รวมเงินส่วนอื่นปลีกย่อย เช่นมรดกเพิ่มเติมหลังจากแต่งงานมีครอบครัว

“หนูเก่งเท่าท่านพ่อตอนหนุ่มหรือยัง?”

ออเดรย์ฉีกยิ้มกว้าง

เคาต์ฮอลล์ส่ายศีรษะพลางหัวเราะ

“เก่งกว่ามากธุรกิจแรกของพ่อมีกำไรเพียงหกสิบปอนด์เท่านั้น”

ออเดรย์กำลังมีความสุขเป็นอารมณ์ปลื้มปิติซึ่งผสมผสานหลายเหตุการณ์เข้าด้วยกัน ทั้งรางวัลตอบแทนสี่หมื่นปอนด์ ได้รับคำชื่นชมจากบิดา ได้เป็นต้นเหตุการณ์ตายของคีลิงเกอร์ ได้มีส่วนสำคัญในคดีเหนือธรรมชาติ และกำลังจะได้รับต่อมใต้สมองของซาลามันเดอร์สีรุ้งจากมิสเตอร์แฮงแมน

‘เราต้องรายงานผลลัพธ์ให้มิสเตอร์ฟูลทราบโดยเร็ว ท่านจะได้สบายใจ เดี๋ยวก่อนยังทำแบบนั้นไม่ได้ การตายของคีลิงเกอร์มีปริศนาหลายข้อ ผู้สังหารเป็นผู้วิเศษทรงพลังระดับครึ่งเทพ คงมีหลายฝ่ายแอบจับตามองเราอยู่ ห้ามทำตัวมีพิรุธอย่างเด็ดขาด! ฟู่ว! ตัวเราไม่มีสิ่งผิดปกติอยู่แล้ว แค่ไม่พยายามเอ่ยพระนามของมิสเตอร์ฟูลก็พอ หืม…ถ้าผู้รับใช้ของมิสเตอร์ฟูลเป็นผู้สังหารคีลิงเกอร์จริง ท่านคงได้ทราบข่าวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรายงานซ้ำ แล้วแบบนี้เราต้องแบ่งเงินค่าหัวกับผู้รับใช้ของท่านไหม? แล้วจะแบ่งอย่างไร? การโยกย้ายเงินสองหมื่นปอนด์อย่างลับๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย แบบนั้นเสี่ยงตกเป็นเป้าสนใจเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นมิสเตอร์แฮงแมนเป็นฝ่ายขอร้องเรื่องคีลิงเกอร์กับมิสเตอร์ฟูลบ่อยครั้ง หมอนั่นต่างหากต้องจ่ายส่วนแบ่ง! จริงสิ เขาบอกว่ามีไดอารีจักรพรรดิโรซายล์จำนวนมาก คงถูกนำมาใช้แลกเปลี่ยนสินะ เพื่อตอบแทนท่านมิสเตอร์ฟูล เราเองก็ต้องพยายามรวบรวมไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ให้มากเช่นกัน เพราะท่านคงไม่แยแสเงินเศษไร้ค่าของมนุษย์อย่างเรา’

ออเดรย์ตัดสินใจได้แล้วว่าต้องทำสิ่งใดต่อ

……..

ภายในคฤหาสน์ดยุคนีแกน

ณ ห้องอ่านหนังสือลับ

ดยุคตัวใหญ่ร่างท้วมกำลังนั่งบนเก้าอี้พนักสูงหลังโต๊ะอ่านหนังสือ ปากดูดซิการ์พลางกวาดสายตามองไปรอบตัว ประกอบด้วยผู้ขับขานแห่งเทพ คาร์ดินัล สเน็ก นายกรัฐมนตรี อากัส·นีแกน รวมถึงบุคคลสำคัญอื่นๆ

“จากข้อมูลปัจจุบัน พวกเรายังไม่ทราบตัวจริงของบุคคลผู้สังหารคีลิงเกอร์”

นายกรัฐมนตรีอากัส·นีแกนรีบวิ่งมาหาพี่ชายทันทีเมื่อทราบข่าว โดยก่อนหน้ายังอยู่วังหลวงของกษัตริย์เพื่อเข้าเฝ้ารายงาน

อาร์คบิชอปเสน็กพยักหน้ารับ

“ทางเราตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ไม่ใช่ผู้วิเศษลำดับสูงคนใดในความรู้จักของโบสถ์วายุสลาตัน และไม่เคยทราบว่า นิกายวิญญาณมีผู้วิเศษทรงพลังขนาดนี้อยู่ด้วย พวกเรามีเหตุผลเพียงพอให้เชื่อว่า ผู้วิเศษแข็งแกร่งระดับไม่ต่ำกว่าครึ่งเทพผู้สังหารคีลิงเกอร์ ไม่เคยอยู่ในเครือข่ายข้อมูลของหน่วยพิเศษมาก่อน อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายอาจเป็นเพียงผู้วิเศษขั้นกลางซึ่งครอบครองสมบัติทรงพลัง ประเด็นนี้ยังไม่ถูกตัดออกไป”

น้องชายของพาลัส นายกรัฐมนตรีอากัสกล่าวเสริมด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน การสืบหาเบาะแสก็ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง ต้องรีบระบุตัวตนอีกฝ่ายให้ได้โดยเร็ว รวมถึงระบุจุดประสงค์การเข้ามาในกรุงเบ็คลันด์ และสาเหตุให้ต้องลงมือสังหารฆ่าคีลิงเกอร์”

ผู้วิเศษขั้นสูงซึ่งไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน กำลังเตร็ดเตร่อยู่ในกรุงเบ็คลันด์ และมีฝีมือพอจะทำให้สามโบสถ์หลักหันมาสนใจ

ในทางกลยุทธ์ผู้วิเศษลำดับ 4 หรือ 3 ไม่สามารถทนต่อกระสุนปืนใหญ่เรือรบได้ก็จริง แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าปะทะซึ่งหน้าเช่นกัน ทุกเส้นทางย่อมมีแบบฉบับการต่อสู้เป็นของตัวเอง

หรือก็คือความอันตรายของผู้วิเศษเหล่านี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเรือรบหุ้มเกราะ และเป็นสาเหตุให้พวกมันถูกเรียกว่า ‘ครึ่งเทพ’

ผู้ขับขานแห่งเทพ เอซ·สเน็กลุกขึ้นยืนพูด

“ขอเวลาผมสืบสวนเบาะแสเพิ่มเติมก่อน จะพยายามแลกเปลี่ยนข้อมูลกับโบสถ์รัตติกาลและโบสถ์จักรกลไอน้ำอย่างสุดความสามารถ”

…….

เขตเหนือของกรุงเบ็คลันด์

ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง

อะซิกนั่งอยู่ใต้ตะเกียงแก๊ส สายตาเพ่งพิจารณาถุงมือตรงหน้าอย่างละเอียด

ถุงมือมีลักษณะบางเฉียบ ราวกับสร้างจากหนังของมนุษย์ก็มิปาน หากเติมเลือดเนื้อเข้าไปใหม่ มันอาจกลายเป็นมือมนุษย์โดยสมบูรณ์อีกครั้ง

หลังจากอะซิกนั่งสำรวจเป็นเวลานาน ใบหน้าเริ่มแสดงอาการเจ็บแปลบให้เห็น ริมฝีปากส่งเสียงพึมพำ

“…เหมือนว่าเรา เคยร่วมงานกับเจ้านี่มาก่อน”

……..

เช้าวันถัดมา

ไคลน์นอนไม่หลับทั้งคืนเนื่องจากไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมจากจัสติส แฮงแมน หรือแม้กระทั่งอะซิก หัวสมองเอาแต่ขบคิดถึงผลลัพธ์ของเหตุการณ์คีลิงเกอร์ในทุกรูปแบบ

‘คงเกิดบางสิ่งขึ้น แฮงแมนและจัสติสถึงไม่กล้าติดต่อเราทันที แต่ทำไมมิสเตอร์อะซิกถึงไม่ตอบจดหมายกลับมา? เขาไม่ได้เข้าร่วมเหตุการณ์ หรือเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกลางคัน? ถูกคีลิงเกอร์จัดการไปแล้วหรือ?’

ไคลน์ใช้มือป้องปากหาวขณะกำลังโดยสารรถม้าไร้รางไปยังถนนซุตแลน

“ข่าวด่วนๆๆ! พลเรือโทแห่งวายุ คีลิงเกอร์ ถูกสังหารในกรุงเบ็คลันด์”

“ข่าวด่วนๆๆ! พลเรือโทแห่งวายุ คีลิงเกอร์ ถูกสังหารในกรุงเบ็คลันด์”

………

ระหว่างรถม้ากำลังเคลื่อนตัว ไคลน์พลันได้ยินเสียงแหกปากตะโกนของเด็กส่งหนังสือพิมพ์ อาชีพซึ่งเกิดจากความคิดสุดบรรเจิดของจักรพรรดิโรซายล์

ชายหนุ่มผงะชั่วครู่ มันรีบควักเหรียญเพนนีออกมาจ่ายค่าหนังสือพิมพ์ทิงเก็นฉบับเช้า ใครหลายคนบนรถม้าได้ทำแบบเดียวกัน

ไคลน์รีบคลี่หนังสือพิมพ์อ่านพาดหัว ‘โจรสลัดคีลิงเกอร์ถูกยิงตายโดยคนคุ้มกันของดยุคนีแกนในกรุงเบ็คลันด์’

‘คีลิงเกอร์ตายแล้ว? ฝีมือมิสเตอร์อะซิก?’

ชายหนุ่มก้มหน้ารำพัน สมองกำลังครุ่นคิดหาความเป็นไปได้มากมาย

…ตนเป็นถึงหัวหน้าใหญ่ขององค์กร แต่กลับได้ทราบความเป็นไปจากหนังสือพิมพ์

……………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version