บทที่ 873 สะกดไว้ในแผ่นดินสมบัติผู้ใช้วิญญาณ
“ทำไมกัน!”
เสี้ยวขณะต่อมา ความกดดัน ความโกรธเคือง ความไม่เข้าใจ ความอับจนปัญญาและอารมณ์ด้านลบต่างๆ ในใจของจี้ตงจื่อก็ไม่อาจสะกดเอาไว้ได้ เดือดพล่านท่วมฟ้าในใจ
เขาไม่อาจเข้าใจได้ โซ่เหล็กพันธนาการวิถีสวรรค์บรรพกาลที่แลกมาด้วยการสังเวยร่างกายของตนอย่างมหาศาล เดิมควรจะมีพลังที่สะท้านฟ้าสะท้านดินน่าตื่นตะลึงถึงจะถูก
และเขาก็ไม่ใช่เผ่านภาคิมหันต์คนแรกที่สำแดงโซ่เหล็กบนโลก ความจริงแล้ววิธีการใช้การสังเวยแลกมาซึ่งพลังของโซ่ นี่เดิมทีก็เป็นวิชาพรสวรรค์อันเป็นเอกลักษณ์ของเผ่านภาคิมหันต์อยู่แล้ว
เพียงแต่ค่าตอบแทนของการสำแดงมหาศาลนัก จะต้องทำการสังเวยอย่างเพียงพอ ดังนั้นหากไม่จำเป็นจริงๆ น้อยนักที่จะมีคนเลือกใช้
อีกทั้งโซ่ที่วิชานี้เหนี่ยวนำมาไม่ใช่ของจริง เป็นเพียงแค่ภาพฉายเงาเท่านั้น
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ทุกครั้ง ในพริบตาที่พลังวิเศษที่มีเฉพาะเพียงเผ่านภาคิมหันต์สำแดงขึ้นบนโลก ก็ล้วนแข็งแกร่งมาโดยตลอด
ต่างเผ่าเมื่อเผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้ คนที่สามารถต้านทานได้มีน้อยยิ่งนัก
แต่วันนี้ภาพฉายเงาโซ่เหล็กที่แลกมาจากการสังเวย จากการฟาดไป 3 ครั้ง ไม่ใช่แค่ฟาดสวี่ชิงไม่ตาย กระทั่งว่ายังสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับอีกฝ่าย
นี่ทำให้ในใจของจี้ตงจื่ออัดอั้นนัก
โดยเฉพาะท่าทีของสวี่ชิงในตอนนี้ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสวี่ชิงตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเหนือยิ่งกว่าเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด
ความแปลกประหลาดของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความรู้ความเข้าใจของเขา ดังนั้นในขณะเดียวกับที่เขารู้สึกเหลือเชื่อ ในใจก็เกิดความงุนงงสับสน
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้
ดังนั้นความรู้สึกที่ตัวเองพยายามทุ่มเททุกอย่าง สละวิถีสวรรค์ พลังชีวิตและพลังบำเพ็ญ แต่กลับเป็นการสร้างประโยชน์ให้อีกฝ่ายแทน ทำให้จี้ตงจื่อหน้าอกปวดแทบระเบิด กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
ส่วนประโยคนั้นของสวี่ชิงยิ่งทำให้จี้ตงจื่อดวงตาทั้ง 2 แดงก่ำ จิตสังหารในเสี้ยวขณะนี้อยู่เหนือยิ่งกว่าความอยากมีชีวิต
เขารู้ดี ตัวเองครั้งนี้ตกอยู่ในเคราะห์ภัยยากจะหนีรอดแน่แล้ว นอกเสียจากเทพเจ้าจะลงมาด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นแล้วความเป็นไปได้ที่จะรอดชีวิตจากการต่อสู้ครั้งนี้ริบหรี่มาก
และสำหรับเทพเจ้า ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะเผ่านภาคิมหันต์ เขาย่อมรู้เป็นอย่างดี และรู้ว่านี่แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
มหกรรมล่าเหยื่อจุดมุ่งหมายก็เพื่อที่จะเลี้ยงกู่ แล้วจะมีเรื่องช่วยเหลือเกิดขึ้นได้อย่างไร
เทพเจ้าอยู่สูงส่ง ไม่มีความรู้สึก
ดังนั้นในการล่าเหยื่อ จะรอดก็ดี จะตายก็ช่าง ล้วนอาศัยตัวเองไปคว้าเอามาทั้งสิ้น
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้…”
จี้ตงจื่อหัวเราะขมขื่น ตัดสินใจไม่หนีอีกต่อไป แต่จ้องสวี่ชิงเขม็ง ความบ้าคลั่งในสีหน้า จากการกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันกรอดก็พลันปะทุขึ้น
ท่ามกลางเสียงระเบิดดังสะท้อนก้อง กลิ่นอายอันตรายกลุ่มหนึ่งก็พวยพุ่งมาจากร่างของจี้ตงจื่อ
มาพร้อมด้วยระลอกคลื่นพลังน่ากลัว มีเขาเป็นศูนย์กลาง แผ่ออกไปทั่วทุกสารทิศ รัศมีอำนาจแข็งแกร่งทรงพลัง
ต้นกำเนิดการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างมาจากทะเลความรู้สึกของเขา!
ป้ายสักการะเทพ 96 ป้ายที่อยู่ในทะเลความรู้สึกของเขาตอนนี้ต่างสั่นคลอน ใบหน้าเทพแห่งความตายที่ปรากฏบนนั้น ส่งเสียงคำรามอย่างโมโหมาจากยมโลก ดังมาในโลกมนุษย์ ก่อเป็นคลื่นวนขนาดมหึมา หมุนดังครืนครั่นเลื่อนลั่นอยู่รอบๆ จี้ตงจื่อ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พลังดูดก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เพียงพริบตาม่านฟ้าก็เปลี่ยนจากสีแดงเป็นมืดมิด พื้นดินรางเลือนคล้ายกว่ากลายเป็นทะเลอั้นไห่
โลกทั้งใบเหมือนตกลงสู่ยมโลก เสียงพร่ำรำพันเก่าแก่โบราณเป็นระลอกๆ ก็ดังสะท้อนมาจากในความมืดนี้
ส่วนจี้ตงจื่อที่อยู่ใจกลางของคลื่นวนลูกนี้ กลิ่นอายอันตรายบนร่างของเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เวลาเพียงเสี้ยวพริบตา ร่างของเขาก็ส่งเสียงเปรี๊ยะๆ ออกมา
เริ่มแตกทลาย
คล้ายว่าการระเบิดนี้ กายเนื้อของเขาก็ทนรับไม่ไหวเช่นกัน
แต่เขาไม่สนใจ
สังเวยวิถีสวรรค์ พลังชีวิต พลังบำเพ็ญ เขายังเหลือวิญญาณ
แอบซ่อนไว้ในป้ายสักการะเทพ 96 ป้ายนั่น วิญญาณแท้จริงของจี้ตงจื่อตอนนี้พลันฉายแสงวาบ เพียงพริบตาท่ามกลางเสียงคำรามต่ำทุ้มของจี้ตงจื่อ วิญญาณแท้ก็แตกทลายไปเอง แปรเปลี่ยนเป็นพลังรุนแรงบ้าคลั่ง ส่งอิทธิพลให้กับป้ายสักการะเทพทุกป้าย
วิญญาณแท้เป็นศูนย์กลางของทะเลความรู้สึกของเขา การแตกสลายของวิญญาณจะส่งผลกระทบต่อทุกสิ่ง
ดังนั้นภายใต้การกระตุ้นของมัน ป้ายสักการะเทพที่เดิมก็สั่นคลอนอยู่แล้วพวกนั้น ตอนนี้สั่นรุนแรงกว่าเดิม
เสี้ยวขณะต่อมาก็ต่างแผ่ประกายแสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ออกมา ทะลวงออกมาจากในร่างที่แหว่งวิ่นของจี้ตงจื่อ
แต่ละทางๆ ยิงฉายขึ้นฟ้า
มองไปไกลๆ ในฟ้าดินที่มืดมิด แสงสีทองทั้งหมด 95 ทาง อยู่บนท้องฟ้าสอดประสานกันแปลงเป็นป้ายสักการะเทพมหึมา 95 ป้าย
มันลอยไปทั่วบริเวณ แผ่พลังทำลายล้าง จากนั้นก็จับกลุ่มกัน ก่อเป็นใบหน้าที่หลับตาขนนาดมหึมาดวงหนึ่ง
ดวงหน้านี้อัปลักษณ์ ไม่มีหน้าตาอย่างมนุษย์ที่ชัดเจน แต่เป็นเหมือนหนอนแมลง ชวนให้ขนลุกพรั่นพรึง
ขณะเดียวกันนี้ กายเนื้อของจี้ตงจื่อในเสี้ยวขณะนี้พลังชีวิตหมดสิ้น ก่อนที่จะสลายเป็นเถ้าธุลี สายตาสุดท้ายของเขามองมาทางสวี่ชิง มุมปากแสยะยิ้ม
“ข้าจะรอเจ้าในยมโลก”
พูดจบ ทุกอย่างของเขาก็สลายหายไป
บริเวณที่เขาอยู่ มีเพียงใบหน้ามหึมาดวงนั้นลอยอยู่บนฟ้า
ดวงตาทั้ง 2 ขยับเล็กน้อย จากนั้นก็พลันลืมขึ้นมา
ในมิติเกิดลมโบราณพัดมา พัดเอาความเน่าเปื่อยและความตายมายังโลก
กระทบต้องมายังสวี่ชิง
ฟ้าดินหมองหม่น ทั่วทั้งร่างสวี่ชิงเกิดปฏิกิริยาการกลายพันธุ์ทันที
แต่สวี่ชิงตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เผชิญหน้ากับเทพเจ้าหลายครั้ง ทำให้เขามีภูมิต้านทานในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน สภาวะเทพขั้นที่ 4 ของตัวเขาก็มีเทพเจ้าอยู่ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นต่อต้านกับผลกระทบของกลิ่นอายเทพเผ่าพันธุ์ประหลาดก็มีวิธีจัดการของตัวเอง เสี้ยวขณะต่อมา ร่างสวี่ชิงเพียงไหววูบ บริเวณที่กลายพันธุ์ทุกจุดบนร่างก็ลุกไหม้ขึ้นเอง สุดท้ายก็แยกออกไปกลายเป็นไหมวิญญาณ
จากนั้นก็เงยหน้า ประเมินใบหน้าวงมหึมาบนท้องฟ้าดวงนี้ ในดวงตาฉายประกายวาววาบ
การประเมินของเขาคล้ายว่าทำผิดฐานลบหลู่ สร้างความพิโรธจากเทพเจ้า ดังนั้น ใบหน้าดวงนั้นอ้าปาก สูดไปทางสวี่ชิงเต็มแรง
ฟ้าดินถล่ม มิติระเบิด แรงดูดมหาศาลกลุ่มหนึ่งมาจากทั่วทุกสารทิศ ปกคลุมสวี่ชิงเอาไว้
ร่างสวี่ชิงไม่อยู่ในการควบคุม ภายใต้แรงดูดนี้ก็เข้าไปใกล้ใบหน้าดวงนี้อย่างรวดเร็ว คล้ายว่าจะถูกกลืนกิน
นี่เป็นไพ่ตายสุดท้ายของจี้ตงจื่อ
สละวิญญาณของตัวเอง แลกมาซึ่งการฟื้นตื่นในระดับหนึ่งของป้ายสักการะเทพทั้งหมด ใช้เรื่องนี้…ให้สวี่ชิงตายตกไปด้วยกัน!
นี่คือวิธีเดียวที่เขานึกได้ในตอนนี้
เทพเจ้าไม่มีทางมาช่วยเขา
ตายก็ตายไป
แต่หากเสี้ยวขณะของความตาย สำแดงราคาและความมุ่งมั่นของตัวเองออกมา เช่นนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
และเทพเจ้าจะพอใจหรือไม่ ไม่มีใครล่วงรู้ แต่ว่าแววตาที่ฉายออกมาจากดวงตาของสวี่ชิง ในใจนั้นพอใจ
ทุกอย่างนี้เป็นสิ่งที่เขาอยากเห็น
ศึกนั้นที่สู้กับจี้ตงจื่อเมื่อหลายเดือนก่อน เขารู้ถึงความแปลกประหลาดในทะเทความรู้สึกของอีกฝ่าย จากวิชาช้อนจันทรากลางบ่อ ป้ายสักการะเทพแห่งความตายทั้ง 97 ป้าย ล้วนปรากฏชัดในสายตา
ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าคืออะไร
แต่จากกระจ่างแจ้งในเนื้อหาจากเศษชิ้นส่วนความทรงจำของจิ่วหลี หลังจากที่ได้เห็นประวัติศาสตร์ในตอนนั้น สำหรับที่มาที่ไปของป้ายสักการะเทพแห่งความตายพวกนั้น เขารู้กระจ่างเป็นอย่างดี
พวกนั้นคือเทพที่ตายไปในการต่อสู้ระหว่างผู้ใช้วิญญาณและเทพเจ้าในตอนนั้น
ต่อให้แตกดับ ไม่มีพลังอำนาจอย่างในตอนมีชีวิต แต่ในเมื่อปรากฏในทะเลความรู้สึกของจี้ตงจื่อ แปรเปลี่ยนเป็นรากฐานพลังอันแข็งแกร่งให้เขาได้ เช่นนั้นสวี่ชิงก็รู้สึกว่าน่าจะเอามาไว้ในสมบัติผู้ใช้วิญญาณของตัวเองได้เหมือนกัน เอามาเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงผู้ใช้วิญญาณ
เงื่อนไขคือป้ายสักการะเทพพวกนี้ต้องฟื้นคืนพลังขึ้นมา
อย่างเช่นตอนนี้
“ป้ายสักการะเทพที่แปรเปลี่ยนมาจากเทพแห่งความตายก็เป็นแค่ป้ายเท่านั้น สุดท้าย…ก็ล้วนแตกดับไปแล้ว!”
หากเป็นเทพเจ้า 95 องค์จริงๆ สวี่ชิงย่อมสู้อีกฝ่ายไม่ได้ น่ากลัวว่าเพียงมองมาครั้งเดียวก็ดับสลาย
แต่ตอนนี้เผชิญหน้ากับป้ายสักการะเทพที่ตายไปแล้วเหล่านี้ สวี่ชิงรู้สึกว่าลองสะกดดูได้
ดังนั้นทันทีที่ร่างของเขาประชิดใบหน้ายักษ์ แสงจันทร์สีม่วงข้างหลังเขาก็ท่วมฟ้า เสียงพึมพำนับไม่ถ้วนดังก้อง เข้าต่อต้านใบหน้าดวงมหึมา
ขณะเดียวกันไหมวิญญาณที่จับกลุ่มเป็นสภาวะเทพขั้นที่ 4 ก็พลันขยับไหวไปมา ไปตามมือขวาที่ยกขึ้นมาของสวี่ชิง แผ่ออกไปข้างนอก
ก่อเป็นทะเลไหมวิญญาณผืนหนึ่ง ขนาดใหญ่กว่าดวงหน้ามหึมานั่น ขวางกั้นไว้ระหว่างสวี่ชิงกับดวงหน้ามหึมาหึมา
แรงดูดหยุดชะงัก ในดวงตาสวี่ชิงแสงเย็นยะเยือกฉายวูบวาบ มือขวาที่ยกขึ้นขยี้ไปทางทะเลวิญญาณที่ขวางกั้นดวงหน้ามหึมาอยู่ข้างบน
ทันใดนั้นทะเลที่แปรเปลี่ยนมาจากไหมวิญญาณหลายล้านเส้นก็ระเบิดเสียงครืนครั่น คลื่นโหมซัดหมื่นจั้ง ถาโถมบ้าคลั่งสุดขีด ห่อหุ้มห้อมล้อม พุ่งไปหาดวงหน้ามหึมา
วนล้อมรอบมันทันที รัดเข้ามาอย่างรวดเร็ว จะสะกดใบหน้ามหึมานี้ไปข้างใน
ในดวงตาของดวงหน้ามหึมาไร้แวว เต็มไปด้วยความตาย แต่ปากที่อ้าขึ้นไร้ซึ่งแรงดูดอีกต่อไป กลับพ่นหมอกสีทองกลุ่มหนึ่งออกมาไปทางทะเลไหมวิญญาณ
หมอกกลุ่มนี้เข้าปะทะกับทะเลไหมวิญญาณทันที การกัดกร่อนเน่าเปื่อยรุนแรง สวี่ชิงสัมผัสเป็นครั้งแรกว่าไหมวิญญาณกำลังหายไปทีละเส้นๆ
ขณะเดียวกัน หน้าตาของใบหน้าดวงมหึมารางเลือน เกิดเงาทับซ้อน คล้ายว่าจะฉวยโอกาสหนีไปจากการพันธนาการของทะเลไหมวิญญาณ
ยิ่งแผ่ลำแสงสีทอง 95 ทางออกมาจากในตัวมันเอง เหมือนหอกสีทอง 95 เล่ม พุ่งออกไปทั่วทุกทิศทาง ทุกที่ที่ผ่านล้วนบดขยี้แหลกลาญ ไหมวิญญาณไม่อาจขัดขวางได้
แต่สวี่ชิงจะปล่อยให้มันสมหวังไปได้อย่างไร ตอนนี้ยกมือขึ้นคว้า ทันใดนั้นหยดเลือดที่หยุดอยู่กลางท้องฟ้าเพราะวิถีสวรรค์บรรพกาลปรากฏขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ก็พุ่งมาทันที แล้วพลันแผ่ขยายออกไปกลายเป็นทะเลเลือด ปกคลุมพื้นที่ออกไปไกลยิ่งขึ้น
ร่วมกับไหมวิญญาณ เกิดเป็นการห้อมล้อม 2 ชั้น รัดพร้อมกัน สยบดวงหน้ามหึมาป้ายสักการะเทพ
ขณะเดียวกันเขาสูดลมหายใจลึก ร่างทะยานออกไปนั่งขัดสมาธิกลางท้องฟ้า มือทั้ง 2 วางไว้ที่หน้าเข่า ศีรษะก้มต่ำเล็กน้อย ตราประทับผู้ใช้วิญญาณรูปวงแหวนที่หว่างคิ้วกะพริบแสงรางๆ
ร้องเรียกเงียบๆ ในใจ
“บรรพจารย์ผู้ใช้วิญญาณ!”
ทันใดนั้นเกราะผู้ใช้วิญญาณจิ่วหลีบนร่างเขาก็สั่นขึ้นมา หมอกสีเทามหาศาลแผ่ไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง เพียงพริบตาก็ปกคลุมสวี่ชิง แผ่ออกไปทั่วทุกสารทิศ ปกคลุมพื้นที่มหาศาล
ส่วนร่างของสวี่ชิงแม้จะถูกท่วมจมอยู่ในหมอกสีเทา แต่จากการเดือดพล่านของหมอก ก็มีเงาร่างใหญ่มหึมาปานภูเขา ประเดี๋ยวเลือนรางประเดี๋ยวปรากฏอยู่ในหมอก!
เงาร่างนี้ ตอนนั้นอยู่นอกค่ายกลสังหารเทพ ปกป้องคุ้มครองเผ่าพันธุ์หมื่นปี จวบจนภายหลังก็กลายเป็นฝุ่งผงในประวัติศาสตร์ น้อยคนนักที่จะจำได้
แต่ตอนนี้มันปรากฏขึ้นอีกครั้งแล้ว
เป็นสภาวะบรรพจารย์ผู้ใช้วิญญาณที่แท้จริง
สิ่งที่ปรากฏมาด้วยคือรัศมีอำนาจแข็งแกร่งไร้เทียมทานสูงส่งที่สะท้านฟ้าดิน
สั่นคลอนแผ่นดินใหญ่ผืนคีรี ทำให้ฟ้าดินในแผ่นดินใหญ่นี้เลื่อนลั่นครืนครั่น อสูรร้ายนับไม่ถ้วนครวญคราง สายเลือดผู้บำเพ็ญนับไม่ถ้วนได้รับผลกระทบ เกิดความรู้สึกอยากจะหมอบคารวะ
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ เงาร่างยิ่งใหญ่นี้สุดท้ายก็รางเลือนไป ทำให้คนรู้สึกเหมือนว่าแค่สำเร็จเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
แต่พลังพลานุภาพของมันก็นับว่าไร้เทียมทาน หลังจากปรากฏขึ้นก็ทำการสะกดดวงหน้ามหึมาที่ถูกสวี่ชิงพันธนาการเอาไว้
ดวงหน้ามหึมาระเบิดบึ้ม แหลกสลายไป แปรเปลี่ยนเป็นป้ายสักการะเทพ 95 ป้ายอีกครั้ง กำลังจะหลอมรวมกันใหม่ แต่ก็ช้าไปแล้ว
ไหมวิญญาณล้านเส้น ทะเลเลือดแสนลี้ และสภาวะบรรพจารย์ผู้ใช้วิญญาณครึ่งร่างผสานเข้าด้วยกัน ก่อเป็นการสะกดไร้พ่าย
ท่ามกลางเสียงระเบิดครืนครั่น หมอกสีเทาก็แผ่ปกคลุมมัน มองไปไกลๆ เหมือนกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเงานั้น
จวบจนกระทั่งหลังจากนั้นครู่หนึ่ง หมอกสลายไป เงาร่างสวี่ชิงที่นั่งขัดสมาธิปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า
ดวงหน้ามหึมาหายไปแล้ว
มันมาปรากฏอยู่ในทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง ถูกสะกดเอาไว้ในแผ่นดินสมบัติผู้ใช้วิญญาณที่ 5
กลายเป็นสารอาหารมหาศาลในการเปิดสภาวะบรรพจารย์ผู้ใช้วิญญาณ!
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
