Skip to content

Outside Of Time 882


บทที่ 882 ผู้เฒ่างงงวย

สวี่ชิงถอนหายใจให้กับการกระทำบ้าคลั่งของนายกอง ในใจไม่มีความประหลาดใจใดๆ ทั้งสิ้น

คำพูดของศิษย์พี่ใหญ่ที่ต้องการดวงตะวันแสงอรุณนั้นได้เปิดเผยทุกอย่างหมดแล้ว สวี่ชิงรู้ว่าเขาไม่สามารถหยุดยั้งพฤติกรรมรนหาที่ตายของนายกองได้ สิ่งที่เขาทำได้คือหนีให้ไกลที่สุด

และในขณะนี้ เหนือทะเลเยือกแข็งสีแดง ไม่ว่าจะเป็นดวงตาหรือสีหน้าของนายกองล้วนแสดงออกถึงความบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าเขาที่กัดคนอื่นมาตลอด วันนี้กลับถูกหอยกัด ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าต่อศิษย์น้องเล็กอย่างมาก

ดังนั้นในตอนนี้ เนื่องจากความบ้าคลั่งที่ว่า นายกองจึงมองไปยังหอยเบื้องล่างแล้วหัวเราะออกมา

“ให้เจ้ารู้ว่า ข้าไม่ใช่คนที่ใครจะมากัดได้ง่ายๆ!”

ขณะที่พูด ดวงตะวันแสงอรุณในมือของเขาก็ถูกกระตุ้น ปล่อยความร้อนอันน่าตกใจแผ่กระจายออกไป

ทุกที่ที่ผ่านไป หอยเหล่านั้นกลายเป็นสีแดง น้ำทะเลพลันเกิดริ้วคลื่น

อุณหภูมิที่น่ากลัวนี้ปกคลุมทะเลน้ำแข็งทั้งหมดในทันที

ฟ้าดินพลันบิดเบี้ยว แม้แต่สวี่ชิงที่หนีไปไกลถึงหลายพันจั้งยังรู้สึกถึงความร้อนอันเข้มข้นไล่มาจากด้านหลัง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายกองจะบ้าระห่ำ แต่บางทีอาจเป็นเพราะไม่ต้องการตกตายไปด้วย หรือบางทีหอยอาจกัดไม่แรงพอ ดังนั้นเขาจึงเหลือความรู้สึกยับยั้งชั่งใจอยู่บ้าง เพียงแค่ปล่อยความร้อนออกมาจากดวงตะวันแสงอรุณ แต่ไม่ได้ปล่อยให้มันระเบิดตัวเองทั้งหมดอย่างสมบูรณ์

จากจุดนี้ ก็พอเห็นได้ว่านายกองดูจะมีประสบการณ์ในการควบคุมดวงตะวันแสงอรุณมากกว่า

เพราะต้นแบบของดวงตะวันแสงอรุณคือดวงตะวันบรรพกาลถูกเขากู้ขึ้นมาจากแม่น้ำเซ่นทมิฬด้วยตัวเอง

ถึงอย่างนั้น แต่ดวงตะวันแสงอรุณก็เป็นสมบัติแดนสงครามของเผ่ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงนี้ที่สวี่ชิงได้ผสมเนื้อเลือดของชื่อหมู่เข้าไป พลังทำลายล้างของมันจึงเหนือกว่าดวงตะวันแสงอรุณทั่วไป

ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นเพียงการแผ่ความร้อน แม้จะอยู่ในแผ่นดินเทวะ ก็ยังน่าหวาดหวั่นอยู่ดี

การทำให้ทะเลน้ำแข็งสีแดงนี้เปลี่ยนจากริ้วคลื่นกลายเป็นเดือดพล่าน น้ำแข็งเองยังละลายลงราวกับกลายเป็นทะเลจริงๆ

ส่วนหอยเหล่านั้น…เมื่อมองไปรอบๆ ล้วนเป็นสีแดง นกอินทรีภายในตัวสั่นเร่าๆ ขณะที่หลับตาอยู่

ทว่าภายใต้อุณหภูมิสูงของดวงตะวันแสงอรุณ แม้แต่ไอพลังประหลาดยังถูกขับไล่ออกไปในเวลานี้ ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นโลกของดวงตะวันแสงอรุณในช่วงเวลาสั้นๆ

นายกองหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายสั่นเทิ้ม ตรงไปยังหอยที่กัดเขา ชั่วพริบตาเดียวก็วิ่งเข้าไป ขุดไข่มุกแล้ววิ่งหนี

ความเร็วของเขารวดเร็วมาก ฉวยโอกาสที่หอยตัวอื่นกำลังอ้าปากเนื่องจากอุณหภูมิที่เดือดพล่าน พยายามอย่างเต็มที่ ขุดไข่มุกไปพร้อมกับพูดเสียงเย่อหยิ่ง

“พวกสวะ ยอมให้ข้าเอาไข่มุกออกมาเสียโดยดีไม่ได้ใช่ไหม ต้องให้ข้าใช้ท่าไม้ตาย ในเมื่อไม่เชื่องก็ต้องโดนแบบนี้”

“ถ้าเป็นสมัยก่อน ข้าแช่แข็งพวกเจ้าทั้งหมด เอาไข่มุกไปได้สบายๆ พวกเจ้าไม่กล้าแม้แต่จะผายลม ถึงตอนนี้พลังบำเพ็ญของข้าจะสู้ชาติก่อนไม่ได้ แต่ข้าก็มีวิธีจัดการกับพวกเจ้า คราวนี้ ข้าจะไม่แช่แข็งพวกเจ้า แต่ข้าจะต้มพวกเจ้าแทน!”

นายกองรู้สึกสะใจ ตะโกนไปที่สวี่ชิงที่ยังคงถอยห่างออกไป

“ศิษย์น้องเล็ก เจ้าขี้ขลาดเกินไปแล้ว มาๆ ช่วยข้าเก็บไข่มุกด้วยกัน”

5,000 จั้ง สวี่ชิงเร่งความเร็วหนีไปโดยไม่หันหลังกลับ

เมื่อเห็นเช่นนั้น นายกองก็ส่ายหัว เขาคิดว่าอาชิงน้อยยังต้องฝึกให้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงร้องเพลงไปพลางขุดไข่มุกเอง แต่เมื่อเขาขุดได้มากกว่าร้อยชิ้น…

เมื่อน้ำทะเลเดือดพล่านมากขึ้น เมื่อความร้อนท่วมท้น ทอดสายตามองไปไกลๆ ทะเลน้ำแข็งทั้งหมดก็กลายสภาพเป็นน้ำเดือดจัด ส่วนหอยที่อยู่ข้างในก็กลายเป็นสีแดงจัด นกอินทรีภายในทยอยลืมตาขึ้นเนื่องจากถูกกระตุ้นสุดขั้ว

แสงสีดำปรากฏขึ้น พร้อมด้วยเสียงคำรามออกมาจากปาก

หอยหลายพันตัวหรือมากกว่า ส่งเสียงคำรามพร้อมกัน เสียงทั้งหมดประสานกัน ดังสนั่นหวั่นไหว คล้ายจะถล่มฟ้าทลายดิน คำรามไปทุกทิศทาง

การดิ้นรนของพวกมันพุ่งทะยานถึงขีดสุดในเวลานี้ บางส่วนถึงกับบินขึ้นมา ด้วยการงับกระดองรัวๆ ราวกับติดปีก

ทะเลเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง!

น้ำทะเล พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าฉับพลันเหมือนน้ำพุสายแล้วสายเล่า

“บินได้ด้วย?”

ในความทรงจำของเขา ทะเลน้ำแข็งสีแดงนี้ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ นกอินทรีหอยพวกนั้นไม่เคยบินมาก่อน

ในขณะที่นายกองประหลาดใจ ทะเลก็ส่งเสียงครืนครั่น หอยนับไม่ถ้วน บินขึ้นมาท่ามกลางเสียงคำราม หอยกระพือปีกอย่างต่อเนื่อง ท้องทะเลปะทุอย่างสมบูรณ์

น้ำทะเลพุ่งขึ้นฟ้า!

เสียงคำรามของนกอินทรียักษ์ยิ่งพุ่งพล่าน ความโกรธแค้นปะทุออกมาจากดวงตาของนกอินทรีเหล่านั้น จ้องมองนายกองเขม็ง

และไล่ตามเขาไปอย่างว่องไว

ถ้าเพียงเท่านั้นคงไม่เป็นอะไร แสงเย็นยะเยือกฉายผาดดวงตานายกอง

“กำลังขู่ใครกัน!”

เขาพ่นลมหายใจ กำลังจะลงมือ ทว่าเพียงเสี้ยวขณะต่อจากนั้น แม้แต่เขาเองยังหอบหายใจเฮือก…

เพราะทะเลทั้งผืนลอยขึ้นมากลางอากาศ ท่ามกลางเสียงแผดคำราม ข้างใต้ทะเลนั้นยังมีหนวดยุ่บยั่บหลายเส้น…

นายกองตะลึงงัน รีบเก็บดวงตะวันแสงอรุณ หันหลังวิ่งหนีไปหาสวี่ชิงอย่างไม่คิดชีวิต

สวี่ชิงที่อยู่ไกลออกไป รู้สึกถึงคลื่นความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวจากด้านหลัง อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามอง

ในดวงตาของเขา สิ่งที่ลอยขึ้นมาไม่ใช่น้ำทะเล หากแต่เป็นแมงกะพรุนสีแดงขนาดมหึมา!

แมงกะพรุนตัวนี้ตัวใหญ่ยักษ์ มันอาศัยอยู่ที่นั่น หัวของมันคือน้ำทะเล

และตอนนี้มันถูกปลุกให้ตื่นขึ้น หลังจากที่มันลอยขึ้นมา ร่างของนายกองก็ไม่ต่างจากเศษธุลีเมื่อเทียบกับตัวมัน

เมื่อเห็นแมงกะพรุนน่าสะพรึงกลัวนี้ สวี่ชิงพลันขนลุกชัน หันหลังวิ่งเร็วขึ้น นายกองที่อยู่ด้านหลัง ร้องโหยหวน ใส่แรงวิ่งเต็มที่ ร้องตะโกนไปทางสวี่ชิง

“ศิษย์น้องเล็ก…”

สวี่ชิงไม่พูดอะไร ใช้มือขวาคว้าไปข้างหลังในอากาศ เพื่อให้นายกองยืมพลัง ในทันทีนั้นนายกองใช้พลังนี้ เพิ่มความเร็วขึ้น หลบหนวดแมงกะพรุนยักษ์ที่ตามมาด้านหลัง

เขาหายใจหอบ รีบโยนเชือกหนังของตัวเองออกไป

สวี่ชิงคว้าไว้แล้วกระชาก ระยะห่างระหว่างเขากับนายกองก็ลดลงในทันที

“ศิษย์น้องเล็ก ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ…”

เมื่อเข้าใกล้สวี่ชิง นายกองก็เอ่ยเสียงแผ่ว สวี่ชิงไม่พูดอะไร รีบวิ่งต่อไป

ด้านหลังพวกเขานกอินทรีหลายพันตัวส่งเสียงร้อง แมงกะพรุนขนาดใหญ่ลอยเท้งเต้ง ไล่ตามมา

เสียงคำรามก้องกังวาน บ่งบอกชัดว่าถ้าไม่ตายจะไม่รามือ

โชคดีที่มีใยแมงมุมอยู่ และแมงกะพรุนตัวใหญ่เกินไป การเคลื่อนที่ไปมาย่อมสัมผัสกับใยแมงมุมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ความเร็วช้าลง การเคลื่อนไหวไม่คล่องตัวสักเท่าไร

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของแมงกะพรุน ใยแมงมุมบางส่วนขาดออกขณะที่มันเคลื่อนที่

ซ้ำยังมีแมงมุมบางตัวถูกหนวดของมันปัดโดนตัว และร่างแหลกสลายไปในพริบตา

ฉากนี้ ทำให้สวี่ชิงจิตใจสั่นไหว นายกองเองก็อกสั่นขวัญแขวนไม่ต่างกัน

“ชาติก่อนข้าเคยมาที่นี่ ทะเลแห่งนี้ไม่เป็นแบบนี้ นี่ๆๆ…นี่มันแมงกะพรุนยักษ์!”

สวี่ชิงคร้านจะพูดมาก จึงกัดฟันวิ่งต่อไป

และแล้วเวลาก็ผ่านไปเช่นนี้

หลายวันต่อมา บนท้องฟ้าเหนือแผ่นดินเทวะ ก็มีคนคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีเหมือนกับนายกองและสวี่ชิง

คนผู้นั้นคือทั่วสือซาน ตอนนี้ผมเขายุ่งเหยิง สภาพน่าอดสู ด้านหลังมองเห็นปลาดุกตัวยักษ์ 2 ตัวกำลังพุ่งเป้าไล่ตามเขาอยู่

“ทำไมถึงโชคร้ายขนาดนี้!”

ทั่วสือซานรู้สึกหมดหวัง และกังวลยิ่งกว่า หลังจากที่เขาเข้ามาในแผ่นดินเทวะแห่งนี้ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าตอนแรกจะราบรื่น แต่ต่อมากลับติดขัด

ถึงกับบังเอิญเจอกับเนตรทำลายล้างที่ลืมขึ้น

ถ้าไม่ใช่เพราะผู้เฒ่าในร่างของเขา ใช้การหลับใหลเป็นค่าตอบแทนในการช่วยเหลือ เขาอาจจะถูกเนตรทำลายล้างทำลายไปแล้ว

พอคิดว่าโชคร้ายผ่านพ้นไปแล้ว ต่อมาดันตกเป็นเป้าหมายของปลาดุก 2 ตัว ซ้ำร้ายตอนนี้ผู้เฒ่ายังหลับใหลอยู่ด้วย…

ทั่วสือซานถอนหายใจ เขาไม่อยากปลุกให้ผู้เฒ่าตื่นขึ้นมา เว้นแต่จะถึงขีดจำกัดจริงๆ เขารู้สึกปวดใจมากหากต้องเห็นผู้เฒ่าเสียสละ

“ไม่เป็นไร ยังมีวิธีอื่น ลักษณะเฉพาะของปลาดุกนี้คือ ขอแค่ล่าสำเร็จ มันก็จะสงบลง…”

ทั่วสือซานครุ่นคิดในใจ รีบตรวจสอบรอบๆ ตั้งใจจะหาคนมารับเคราะห์แทน

ดังนั้น ด้วยการพยายามควานหาอย่างเต็มกำลังของเขา 1 ชั่วยามต่อมา ทั่วสือซานที่สภาพสะบักสะบอมกว่าเดิม เห็นสวี่ชิงและใครอีกคนหนึ่งวิ่งมาจากขอบฟ้าไกลๆ

“สวี่ชิง? อีกคนนั้นใคร เป็นเผ่ามนุษย์เหมือนกันหรือ?”

ทั่วสือซานดวงตาเป็นประกาย รู้สึกลังเลที่จะทำร้ายสวี่ชิง แต่ทันใดนั้นเขาก็กัดฟัน คิดในใจว่าคิดจะสังหารสหายเต๋าอย่าได้รู้สึกผิด คนไร้พิษย่อมไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่

สวี่ชิงเอ๋ยสวี่ชิง พวกเราไม่มีมิตรอันใดต่อกัน ในเมื่อเจอกันในเวลานี้…ก็ถือว่าเจ้าโชคร้ายก็แล้วกัน!

คิดได้ดังนี้ ทั่วสือซานไม่ลังเลอีกต่อไป วิ่งสุดแรง ระเบิดพลังที่เหลืออยู่ เร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง ล่อปลาดุก 2 ตัวที่อยู่ด้านหลัง ตรงไปทางสวี่ชิง

สวี่ชิงและนายกอง ตอนนี้ก็เหนื่อยล้าเต็มที ถูกแมงกะพรุนตัวใหญ่ไล่ล่ามาหลายวัน แม้ว่าพวกเขาจะหาที่ที่มีใยแมงมุมหนาแน่น ทำให้แมงกะพรุนตัวใหญ่เคลื่อนไหวช้าลงก็ตาม

แต่การไล่ล่ายังคงดำเนินต่อไป ตำราไร้อักษรในกายคล้ายจะไร้ประโยชน์ในความรู้สึกของแมงกะพรุนตัวใหญ่

“การซ่อนตัวของพวกเราไม่ได้ไร้ประโยชน์ แต่ถูกเคราะห์กรรมผูกมัด แต่ตราบใดที่ห่างออกไปไกล ไม่ตกเป็นเป้าของมันสักสองสามชั่วยาม ก็พอจะตัดสายกรรมได้”

นายกองพูดอย่างรวดเร็ว สวี่ชิงพยักหน้า พลันเหลือบเห็นทั่วสือซานและปลาดุก 2 ตัวที่อยู่ด้านหลังของเขาพุ่งตรงมาจากระยะไกล

สวี่ชิงเลิกคิ้วขึ้น

ในขณะเดียวกัน ด้านหลังสวี่ชิงและนายกอง เสียงคำรามที่น่าตกใจก็ดังขึ้น แมงกะพรุนที่ถูกพันด้วยใยแมงมุม ไล่ตามมาอีกครั้ง ร่างของมันก็ปรากฏให้เห็นในระยะไกล

ขนาดและพลังระดับนั้น สั่นสะเทือนไปทุกทิศทาง

ทั่วสือซาน แต่เดิมจดจ่อสายตาอยู่ที่สวี่ชิง กำลังล่อปลาดุกที่อยู่ด้านหลังมา ตอนนี้เงยหน้าขึ้นโดยสัญชาตญาณ มองไปที่ไกลๆ

เห็นแมงกะพรุนตัวใหญ่น่ากลัวและนกอินทรีหอยจำนวนมากที่ขอบฟ้าไกลโพ้น

เพียงแค่แวบเดียว เหงื่อก็ไหลซึมออกมาจากหน้าผาก ปลาดุก 2 ตัวที่อยู่ด้านหลังของเขายังหยุดชะงัก และหันหลังว่ายหนีไปโดยไม่ลังเล ซ่อนตัวในความว่างเปล่า ในพริบตาเดียวก็หายวับไป…

ในขณะที่ทั่วสือซานใจสั่น สวี่ชิงและนายกอง ก็ใกล้เข้ามา สายตาทั้ง 2 มีบางอย่างแปลกๆ มองไปที่ทั่วสือซาน พวกเขาทั้ง 2 เห็นปลาดุก 2 ตัวที่อยู่ด้านหลังทั่วสือซานก่อนหน้านี้

วิกฤตชีวิตเป็นตาย ปะทุขึ้นในใจของทั่วสือซานในทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว พูดเสียงดังโดยปราศจากความลังเล

“สหายเต๋าสวี่ชิง ข้ามาช่วยเจ้า!”

พูดจบ เขาก็กระตุ้นผู้เฒ่าในกายอย่างรุนแรง ในพริบตาเดียวแสงสว่างพลันส่องประกาย ร่างของผู้เฒ่าปรากฏขึ้น ถูกแสงสว่างพัดพาตรงไปยังแมงกะพรุนยักษ์

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version