Skip to content

Outside Of Time 883


บทที่ 883 หลุมศพจักรพรรดิบรรพชน

การตอบสนองของทั่วสือซานรวดเร็วไร้ใดเปรียบ วิธีการก็เปี่ยมด้วยความเฉียบขาด เขารู้ดีว่าด้วยพลังบำเพ็ญของตน เผชิญหน้ากับสวี่ชิงในระยะใกล้เช่นนี้ ตนไม่ใช่คู่ต่อสู้โดยสิ้นเชิง

อย่างไรเรื่องการตายของจี้ตงจื่อ แม้เขาไม่ได้เห็นด้วยตา แต่ฟังจากปากคนอื่นก็เข้าใจสถานการณ์ดียิ่ง

ทั่วสือซานจึงรู้ว่าหากตัวเขาที่เผยว่าจะนำภัยมาให้แต่แรกไม่รีบแสดงท่าทีหรือให้ความชัดเจนสักอย่าง เกรงว่าพริบตาต่อไปจะไม่มีโอกาสแล้ว

ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงคนท่าทางเหมือนโจรข้างกายสวี่ชิง แค่มองก็รู้ว่ามีแต่ความคิดชั่วร้าย และเขานึกขึ้นได้แล้วด้วย ตอนนั้นตนสู้กับสวี่ชิงอยู่นอกเมืองศักดิ์สิทธิ์ ไอ้คนหน้าตาเจ้าเล่ห์ไม่เหมือนคนดีผู้นี้ก็เหมือนจะอยู่ข้างกายสวี่ชิง

คนที่อยู่ข้างกายเขาได้ ย่อมไม่ใช่คนอ่อนแอ

เมื่อคิดเช่นนี้ ตนมาเจอพวกเขาเท่ากับรอดได้ยาก

อีกอย่าง เจ้า 2 คนนี้ถึงกับยั่วยุการมีอยู่ที่น่ากลัวปานนั้น นี่…ก็เป็นความสามารถเช่นกัน

ต้องทราบว่าไม่ใช่ทุกคนจะยั่วยุสิ่งที่น่ากลัวเช่นนั้นได้ และไม่ใช่ทุกคนที่จะยืนหยัดรอดจากการถูกไล่สังหารตลอดทางหลังจากไปยั่วยุได้

รวมทั้งหมดนี้ ทั่วสือซานจึงปลุกท่านปู่และโยนเขาไปแทนจุดยืนของตน

และตอนนี้ ท่านปู่ที่ถูกโยนออกไปก็สะดุ้งจากความงุนงง ชั่วขณะที่แมงกะพรุนยักษ์สีแดงจ้องมอง ทั้งร่างเขาสั่นเทาเล็กน้อย ในใจป่วนปั่นถึงขีดสุด

“ไอ้เด็กเวร…”

ใจเขาโมโหแทบคลั่ง แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ ทั้งไม่มีเวลาไปด่าคน เขาระเบิดพลังเตรียมสู่เทวะของตนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อัดไปทางแมงกะพรุนยักษ์ที่มาเยือนผ่านอากาศ

ฟ้าดินเลื่อนลั่น ทั่วทิศสั่นสะเทือน

แมงกะพรุนทรงพลัง เงาร่างมันหยุดชะงักเล็กน้อย แต่ขณะเมฆพายุย้อนตัวกลับ ตัวมันทะลวงทุกสิ่งและบุกเข้ามาอีกครั้ง

“นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เทียบได้กับเทพเล็กๆ แล้ว!”

ใจท่านปู่สะท้าน ดันทุรังออกมือต่อไป

แต่ที่ด้านหลังเขา นายกองกับสวี่ชิงก็ทำหน้าหลากใจกับการปรากฏตัวกะทันหันและการให้ความช่วยเหลือของทั่วสือซาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นการทุ่มเทของท่านปู่…

อีกฝ่ายทำเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่สะดวกใช้อุบายออกมือ สวี่ชิงจึงพยักหน้าให้ทั่วสือซานที่มีสีหน้าเฉียบขาด

“ขอบใจมาก!”

พูดไปกายสวี่ชิงก็หวีดคำรามเคลื่อนผ่านกายเขา

ทั่วสือซานก็กำลังถอยหลัง แต่ชัดว่าความเร็วไม่เท่าสวี่ชิง ยามนี้ถูกสวี่ชิงแซงไปแล้ว เขาฝืนคลี่ยิ้ม

“คนกันเอง ไม่ต้องเกรงใจ”

นายกองได้ยินแล้วสีหน้าออกเล็กน้อย พยักหน้าให้ทั่วสือซาน จากนั้นตามสวี่ชิงออกไปติดๆ อย่างรวดเร็ว

ไม่นาน เงาร่างทั้ง 2 ก็หายไปที่ขอบฟ้า

ส่วนด้านทั่วสือซาน แม้พยายามห้อตะบึงอยู่เช่นกัน แต่ความเร็วยังคงช้าไปเล็กน้อย แม้ท่านปู่ส่งเสียงน่าเวทนามาไม่หยุด แต่ด้วยวิธีการของเขายังคงถ่วงเวลาได้ครู่หนึ่ง

ทั่วสือซานจึงค่อยๆ เว้นระยะห่างกับแมงกะพรุนยักษ์ได้อย่างราบรื่น

กระทั่งอยู่ในระยะที่มากพอ ทั่วสือซานโล่งอกในที่สุด รู้ว่าตัวเองปลอดภัยชั่วคราว แต่พอนึกถึงความน่าเวทนาของท่านปู่ ใจเขาก็อดขมขื่นขึ้นมาไม่ได้

“ทำไมเป็นแบบนี้…”

และอีกด้านหนึ่ง สวี่ชิงกับนายกองที่สลัดแมงกะพรุนยักษ์ออกไปได้อย่างถึงที่สุด ยามนี้ความเร็วไม่ลดลง หลังเหาะติดกันหลายชั่วยาม ด้วยการลงมือของนายกอง เส้นผลกรรมระหว่างแมงกะพรุนยักษ์กับพวกเขาก็สะบั้นลง

แต่ขาดแล้วพวกเขา 2 คนยังคงไม่วางใจ นายกองนำทางเหาะติดกันอีกหลายวัน หลังจากความรู้สึกกลัวหายไปหมดสิ้น วิกฤตที่มาจากแมงกะพรุนยักษ์ถึงได้นับว่าคลี่คลายโดยสมบูรณ์

ยามนี้อยู่บนไท่ซุ่ยเนื้อ[1]หน้าตาเหมือนเห็ดขนาดหลายสิบจั้ง นายกองนั่งยองผ่อนหายใจยาวอยู่ตรงนั้น

หวนนึกถึงแต่ละฉากก่อนหน้านี้ เขาอดทอดถอนใจไม่ได้

“เจ้าดูสิ ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าเจ้าทั่วสือซานนั่นเป็นคนดี”

นายกองกล่าวพลางยกมือเจาะเอาเนื้อของไท่ซุ่ยเนื้อเบื้องล่างตนเข้าปากกลืนลงไป

“กินหน่อยเถอะ ไท่ซุ่ยเนื้อแบบนี้เป็นสิ่งเดียวที่ปลอดภัยในแผ่นดินเทวะ”

สวี่ชิงก็สูดหายใจเข้าลึก เงยหน้ามองไปยังขอบฟ้า แน่ใจว่าแมงกะพรุนน่าสะพรึงกลัวนั่นไม่มาเกี่ยวข้องกับทางนี้แล้วจึงวางใจได้ครึ่งหนึ่ง

เขาจึงมองไปทางนายกอง

นายกองยิ้มแห้ง

“อุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุจริงๆ”

นายกองกล่าวพลางยื่นเนื้อไท่ซุ่ยที่เจาะมาก้อนหนึ่งให้สวี่ชิง

แม้ชินกับความบ้าคลั่งของนายกองตั้งนานแล้ว แต่ความรู้สึกในใจสวี่ชิงยังคงเกิดคลื่น ยามนี้รับเนื้อไท่ซุ่ยก้อนนั้นมาด้วยความเงียบ และเอาใส่ปากกลืนลงไปโดยไม่มีความลังเลดังเช่นที่ผ่านมา

เพราะในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จะไปก่อเรื่องวุ่นวายอีกแค่ไหนก็ไม่กลัว

ถึงเนื้อไท่ซุ่ยจะดูดำๆ แต่กินในปากรสชาติกลับหอมหวานเป็นพิเศษ ราวกับบำรุงจิตวิญญาณไปด้วย ทำให้คนอดรู้สึกกระปรี้กระเปร่าไม่ได้

“เป็นไงล่ะ ศิษย์น้อง ข้าไม่ได้หลอกเจ้าใช่หรือไม่ เนื้อนี้กินได้ ข้าบอกเจ้าให้ เมื่อก่อนที่นี่มีไท่ซุ่ยเนื้อเยอะมาก ภายหลังถูกข้าพบสรรพคุณเข้า…”

“ก็เลยน้อยลง” สวี่ชิงกล่าวไม่สบอารมณ์

นายกองหัวเราะคิกคัก เขาถนัดเย้าแหย่สวี่ชิงที่สุด ตอนนี้ไม่ถือสาน้ำเสียงเขาแม้แต่น้อย เดินเข้าไปกอดคอสวี่ชิงและกล่าวด้วยครึ้มใจ

“อาชิงน้อย เจ้านี่ละเข้าใจข้า ถูกต้อง ไท่ซุ่ยเนื้อที่นี่ถูกข้ากินไปมากถึงเจ็ดแปดส่วน สิ่งนี้เป็นของดี จะไม่โตขึ้นมาอีก ตอนนี้จำนวนคงยิ่งน้อยลงแล้ว”

“พวกเรากินเยอะหน่อย เดี๋ยวกินเสร็จศิษย์พี่พาเจ้าไปดูของล้ำค่า”

พูดจบ นายกองเจาะเอาเนื้ออีกก้อน

ก็เป็นเช่นนี้ ทั้ง 2 ผลัดกันกินคนละคำ 1 ชั่วยามผ่านไป…ไท่ซุ่ยเนื้อขนาดหลายสิบจั้งต้นนี้ก็หายไปไม่ทิ้งเงา

ทั้งหมดถูกกินจนเกลี้ยง นายกองกินน้อย สวี่ชิงกินเยอะ ความโกรธก็ลดลงไปกว่าครึ่ง

แต่กินเนื้อไท่ซุ่ยลงไปเยอะขนาดนี้ สิ่งที่เพิ่มให้สวี่ชิงชัดเจนที่สุดคือความหนาของจิตวิญญาณ

เพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้านี้อย่างน้อยประมาณ 4 ส่วน นี่ทำให้สวี่ชิงรับรู้อุปสรรคด้านพลังบำเพ็ญของตนชัดเจนยิ่งขึ้น

นั่นคือการหยุดชะงักที่เกิดจากการขาดวิถีสวรรค์ หลังจากจิตวิญญาณมีความหนาเพิ่มขึ้น เขาถึงกับสัมผัส 5 สมบัติลับในกายตนชัดเจนมากขึ้นด้วย

เขาสัมผัสได้ว่านอกจากสัมบัติเทพของสภาวะเทพเจ้าที่ 1 กับสมบัติเวทที่ 5 สมบัติอีก 3 คลังต่างกำลังส่งความว่างเปล่า

‘อสูรสมุทรบรรพกาลอยู่ในสมบัติเทพที่ 1 แต่สมบัติเวทที่ 5 ไม่ต้องมีวิถีสวรรค์ เพราะว่า…ร่างบรรพจารย์ผู้ใช้เวทที่กำลังก่อรูปในนั้นก็คือวิถีสวรรค์!’

‘ดังนั้น สิ่งที่ข้าในตอนนี้ขาดไปอย่างแท้จริง คือ 3 วิถีสวรรค์’

สวี่ชิงครุ่นคิด หลังมาถึงแผ่นดินเทวะ เขาสัมผัสได้ว่าปลาหนวดเป็นวิถีสรรรค์ได้…แมงกะพรุนยักษ์นั่นก็ด้วย

เพียงแต่วิถีสวรรค์ทั้ง 2 แข็งแกร่งเกินไป สวี่ชิงไม่อาจปราบมันได้

‘แมงมุมก็ได้ ความจริงอินทรีเปลือกหอยก็พอถูไถ เพียงแต่ค่อนข้างอ่อนแอ อีกอย่าง จุดสำคัญคือสมบัติลับกระบี่จักรพรรดิ…’

ขณะสวี่ชิงครุ่นคิด นายกองกะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มกล่าว

“คิดเรื่องวิถีสวรรค์หรือ”

นายกองตบท้องอยู่บนพื้น เรอออกมาด้วยอิ่ม

“ของล้ำค่าที่ข้าจะพาเจ้าไปดูก็อยู่ในที่ที่จะทำให้เจ้าได้วิถีสวรรค์ ศิษย์น้องไม่ต้องคิดมาก วิถีสวรรค์ของเจ้ารอเจ้าอยู่แน่ะ”

พูดจบ นายกองลุกขึ้นชี้ข้างหน้า

ได้ยินคำว่าของล้ำค่าจากปากนายกอง 2 ครั้ง ความตื่นตัวของสวี่ชิงพลุ่งขึ้นมาอีกครั้ง จึงเงยหน้าทอดมองจุดที่อีกฝ่ายชี้

ใยแมงมุมตรงนั้นถี่แน่นกว่าบริเวณอื่นชัดเจน ทั้งยังเห็นได้รางๆ ว่าในส่วนลึกมีดาวดวงหนึ่ง

ดาวดวงนี้ถูกใยแมงมุมมากมายปกคลุม เปี่ยมด้วยความรู้สึกพ่ายแพ้ โดยเฉพาะตรงนั้นยังปรากฏพืชพรรณบางชนิดที่สวี่ชิงไม่เคยเห็นมาก่อน

นั่นเป็นต้นไม้เหี่ยวเฉาที่โตบนใยแมงมุม

หน้าคนหลับตาคล้ายหลับลึก ลำต้นเหี่ยวเฉาดุจเทพโรคระบาด

ยิ่งเข้าใกล้ส่วนลึกยิ่งจำนวนมาก

“ที่นั่นคงเป็นที่ที่ศิษย์พี่ใหญ่ทำการใหญ่กระมัง”

สวี่ชิงเอ่ยคำราบเรียบ เขาตัดสินใจว่าไม่ไปที่นั่น จะไปหาวิถีสวรรค์ที่เหมาะสมที่อื่น

“ศิษย์น้อง ข้าขอแก้สักหน่อย ไม่ใช่ที่ที่ข้าทำการใหญ่ เป็นพวกเราต่างหาก”

นายกองกระแอม เห็นสวี่ชิงสายตาแน่วแน่แล้วกะพริบตาปริบๆ

“ศิษย์น้อง ข้าเคยสังเกตสมบัติเทพของเจ้า…ความจริงวิถีสวรรค์ของสมบัติเทพต้องเหมาะกับเจ้าถึงจะยิ่งดี!”

“แต่ว่ากันถึงแก่น วิถีสวรรค์ของสมบัติเทพน่ะไม่ยากหรอก”

“ที่ยากจริงๆ คือสมบัติลับกระบี่จักรพรรดิของเจ้า!”

“ไม่ใช่วิถีสวรรค์ใดก็ได้ที่จะมีคุณสมบัติเข้าสมบัติลับกระบี่จักรพรรดิ!”

นายกองมองสวี่ชิงด้วยสีหน้าจริงจัง

“ข้าจึงบอกจะพาเจ้าไปดูของล้ำค่า เจ้าเห็นแล้วใช่หรือไม่ ในนั้นมีดาวอยู่ดวงหนึ่ง!”

นายกองยกมือชี้ไกลออกไปอีกครั้ง

“เจ้ารู้หรือไม่ ในดาวดวงนั้นมีหลุมศพจักรพรรดิ!”

นัยน์ตาสวี่ชิงพลันจดจ่อ เขาเคยคิดเกี่ยวกับสมบัติลับกระบี่จักรพรรดิเช่นกัน คำตอบเหมือนอย่างที่นายกองว่า

วิถีสวรรค์ที่จะเข้ากับสมบัติลับกระบี่จักรพรรดิได้มีไม่มาก

สังเกตเห็นสวี่ชิงครุ่นคิด นายกองพลันจิตใจฮึกเหิม เอ่ยคำอีกครั้ง

“แผ่นดินเทวะที่พวกเราอยู่ตอนนี้ จากการค้นคว้าของข้าก่อนหน้านี้ ในอดีตที่นี่ไม่ได้เป็นเช่นนี้”

“ที่นี่ เคยเป็นโลกแบบเดียวกับแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ แม้ไม่ใช่แผ่นดินใหญ่ หากเกิดจากดวงดาวมากมายรวมตัวกัน แต่ก็ไม่ได้ต่างกันนัก”

“ในอดีตที่นี่ก็มีผู้บำเพ็ญ มีอารยธรรม และมีเผ่ามากมาย!”

“กระทั่งวันหนึ่ง เทพเจ้าแมงมุมมาเยือนที่นี่และกลืนกินทุกสิ่ง กลิ่นอายขององค์ท่านส่งผลกระทบต่อทุกอย่าง สุดท้ายกลายเป็นแผ่นดินเทวะ สิ่งมีชีวิตที่นี่กลายเป็นสิ่งประหลาด สูญเสียสติปัญญาจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเทพ”

เสียงนายกองเจือแววขมขื่น ราวกับแฝงไว้ด้วยวันเวลา

“แม้แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ที่พวกเราอยู่มีฐานะสูงกว่าที่นี่มากนัก แต่ชะตากรรมในอนาคตของมัน…ก็อาจเป็นสภาพนี้”

“เพราะเสี้ยวหน้าเทพเจ้าน่ากลัวยิ่งกว่าเทพเจ้าแมงมุม!”

“และหลุมศพในดาวดวงนี้ ก็คือหลุมศพของอดีตจักรพรรดิบรรพชนแดนดาราแห่งนี้”

“ฐานะกับตำแหน่งของเขา เจ้าลองจินตนาการถึงจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว ในขั้นหนึ่งพวกเขาก็เหมือนกัน!”

“ในหลุมศพของเขาต้องบังเกิดวิถีสวรรค์ที่มีฐานะเข้ากับสมบัติลับกระบี่จักรพรรดิของเจ้าแน่! ศิษย์น้อง ที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง หากเจ้าไม่เจอวิถีสวรรค์ที่เหมาะกับกระบี่จักรพรรดิในนั้น จากนี้เจ้าเป็นศิษย์พี่ใหญ่!”

นายกองจ้องตาไม่กะพริบ คำพูดหนักแน่น เขาเทหมดหน้าตักเพื่อดึงสวี่ชิงเข้าไป

สวี่ชิงสีหน้าออก

เขารู้จักศิษย์พี่ใหญ่ รู้ว่าเมื่ออีกฝ่ายพูดเช่นนี้ โดยทั่วไปก็เท่ากับสาบาน

สายตาเขาจึงตกอยู่บนดวงดาวที่ถูกปกคลุมด้วยใยแมงมุมนับไม่ถ้วน นัยน์ตาค่อยๆ ฉายแววบ้าคลั่ง ผ่านไปไม่กี่ลมปราณ เขาเคลื่อนกายบุกออกไปทันที

นายกองอยู่ข้างหลัง เลียริมฝีปาก ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น

ชั่วพริบตา เงาร่างทั้ง 2 ทะลวงเข้าไปในใยแมงมุม!

……………………………….

[1] ไท่ซุ่ยเนื้อ หรือ หลิงจือเนื้อ เป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน ลักษณะเหมือนเห็ด เชื่อกันว่าเป็นร่างจำแลงของเทพไท่ซุ่ย

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version