บทที่ 900 แล้วถ้าสำเร็จล่ะ?

ขณะนี้ เผ่าศาลบรรพชนทั้งหมด วิญญาณวีรชน วิญญาณนับไม่ถ้วนในขอบเขตของเผ่านภาคิมหันต์ต่างพวยพุ่งขึ้นมา จำนวนมากมายราวกับดวงดาว ระเบิดออก

พวกมันรวมตัวกันจากทุกทิศทาง กลายเป็นแม่น้ำแห่งวิญญาณ พุ่งไปยังม่านฟ้าเหนือดินแดนต้องประสงค์

ยิ่งบินสูงขึ้น ยิ่งหดเล็กลงเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายเป็นเหมือนเส้นไหมสีดำเข้าใกล้เสี้ยวหน้า

เมื่อมองจากระยะไกล มันเปล่งแสงลึกลับ ส่งสะท้อนแสงดาว ทอแสงในดินแดนต้องประสงค์

ในชั่วพริบตา กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

หลายพื้นที่ของดินแดนต้องประสงค์ ไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งนี้ มีเพียงเผ่าที่แข็งแกร่งและผู้แข็งแกร่งของดินแดนต้องประสงค์ รวมถึงเทพเจ้าจากทุกสารทิศที่ซ่อนอยู่ที่นี่เท่านั้น…ที่รับรู้ได้

และในขณะที่ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้เงยหน้าขึ้น การบูชายังคงดำเนินต่อไปภายในแผ่นดินเทวะ อันเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่งในที่นี้

“พิธีที่ 3 บูชาวิถีสวรรค์พญามัจฉาคุนเผิง!”

เสียงของเทพแห่งดวงอาทิตย์ดังก้องในแผ่นดินเทวะ คำพูดราวกับเสียงฟ้าร้องหมื่นสาย ถ้อยวจีดุจเสียงถล่มฟ้าสะเทือนดิน ระเบิดความว่างเปล่า สะเทือนผืนฟ้าแห่งนภาคิมหันต์

ผืนฟ้าแห่งนี้ ไม่ใช่ม่านดวงดารา หากแต่เป็นแหล่งที่รวมตัวกันของพรสวรรค์ที่ฝังอยู่ในสายโลหิตของผุ้คนในเผ่านภาคิมหันต์

ฟ้า คือฟ้าแห่งพรสวรรค์

ในขณะนี้ ฟ้าของเผ่านภาคิมหันต์พลันถล่มทลายลงมา

นักพรตทุกคนของเผ่านภาคิมหันต์ รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

เมื่อพรสวรรค์ล่มสลาย สัญชาตญาณชนิดหนึ่งที่ถูกเทพทั้ง 3 ซ่อนไว้ในจิตสำนึก ในสายโลหิต ในชีวิตของพวกเขาในยุคหลัง กำลังถูกช่วงชิงไป

จากนั้นก็ปรากฏขึ้นในโลกอย่างน่าเหลือเชื่อ

สัญชาตญาณนั้น พรสวรรค์นั้น คือวิถีสวรรค์!

ดังนั้นสิ่งที่ปรากฏบนดินแดนต้องประสงค์ในขณะนี้ คือวิถีสวรรค์บรรพกาลพญามัจฉาคุนเผิงที่ถูกเทพทั้ง 3 จับเป็นเชลย กักขัง และหลอมรวมเข้ากับมรรคาสวรรค์บรรพกาลเผ่านภาคิมหันต์ ทำให้คนในเผ่ามีพรสวรรค์

เสียงร้องโหยหวนสะเทือนจิตใจดังก้องในดินแดนต้องประสงค์ พร้อมกับเสียงโซ่ตรวนนับไม่ถ้วนดังครืนครัน ในไม่ช้าโซ่เหล็กสีดำที่เต็มไปด้วยอักขระก็ปรากฏขึ้น

หลังจากโซ่เหล็กสีดำเหล่านี้ พญามัจฉาคุนเผิงขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยรอยเฆี่ยนตี เลือดเปรอะเปื้อน ก็ถูกดึงออกมาจากความว่างเปล่า

ในขณะที่มันส่งเสียงร้องโหยหวนน่าสะพรึงกลัว มันก็บังคับลากจูงเข้ามา พุ่งไปยังเสี้ยวหน้า

มันต้องการดิ้นรน แต่ไร้ประโยชน์ และไม่มีใครช่วยเหลือมันได้ในเวลานี้ เพราะเสี้ยวหน้ากำลังเคลื่อนไหว!

ดังนั้น วิถีสวรรค์พญามัจฉาคุนเผิงจึงแต่ลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแหลกสลาย วิถีดับสูญใต้พันธนาการแห่งโซ่ตรวน!

เสียงดังก้องไปทั่วดินแดนต้องประสงค์

ในขณะนี้ ดินแดนต้องประสงค์พลันเงียบงัน และผู้ที่บำเพ็ญกฎเกณฑ์วิถีสวรรค์พญามัจฉาคุนเผิงทั้งหมด ล้วนสูญเสียวิถีของตนไปตลอดกาล

ในอนาคต กฎเกณฑ์ของมันก็จะถูกลบออก ไม่ปรากฏอีก

ในขณะเดียวกัน ใบหน้าเทพขนาดใหญ่บนท้องฟ้าก็พร่ามัว

เมื่อชัดเจนขึ้น ใบหน้าขององค์ท่านก็หันไปอีกทาง หันหน้าไปทางอาณาจักรแผ่นดินใหญ่ผืนคีรี!

ที่นั่นคือสถานที่ที่แผ่นดินเทวะและดินแดนต้องประสงค์หลอมรวมกันในความมืดมิด

และในขณะนี้ พิธีที่ 4 ก็เริ่มขึ้นในแผ่นดินเทวะ

“พิธีที่ 4 บูชาชีวิตสิ่งมีชีวิตเทพทั้งปวงในแผ่นดินเทวะจักรพรรดิเหนือ!”

สิ่งมีชีวิตเทพทั้งหมดในแผ่นดินเทวะที่ถูกเทพเจ้าโจมตีและเปลี่ยนแปลงในกาลนั้น รวมถึงสิ่งมีชีวิตเทพที่สืบพันธุ์มาหลายปี ถูกเทพทั้ง 3 บูชาด้วยประกาศิตเหนือดินแดนแห่งนี้!

หลังจากบูชา 7 เผ่าใน 7 อาณาจักร บูชาวิญญาณนภาคิมหันต์ บูชาวิถีสวรรค์พญามัจฉาคุนเผิง ชีวิตเทพในแผ่นดินเทวะก็ส่งเสียงร้องโหยหวนที่น่าเวทนายิ่งกว่า

แมงมุมตัวแล้วตัวเล่าพังทลาย อสูรกลายพันธุ์ตัวแล้วตัวเล่าแหลกกสลาย ต้นไม้หน้าคนกลายเป็นเถ้าธุลี

เมื่อมองไปรอบๆ ทะเลทั้งหมดในแผ่นดินเทวะแห้งเหือด ดวงดาวคำราม ความตายแผ่ขยาย เหี่ยวเฉากลุ่มแล้วกลุ่มเล่า…

แผ่นดินเทวะกลายเป็นสุสานในพริบตา!

แม้แต่สิ่งมีชีวิตสุดแข็งแกร่งที่สวี่ชิงพบเจอระหว่างทาง เช่น ปลาหนวด แมงกระพุรน ฯลฯ ก็ไม่รอด พากันล้มตายหมดสิ้น

ในที่สุดก็แลกมาด้วยเสี้ยวหน้าเทพเจ้าเหนือดินแดนต้องประสงค์ ดวงตาที่ปิดอยู่ ดูเหมือนมีรอยแยกกำลังเปิดออก

และการบูชาครั้งสุดท้ายของเทพทั้ง 3 ก็ถูกส่งขึ้นไปในขณะนี้

“พิธีที่ 5 บูชาแผ่นดินเทวะจักรพรรดิเหนือ!”

ใช้ดินแดนนี้ เป็นครื่องบูชาครั้งสุดท้ายของเหล่าองค์ท่าน!

บูชาอดีตราษฎรของตน แม้ว่าพวกเขาจะถูกรุกรานและกลายพันธุ์เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเทพที่บ้าคลั่ง

บูชาบ้านเกิดในชาติก่อนของตน แม้ว่าที่นี่จะกลายเป็นแผ่นดินเทวะไปแล้วก็ตาม

การทำเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความบ้าคลั่งและความเด็ดเดี่ยว!

นี่คือเหตุผลที่ก่อนหน้านี้ที่อุปราชไอศวรรย์มาถึง จึงได้ถามามว่าเทพทั้ง 3 ว่าเต็มใจหรือไม่!

คำตอบ เทพทั้ง 3 ได้เอ่ยไว้ก่อนหน้านี้แล้ว!

หลังจากกลายเป็นเทพ ก็ไม่ใช่คนอีกต่อไป

ในพริบตา แผ่นดินเทวะก็เกิดเสียงคำรามราวกับสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ท้องฟ้าอันเป็นที่สถิตสั่นไหว ดูเหมือนมีพลังที่มองไม่เห็นลงมา ดึงแผ่นดินเทวะออกจากรอยแยกของดินแดนต้องประสงค์

ปรากฏอยู่บน…ท้องฟ้าเหนือดินแดนต้องประสงค์ เข้าใกล้เสี้ยวหน้า

ในขณะนี้ หมื่นเผ่าพันธุ์แห่งดินแดนต้องประสงค์ต่างจับตามอง ผู้แข็งแกร่งและเทพเจ้านับไม่ถ้วนต่างรับรู้ได้!

การบูชา 5 ครั้งของเทพทั้ง 3 สิ้นสุดลง

และขณะนี้ดวงตาของเสี้ยวหน้าบนดินแดนต้องประสงค์กำลังจะเปิดออกโดยสมบูรณ์

ในขณะนั้นเอง…ที่ใจกลางของแผ่นดินเทวะ ภายในกระแสวนขนาดใหญ่ที่ร่างจักรพรรดิประทับอยู่ สวี่ชิงที่ได้เห็นทุกสิ่งภายนอก จิตใจปั่นป่วนอย่างมาก ได้ยินเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งของนายกองในจิตสำนึก

“พิธีที่ 6 บูชาต้นกำเนิดเทพเจ้า!”

พูดจบ หุ่นไม้กว่าร้อยตัวก็บินออกมาจากร่างของนายกอง หุ่นไม้เหล่านี้มีรูปร่างเหมือนกัน แต่ละตัวมีชื่อสลักบนใบหน้า

เมื่อบินออกมา นายกองก็ควบคุมให้พวกมันออกไปนอกร่างจักรพรรดิ และยังควบคุมมือของร่างจักรพรรดิ บีบหุ่นไม้เหล่านี้ให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

พลังความยิ่งใหญ่ไม่น้อย เมื่อรวมกับเสียงของนายกอง ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

มีเพียงหุ่นไม้เหล่านั้นที่ดูกระจอกงอกง่อย ส่วนชื่อบนนั้น…สวี่ชิงเห็นชื่อที่คุ้นตาสองสามชื่อ

เจ้าแดนต้องห้ามมรณะ ชื่อหมู่ เทพแห่งดวงอาทิตย์…

“ศิษย์น้องเล็ก พลังของศิษย์พี่ใหญ่เป็นอย่างไร ฮ่าๆ”

“ข้าจะบอกเจ้าให้ ปกติข้าไม่มีทางบูชาศัตรูเหล่านี้ได้ แต่ตอนนี้ถือโอกาส ลองบูชาดูสักหน่อย”

น้ำเสียงภาคภูมิใจของนายกองดังก้องในจิตใจของสวี่ชิง

สวี่ชิงมองดูหุ่นไม้ราคาถูกเหล่านั้น ไม่รู้สึกถึงความผันผวนของเทพเจ้าใดๆ จากเศษไม้เหล่านั้น

พวกมันเป็นเพียงหุ่นไม้ธรรมดา มีเพียงชื่อบนใบหน้าเท่านั้นที่แตกต่างกัน

แต่จากจำนวน เห็นได้ว่านายกองมีศัตรูมากโข

แต่การบูชาแบบนี้ สวี่ชิงพินิจดูแล้วไม่เห็นประโยชน์ใดๆ

นายกองรับรู้ความคิดของเขาเป็นธรรมดา อีกฝ่ายจึงกระแอมไอ

“ข้าแค่แสดงให้เห็นว่าข้ามีตัวตนอยู่ ทำไปพอเป็นพิธี เผื่อจะสำเร็จ”

สวี่ชิงเงียบ ในไม่ช้าความคิดของเขาก็ดังออกมาเช่นกัน

“พิธีที่ 7 บูชาองค์รัชทายาทม่วงคราม!”

เขารู้สึกว่าสิ่งที่นายกองพูดมีเหตุผล อาจจะสำเร็จ

ในเสี้ยววินาทีต่อมา ไม่รู้ว่าการบูชาของนายกองและสวี่ชิงได้รับการตอบรับหรือไม่ เสี้ยวหน้าเหนือดินแดนต้องประสงค์ที่หันไปทางแผ่นดินใหญ่ผืนคีรี ดวงตาทั้ง 2 ของมันจากที่เผยอออกเล็กน้อย ก็เบิกกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน!

เนื่องจากการเบิกเนตรครั้งนี้ ดาราจักรพลันบิดเบี้ยว ท้องฟ้าทั้งหมดคล้ายจะถล่ม ดวงดาวนับหมื่นดวงดับแสง

ดินแดนต้องประสงค์เปลี่ยนแปลงใหญ่ยิ่งกว่านั้น เห็นเพียงท้องฟ้าบิดเบี้ยว ปรากฏรอยแตก แผ่ขยายไปบนผืนฟ้าไร้ขอบเขต มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

เห็นเพียงแผ่นดินหลายส่วนปั่นป่วน ภูเขานับไม่ถ้วนถล่มทลาย แม่น้ำและทะเลต่างลอยขึ้นสู่ฟ้า แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อันน่าตกตะลึง

และลมพัดเมฆเคลื่อนระหว่างฟ้าดิน ลมโหมกระหน่ำกลายเป็นพายุ เมฆหมอกปั่นป่วนกลายเป็นอสูรร้าย

โลกทั้งใบกำลังคำราม สายฟ้าฟาดในห้วงอากาศ

ตู้ม!

ระเบิดทุกสิ่งที่มองไม่เห็น ดังก้องกังวานในจิตใจของสรรพชีวิตทั้งปวง

นี่เป็นการลืมตาของเสี้ยวหน้าที่ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ!

เพราะมีเสียงหัวใจเต้น ดังก้องกังวานในหูของสรรพชีวิตในดินแดนต้องประสงค์ในขณะนี้

ตึก ตึก!

เสี้ยวหน้าลืมตา!

ในดวงเนตรเทพเจ้าขนาดใหญ่ คล้ายจะมีดาราจักรดับแสง มีโลกนับไม่ถ้วน มีความคิดเป็นอนันต์ มีวิถีทั้งหมด มีเจตจำนงทั้งปวง มีวัฎสังสารชของสรรพชีวิต มีต้นกำเนิดของจักรวาลอยู่ในนั้น

สรรพสิ่งอยู่ภายใน เคราะห์กรรมอยู่ภายใน โชคชะตาอยู่ภายใน

สิ่งที่องค์ท่านปรารถนา ล้วนมาจากจิตนึกคิดของพระองค์

นั่นคือ…การหยั่งรู้ทุกสิ่ง!

จิตใจของสวี่ชิงแข็งทื่อ ความคิดและทุกสิ่งถูกดึงออกจากแนวคิดเรื่องเวลาและการรับรู้ เหลือเพียงความว่างเปล่า

สิ่งที่แข็งทื่อเช่นเดียวกัน คือเอ้อร์หนิว

แม้แต่ชีวิตอุปราชไอศวรรย์ที่อยู่นอกกระแสวนที่พวกเขาอยู่ รวมถึงเทพทั้ง 3 …ยังหยุดชะงักชั่วขณะในเวลานี้!

ส่วนแผ่นดินเทวะที่สถิต ในขณะนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

สิ่งที่เสี้ยวหน้ามอง สิ่งที่สายตาส่งถึง แผ่นดินเทวะคล้ายจะไม่ใช่พื้นที่อีกต่อไป

หากแต่กลายเป็นภาพวาด ทั้งดวงดาว พื้นดิน รวมถึงเทพทั้ง 3 และสวี่ชิงล้วนกลายเป็นหมึกในภาพวาด

ดวงดาวในภาพกลายเป็นหมึกซึม ค่อยๆ มืดมัวและดับสูญไป

โลกในภาพก็เช่นกัน

ส่วนตัวภาพวาด กลับลอยขึ้น ไปยังเสี้ยวหน้าบนท้องฟ้า เข้าใกล้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งเข้าใกล้ ก็ยิ่งสลาย ในขณะนี้ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในดินแดนต้องประสงค์ เทพเจ้าทั้งหมด ไม่ว่าซ่อนตัวอยู่หรือไม่ว่าพักผ่อนหลับใหล ต่างก็เงยหน้าตื่นขึ้นในชั่วพริบตา

มองไปยังเสี้ยวหน้าโดยพร้อมเพรียง มองไปยังแผ่นดินเทวะที่เป็นเหมือนภาพวาด!

ทั้งหมดตกตะลึง

เพราะแผ่นดินเทวะที่เป็นเหมือนภาพวาด ในขณะที่ค่อยๆ สลายไป ตัวมันเอง…กำลังเลื่อนระดับ!

พลังที่น่าสะพรึงกลัวพวยพุ่งขึ้นภายใน พลังที่แข็งแกร่งนี้ เพียงพอที่จะทำให้เทพเจ้ามากมายจิตใจสั่นคลอน รับรู้ว่าความกลัวคืออะไร

แสงสีทองอันเจิดจ้าปะทุขึ้นจากภายใน แสงทองนี้เจิดจ้าเกินกว่าความรุ่งโรจน์ของดวงตะวัน ทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มากมายในดินแดนต้องประสงค์ดับแสง มองดูด้วยความมึนงง ราวกับวันนี้เพิ่งรู้ว่าแสงคืออะไร

โลกนี้ กำลังเลื่อนระดับจากแผ่นดินเทวะไปสู่…อาณาจักรเทวะ!

ทั่วทั้งแผ่นดินล้วนจับตามอง!

ในขณะเดียวกัน เมื่อแผ่นดินเทวะเลื่อนระดับ ผู้ที่มีอาญาสิทธิ์ในแผ่นดินเทวะในฐานะเจ้าแห่งแผ่นดินเทวะ ต่างก็สมหวังในขณะนี้ ร่างกายได้รับการเลื่อนขั้นเช่นกัน!

ภายในร่างของอุปราชไอศวรรย์ เดิมทีมีเปลวไฟอยู่ ในขณะนี้เปลวไฟเหล่านี้ก็พุ่งสูงขึ้นในพริบตา แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย ต้องการที่จะแผดเผาร่างกายของเขาให้กลายเป็นร่างเทพเจ้า

แทรกซึมไปในวิญญาณ หมายจะหลอมวิญญาณของเขาให้กลายเป็น…วิญญาณเทพเจ้า

เปลวไฟปะทุ เผาไหม้อย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ว่าใบหน้าของอุปราชไอศวรรย์เผยให้เห็นความเจ็บปวด แต่ในดวงตาของเขากลับมีความแน่วแน่และความมุ่งมั่น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความคาดหวัง

เขากำลังกลายเป็นเทพเจ้า!

เทพทั้ง 3 วางแผนมาหลายหมื่นปี แลกอะไรไปมากมายถึงเพียงนี้ เวลานี้ต้องตักตวง พลังต้นกำเนิดเทพขององค์ท่านแต่ละองค์ปะทุขึ้น ไม่กดข่มไฟแห่งเคราะห์กรรมของตนอีกต่อไป

เหล่าองค์ท่านต้องการใช้โอกาสที่แผ่นดินเทวะเลื่อนระดับกลายเป็นอาณาจักรเทวะนี้ ข้ามพ้นระดับเพลิงพิบัติที่อันตรายยิ่งยวดสำหรับเทพเจ้าในคราวเดียว!

ต้องการก้าวข้ามเพลิงพิบัติ บรรลุเป็นเทพเจ้าพิสุทธิ์โดยตรง!

เมื่อสำเร็จ เท่ากับเหล่าองค์ท่านถางเส้นทางสู่ระดับแท่นเทวะ ตั้งแต่นั้นมาก็จะไม่มีเคราะห์กรรมใดๆ อีก แท่นเทวะอยู่ใกล้เพียงเอื้อม

นี่คือความปรารถนาที่เทพเจ้าทุกองค์ใฝ่ฝันที่สุด!

ผู้แข็งแกร่งอย่างชื่อหมู่ ก็ยังก้าวมาไม่ถึงขั้นนี้ ทำได้เพียงพึ่งพาพลังจากการเป็นเสี้ยวหน้าเพื่อเข้าใกล้ระดับพิสุทธิ์ ต้องการที่จะกลืนกินเทพเจ้าทั้งหมดเพื่อถางเส้นทาง

ผู้แข็งแกร่งอย่างหลี่จื้อหวา ซึ่งเกือบจะเป็นเทพเจ้า ได้ตัดเพลิง เปลี่ยนไปบำเพ็ญเพียรวิถีเซียน จากนั้นวางแผนไว้เป็นเวลานับหมื่นปีตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน จนได้บรรลุมรรคา

ส่วนเทพเจ้าแมงมุม ซึ่งไร้ความกล้าหาญดั่งเทพทั้ง 3 ต้องเอาผลกรรมแห่งเทวะเป็นที่พึ่ง ด้วยผลแห่งการกลืนกินผลกรรมแห่งเทวะนั้น ส่งผลให้ตนตกสู่เคราะห์กรรม วิญญาณเทพเจ้าดับสูญในท้ายที่สุด

จากสิ่งนี้จะเห็นได้ว่าเทพทั้ง 3 มีความสามารถที่โดดเด่น!

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)