1119. ความเงียบ
ยามที่ดาวทั้งห้าดวงแตกสลาย พลังมารข้างในร่างต้าเจียระเบิดออกมา ผสานเข้ากับอีกสามดวงก่อนหน้า จึงทำให้ต้าเจียเข้าใกล้พลังระดับที่มารโบราณเก้าดาวควรจะมี!
นาทีนั้นต้าเจียพ่ายแพ้ต่อฉิงหลินไปแล้ว เขาไม่มีพลังอำนาจใดจะไปครอบครองร่างฉิงหลินอีก สิ่งเดียวที่รออยู่คือความตายเท่านั้น!
ทว่าการไม่ยอมแพ้ของต้าเจียทำให้ถึงแม้จะตายก็ต้องพาหวังหลินไปด้วย! แม้ตายก็ไม่ทำให้เผ่ามารโบราณเสื่อมเสียและใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเอง
ตอนนี้หวังหลินสามารถขัดขวางต้าเจียและสังหารได้เลยแต่เขาไม่ทำแบบนั้น ทว่าเพื่อพิสูจน์เต๋าของตนเองหรือเคารพต้าเจียที่เป็นคนของเผ่าบัญชาโบราณ หวังหลินรู้สึกตื่นเต้นกับวิชานี้ด้วยความคาดหวัง!
ต้าเจียส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังสะท้อน ร่างกายควบแน่นอีกครั้ง พริบตานั้นกลายเป็นขนาดเท่าคนปกติ แต่ร่างกายเป็นรูปเป็นร่างอย่างสมบูรณ์ดูราวกับเต็มไปด้วยพละกำลัง
ร่างกายเป็นสีดำสนิท มีเขาหนึ่งข้างและดวงตาสีแดง ทำให้ต้าเจียส่งกลิ่นอายสั่นสะเทือนสวรรค์ออกมา
“เมฆาม่วง!” ต้าเจียคำราม พลังมารด้านหลังเปลี่ยนสีกลายเป็นสีม่วงครึ่งนึงและล้อมรอบร่างเขา ต้าเจียยกแขนขึ้นมาทำเป็นสัญลักษณ์รูปทรงเพชร ควันสีม่วงทั้งหมดรอบตัวพุ่งเข้าไปหาผนึกทรงเพชรที่สร้างขึ้นมาเมื่อครู่
พริบตาเดียวก้อนทรงเพชรสีม่วงจึงปรากฏขึ้นในฝ่ามือ!
“หายนะแห่งมาร!!” ต้าเจียคำราม ปรากฏวังวนขึ้นใจกลางหน้าผาก วิญญาณของตนเองลอยเข้าไปในก้อนทรงเพชรและทำให้มันส่องแสงสว่างเจิดจ้า!
“ไปลงนรกซะ!!” ต้าเจียพุ่งออกไปและผลักแขนใส่หวังหลิน ก้อนทรงเพชรลอยเข้าหาหวังหลินในทันที!
ก้อนทรงเพชรมีขนาดเท่ากำปั้นในตอนแรกเริ่ม แต่ขณะที่มันลอยออกไปพลันขยายขนาดขึ้นและท้ายที่สุดมันก็ปกคลุมทั้งท้องฟ้าและตกลงใส่หวังหลิน
หวังหลินค่อยๆหลับตา สัมผัสถึงพลังในก้อนทรงเพชรได้ หวังหลินรู้สึกอย่างชัดเจนว่าก้อนทรงเพชรก่อหุ้มตัวเขาและแยกตนเองออกมาจากสิ่งรอบด้านอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกันก้อนทรงเพชรก็หดลงรวดเร็ว อากาศที่ขวางทางมันทั้งหมดแตกสลาย มันเข้ามาใกล้หวังหลินมากขึ้นและมากขึ้น!
“น่าเสียดาย…เมฆาม่วงไม่ได้แข็งแกร่ง…”
หวังหลินส่ายศีรษะ พลันลืมตาขึ้นมา ก้อนทรงเพชรห่างจากเขาไม่เกินสามนิ้ว มองดูไกลๆไม่อาจเห็นหวังหลินได้เลย เห็นแต่เพียงก้อนทรงเพชรสีม่วงยักษ์ด้วยตาเปล่า ราวกับอีกเพียงแค่นิดเดียวหวังหลินก็สลายเป็นจุลได้แล้ว!
“ป่นขุนเขา!” หวังหลินเอ่ยเสียงแผ่วเบา ภูเขาลูกนึงปรากฏขึ้นทันที ส่งเสียงดังสนั่นและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่ใช่เพียงแค่ลูกเดียวแต่ลูกที่สองและสามตามกันมาติดๆ…
ภูเขาสูงตระหง่านเก้าลูกปรากฏขึ้นรอบตัวหวังหลิน ก้อนทรงเพชรสีม่วงหยุดหดตัวลง ดูเหมือนมันกำลังถูกดันกลับไปภายใต้อำนาจของภูเขา
อย่างไรก็ตาม หายนะเมฆาม่วงนั้นทรงพลังยิ่งกว่าวิชาใดของต้าเจีย เมื่อมันปะทะเข้ากับภูเขาเก้าลูก ภูเขาจึงเริ่มแตกร้าว
หวังหลินเอ่ยเสียงเบาด้วยท่าทีสงบนิ่ง “ป่นสลาย!”
ภูเขาทั้งเก้าเริ่มสลายไปในเสี้ยววินาทีและระเบิดออกมาดุจภูเขาไฟ การระเบิดของมันปะทะเข้ากับก้อนทรงเพชรสีม่วงจนเกิดแรงกระแทกสั่นสะเทือนสวรรค์ในชั้นบรรยากาศ
หวังหลินค่อยๆก้าวเดินออกมา จ้องมองต้าเจียที่กำลังสิ้นหวังและไม่ยินยอม
“ความแข็งแกร่งของเจ้านั้นไร้ค่า แค่ความคิดของฉิงหลินร่วมมือกับเจ้าและทำให้เจ้าสามารถสืบทอดจนใช้ระดับบ่มเพาะนี้ได้ชั่วคราวเท่านั้น!! หากเราอยู่ด้านนอกและไม่ได้อยู่ในทะเลแห่งจิต ข้าต้าเจียสามารถฆ่าเจ้าได้ง่ายๆเหมือนบดขยี้มด!”
“ข้าไม่ยอมจำนน!! ข้าจะไม่ยอมแพ้!! อ๊าก!!” ต้าเจียร้องคำรามและรู้สึกถึงความเย็นเยียบในใจ เขาไม่เคยคิดว่าแผนของฉิงหลินไม่ใช่การหาคนที่แข็งแกร่งมาช่วยตนเอง แต่เป็นการดูดซับผู้ช่วยเหลือเข้ามาในทะเลแห่งจิตของตนเอง!
แม้ว่าทะเลแห่งจิตส่วนใหญ่ของฉิงหลินจะถูกมารโบราณครอบครองเอาไว้ มันก็ยังเป็นของฉิงหลิน เขาสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ แต่เนื่องจากมารโบราณเข้าบุกรุก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดในนี้จะสามารถโจมตีมารโบราณได้
ทว่าเขากลับใช้วิญญาณของใครสักคนเป็นชนวนและส่งต่อเต๋าของตนเองลงไป เขาจึงมอบอำนาจการควบคุมทะเลแห่งจิตให้หวังหลินซึ่งมีค่าเท่ากับการมอบชีวิตและความตายของตนเองให้แก่คนอื่น ดังนั้นทะเลแห่งจิตของฉิงหลินจึงสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามที่หวังหลินต้องการได้และจำลองกฏทุกอย่างในโลกได้ ปรากฏการณ์เหล่านี้ทำให้หวังหลินมีพลังอำนาจของขั้นที่สาม!
แม้ต้าเจียจะรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ชั่วคราว อีกทั้งเหล่าดวงวิญญาณมีความแตกต่างและไม่สามารถควบคุมทะเลแห่งจิตของคนอื่นได้นานนัก อีกไม่นานหวังหลินก็ต้องอ่อนแอ
เมื่อพวกเขาออกไปจากทะเลแห่งจิตของฉิงหลินได้ หวังหลินก็จะมีระดับบ่มเพาะกลับไปเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามการรู้เรื่องทั้งหมดนี้มันเกี่ยวอะไรด้วย? ต้าเจียก็ไม่สามารถอยู่ได้นานกว่านี้เหมือนกัน
“ฉิงหลิน เจ้าชนะ!” ต้าเจียเผยรอยยิ้มขมขื่น แต่ก็แทนที่ด้วยสีหน้าชั่วร้ายอย่างรวดเร็ว
“แต่ข้ามีวิชาบทสุดท้าย ข้าใช้จะใช้วินาทีสุดท้ายของชีวิตข้าเพื่อแสดงพลังอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของมารโบราณ แม้ข้าจะตาย ข้าก็ไม่มีวันเสียใจ!” ต้าเจียหัวเราะพลางลอยขึ้นไปในอากาศ อ้าแขนออกมา พลังมารล้อมรอบร่างกาย จากนั้นระเบิดเบื้องหน้าหวังหลิน
“เริ่มต้น เต๋ามารต้นกำเนิด!” เสียงของต้าเจียตกลงมาจากฟากฟ้า ร่างกายแตกสลาย พลังมารหนาแน่นเข้าปกคลุมจนโลกกลายเป็นสีดำในพริบตา!
ดวงตาหนึ่งคู่อันน่ากลัวปรากฏขึ้นในท้องฟ้า พริบตานั้นความมืดหมุนเคว้งคว้างและปรากฏดวงตาน่าขนลุกขึ้นมานับไม่ถ้วน
สายตาทั้งหมดรวมกันไปที่หวังหลิน ฉากเหตุการณ์ช่างน่าประหลาดนักและไม่อาจอธิบายออกมาได้ หวังหลินสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรกเมื่อพบเจอกับสายตาพวกนี้!
“เจ้าชื่อหวังหลิน!” น้ำเสียงเก่าแก่ดังสะท้อนไปทั่วโลก เหล่าดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน
ดวงตาหวังหลินกระจ่างสดใส
“เจ้าเริ่มฝึกเซียนตั้งแต่อายุสิบห้าและตอนนี้ก็พึ่งบ่มเพาะมาเกินพันปี…ทว่าเจ้าคือจิตวิญญาณชั่วร้าย การก้าวไปบนเส้นทางแห่งเซียนคือการทำลายความสัมพันธ์ พ่อและแม่เจ้าตาย ครอบครัวเกือบถูกทำลายล้าง แม้จะเหลือรอดมาได้ไม่กี่คนแต่พวกเขาก็ตกอยู่ใต้ภัยพิบัติเสมอมา!” น้ำเสียงดังกึกก้องไปทั่วฟ้า ดวงตานั้นกลับกลายมาเป็นความเจ็บปวดกัดเซาะหัวใจ
หวังหลินร่างสั่นเล็กน้อยแต่ดวงตายังคงกระจ่างสดใส
“พ่อแม่เจ้าตายไปก็เพราะเจ้า!! ครอบครัวเจ้าตายก็เพราะเจ้า!” น้ำเสียงดังสะท้อน ดวงตาทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับกำลังมีโลหิตไหลซึม! ดวงตาบางส่วนระเบิด โลหิตไหลเป็นสาย
ดวงตาหวังหลินกลายเป็นสีแดง ร่างกายสั่นเทา
“ภรรยาเจ้ากลับคืนสู่สวรรค์ก็เพราะเจ้า ลูกชายเจ้ากลายเป็นเศษดวงวิญญาณก็เพราะเจ้า ไม่มีใครที่เจ้าใกล้ชิดหลงเหลืออยู่เลย!” น้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาหลายคู่ในท้องฟ้าแตกสลายกลายเป็นโลหิต
ดวงตาหวังหลินแดงเถือก ใบหน้าซีดเซียว ร่างกายสั่นสะท้านพลางก้าวถอยไปสองสามก้าว แขนขวาจับที่หน้าอก สัมผัสถึงความเจ็บปวดในใจได้อย่างชัดเจน!
ความเจ็บปวดเสมือนพิษร้ายที่แทรกซึมเข้ามาในความคิดและทำลายทุกอย่าง!
“ตุ้นเทียนช่วยเจ้า แต่เขาก็ตาย จักรพรรดิวิหคเพลิงช่วยเจ้าแต่เขาก็ตายเช่นกัน แม้แต่โจวยี่ถึงกับหยุดการปกป้องร่างศพที่ตนเองรักหลังจากพบเจอกับเจ้า กระทั่งคู่รักเซียนเทพเมฆา ท้ายที่สุดก็สามารถช่วยฉิงหลินได้หลังจากมาเจอกับเจ้า” น้ำเสียงเก่าแก่ค่อยๆดังมาถึง ทุกคำพูดแฝงพลังแห่งกฏร่อนถึงหูหวังหลิน ทำให้ใบหน้าเขาซีดเผือดยิ่งขึ้น
“เจ้าพูดจบรึยัง…” หวังหลินพึมพำพร้อมกับล่าถอยไปด้วย ในเวลาปกติแล้วหากใครสักคนพูดแบบนี้มันคงไม่ส่งผลกระทบนัก แต่ตอนนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง หวังหลินรู้สึกเหมือนทุกคำทิ่มแทงให้เขาเจ็บปวดเหมือนหัวใจกำลังถูกฉีกกระชาก
“เจ้า…” ขณะที่น้ำเสียงนั้นเอ่ยขึ้น หวังหลินพลันเงยศีรษะขึ้นมา สีหน้าสงบนิ่งและเผยความเยือกเย็นสุดขั้ว
“ข้าถามว่าเจ้าพูดจบรึยัง” น้ำเสียงสงบนิ่งไร้อารมณ์ หวังหลินพุ่งออกไป แขนขวาข่วนเข้าใส่ท้องฟ้า ดวงตานับไม่ถ้วนแตกสลาย โลหิตไหลย้อมบนร่างหวังหลินจำนวนมาก
“ข้าหวังหลิน มีชีวิตอยู่ด้วยจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อ แม้ข้าจะทำผิดพลาด ตราบใดที่ข้าทำตามหัวใจแห่งเต๋าของตนเอง นั่นมันก็เพียงพอแล้ว!” หวังหลินสร้างผนึกที่แขนขวา ชี้ใส่ท้องฟ้าพร้อมกับเอ่ยเสียงดังกึกก้อง
“วิชาเทพ ดาราร่วงหล่น!” แสงแห่งดวงดาวสายหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า แทงทะลุผ่านหมอกสีดำและร่อนลงในทะเลแห่งจิต จากนั้นแสงแห่งดวงดาวอีกหลายสายปรากฏขึ้นจากจุดต้นกำเนิดไหนสักแห่ง แทงทะลุผ่านสายหมอกเข้ามา
พริบตานั้นทั่วโลกเต็มไปดวยแสงดวงดาว หวังหลินขยับแขน แสงแห่งดวงดาวเคลื่อนไปหาหมอกทมิฬในท้องฟ้า ปะทุเสียงดังคะนอง แสงดวงดาวรวมตัวกันก่อเกิดผลกระทบอันน่าเหลือเชื่อแพร่กระจายไปทั่วโลก
นาทีนั้นร่างหวังหลินแตกสลาย หวังเว่ย ฮู่จวน โจวยี่และฉิงซวงปรากฏขึ้นมาทีละคน ท้ายที่สุดกลับปรากฏร่างฉิงหลินชุดเขียวท่าทางโศกเศร้า!
ทะเลแห่งจิตแตกสลาย พวกเขาทั้งหมดตกเข้าไปในมิติที่กำลังพังทลายและหายตัวไป…
ข้างในอารามเทพพิรุณที่กำลังลอยอยู่ในความว่างเปล่า ซือถูหนานเฝ้าระวังตรงประตูอย่างเหนียวแน่น เขามองทุกคนในค่ายกลเป็นพักๆ จิตใจเต็มไปด้วยความกังวล
ร่างศพเงินก็เช่นเดียวกัน แต่สายตานางจับจ้องมองหาแต่หวังหลิน
นาทีนั้นร่างหวังหลินสั่นสะท้าน เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมา ยืนอย่างช้าๆเดินออกมาหาประตูและมองความว่างเปล่าอย่างเงียบๆ…