1330. ทำเนียบสายฟ้ากระจาย
ชายชราจ้องมองหวังหลินตรงๆ เขาไม่สามารถซ่อนความกลัวและสายตาไม่เชื่อออกไปได้ ตนเองพึ่งจะบ่มเพาะแต่ประตูถ้ำกลับเปิดขึ้นโดยที่เขาไม่รับรู้อะไรเลย
เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับสิ่งแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนในการบ่มเพาะหลายร้อยปี สิ่งที่ทำให้ขนลุกก็คือร่างอันคุ้นเคยยิ่งที่เดินเข้ามาในถ้ำ
ในถ้ำมีเขตอาคมจำนวนมาก บางส่วนมีมาก่อนและหลายอย่างเขาก็วางเอาไว้ตลอดหลายปี เมื่อทั้งหมดเปิดใช้งาน เซียนขั้นแกนลมปราณคงตายแน่นอน ส่วนเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิด หากขาดความระมัดระวังแม้เพียงนิดเดียวคงบาดเจ็บสาหัสหรืออาจจะย่ำแย่!
แต่…แต่เขาเห็นร่างอันคุ้นเคยค่อยๆเดินผ่านเขตอาคมที่กำลังกะพริบอยู่และเกิดเสียงวิชาดังสนั่น
วินาทีนี้ศีรษะของชายชราเกิดความชา สายตาของอีกฝ่ายทำให้วิญญาณดั้งเดิมเขารู้สึกเจ็บปวด สายตานั้นคล้ายจะเป็นรูปเป็นร่างและทิ่มแทงเกิดรูนับไม่ถ้วนบนร่างกาย แม้กระทั่งวิญญาณแรกกำเนิดของเขาก็หนีไม่รอด
แรงกดดันทรงพลังโผล่ออกมาจากฝ่ายตรงข้าม แต่ละก้าวคล้ายเหยียบย่ำไปบนวิญญาณแรกกำเนิด ใบหน้าชายชราซีดไปทันทีและสั่นเทาจนกระอักโลหิต เขาหวาดกลัวจนคลานถอยหลัง ไม่มีเวลาแม้แต่จะลุกขึ้น!
“เยว่…เยว่เฟย!”
หวังหลินเดินผ่านเขตอาคมมาหลายชั้นและก้าวเดินเข้าไปในถ้ำ สายตากวาดผ่านเด็กน้อยขั้นวิญญาณแรกกำเนิดก่อนจะสำรวจรอบถ้ำ
ถ้ำแห่งนี้ไม่ได้เล็ก มันมีห้องหินทั้งหมดหกห้องและมีเส้นทางเล็กๆทะลุไปถึงหุบเขา
ได้ยินแม้แต่เสียงน้ำไหล เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านหุบเขาทั้งยังมีกลิ่นหอมๆเต็มไปทั่วถ้ำ เห็นได้ชัดว่าที่นี่ปลูกสมุนไพรวิญญาณไว้จำนวนมาก
ถ้ำแห่งนี้สะอาดสะอ้านไร้สิ่งสกปรก ประตูหินเรียบลื่นจนแทบเป็นกระจกได้ บนผนังถ้ำมีค่ายกลขนาดใหญ่กำลังหมุนอย่างช้าๆ เมื่อมันเปิดใช้งาน กำแพงหินด้านบนจะโปร่งใสและสามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกถ้ำได้ด้วย
จิตใจชายชราขั้นวิญญาณแรกกำเนิดพลันเต้นรัวและไม่กล้าเคลื่อนไหว สายตาไม่เชื่อยังคงแข็งแกร่ง ในสายตาเขาหวังหลินเป็นเหมือนเจ้าของถ้ำที่กำลังมองไปรอบๆอย่างไม่รีบร้อน ส่วนเขาเป็นคนนอกที่กระวนกระวาย
หวังหลินมองขึ้นไปยังค่ายกล แม้จะดูหยาบกร้านแต่ยังพอมีความซับซ้อนอยู่บ้าง
ขณะที่เงยศีรษะขึ้น แววตาของชายชรากะพริบจิตสังหารและพุ่งออกไป ใช้วิชาเคลื่อนย้ายพริบตาที่มีเพียงเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดเท่านั้นที่จะใช้ได้!
วิชาเคลื่อนย้ายแตกต่างจากเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดและขั้นแกนลมปราณอย่างเห็นได้ชัด การเคลื่อนที่พริบตาด้วยระดับวิญญาณแรกกำเนิดนั้นทรงพลังยิ่งเกินกว่าเซียนขั้นแกนลมปราณ
เขาปรากฏตัวด้านหลังหวังหลินในพริบตา จานั้นอ้าปากมีแสงสีเขียวพุ่งออกมา แสงสีเขียวบรรจุสายฟ้าเอาไว้ด้วย ทั้งยังมีเสียงร้องโหยหวนออกมา แสงสีเขียวพุ่งตรงเข้าหาหวังหลิน
ชายชราไม่มองดูผลลัพธ์ หลังจากใช้สมบัติชีวิตของตัวเองจึงเคลื่อนที่พริบตาอีกครั้งเพื่อหนีออกจากถ้ำ!
อย่างไรก็ตามขณะที่กำลังจะหนีไป ดวงตาเบิกกว้าง ร่างกายแข็งค้างในอากาศ เหม็ดเหงื่อท่วมใบหน้า หวังหลินซึ่งอยู่ด้านหลังเขากลับพลันปรากฏเบื้องหน้า จ้องมองอย่างเย็นชา
“ข้าปล่อยเจ้าไปแล้วหรือ?” สองนิ้วหวังหลินกำลังถือประกายสายฟ้าสีเขียวเอาไว้และสะบัดแขนเสื้อ ร่างชายชราถูกกระเด็นกลับไปและกระอักโลหิต เขากระแทกใส่ผนัง ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและร้องอุทาน “เจ้า..เจ้าทรงพลังไปได้อย่างไร!?!”
หวังหลินค่อยๆบีบสายฟ้าสีเขียวด้วยสองนิ้ว สายฟ้าสูญสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉากเหตุการณ์นี้ตีเข้าใส่จิตใจชายชราเหมือนค้อนทุบ เขาตกอยู่ในอาการตะลึง ใบหน้าซีดเผือดยิ่งขึ้น วิญญาณแรกกำเนิดอ่อนแอ โลหิตสีดำไหลย้อนออกมาจากมุมปาก
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้! ภายในเผ่าไม่อนุญาตให้มีการฆ่าสังหาร หากเจ้าฆ่าข้า ผู้อาวุโสของตระกูลจะ…” ชายชราเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความแข็งแกร่งของหวังหลินเกินความรู้ความเข้าใจ เขาไม่คิดว่าเซียนขั้นแกนลมปราณที่เขากลั่นแกล้งได้ตามต้องการและไล่ออกไปจะทรงพลังขึ้นได้เพียงแค่ไม่กี่วัน
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ สัมผัสวิญญาณหวังหลินก่อตัวเป็นฝ่ามือยักษ์ล่องหนกดประทับใส่ศีรษะของเขาเพื่อค้นดวงวิญญาณ ด้วยพลังอำนาจของหวังหลิน ชายชราจึงไม่มีคุณสมบัติพอจะต่อต้าน ร่างชายชราสั่นสะท้านรุนแรง วินาทีต่อมาเขาก็ฟุบอยู่บนพื้น
หลังจากค้นผ่านความทรงจำของชายชราไปแล้ว หวังหลินดวงตาส่องสว่างและเริ่มขบคิด
เขาไม่ได้ฆ่าคนของเผ่าสายฟ้ากระจายไปมากนัก แต่ในความทรงจำทั้งหมดที่พึ่งได้มาในที่สุดก็เข้าใจเรื่องของเผ่าสายฟ้ากระจายได้อย่างละเอียด
‘พวกเขาใช้วิธีการกระจายตนเองเพื่อให้เรียนรู้การต่อสู้ เรียนรู้กฎแห่งป่า เพื่อสร้างผู้นำในแต่ละรุ่น!’
‘นอกจากดาวเคราะห์แม่สามดวงซึ่งมีสมาชิกเผ่าอาศัยอยู่จำนวนมาก ที่เหลืออีกสิบสามดวงเป็นพื้นที่ทดสอบให้กับเผ่า! ทุกร้อยปีจะมีหนึ่งตำแหน่งเข้าไปในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และทุกคนบนดาวเคราะห์ทั้งสิบสามจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อตำแหน่งนั้น!’
‘เมื่อเข้าไปในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ได้และติดต่อกับสายฟ้านิรันดร์ด้วยตัวเอง อักขระก็จะเพิ่มพูนกำลังมากยิ่งขึ้นซึ่งจะทำให้ระดับบ่มเพาะของคนที่เข้าไปเพิ่มได้มหาศาล!’
‘ยังมีเวลาอีกเจ็ดปีจนกว่าจะถึงการแข่งขันครั้งถัดไป…อย่างไรก็ตามวิธีการของเผ่าสายฟ้ากระจายที่ทำให้สมาชิกเผ่าแต่ละคนแข่งขันถือว่าน่าสนใจ…มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับบ่มเพาะหรือทักษะการต่อสู้ แต่เป็นผลึกสายฟ้า!’
‘ในเจ็ดปี คนที่มีผลึกสายฟ้ามากที่สุดจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์! นี่เป็นโอกาสที่ข้าไม่สามารถปล่อยผ่านได้ ข้าจะเข้าไปดูดซับสายฟ้านิรันดร์!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง แขนขวายื่นออกไป อักขระสายฟ้ากลางหน้าผากของชายชราพลันกะพริบวูบวาบและหินหยกลอยขึ้น
ผู้คนของดาราจักรโบราณไม่ค่อยได้ใช้กระเป๋าเก็บของ อักขระที่กลางหน้าผากจึงบรรจุมิติเก็บของเอาไว้และทุกอย่างเก็บไว้ข้างใน
ด้วยหินหยกในมือ หวังหลินจึงมองเห็นเนื้อหาข้างในได้ง่ายๆโดยไม่ต้องทำความเสียหายต่ออักขระ
หินหยกก้อนนี้มีค่ายกลที่เปิดใช้งานอยู่ตลอดและผสานเข้ากับโลกอย่างคลุมเครือ เนื้อหาข้างในเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง มันคือทำเนียบอันดับ!
รายการอันดับมีทั้งหมดแปดร้อยชื่อ แต่ละชื่อมีจำนวนตัวเลขต่อท้ายซึ่งเป็นสิ่งแสดงถึงจำนวนผลึกสายฟ้าของคนผู้นั้น!
เห็นได้ชัดว่าในเผ่าสายฟ้ากระจายมีคนมากกว่าแปดร้อยคน แต่มีแค่แปดร้อยที่สามารถติดทำเนียบนี้ได้!
หวังหลินมองดูชื่อบนสุดและขมวดคิ้ว ‘1,900,007,000…’ คนที่อยู่บนสุดมีชื่อว่าจ้าวระเบียบ
“1,300,009,000….” อันดับสองมีชื่อว่าดอกบัว
หลังจากมองผ่านๆอย่างรวดเร็ว แม้แต่อันดับแปดร้อยยังมีผลึกสายฟ้ามากกว่าสี่แสน ส่วนชายชราในถ้ำมีผลึกสายฟ้าแค่เจ็ดหมื่นก้อนซึ่งถือว่าเล็กน้อยมาก
ผลึกสายฟ้าไม่ใช่สิ่งของหรือเพียงแค่ชื่อเรียก มีวิธีได้รับมาหลายแบบหลายหนทาง วิธีได้รับรวดเร็วที่สุดคือมอบเครื่องบรรณาการให้กับเผ่าสายฟ้ากระจาย ไม่ว่าจะเป็นวิชา เม็ดยา วัตถุดิบปรุงยาหรือกระทั่งเพลิงนรกานต์ พวกมันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นผลึกสายฟ้าได้หมด
เพลิงนรกานต์ให้มากที่สุด ที่เหลือขึ้นอยู่กับระดับ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอแบบนี้ ในดินแดนวิญญาณปีศาจก็คล้ายกันเพียงแต่ต้องใช้ผลงานในสงคราม ส่วนที่นี่ใช้ผลึกสายฟ้า ด้วยหนทางนี้ทางเผ่าสายฟ้ากระจายจึงระดมกำลังรวมตัวกันทั้งเผ่าได้ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มระดับบ่มเพาะของสมาชิกเผ่าแต่ยังเก็บสะสมทรัพยากรได้มากขึ้นด้วย
‘น่าสนใจ!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างและสะบัดแขนขวา อักขระกลางหน้าผากของชายชราถูกเปิดใช้งาน ทุกอย่างข้างในถูกหวังหลินฉกฉวย
หวังหลินไม่ได้ฆ่าชายชรา เขารู้อยู่แล้วว่าเผ่าสายฟ้ากระจายเข้มงวดเรื่องการสังหารสมาชิกเผ่าเป็นอย่างมาก เมื่อเกิดการสังหารจะต้องมีการสอบสวน
หวังหลินไม่ให้ความสนใจอะไรต่อชายชราอีก เขาเดินเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำเข้าหาหุบเขา เสียงน้ำไหลยิ่งเด่นชัด มีแม่น้ำเล็กๆไหลอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
สมุนไพรวิญญาณจำนวนมากเติบโตขึ้นสองฝั่งแม่น้ำ สิ่งที่หวังหลินสนใจมากที่สุดคือมีร่องรอยสายฟ้าจางๆกำลังออกมาจากต้นไม้ที่เติบโตอยู่บนผนังหุบเขา มันยาวจากผนังมาเจ็ดฟุตและมีผลสีเขียวอยู่หกลูก
ขณะที่หวังหลินกำลังสังเกตผลไม้ ลำแสงสี่สายกำลังมุ่งหน้ามาที่ถ้ำ พวกเขาเป็นชายชราสี่คน แต่ละคนยืนอยู่บนปลายกระบี่ ไม่มีคนใดอ่อนแอ หนึ่งในนั้นเป็นเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดระดับกลาง ใบหน้าดูถูกเหยียดหยามและสายตาเยือกเย็น
หนึ่งในชายสามคนด้านหลังชี้ไปข้างหน้า “ท่านลุง ถ้ำของฉีจื่ออยู่ข้างหน้า เขาเป็นแค่ขั้นวิญญาณแรกกำเนิดระดับต้นเท่านั้นในระยะห้าพันลี้และได้ขโมยสมบัติไปจำนวนมากตลอดหลายปี”
ชายชราขั้นวิญญาณแรกกำเนิดระดับกลางพลันหยักหน้าและเอ่ยท่าทีดูเหมือนไม่สนใจ “เยี่ยมมาก เจ้าสามคนไปที่สำนักสายฟ้าสวรรค์เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ดี ด้วยการแลกเปลี่ยนกับการช่วยเหลือสำนักสายฟ้าสวรรค์ของข้า จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี”
เซียนขั้นแกนลมปราณสามคนเกิดแววตาเต็มไปด้วยความสุข คนที่พูดขึ้นมารีบเอ่ยคำขอบคุณและหัวเราะ “ท่านลุงจะสามารถแลกเปลี่ยนผลึกสายฟ้าจำนวนมากกับสมบัติพวกนี้ได้แน่ จากนั้นสถานะของท่านในสำนักสายฟ้าสวรรค์ก็จะสูงส่งยิ่งขึ้นไป”
เซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดระดับกลางมองดูเซียนขั้นแกนลมปราณสามคนและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ข้าจะไม่ใช้ผลึกสายฟ้านั้นเพื่อตัวเอง ข้าจะมอบมันให้จ้าวสำนัก จ้าวสำนักของสำนักสายฟ้าสวรรค์ใกล้ติดทำเนียบสายฟ้ากระจายแล้ว อีกไม่นานเขาก็จะเข้าสู่ทำเนียบได้!”
หลังเอ่ยขึ้นมา เซียนขั้นแกนลมปราณสามคนตกตะลึงและเผยความเคารพมากขึ้น
……………………………..