364. ความเกรี้ยวกราดของราชรถ
แส้เส้นนั้นเร็วมากเกินไป หวังหลินไม่มีเวลาตอบสนองเพียงพอจึงทำให้วิญญาณดั้งเดิมของเขาถูกผลักออกจากร่าง เมื่อวิญญาณของเขาลอยออกไป เขาตกตะลึงและความเจ็บปวดเริ่มแทรกเข้ามาในวิญญาณดั้งเดิมทั้งดวง
ความเจ็บปวดครานี้ราวกับหัวใจถูกแทงลึก ซึ่งหมายความว่าวิญญาณดั้งเดิมของเขากำลังได้รับบาดเจ็บ
หวังหลินไม่ลังเลที่จะใช้พลังปราณเพื่อหยุดตัวเอง เพียงเคลื่อนที่พริบตาเขาก็กลับคืนสู่ร่างกาย
หวังหลินลืมตาขึ้นและรีบถอยกลับ สายตาเผยความตกใจ การโจมตีจากยักษ์น้ำแข็งนั้นนับว่าประหลาดเกินไป
“แส้นั้นเป็นรูปแบบใดกัน?” หวังหลินจ้องเจ้ายักษ์น้ำแข็งด้วยสายตาเป็นประกาย
โชคดีที่ปราณกระบี่ของหวังหลินไปถึงเจ้ายักษ์และสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ยังอยู่ข้างในยักษ์น้ำแข็ง ด้วยปัจจัยสองอย่างนี้เจ้ายักษ์น้ำแข็งไม่สามารถโจมตีหวังหลินได้ขณะที่วิญญาณดั้งเดิมของเขาถูกผลักออกจากร่างกาย ไม่เช่นนั้นคงเกิดสถานการณ์เลวร้ายต่อหวังหลินมากกว่านี้
เพียงเมื่อปราณกระบี่ตกลงบนส่วนเอวของยักษ์น้ำแข็ง สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์พลันทำลายควันกฎเกณฑ์ส่วนสุดท้ายและหายวับไปทันที ก้อนเมฆสีแดงหายไปอย่างรวดเร็วและท้องฟ้าคืนกลับเป็นปกติราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ร่างยักษ์น้ำแข็งสั่นเทา เศษน้ำแข็งหลุดออกและตกลงบนพื้น ตอนนี้เจ้ายักษ์เหลือขนาดเพียงครึ่งส่วนจากของเดิมห้าสิบฟุต
รอยแผลบนเอวของมันปิดลงอย่างรวดเร็วและหายไปในไม่นานนัก ทว่าภาพร่างรูปแส้ยังคงอยู่ตรงหน้าอกของมันพร้อมกับปลดปล่อยแสงชั่วร้าย
หวังหลินหันกลับและหนีโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูด แส้เส้นนั้นอันตรายเกินไป หากวิญญาณดั้งเดิมของเขาถูกผลักออกอีกครั้งและร่างกายเขาถูกทำลาย แม้เขาจะชนะเขาก็ยังคงพ่ายแพ้
ผีเสื้อสีชาดปรากฎตัวบนศีรษะของยักษ์น้ำแข็งและร้องตะโกน “เซิ่งหนิว ข้าต้องการเห็นว่าเจ้าจะยังทำอะไรได้!”
ยักษ์น้ำแข็งตอนนี้เหลือขนาดเพียงครึ่งเดียวได้ว่องไวมากกว่าก่อนนัก มันขึ้นมาจากพื้นทำให้พื้นดินสั่นไหวและไล่ตามหลังหวังหลิน
หวังหลินวิ่งหนีต่อไป โชคดีที่สนามรบขนาดใหญ่มากและเขายังไม่ถึงเขตแดนของมัน
หวังหลินนำเม็ดยาออกมาและกลืนกินเพื่อปรับสภาพร่างกายและเหาะเหินขึ้นไป ส่วนยักษ์น้ำแข็งเบื้องหลังเขาหวังหลินเมินเฉยไปเรียบร้อย
สีหน้าผีเสื้อสีชาดเย็นชาราวกับน้ำแข็ง นางเกลียดคนเบื้องหน้านางเข้ากระดูก หากไม่มียักษ์น้ำแข็ง นางคงถูกสายฟ้าแดงสังหารไปแล้ว
“เซิ่งหนิวผู้มีสมบัติที่สามารถเรียกสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ลงมาได้ ทว่าข้าไม่เชื่อว่าเขาจะมีสองชิ้นไม่เช่นนั้นเขาคงใช้มันตอนนี้ไปแล้ว แม้จะมีแส้วิญญาณ ยักษ์น้ำแข็งจะไม่สามารถทนรับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ถึงสองครั้งได้” สายตาผีเสื้อสีชาดมืดหม่น นางส่งคำสั่งและแส้พลันปรากฎในฝ่ามือยักษ์น้ำแข็ง
นางร้องตะโกน “เซิ่งหนิว ยอมรับความตายของเจ้าซะ!”
เจ้ายักษ์สะบัดแส้ในมือ มันเคลื่อนไหวเร็วกว่าสายฟ้าพุ่งเข้าหาหวังหลิน
สีหน้าท่าทางหวังหลินแปรเปลี่ยน แม้ความเร็วของแส้จะเร็วมากแต่หวังหลินระมัดระวังตลอดเวลา เมื่อแส้เข้ามาหาเขา หวังหลินก็หายวับไปกับการเคลื่อนที่พริบตาแล้ว
เขาปรากฎตัวอีกครั้งห่างออกไปหนึ่งพันฟุตและกระอักโลหิตออกมา ตอนที่เขาเคลื่อนที่พริบตานั้นปลายแส้สัมผัสกับเขา แม้มันจะไม่ผลักวิญญาณดั้งเดิมเขาออกไปแต่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
“แส้สมบัตินั่นมันอะไรกัน!” หวังหลินสูดหายใจลึกและหลบหนีต่อไป เขานำเม็ดยาจำนวนมากออกมากินเพื่อฟื้นฟูพลังปราณให้มากเท่าที่เป็นไปได้
ผีเสื้อสีชาดควบคุมยักษ์น้ำแข็งให้ไล่ล่าหวังหลินอย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่นางไล่ตามหวังหลินจึงพูดอย่างดูถูก “เซิ่งหนิว เจ้าวิ่งหนีราวกับหมาจรจัดเสียจริง ไหนหล่ะรัศมีทรงอำนาจเมื่อตอนนั้น?”
หวังหลินหัวเราะ “ผีเสื้อสีชาด เจ้ายังไม่ได้แก้ปัญหาแขนต้องสาปของเจ้าเลย เจ้าเพียงแค่ยับยั้งมันไว้ด้วยพลังปราณ นี่คือเหตุผลจริงๆที่เจ้าใช้สมบัติส่วนใหญ่ของเจ้าตั้งแต่เริ่ม”
สีนางของนางมืดหม่นและพ่นลมหายใจ ทุกครั้งที่พวกเขาพบกันนางไม่เคยเอาชนะคำพูดของหวังหลินได้ ดังนั้นนางจึงไม่พูดอีก นางควงคุมยักษ์น้ำแข็งและฟาดอากาศเบื้องหน้าหลายครั้ง
หวังหลินฟื้นฟูพลังปราณได้เพียงเล็กน้อย สายตาว่างขึ้นพร้อมกับนำของชิ้นนึงออกมา มันคือแขนของผีเสื้อสีชาด เขาเอ่ยบทร่ายพร้อมกับสร้างผนึกและชี้ไปที่แขน แขนข้างนั้นเรืองแสงชั่วร้ายและสัญลักษณ์หลายอย่างปรากฎขึ้น
หวังหลินตบแขนนั้นและร้องตะโกน “ระเบิด!”
เส้นสีดำปรากฎขึ้นทันทีบนหน้าผากผีเสื้อสีชาด ร่างกายนางสั่นเทาและใบหน้าซีดขาว นางร้องตะโกน “เซิ่งหนิว หากข้าไม่สังหารเจ้า ข้าไม่ใช่ผีเสื้อสีชาด!”
หวังหลินเยาะเย้ยและตะโกน “ระงับมันไว้สิ! ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะหักห้ามตัวเองไว้นานแค่ไหน! ระเบิด! ระเบิด! ระเบิด!”
เส้นสีดำบนหน้าผากผีเสื้อสีชาดพลันเริ่มกระจายออกและปกคลุมใบหน้าอันสวยงามของนางในเวลาไม่นาน
“เจ้า…” ผีเสื้อสีชาดกระอักโลหิตสีดำอกมา นางกังวลกับแขนต้องสาปของนางจริงซึ่งเป็นเหตุผลที่นางต้องการจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด น่าเสียดายที่มันไม่เป็นไปตามแผน การต่อสู้นี้หลุดจากการควบคุมของนางไปแล้ว
ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้นและเขาร้องตะโกนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง “ระเบิด!”
แขนในฝ่ามือระเบิดทันที เมื่อไม่มีโลหิตใดหลงเหลืออยู่ข้างในดังนั้นมันจึงระเบิดกลายเป็นฝุ่นสีดำกระจายออกทุกทิศทาง
การระเบิดแขนข้างนั้นได้กระตุ้นคำสาปทั้งหมดบนร่างกายผีเสื้อสีชาด นางกระอักโลหิตสีดำออกมาอีกและรัศมีสีดำปกคลุมใบหน้านาง
หวังหลินหยุดทันที เขาไม่วิ่งหนีอีกเพียงแต่ใช้โอกาสนี้โยนกับดักอสูรออกไปพร้อมกับเสียงดังปัง ราชรถสังหารเทพปรากฎ
วิญญาณอสูรโผล่ออกมาพร้อมกับเสียงคำรามทันที แววตากระหายเลือดของมันจ้องหวังหลินและยักษ์น้ำแข็ง
ตอนนี้หวังหลินไม่กังวลเรื่องการเปิดเผยมากเกินไป สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการชนะ
หลังราชรถปรากฎมันต้องใช้เวลากระตุ้น หวังหลินถือกระบี่สวรรค์ในมือและตวัดลงมา
ปราณกระบี่สร้างคลื่นกระแทกลอยออกไปปะทะเข้ากับยักษ์น้ำแข็ง
ปัง!!
ยักษ์น้ำแข็งถอยกลับไปหลายก้าวและรอยแผลหนึ่งเปิดขึ้นบนร่างกายของมัน ผีเสื้อสีชาดหลับตาลง นางเพ่งสมาธิทั้งหมดเพื่อระงับคำสาป
ดวงตาหวังหลินสว่างวาบ เขาพุ่งขึ้นไปและตวัดกระบี่ลงอีกครั้ง
ปัง!
หลังเกิดเสียงยักษ์น้ำแข็งถอยกลับไปมากกว่าเดิม ผีเสื้อสีชาดพยายามลืมตาและจ้องหวังหลินอย่างเหี้ยมโหดก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา ดวงตายักษ์น้ำแข็งปลดปล่อยแสงอันชั่วร้าย นางยกเลิกการควบคุมยักษ์น้ำแข็งและใช้พลังทั้งหมดของนางเพื่อระงับคำสาป
ร่างยักษ์น้ำแข็งเริ่มเคลื่อนไหว มันกวัดแกว่งหมัดและภาพแส้ปรากฎทันที
หวังหลินไม่ลังเลที่จะใช้กระบี่สวรรค์เพื่อป้องกันเลย ปัง! หวังหลินถูกดันถอยกลับไปมากกว่าหนึ่งร้อยฟุต แม้ว่ากระบี่สวรรค์จะไม่ได้รับความเสียหายแต่หวังหลินกระอักโลหิตออกมาจากแรงสะท้อน
ขณะนี้เองยักษ์น้ำแข็งร่อนลงมาเบื้องหน้าหวังหลินเพียงกระโดดครั้งเดียว มันแกว่งหมัดลงมาพร้อมกับมีภาพแส้อยู่ข้างในหมัด
หวังหลินใบหน้าเคร่งเครยีดพลันรีบโยนกระบี่สวรรค์เข้าใส่หมัด
จังหวะที่หมัดปะทะหวังหลิน กระบี่กระพริบวาบและตัดทั้งแขนข้างนั้นออก
กระบี่สวรรค์นั้นแตกต่างจากปราณกระบี่อย่างมาก กระบี่สวรรค์ร่อนลงห่างออกไปหนึ่งพันฟุตและแทงลึกลงไปใต้ดิน
โลหิตกระจายออกจากทั่วร่างหวังหลินและกระดูกหลายชิ้นแตกหัก ทว่าเขาหัวเราะและร้องขึ้น “ผีเสื้อสีชาด ข้าตัดแขนเจ้ามาและตอนนี้ข้าตัดแขนยักษ์น้ำแข็งไร้ประโยชน์นี้ไปอีกข้าง ตอนนี้มันเหมาะกับเจ้าไม่มีผิด”
เขาสะบัดแขนและแขนขวาของยักษ์น้ำแข็งปรากฎในฝ่ามือเขา แสงสีฟ้ากระพริบเส้นหนึ่งปรากฎและน้ำแข็งหลุดจากจากแขนทันทีจนมันหดลงจนมีขนาดครึ่งเดียว
ตอนนี้หนามหลายจุดบนราชรถสังหารเทพได้ปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายและกำลังถูกวิญญาณอสูรดูดซับ วิญญาณอสูรขยายขนาดขึ้นและเผยแววตาดุร้าย
ยักษ์น้ำแข็งร้องคำรามและพุ่งเข้าหาแขนที่แตกเสียหายของมัน
แววตาหวังหลินแปรเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นและพ่นลำแสงสีขาวออกไปล้อมรอบแขน ตอนนี้เขากำลังใช้พลังงานของตัวเองเพื่อปรับแต่งมัน
แขนข้างนั้นมีรอยร้าวมากขึ้นและหดขนาดลงอีกครั้ง
เจ้ายักษ์รวดเร็วมากมันกระโดดครั้งเดียวก็มาถึงและกวัดแกว่งแขนข้างที่เหลือ
ปัง!
หวังหลินถอยกลับและหายตัวไป บนพื้นที่พึ่งยืนอยู่เกิดรอยร้าวทันที
หวังหลินปรากฎตัวอีกครั้งถัดจากกระบี่สวรรค์และคว้ามันไว้
เขาร้องตะโกน “ทำลาย!” แขนที่เคลือบด้วยแสงสีขาวพลันร้าวอีกครั้งและน้ำแข็งจำนวนมากหลุดออก ตอนนี้แขนข้างนี้มีขนาดเท่ากับแขนคนปกติ
ยักษ์น้ำแข็งหันกลับทันทีและชกกำปั้นออกมารวดเร็วราวกับสายฟ้า หวังหลินชูกระบี่สวรรค์ขึ้นและตวัดลง
ขณะนั้นแส้ได้ปรากฎบนหน้าอกยักษ์น้ำแข็งทันที หวังหลินสีหน้าเปลี่ยนไปและเคลื่อนกระบี่สวรรค์เพื่อขัดขวางเบื้องหน้า ทว่าแส้เปลี่ยนทิศทาง มันอ้อมหวังหลินและกระแทกใส่ร่างกายเขา
ปัง!
หวังหลินกระอักโลหิตออกมาและร่างถูกถอยกลับไปร้อยฟุต วิญญาณดั้งเดิมของเขาถูกผลักออกจากร่างอีกครั้งและลอยออกไปหนึ่งพันฟุต
ดวงตายักษ์น้ำแข็งปลดปล่อยแสงชั่วร้าย มันเมินเฉยวิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินและเดินเข้าหากายหยาบของหวังหลินแทน
“ราชรถสังหารเทพ เปิดใช้งาน!” ดวงตาหวังหลินว่างขึ้น ระหว่างเวลาที่เขาถ่วงเวลายักษ์น้ำแข็งนี้ก็เพื่อให้ราชรถสังหารเทพเปิดใช้งาน
วิญญาณอสูรร้องคำรามและพุ่งออกไป โซ่ล่ามวิญญาณอสูรทั้งหมดหายไปทว่าแทนที่มันจะพุ่งหายักษ์น้ำแข็ง มันกลับพุ่งเข้าหาหวังหลิน
“เจ้าดื้อรั้น!” ฝ่ามือสร้างผนึกขึ้นและโซ่ล่ามลอยออกมาจากราชรถเพื่อขังมันไว้อยู่กับที่
วิญญาณอสูรต่อสู้อย่างไม่สะทกสะท้านและไม่เปลี่ยนทิศทาง ชัดเจนแล้วว่ามันต้องการกลืนกินหวังหลินไม่ว่างอย่างไรก็ตาม
ตอนนี้เองเจ้ายักษ์น้ำแข็งได้มาถึงร่างกายหวังหลินและยิ้มขึ้นพร้อมกับทุบกำปั้นลงไป