918. โจวเทียน 1
ซื่อจื่อเฟิงกัดริมฝีปาก เดิมทีนางเข้ามาดาราจักรพันธมิตรเซียนพร้อมกับตระกูล ทว่านางถูกพลังระเบิดมหาศาลก่อนหน้านี้และถูกพัดพาออกไปไกล
ซึ่งทำให้นางแยกจากตระกูลตัวเอง หลังจากตั้งหลักตัวเองได้นางก็ได้เห็นเหล่านักฆ่าเลวทราม!
ร่างซื่อจื่อเฟิงช่างเย้ายวนจนทำให้เหล่าเซียนพันธมิตรสนอกสนใจ บางคนถึงกับไล่ตามนางทันที
ซื่อจื่อเฟิงกัดฟันแน่นหลบหนีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทว่าด้วยผลกระทบจากก่อนหน้านี้ทำให้นางบาดเจ็บ รวมถึงการเร่งรีบหนีทำให้นางบาดเจ็บแย่ลงกว่าเดิม
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งตบกระเป๋าด้วยสีหน้าเยาะเย้ย นำเข็มสีทองเล่มหนึ่งออกมา โยนเข็มเล่มนั้นพุ่งตรงเข้าใส่ซื่อจื่อเฟิง
“นางจะกลายเป็นเตาหลอมเซียนคนที่สิบเก้าของข้า ฮ่าฮ่า ข้าไม่เคยลิ้มรสสตรีฝ่ายทุกชั้นฟ้ามาก่อน ดูเหมือนข้ามาที่นี่ไม่เสียเปล่า!” ชายวัยกลางคนหัวเราะ กระบี่ใต้ฝ่าเท้าเคลื่อนไหวเร็วยิ่งกว่าเดิม
เมื่อเห็นเข็มทองกำลังจะแทงใส่กลางหลัง ซื่อจื่อเฟิงหันกลับมาทันทีและสร้างผนึก พลันเกิดแสงสีเงินกระพริบวาบพยายามหยุดเข็มทองเอาไว้
ทว่าเข็มทองแข็งแกร่งเกินไป วินาทีที่มันสัมผัสแสงสีเงิน ซื่อจื่อเฟิงรู้สึกถึงแรงกระทบรุนแรง นางกระอักโลหิตและถูกผลักดันถอยหลัง
ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด
ชายวัยกลางคนหัวเราะพลางเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว ทว่าขณะที่กำลังคว้าตัวซื่อจื่อเฟิงนั้น เสียงเย็นเยียบดังสะท้อนออกมา
“ถอยไป!”
คำพูดเรียบง่ายสองคำ แต่ในหูชายวัยกลางคนราวกับเส้นสายฟ้านับหมื่นกระเบิดในครั้งเดียวกึกก้องในความคิด ระดับบ่มเพาะของชายวัยกลางคนไม่ได้สูงนัก ถึงจะสูงกว่าซื่อจื่อเฟิงแต่ไม่ได้มากนัก
วินาทีนี้ ร่างชายวัยกลางคนสั่นเทา รู้สึกแค่เพียงเสียงพึมพำในหู ราวกับเขาถูกแยกตัวออกมาจากโลก เสียงที่ได้ยินคือเสียงหัวใจตัวเองกำลังเต้นเร็วดุจรัวกลอง
เสียงที่เข้าไปในหูราวกับกระบี่แหลมคมทิ่มแทงผ่านร่างกาย ราวกับมันมีพลังทำลายล้างบรรจุเอาไว้ เปลี่ยนเขาให้หน้าซีดและกระอักโลหิต
เขาก้าวถอยโดยไม่รู้ตัว วินาทีนั้นคลื่นมหึมาพัดอยู่ในจิตใจชายวัยกลางคน ผสมผสานความหวาดกลัวไร้ก้นบึ้ง
รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียการควบคุมร่างกายอย่างชัดเจน ราวกับมีความต้องการหนึ่งเข้าไปในร่างผ่านโสตประสาทและคุมร่างเขาให้ล่าถอย
ราวกับเขาต้องเชื่อฟังความต้องการนั้น และหากต่อต้านมันเพียงเล็กน้อย คงตายโดยไม่มีหลุมฝังศพ!
เป็นครั้งแรกที่ชายวัยกลางคนรู้สึกเช่นนี้ เจ่หวาดกลัวยิ่ง ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและไม่กล้าต่อต้านอีกเลย
ความต้องการนั้นคล้ายได้เปลี่ยนแปลงกฏในโลกซึ่งทำให้ชายวัยกลางคนกระอักโลหิตออกมาอีก เขาไม่ใช่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เซียนรอบด้านที่กำลังไล่ตามซื่อจื่อเฟิงต่างก็ตกอยู่ในอาการย่ำแย่ยิ่งกว่าชายวัยกลางคน บางคนถึงกับบังคับให้ล่าถอยต่อเนื่อง
ดูเหมือนพายุยักษ์ก่อตัวเบื้องหน้าซื่อจื่อเฟิงและพัดพาพวกเขาให้ถอยกลับไป ขณะที่พวกเขาถอยกลับ พลันเกิดเสียงปะทุดังขึ้น ร่างใครที่ไม่สามารถทนได้พลันตายทันทีและร่างกายแตกสลาย
โลหิตจำนวนมากไหลออกมา แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยนักท่ามกลางดวงดาว
แม้กระทั่งวิญญาณดั้งเดิมแต่ละคนก็ไม่สามารถหนีรอดได้และแยกตัวออกมาจากร่างกาย วิญญาณพวกนั้นไม่สามารถเข้าสู่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่และถูกบังคับให้ออกมาจากอวกาศ พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีดำลอยเข้าไปในร่างหวังหลินและถูกผนึกไว้ในนรกสิบแปดชั้น
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรวดเร็วจนซื่อจื่อเฟิงตกตะลึงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เบื้องหน้าสายตาคือร่างที่นางหลงรักสุดหัวใจ เขากำลังเดินหานางอย่างช้าๆ
หวังหลินจ้องมองเหล่าเซียนที่กำลังหลบหนีด้วยสายตาสงบนิ่ง คำพูดที่เขาพึ่งเอ่ยออกมาแฝงกฏที่พึ่งรู้แจ้งไว้ด้วย ซึ่งคำพูดนั้นเปลี่ยนกลายเป็นพลังแห่งอำนาจ
ชายวัยกลางคนเผยสายตาตกตะลึงและหวาดหวั่น ราวกับมีเสียงร่ำร้องในหัวบอกเขาว่านี่คือผู้ทรงอำนาจแห่งฝ่ายทุกชั้นฟ้า!
แต่อย่างไรเขาก็ไม่สามารถเอ่ยเสียงใดออกมาจากปากได้ เพราะร่างกายแตกสลายระหว่างกำลังถอย!
ระดับของเซียนผู้นี้เล็กน้อยต่อหน้าหวังหลิน!
เหมือนตอนที่อยู่ในดินแดนวิญญาณปิศาจ ตอนที่เจ้าเศษมารสามารถทำให้ร่างหวังหลินแตกสลายได้เพียงแค่พ่นลมหายใจ ตอนนี้หวังหลินบรรลุระดับเดียวกับเจ้าเศษมารเมื่อตอนนั้นแล้ว!
วิญญาณของชายวัยกลางคนลอยออกมาและสูญสลายอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังจะตาย เสียงหญิงสาวนางหนึ่งดังออกมาจากความว่างเปล่า
“เจ้าคู่ควรต่อตำแหน่งเทพสายฟ้าแห่งฝ่ายทุกชั้นฟ้าจริงๆ ซิ่วมู่!” วินาทีที่น้ำเสียงหญิงสาวปรากฏ คนผู้หนึ่งก็มาถึงจากดวงดาวห่างไกล เขาดูเหมือนชายวัยกลางคน ใบหน้าสีเข้ม เบื้องหลังคือเงาทมิฬนับไม่ถ้วนคล้ายผ้าคลุมยาวแพร่กระจายไปทั่วดวงดาว
คนที่พูดขึ้นมาคือเซียนหกนิ้ว!
น้ำเสียงเขาเข้าไปในความว่างเปล่า จากนั้นดวงวิญญาณชายวัยกลางคนก็หนีออกมาจากอำนาจหวังหลินได้ วิญญาณดวงนั้นหยุดแตกสลายและหลบหนีอย่างรวดเร็ว มันเหลือดวงวิญญาณมากกว่าครึ่งและอ่อนแอมาก ราวกับจะแตกดับได้ทุกเมื่อ
ดวงวิญญาณชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกำลังจะหลบหนี
หวังหลินโบกสะบัดแขนขวาอย่างลวกๆ สายลมกรรโชกพลันเกิดขึ้นเบื้องหน้า เปลี่ยนกลายเป็นตัดสวรรค์นับไม่ถ้วนจนผสานเป็นหนึ่งเข้าด้วยกัน ไล่ตามดวงวิญญาณที่กำลังหลบหนี
เซียนหกนิ้วเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดและชี้แขนขวาออกไปเช่นกัน เงานับไม่ถ้วนด้านหลังพุ่งออกไปเข้าหาตัดสวรรค์ของหวังหลิน
ทั้งสองคนเริ่มต่อสู้กันโดยมีชีวิตของดวงวิญญาณดั้งเดิมเป็นเดิมพัน!
เมื่อตัดสวรรค์และเหล่าร่างเงานับไม่ถ้วนเข้าปะทะกันใกล้กับดวงวิญญาณดั้งเดิม พวกมันทำให้เกิดการระเบิดสั่นสะเทือนสวรรค์ หลังจากหวังหลินพอจะรู้แจ้งเศษเสี้ยวแห่งกฏได้เล็กน้อย พลังอำนาจตัดสวรรค์เพิ่มพูนขึ้นมหาศาล!
ก่อนหน้านั้นหวังหลินใช้มันโดยไม่รู้ตัวและไม่เข้าใจกฏ ตัดสวรรค์จึงไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ แต่ตอนนี้มันต่างกันออกไป
ตัดสวรรค์สามารถตัดกฏได้ทั้งหมด ขณะที่มันพุ่งออกไป เงาร่างทั้งหมดที่เชื่อมต่อกันจึงพังทลายและแตกสลายทันที
พริบตาเดียวร่างเงาทั้งหมดก็แตกสลาย ตัดสวรรค์พุ่งตรงเข้าใส่ดวงวิญญาณดั้งเดิม
เซียนหกนิ้วสีหน้าเปลี่ยนไป พ่นลมหายใจเย็นก่อนจะก้าวเท้า แขนขวาสร้างผนึก เงาด้านหลังควบแน่นและพริบตานั้นพวกมันทั้งหมดก็ผสานกันกลายเป็นก้อนทรงกลมสีดำเล็กๆ
กลิ่นอายสั่นสะเทือนจิตใจโผล่ออกมาจากก้อนทรงกลมนั้นและห่อหุ้มทั่วบริเวณ ก้อนสีดำลอยออกไปด้วยความรวดเร็วเข้าหาตัดสวรรค์ มันดูเหมือนมันจะสามารถทะลุผ่านมิติและเข้าใกล้ตัดสวรรค์ในพริบตา
เซียนหกนิ้วหัวเราะและสะบัดแขน ส่งพลังรุนแรงขึ้นมาใกล้วิญญาณดวงนั้น มันถูกกวาดผ่านและผลักออกไปไกล พริบตาเดียวก็หายไปพร้อมกับดวงดารา
“ไม่มีใครจะฆ่าคนที่ข้าทาสวิญญาณโจวเทียน ต้องการช่วยเหลือได้!”
หวังหลินท่าทางปกติ ไม่แม้แต่จะมองโจวเทียน เขายกขาขึ้นมาและก้าวเท้า ปรากฏระลอกคลื่นและหายตัวไป
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้โจวเทียนตกตะลึง แต่หลังจากนั้นรูม่านตาพลันหรี่แคบ
ห่างออกไปไกล ดวงวิญญาณดั้งเดิมไม่สับสนอีกแล้วและเต็มไปด้วยความสุข ขณะที่มันกำลังพุ่งไปท่ามกลางดวงดาว หวังหลินก้าวเท้าออกมาจากอากาศเบาบาง แขนขวากำปั้น โยนออกไปเกิดเสียงดังปัง ตามมาด้วยระลอกคลื่นแพร่กระจายผ่านอวกาศ
“สลายไปซะ!”
ดวงวิญญาณดั้งเดิมสั่นสะท้านรุนแรง คล้ายกับเปลี่ยนกลายเป็นมนุษย์ทรายและแตกสลายภายในพายุ
ดวงตาโจวเทียนส่องสว่างพร้อมกับจ้องหวังหลิน แสงประหลาดในแววตายิ่งรุนแรงมากขึ้น ยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่ซื่อจื่อเฟิงซึ่งกำลังเฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมด
ร่างเงาจำนวนมากลอยออกด้านหลังโจวเทียน พุ่งเข้าใส่ซื่อจื่อเฟิง
“เจ้าอยากจะช่วยชีวิตนาง แต่ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำสำเร็จ!” น้ำเสียงสตรีของโจวเทียนดังกึกก้อง ร่างเงาเข้าใกล้ซื่อจื่อเฟิง
ซื่อจื่อเฟิงใบหน้าซีดและรีบถอย
โจวเทียนยิ้มพลางสังเกตสีหน้าท่าทางของหวังหลินอย่างละเอียด ทว่าเขาไม่เห็นว่าหวังหลินจะมีใบหน้าโกรธหรือทุกข์ใจอันใด ตั้งแต่ต้นจนจบหวังหลินสงบนิ่งดุจสายน้ำพร้อมกับเฝ้ามองการกระทำของโจวเทียน หวังหลินมองโจวเทียนด้วยใบหน้าเย็นเยียบไม่เปลี่ยนท่าทีและก้าวเท้าออกไป
โจวเทียนรีบถอยโดยไม่ลังเล
ระลอกคลื่นปรากฏด้านข้างซื่อจื่อเฟิง หวังหลินก้าวเดินออกมาและโยนกำปั้นใส่ ร่างเงาพวกนั้นแตกสลายทันที
“ข้าไม่สนว่าเจ้าอยากจะฆ่านางหรือไม่ แต่ไม่ใช่เบื้องหน้าข้า!” หวังหลินเอ่ยเสียงเรียบ เมื่อเขาเอ่ยจบพลันพุ่งเข้าหาโจวเทียนด้วยแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
โจวเทียนเหยียดยิ้ม ฝ่ามือสร้างผนึกชี้ใส่ความว่างเปล่า ร่างเงาจำนวนมากควบแน่นด้านหลังกลายเป็นขวานสีดำเบื้องหน้า โจวเทียนคว้าเอาไว้และโยนใส่อย่างโหดเหี้ยม
“กลืนกินหมื่นวิญญาณ!” โจวเทียนร้องตะโกน ขวานยักษ์พุ่งเข้าใส่หวังหลินตรงๆ
หวังหลินก้าวเท้าออกมาและโยนกำปั้นเข้าใส่ เกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับขวานยักษ์แตกสลายทันทีกลายเป็นร่างเงานับไม่ถ้วน เงาพวกนั้นกระจัดกระจายและพุ่งใส่หวังหลินจากทุกทิศทาง
หวังหลินชี้นิ้วขึ้นไปท่าทางสงบนิ่ง สายฟ้ารวมตัวกันจากอวกาศภายในรัศมีห้าพันลี้ รวมตัวกันมาที่นี่ทันที
รอบด้านกลายเป็นทะเลสาปสายฟ้า!