Skip to content

Swallowed Star 1027

ตอนที่ 1027 จักรพรรดิเพลิง

จักรพรรดิเพลิงได้นำเผ่าพันธุ์เทพเพลิงออกจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ นำพวกเขาไปยังดินแดนที่ห่างไกลจากมนุษย์และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เมื่อเวลาผ่านไปหลายยุคสมัยเผ่าพันธุ์เทพเพลิงก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น พลังของจักรพรรดิเพลิงก็มีมากจนไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเผ่าพันธุ์เทพเพลิง

ดินแดนของเผ่าเทพเพลิงและมนุษย์นั้นอยู่ห่างไกลกันมาก พวกเขามักจะเข้าไปยังสนามรบรวมกับเผ่าอื่นเพื่อต่อสู้กับมนุษย์

“ชิ้นส่วนชุดเกราะที่ได้มาทั้งหมด ที่อยู่ในกองขยะมาจากผลของสงคราม” หลัวเฟิงที่อยู่บนดาดฟ้ายานกาแล็กซี่ได้จ้องมองไปยังอวกาศ

“เผ่าเทพเพลิงได้แยกออกจาเผ่าพันธุ์มนุษย์ ยังมีการร่วมมือกับเผ่าพันธุ์แมลง เผ่ามาร เผ่าหุ่นยนต์ เหมือนจะมีการขัดแย้งระหว่างพวกเขากับเผ่าพันธุ์มนุษย์”

เผ่าเทพเพลิงเคยเป็นพวกกับมนุษย์มาก่อน การออกจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่จำเป็นต้องทำการต่อสู้ต่อ แต่จากข้อมูลที่หลัวเฟิงได้จากจักรวาลเสมือน กับชิ้นส่วนเกราะที่เขาได้รับ มันระบุว่าเผ่าเทพเพลิงเป็นศัตรูกับมนุษย์ แม้ว่าเขาจะออกจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ยังไม่กล้าที่จะต่อสู้กับอาจารย์ท่านผู้ยิ่งใหญ่

หลัวเฟิงออกมานอกยานอวกาศ เขาหงายมือขึ้นมาแล้วยานกาแล็กซี่ก็หดเล็กลงมาอยู่ในขนาดฝ่ามือ

“ข้าจะไปพบศิษย์พี่รองซะหน่อย”

หลัวเฟิงเทเลพอตตัวเองไปยังเขตเผ่าเทพเพลิง

———-

เผ่าเทพเพลิงอาศัยอยู่ในสามทวีปกว้างไกล ทวีปที่เล็กที่สุดมีความยาว 1 ปีแสง และใหญ่ที่สุดมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 3 ปีแสง จุดศูนย์กลางในอวกาศมีปราสาทลอยตั้งอยู่อย่างโดดเด่น ปราสาทที่มีการเผาไหม้ด้วยไฟรอบๆ ตลอดเวลาไร้สิ้นสุด เปลวเพลิงเผาไหม้เป็นสีดำ ม่วง ขาว เขียว ฟ้า…

นักสู้อมตะกำลังเดินตามทางเดินพื้นที่จัตตุรัส ได้มองไปที่วังหลักในบางครั้งด้วยความเคารพ นักสู้จากเผ่าเทพเพลิงทั้งหมดมีความดุดัน กำยำ และสูง คนที่ตัวเล็กที่สุดมีความสูง 25 เมตร คนที่สูงสูง 30 เมตร ผิวของพวกเขามีเกล็ดปกคลุม มีเขาอยู่ระหว่างคิ้ว มือของพวกเขาดูเหมือนกับมนุษย์โลก แต่มีความหนาและมีเกล็ด

———-

ภายในวังหลักที่ตั้งอยู่โดดเด่น สิ่งมีชีวิตนั่งอยู่บนบัลลังก์สูง 6 พันกิโลเมตร อากาศที่ปล่อยออกมาจากการหายใจทำให้บรรยากาศรอบๆ ตัวของเขากำลังลุกไหม้ เขาสีดำ ตรงหน้าผากตั้งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า และผิวของเขาปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำ เขากระแทกมือลงที่ราวจับแล้วมองไปในอวกาศ เขาเห็นเงาของหลัวเฟิงบินตรงเข้ามาจากระยะไกล

“ความแข็งแกร่งนี้”

“ดูเหมือนจะมีแขกมาเยี่ยมดินแดนเผ่าพันธุ์ของข้า” ร่างสูงใหญ่ส่งเสียงเบาๆ ออกมา

เจ้าแห่งจักรวาลสามารถสัมผัสคลื่นอวกาศของอัศวินระดับกลางจากระยะไกลได้ เจ้าแห่งจักรวาลที่มีความสามารถควบคุมกฎเวลาและอวกาศได้อย่างสมบูรณ์สามารถตรวจจับคลื่นอวกาศในระยะ 10 ปีแสงได้

“มาดูกันว่าแขกคนนี้เป็นใคร”

สิ่งมีชีวิตสูงใหญ่ได้ทำการมองตัดผ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าไปหาผู้มาเยือนที่อยู่ไกลออกไป เขาพบชายผมสีดำ กำลังบินตรงมาที่เขา สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังสร้างคลื่นอวกาศที่ทำให้รอบๆ เกิดการสั่นสะเทือน

“น้องสาม…ข้ารู้ว่าเจ้าจะมาที่นี่หลังจากที่เป็นอมตะ ทำไมยังคงมีความเกี่ยวพันกับมนุษย์ ลืมไปแล้วหรือไงว่าพวกมนุษย์ปล้นโลกของเจ้า ไม่รู้หรือว่าพวกเขาปฎิบัติกับเจ้าดีเพราะเขาต้องการให้เจ้าเสียสละเพื่อพวกเขา”

“ต้องขอโทษที่ข้าไม่ยอมให้สมบัติอย่างเกราะพลังนี้ตกไปอยู่กับพวกมนุษย์ หากไม่มีคำสั่งจากอาจารย์เจ้าก็คงไม่มีทางได้มัน”

เทพเพลิงรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเขาเอ่ยถึงอาจารย์ของเขา เขามีพลังและพิเศษเป็นอย่างมาก

อาจารย์ได้มอบเกราะพลังนี้ให้ไว้เพียงแค่ชั่วคราว

หลังจากที่กลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลกับสมบัติที่แท้จริงทั้งสามที่ได้รับมา ทำให้เขาแทบไม่จำเป็นต้องกลัวใคร ในหมู่เจ้าแห่งจักรวาล อาจมีผู้หยุดเขาได้แต่ก็ไม่มีใครสามารถฆ่าเขาได้ ผู้ที่อาจทำการฆ่าเขาได้มีเพียงเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดเท่านั้น

เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดต่างเป็นผู้มีพลังอันมากมาย พวกเขาสามารถที่จะเปลี่ยนกฎและควบคุมพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่การหยุดกฎจักรวาล จำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างมาก ทำให้พวกเขาแสดงพลังที่อาจจะมากกว่าผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลได้เพียงเล็กน้อย

“ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ไม่กล้าทำให้ข้าโกรธ แต่กับอาจารย์ ใครก็ตามที่ทำให้เขาไม่พอใจจะต้องถูกบดขยี้ แม้เขาจะเป็นพวกสันโดษและยังไม่รู้จักไพ่ตายทั้งหมดของข้า แต่ข้าก็ยัง…”

ซูวฉานคั่ยเป็นเพียงคนเดียวในจักรวาลที่จักรพรรดิเพลิงกลัว

“แม้แต่ข้าก็ยังควบคุมเกราะพลังนี้ได้ไม่สมบูรณ์”

จักรพรรดิเพลิงลูบเกราะที่เขาสวม มันมีการแกะสลักที่ซับซ้อนอยู่ตลอดเวลา

“อาจารย์เป็นผู้สร้างสมบัติที่แท้จริงที่เก่งที่สุด เกราะพลังนี้ถูกสร้างมาเพื่อน้องสาม แม้ว่าสิ่งมีชีวิตสูงสุดก็ไม่สามารถทำให้มันจดจำเป็นเจ้านายมัน แม้แต่ข้าก็ใช้พลังได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น”

มันไม่ต่างจากหอคอยดวงดาวที่ใครพยายามทาให้มันจดจำเป็นเจ้านายก็จะตาย เกราะพลังนั้นไม่รุนแรงเท่า แต่สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่อื่นๆ ก็ไม่อาจใช้ประโยชน์ได้เลย

“แม้ว่าจะใช้ได้เพียงส่วนหนึ่งของพลังมัน มันก็ยังดีกว่าสมบัติที่แท้จริงระดับสูงมาก” จักรพรรดิเพลิงจับเกราะที่ใส่และมองเขาที่ตรงมาจากระยะไกล

“เจ้าสาม ถ้าเจ้ามาถึงที่นี่และพบกับข้า ข้าจะต้องทำตามคำสั่งของอาจารย์ และมอบมันไว้ให้กับเจ้า แต่การจะทำอย่างงั้นได้ เจ้าก็ต้องมาพบข้าหรือต้องมาถึงที่อาศัยของเผ่าเทพเพลิง”

หากหลัวเฟิงไม่อาจมาถึงดินแดนเผ่าเทพเพลิง และไม่พบผู้อาวุโสภายในเผ่า จักรพรรดิเพลิงก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ แล้วหลัวเฟิงไม่อาจบอกความตั้งใจของตัวเองกับนักสู้เผ่าเทพเพลิง

“ฮ่า ฮ่า ถ้าเจ้าต้องการเกราะพลัง จะต้องรอจนกว่าจะกลายเป็นอัศวิน พลังของเจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอแม้ในดินแดนเทพเพลิงนี้”

จักรพรรดเพลิงยืนขึ้นจากบันลังก์และเดินออกวัง เขารู้จักนิสัยของอาจารย์และทุกอย่างที่เขาทำได้

“ผนึก” จักรพรรดิเพลิงเปล่งเสียงเบาๆ คลื่นอวกาศรอบๆ เขาที่เป็นจุดศูนย์กลางในระยะ 100 ปีแสงถูกผนึกอย่างสมบูรณ์

“พิกัดของเผ่าเทพเพลิงถูกปิดกั้นไว้แล้ว แต่ข้าจะเพิ่มความปลอยภัยขึ้นไปอีก แม้ว่าเจ้าจะขอความช่วยเหลือจากผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลก็ยังต้องใช้เวลาสักระยะ”

จักรพรรดิเพลิงยิ้มและบินเข้าสู่จักรวาลมืดด้วยความเร็วแสง

———-

หลัวเฟิงทำการเทเลพอตอย่างต่อเนื่องจนเข้ามาใกล้ดินแดนเผ่าเทพเพลิง

“เกือบถึงแล้ว” หลัวเฟิงคิด

อยู่ๆ หลัวเฟิงก็หยุดทำการเทเลพอตและมองคลื่นอวกาศที่อยู่ตรงหน้าเขา

“เคลื่อนอวกาศถูกหยุด เกิดอะไรขึ้น?”

พื้นที่บางส่วนเช่นเกาะโบฮีเนียล ถูกป้องกันให้ทำการเทเลพอตได้แค่บางจุด พื้นที่ลับของมนุษย์บางที่ก็ทำการป้องกันการเทเลพอตเช่นเดียวกัน สิ่งนี้อาจถูกนำมาใช้กับดินแดนของเผ่าเทพเพลิงเหมือนกัน?

เจ้าแห่งจักรวาลสมารถแกะสลักกฎบนตัวอาคารขนาดใหญ่ได้ เป็นการรักษาผลผนึกกฎอวกาศเอาไว้ หรือพวกเขาสามารถทำให้สำเร็จโดยใช้สมบัติที่แท้จริงบางอย่าง

“แต่ถ้าทำแบบนี้สิ่งมีชีวิตในดินแดนเทพเพลิงก็ทำการเทเลพอตไม่ได้ เป็นไปได้ว่าศิษย์พี่รองจงใจทำการผนึกกฎอวกาศ?”

หลัวเฟิงคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่ข้างหลังเขา เขาทำการเข้าถึงจักรวาลมืดด้วยความเร็วแสง

หลัวเฟิงที่เข้าสู่จักรวาลมืดคิดว่าได้มาถึงดินแดนของเผ่าเทพเพลิงแล้ว ตำแหน่งพิกัดที่หลัวเฟิงบันทึกไว้แสดงออกมาที่ข้อมือซ้ายได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนหายไปอย่างสมบูรณ์

“พิกัดของดินแดนเทพเพลิงอยู่ที่ไหน?”

“เจ้าคนคดโกง…เจ้าซ่อนพิกัดในจักรวาลมืดและผนึกกฎอวกาศ ข้าต้องบินอย่างเดียวไม่ต่า กว่า 100 ปีแสง ถ้าข้าบินด้วยความเร็วแสงก็จำเป็นต้องใช้เวลา 100 ปี”

หลัวเฟิงเข้าใจว่าศิษย์พี่รองคนนี้ได้ทำมันด้วยความตั้งใจของเขาเอง มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการที่จะคืนเกราะพลังให้เขา

“แม้ว่าเขาจะซ่อนพิกัดในจักรวาลมืดและผนึกกฎอวกาศ เขาก็ยังไม่ทำการโจมตีเข้ามา มันน่าจะเป็นเพราะเขาไม่ต้องการต่อต้านอาจารย์ตรงๆ” หลัวเฟิงคิด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version