ตอนที่ 1218 สายน้ำวูดูวง
หลัวเฟิงที่ไม่ต้องการพูดอะไรมากได้บินจนกลายเป็นลำแสง จากนั้นเขาก็หยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่สวยงาม สีของประตูเป็นสีทองผสมฟ้า
อำนาจจิตของเจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสและหลัวเฟิงนั้นแข็งแกร่ง พวกเขาผลักประตูออกมาแทบจะเวลาเดียวกัน
ประตูขนาดใหญ่ได้เปิดขึ้น
เมื่อผลักประตูพวกเขาก็เดินเข้าไปภายในห้อง ห้องมีความกว้างและงดงาม ภายในห้องมีของจัดตกแต่งมากมาย ทั้งของประดับแขวนไว้บนผนัง
ช่วงเวลาเข้ามาหลัวเฟิงได้ปล่อยพลังงานออกมาอย่างไม่ลังเล เขากวาดตามองทุกอย่างทั่วห้อง หลัวเฟิงนั้นไม่รู้ถึงตัวตนของตัวควบคุมหลัก ภายในเรือสุสานนั้นปลอดภัย ไร้ร่องรอยของการทำลายจากด้านนอก เขาทำการผนึกวิญญาณของตัวเองเพื่อทำการยืนยันในทันที
“ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าตัวควบคุมหลักคืออะไร แต่พยายามทำให้ทุกอย่างจดจำว่าข้าคือเจ้านายมัน”
หลัวเฟิงมองที่เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสที่อยู่ไม่ไกลจากเขา
เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสเข้ามาแล้วก็เดินไปรอบๆ เพื่อค้นหาตัวควบคุมหลัก เขามองไปที่หลัวเฟิงที่กระจายพลังงานอมตะออกมา
“ผู้นำทางช้างเผือก เจ้าทำอะไร ทำไมถึงกระจายพลังงานอมตะออกมาอย่างรุนแรงแบบนี้”
“แล้วเจ้าคิดว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่ ข้าไม่เคยมีประสบการณ์เหมือนกับเจ้า ข้าจึงจำเป็นต้องใช้วิธีโง่ๆ แบบนี้”
“เรากำลังพูดถึงเรือสุสาน เจ้าคิดว่าการให้มันจดจำด้วยผนึกชีวิตจะทำให้เป็นเจ้าของมันได้งั้นเรอะ” เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสหัวเราะ
“ฮ่า ฮ่า ข้าไมได้บอกเจ้าก่อนหน้านี้หรือว่า เพื่อจะให้มันรับรู้การเป็นเจ้านาย ตัวควบคุมหลักนั้นคือของจริง”
ใบหน้าของหลัวเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
วิธีการให้สมบัติแท้จริงชั้นยอดจดจำเป็นเจ้านายจะมีวิธีการซับซ้อน ซึ่งตัวควบคุมหลักของเรือสุสานก็มีความซับซ้อนเช่นกัน
“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงต้องมากับเจ้า นอกจากสองเหตุผลที่ข้าบอกไป พวกที่มาจากยุคจักรวาลที่หนึ่งได้เห็นมามากและมีประสบการณ์มาก บางทีพวกเขาบางคนอาจรู้วิธีทำให้ตัวควบคุมหลักจดจำเจ้านาย พวกเขาคือศัตรูหลักของข้า เจ้าที่ไม่มีความสามารถที่จะหาตัวควบคุมหลัก ข้าเลยไม่จำเป็นต้องสนใจเลย”
ขณะที่เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสพูดก็ทำการตรวจสอบอย่างรวดเร็วที่สุด
“มันเป็นไปตามคาดว่าต้องมีอะไรที่ซ่อนไว้ เนื่องจากมันยากที่จะหาอย่างงั้นก็…”
หลัวเฟิงทำการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เขาให้ความสนใจส่วนใหญ่ไปกับเจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาส สนใจปฎิกิริยาต่างๆ ของเจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาส
การแสดงออกของเจ้าแห่งจักรวาลเปลี่ยนไปมาเวลาที่เขาทำการค้นหา การแสดงออกของเขาได้เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้ค้นหาทุกอย่างภายในห้อง
ต่อมาเจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสได้ทำการค้นหาอย่างละเอียดจนทั่วทั้งห้อง การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปจากเดิมมาก
“เป็นไปได้ยังไง จะไม่มีตัวควบคุมหลักในห้องควบคุมงั้นเรอะ ไม่มีทาง”
เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสมีความโกรธในดวงตา มันเหมือนกับว่าแผนการทั้งหมดของเขานั้นล้มเหลว ทำให้เขารู้สึกทนไม่ได้
เรือสุสานนั้นไม่อาจทำลายได้และเป็นรองแค่สมบัติแท้จริงสูงสุด นอกจากนี้ยังพาเข้าไปหลุมฝังศพ แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสก็มีเพียงหนึ่งสมบัติที่เหนือกว่าเรือสุสาน หลังจากผ่านมาหลายปี เขาก็ได้เห็นเรือสุสานใกล้ๆ แต่มันกลับลื่นหลุดผ่านนิ้วมือของเขาไปได้ยังไง
“เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาส เกรงว่าเจ้าคงจะเดาผิด ตัวควบคุมหลักนี้ไม่ได้อยู่ภายในห้องควบคุม” หลัวเฟิงหัวเราะ
“เจ้าจะรู้อะไร ห้องควบคุมคือที่ๆ เจ้าของเรือสุสานอาศัย อารยธรรมโบราณเข้มงวดเกี่ยวกับลำดับชั้น เป็นเหมือนกับขุนนางชั้นสูงที่สิ่งมีชีวิตหาเปรียบเทียบได้ ประตูก่อนหน้าห้องควบคุมหลักถูกวางไว้เสมอหน้าห้องควบคุมหลัก นี่ถือเป็นเรื่องปกติ”
“มันเป็นเรื่องปกติงั้นเรอะ เจ้ามีเรือสุสานเท่าไรแล้ว” หลัวเฟิงส่ายหัวและหัวเราะ
ทว่า…หลัวเฟิงหันไปมองที่หน้าประตูที่อยู่ห่างจากเขา เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสก็หันกลับมามองเช่นกัน
แสงทั้งสี่สายพุ่งผ่านประตูเข้ามาเกือบพร้อมกัน
“ฮึ่ม” เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสมีท่าทางเปลี่ยนไป
“ฮ่า ฮ่า เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสพยายามจะหยุดเรางั้นรึ เรือขนาดใหญ่นี้มีหลายวิธีที่จะเข้ามา มีมากกว่าหนึ่งเส้นทางที่นำไปสู่ห้องควบคุม” เจ้าแห่งจักรวาลจากเผ่าโครงกระดูกหัวเราะ
“ดูจากท่าทางแล้วเจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสคงยังไม่ได้รับตัวควบคุมหลัก” เจ้าแห่งจักรวาลเทพดากล่าว
“รีบหามัน”
เจ้าแห่งจักรวาลหลิวจิวเป็นคนเดียวที่ไม่คิดจะพูดอะไรแล้วเริ่มต้นค้นหาอย่างรวดเร็ว
เจ้าแห่งจักรวาลยกมือขึ้นและเลือดสีทองได้กระจายออกมาบนอากาศ มันถูกแบ่งออกมาเป็นหลายๆ หยดก่อนที่จะตกลงไปยังสิ่งของทุกอย่างภายในห้อง
“กลุ่มดวงตาศักดิ์สิทธิ์ รู้ถึงวิธีการตรวจสอบ” เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสพูดเสียงเบา
“เจ้าคิดว่ามีเพียงแค่เจ้าที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เข้าใจยังงั้นเรอะ” เขาหัวเราะอย่างเย็นชาก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้า
“ทำไมถึงไม่มีอะไรที่นี่เลย”
เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์รู้จักกันดีว่าเป็นผู้มีอำนาจสูงจากสามยุคจักรวาลวาล เทียบได้กับสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์นั้นอ่อนแอกว่าแต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดของเขานั้นแข็งแกร่งกว่า บริมาณข้อมูลที่ได้รับการรวบรวมจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ก็มีมาก
หยดเลือดที่กระจายออกไปคือการตรวจสอบตัวควบคุมหลัก ขั้นตอนต่อไปในการตรวจสอบคือการให้มันรับเป็นเจ้านายที่มีความซับซ้อนมากกว่า
“ไม่มีที่นี่ ตัวควบคุมหลักไม่ได้อยู่ที่นี่ เป็นไปได้ยังไง” เจ้าแห่งจักรวาลธุลีเงากล่าว
“เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสเอามันไปได้แล้ว” เจ้าแห่งจักรวาลทะเลวุ่นวายจากเผ่าโครงกระดูกตาลุกเป็นไฟ
“ถ้ามันเป็นแบบนั้นข้าจะยืนอยู่ที่นี่เหมือนคนโง่งั้นรึ” เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสหัวเราะเยาะ
“นี่มันแปลก”
“จะไม่มีแกนควบคุมได้ยังไง”
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ที่อยู่ภายในห้องกว้างใหญ่ด้วยสภาวะสับสน
พลังที่มองไม่เห็นได้ระเบิดขึ้น
ทุกคนภายในห้องควบคุมได้หันไปมองยังด้านหนึ่งของห้อง บัลลังก์เก่า มีร่างเงาที่มองไม่ชัดค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจนเป็นรูปร่างชัดเจน ร่างนั้นดูเหมือนกับมนุษย์ผู้ชายทั่วๆ ไป มีสองตา หนึ่งจมูกและปาก สองแขน สองขา ผิวสีเหลือง ผมของเขานั้นเป็นสีฟ้าอมเขียวทั้งหมด
“เหมือนมนุษย์”
“เขาคล้ายผู้คนทั่วไปจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงเช่นกัน”
“ไม่มีพลังกดดัน…”
หลัวเฟิงได้มองร่างนั้นด้วยความตกใจ ร่างที่เหมือนมนุษย์ผู้ชายได้สวมใส่เกราะลายดอกไม้เรียบง่าย เกราะเหมือนกับมีคลื่นน้ำ กำลังซัดสาด เขามองมาด้วยสายตาเย็นชาก่อนที่จะแนะนำตัวเอง
“ชื่อของข้าคือ…สายน้ำวูดูวง ”
สิ่งนี้สร้างความตกใจแก่สิ่งมีชีวิตทั้ง 6
เจ้าแห่งจักรวาลธุลีเงาเคร่งขรึมมาก วู คือชื่อที่มีเกียรติในอารยธรรมโบราณ ตัวตนของผู้ที่แบกชื่อของ วู จะต้องไม่ใช่ผู้ธรรมดา
เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาส มองมาที่เจ้าแห่งจักรวาลธุลีเงา “เหมือนเจ้าจะรู้บางสิ่ง แต่ด้วยความรู้เล็กน้อยของข้า ข้าคิดว่ามันเป็นการดีกว่าที่เจ้ารักษาความสงบเอาไว้ หากสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากอารยธรรมโบราณนี้รู้เรื่องเขาคงเป็นเรื่องขำขันของทั้งจักรวาล”
เจ้าแห่งจักรวาลธุลีดินมองกลับไปด้วยสายตาเย็นชา
สิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์บนบัลลังก์ได้พูดออกมาโดยไม่สนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดด้านล่าง “ลูกหลานหลังจากยุคสิ้นสุด ข้าและคนที่ข้าพบทั้งหมดถูกทำลายในยุคสิ้นสุด ข้าได้ทำการผจญภัยครั้งสุดท้ายกับนายพลของข้า ข้ารู้ดีอยู่แล้วว่าโอกาสในการรอดชีวิตมีน้อย”
“เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ยากที่สุด แม้แต่เรือที่ใหญ่ที่สุดและสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดเหยียบย้ำไปจะต้องล้มเหลว ตอนที่รู้ว่าข้าจะต้องล้มเหลว ข้าไม่ต้องการสิ้นสุดมรดกของข้า”
“ข้า สายน้ำวูดูวง ปรมาจารย์อันดับที่ 192 ของสายน้ำวูดูวง ทายาทเพียงคนเดียวจากบรรพบุรุษรุ่นหนึ่ง ที่ตายในการต่อสู้อื่น”
“เมื่อมาถึงตาของข้า มรดกมากมายที่มาถึงข้า ถ้าข้าตายมรดกมากมายนั้นจะจบลงไปพร้อมกับข้า ข้าไม่ต้องการปล่อยให้สิ่งที่บรรพบุรุษสร้างมา จบไปกับข้า”
“ข้าได้ออกแบบเรือสุสานนี้ใหม่ มันแตกต่างจากลำอื่นๆ ภายในมันมีดินแดนที่อันตราย และดินแดนการสืบทอด”
“ข้านั้นตายไปแล้ว แต่ผู้สืบทอดสายน้ำวูดูวงจะไม่ตาย หากพวกเจ้าทั้งหมดกลัว ควรออกไปตอนนี้”
“เมื่อพวกเจ้าก้าวไปในเส้นทางนี้ อันตรายในเส้นทางของเจ้าจะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในตอนสุดท้าย…เมื่อเจ้าได้สัมผัสกับหนึ่งในมรดกที่แท้จริงของสายน้ำวูดูวง”
“มีเพียงผู้ที่รับมรดกเท่านั้นที่อยู่รอดได้ หากไม่มีผู้ใดในพวกเจ้าที่รับมรดกได้ คนเหล่านั้นจะต้องถูกทำลาย”
“ยิ่งเจ้าออกไปเร็วเท่าไรก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเจ้าออกไปแล้วกลับสัมผัสกับมรดกของสายน้ำวูดูวงแม้เพียงเล็กน้อย โดยที่เจ้าไม่ใช่ทายาท ผู้ที่ละโมบในมรดกของเราจะต้องตาย เจ้าตัดสินใจให้รวดเร็วลูกหลานข้า”
เสียงเริ่มกระจายหายไป รูปร่างบนบัลลังก์หายไป
เมื่อมาถึงเวลานี้พลังงานเริ่มกดดันทั้งห้องควบคุม ทั้งหกมีความรู้สึกที่หลากหลายทั้งกังวล บ้าคลั่ง…
มรดก มันคือมรดกของจริง
ทำไมเจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงทั้งเจ็ดถึงได้ทรงพลัง เพราะว่าเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์นั้นค้นพบกับมรดกที่สมบูรณ์แบบท่ามกลางอนุสรณ์สถานที่เหลือไว้โดยอารยธรรมโบราณ ทำให้พวกเขาสามารถปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมา มันคือเหตุผลที่ในมหาสมุทรจักรวาลมีสิ่งที่มีค่าที่สุดคือ ชุดการฝึกฝน ตั้งแต่ต่ำสุดไปยังสูงที่สุด
มรดกนี้คือ มรดกจากสายน้ำวูดูวงใช่ไหม ชื่อเสียงของสายน้ำวูดูวงจะต้องเป็นหนึ่งในอารยธรรมโบราณที่แข็งแกร่งที่สุดและมีอำนาจเหนือใคร ด้วยชื่อตัวตนของ วู ความสามารถที่จะสร้างเรือสุสาน แล้วมีนายพลติดตาม…นายพลนั้นจะต้องเป็นนายพลของเรือจักรวาล สถานะของเขานั้นจะต้องสูงมาก
เห็นได้ว่ามรดกจากสายน้ำวูดูวงจะต้องมีค่ามาก แม้ว่าสายน้ำวูดูวงจะตายไปแล้ว แต่มรดกที่เขาทิ้งไว้ให้…มรดกจากยุคโบราณอันยาวนาน คนรุ่นก่อนหน้านี้อาจแข็งแกร่งกว่ารุ่นปัจจุบันจากสายน้ำวูดูวง ซึ่งหมายความว่ามรดกนี้ไม่ควรตัดสินจากพื้นฐานความสามารถของสายน้ำวูดูวง อาจมีบางอย่างที่มากยิ่งกว่าที่ระดับปัจจุบันอย่างสายน้ำวูดูวงจะฝึกฝน ไม่จำเป็นต้องไปสรุปให้ลึกลงไป มรดกของสายน้ำวูดูวงจะต้องเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด แต่การจะก้าวไปยังเส้นทางนี้อาจส่งผลที่น่ากลัว แล้วถ้าหากมือถึงได้สัมผัสกับมรดกจะ…