ตอนที่ 708
ต่างฝ่ายต่างมีดี
ก่อนที่จะมีมู่ชิงเกอปรากฎตัว แผ่นดินเทพตะวันออกจะมีเรื่องราวแพร่หลายชนิดที่ทุกคนต่างรู้กันดี
สามราชาเทวะน้อยของแผ่นดินเทพตะวันออก เรื่องพรสวรรค์นั้นเป่ยเหยียนแดนจงซานสูงที่สุด ความเร็วการบำเพ็ญชิวเยวี่ยแดนเหว่ยอี้รวดเร็วที่สุด แต่หากพูดถึงกำลังอิทธิพลและกำลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วจะต้องเป็นเหยียนเสี่ยแดนจั๋วอวี่
ว่ากันว่า ตบะบำเพ็ญของเหยียนเสี่ยอยู่ในขั้นถํ้าวิญญาณชั้นเก้า
ว่ากันว่า เหยียนเสี่ยคนนี้มีนิสัยเย็นชา แผนการลํ้าลึก เข่นฆ่าเด็ดขาด
ว่ากันว่า สิ่งที่เหยียนเสี่ยชมชอบที่สุดคือการวางแผนสังหารคู่ต่อสู้ให้ตายโดยไม่รู้ตัว
ว่ากันว่า หากเหยียนเสี่ยไม่คิดจะปรากฎตัวจะไม่มีใครหาเขาพบ
มู่ชิงเกอมองดูเงาร่างที่เดินย้อนแสงออกมา
ร่างนั้นสูงใหญ่มาก อย่างน้อยก็สูงกว่านาง ทำให้คนรู้สึกว่ารูปร่างสูงเด่นสง่างาม เสียงก้าวเท้าเนิบช้า หนักแน่น มั่นคง ราวกับว่าทุกครั้งที่เท้าแตะบนพื้น แผ่นดินจะเกิดการสั่นสะเทือน
นี่ไม่ใช่การเปรียบเทียบและไม่ใช่เป็นการคิดไปเอง
สายตามู่ชิงเกอมองตํ่าลง เห็นพื้นดินเม็ดทรายเหล่านั้นกระดอนขึ้นลงไม่หยุดจากแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน
เมื่อนางเห็นชายที่เดินย้อนแสงออกมาชัดเจน ความรู้สึกแรกก็คือเผด็จการและวางอำนาจ
ใช่แล้ว เผด็จการและวางอำนาจ
เป็นการเผด็จการและวางอำนาจบีบคั้นชนิดยากที่จะอธิบายได้
ราวกับว่าเพียงมีเขาอยู่ ทุกอย่างจะต้องถูก เขาควบคุม ทุกคนต้องสยบให้เขา
มู่ชิงเกอค่อยๆ เม้มริมฝีปาก ดวงตาผุดแววหนักอึ้งออกมา
ก่อนนั้น นางก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เป็นเช่นที่นางพูด คนดินแดนจั๋วอวี่อาศัยอะไรจึงจะมาสังหารนาง พลังของคนเหล่านี้เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาก็ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงด้วยซํ้า
แต่พอนางเห็นชายตรงหน้าที่มีใบหน้าคมลึก อำนาจโหดเหี้ยม แฝงด้วยความยโสอหังการแล้ว นางก็เข้าใจแล้วว่าความเชื่อมั่นนั้นมาจากตัวเขานั้นเอง
“เหยียน…เสีย” เสียงหลีเฉาต่ำจนน่ากลัว
มู่ชิงเกอรับรู้ได้ถึงความกดดันสูงยิ่งจากนํ้าเสียงของเขา
ราวกับว่า พอคนคนนี้ปรากฎตัวก็ทำให้เกิดแรงกดดันสูงยิ่ง ความไม่แยแส ความมั่นใจที่เคยมีต่างสูญสลายไปหมดในทันที
สีหน้าซีเซียนเสวี่ยซีดเผือดเพราะถูกพลังของเหยียนเสี่ยกดดันจนอึดอัดแทบทนไม่ได้
เซียนสุ่ยใช้กฎบัญญัติสายนํ้าดีดนํ้าไปทางนางเพื่อช่วยลดความกดดัน ส่วนเหยาชิงไห่ก็หยิบยาออกมาสองเม็ด เม็ดหนึ่งใส่ปากตัวเอง อีกเม็ดให้ซีเซียนเสวี่ยกิน
‘เหยียนเสี่ย ราชาเทวะน้อยดินแดนจั๋วอวี่ เป็นราชาเทวะน้อยในแผ่นดินเทพสี่สมุทรที่ขั้นบำเพ็ญสูงที่สุด’ มู่ชิงเกอได้ยินหลีเฉาบ่นเบาๆ สมองผุดข้อมูลเกี่ยว กับเหยียนเสี่ยอย่างรวดเร็ว
เหยียนเสี่ยเดินมาถึงเบื้องหน้ากลุ่มคนดินแดนจั๋วอวี่ เขาดูยโสอหังการนัก ไม่แม้แต่จะมองลูกศิษย์ร่วมดินแดนตัวเองด้วยซํ้า
ใช้เพียงแววตาที่เย็นเฉียบแฝงด้วยความดูแคลนมองดูมู่ชิงเกอ
ส่วนสองตาที่ใสกระจ่างของมู่ชิงเกอเองก็จ้องสบตาเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน สายตาทั้งคู่กระทบกันกลางอากาศ ไม่มีใครเหนือใคร ต่างฝ่ายต่างเท่าเทียมกัน
“ราชาเทวะน้อย”
เหยียนเสี่ยสามารถมองข้ามพวกเขาได้ แต่ลูกศิษย์ดินแดนจั๋วอวี่ ไม่อาจละเลยตัวตนของเขาได้
หลังจากเขาเดินออกมาแล้ว พวกเขาต่างคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น ใช้นัยน์ตาที่แสดงออกถึงความยำเกรงและนับถือบูชามองไปที่เขา
การปรากฎตัวของเหยียนเสี่ยทำให้ฝั่งมู่ชิงเกอตกเป็นรอง บรรยากาศราวกับถูกกดอัดจนแน่นไปหมด รู้สึกอึดอัดไปทั่ว
คนทั้งหมดราวกับเผชิญศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ไม่กล้ามองข้าม ไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่นิด
ผ่านไปครู่หนึ่ง เหยียนเสี่ยจึงละสายตา แววตาสาดประกายชั่ววูบแล้วเอ่ยว่า “คนที่ตรวจพบข้า ทั้งยังกล้าสบตาข้า มีเจ้าเป็นคนแรก”
มู่ชิงเกอแค่นหัวเราะ “แค่สบตาเท่านั้น เหตุใดจะไม่กล้า”
“ปากคอเราะร้ายดี” เหยียนเสี่ยพยักหน้านิดๆ
ท่าทีนั้นของเขาราวกับเป็นผู้อาวุโสของมู่ชิงเกอที่กำลังประเมินผู้น้อยว่ายอดเยี่ยมหรือไม่
ใบหน้ามู่ชิงเกอเย็นเฉียบ แววตานิ่งสงบ
ราวกับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อท่าทางของเขาเลยแม้แต่นิด
สิ่งนี้ทำให้แววตาเหยียนเสี่ยเครียดลง เขาเดินเข้าไปหามู่ชิงเกออีกสองก้าว
หลีเฉา เคร่งเครียดจนไปขวางอยู่ข้างหน้ามู่ชิงเกอ “เหยียนเสี่ย เจ้าคิดจะทำอะไร”
เหยียนเสี่ยหยุดเดินมองไปที่หลีเฉา นัยน์ตาผุดแววเย้ยหยัน
มู่ชิงเกอยื่นมือไปดึงหลีเฉากลับมา เผยตัวตนต่อหน้าเหยียนเสี่ยแล้วบอกเขาว่า “ได้ยินมาว่าราชาเทวะน้อยเหยียนเสี่ย ชื่นชอบในการแอบอยู่หลังฉาก
วันนี้ได้เห็นก็จริงดังนั้น”
เหยียนเสี่ยยิ้มเย็นเฉียบ ความเย็นของแววตาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เขาว่า “เจ้าอยากเป็น หรือว่าอยากตาย” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ให้เกียรติราชาเทวะน้อยด้วยกันเลยสักนิด
แต่มู่ชิงเกอเองก็ไม่ได้สนใจ
เนื่องจากนางรู้เหตุผลอยู่นานแล้วว่า ฐานะนั้นย่อมต้องตั้งอยู่บนความแข็งแกร่งที่เพียงพอ
ความแข็งแกร่งของนางเวลานี้ไม่เท่าเหยียนเสี่ย ถึงแม้นางเป็นราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ย ก็ไม่ทำให้เหยียนเสี่ยมีความยำเกรงต่อตัวนาง
เนื่องจากเขาคือเหยียนเสี่ย เป็นราชาเทวะน้อยหมายเลขหนึ่งในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร ไม่ใช่มนุษย์เทพไร้ชื่อในดินแดนเทพพวกนั้น ไม่จำเป็นต้องก้มหน้ามายกยอปอปั้นนาง ยิ่งไม่ต้องหวั่นเกรงบารมีดินแดนฮ่วนเยวี่ยด้วย
มู่ชิงเกอได้ยินมาว่า วันที่เหยียนเสี่ยขึ้นรับตำแหน่งราชาเทวะน้อยจั๋วอวี่เคยสาบานในดินแดนจั๋วอวี่ว่าเขาจะนำดินแดนจั๋วอวี่แซงหน้าดินแดนฮ่วนเยวี่ย เป็นดินแดนเทพหมายเลขหนึ่งแห่งแผ่นดินเทพตะวันออก กระทั้งเป็นดินแดนเทพหมายเลขหนึ่งแห่งแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรแทนเก้าชั้นฟ้าของตระกูลมู่ครั้งนั้น
นี่เป็นคำเอ่ยบ้าระหํ่า แต่ก็เป็นคำที่ฮึกเหิม
อาศัยเพียงคำนี้ก็ทำให้คนรู้สึกถึงความอหังการของเหยียนเสี่ย
“หากเป็นไปได้ ใครอยากตายเล่า” มู่ชิงเกอตอบอย่างเย็นชา
เหยียนเสี่ยพูด “ดีมาก ถ้าเช่นนั้น ตอบคำถามข้ามาดีๆ หากข้าพอใจ วันนี้อาจยังไม่ฆ่าเจ้า ให้เจ้าอยู่ต่อได้อีกสักพัก’’
มู่ชิงเกอสั่นศีรษะยิ้มน้อยๆ ค่อยๆ มองไปที่เหยียนเสี่ย “เป็นหรือตาย กำไว้ในมือตัวเองจะสบายใจกว่า”
ทันใดนั้น นัยน์ตาเหยียนเสี่ยฉายแววโหดเหี้ยม กลายเป็นแสงวาบพุ่งไปที่มู่ชิงเกอ
สองตามู่ชิงเกอเบิกกว้าง พุ่งขึ้นไปบนอากาศ ทวนหลิงหลงปรากฎขึ้นในมือ แสงสายนั้นที่แปลงมาจากกายเหยียนเสี่ยยังคงตามติดนางอยู่และเกิดปะทะอย่างรุนแรงกับนางกลางอากาศ
ทั้งสองคนแปลงเป็นเงาแสงสองสาย แวบผ่านเบื้องบนศีรษะทุกคนไม่หยุด เปลี่ยนแปลงไปมา เสียงฟาดฟันกันอย่างรุนแรงดังขึ้นตลอดเวลา ฟังจนอกสั่นขวัญแขวนไปหมด
คนทางฝั่งจั๋วอวี่ย่อมมั่นใจในตัวเหยียนเสี่ยยิ่งนัก
ส่วนพวกหลีเฉา จวงซาน เซียนสุ่ยกลับกังวลอย่างยิ่ง กังวลว่ากำลังมู่ชิงเกอในเวลานี้จะยังไม่สามารถต่อกรกับเหยียนเสี่ยได้
“ใหญ่น้อย พวกเราต้องคิดหาวิธี” จวงซานเข้าไปชิดหลีเฉาแล้วเอ่ยกับเขา
หลีเฉาขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าตึงเครียด พูดว่า “เวลานี้ นอกจากราชาเทวะมาเองแล้วก็ไม่มีวิธีอะไรแก้ไขได้อีก”
ราชาเทวะมาเอง
จะเป็นไปได้อย่างไร ที่นี่ห่างดินแดนฮ่วนเยวี่ย 108,000 ลี้ พวกเขาไม่สามารถส่งข่าวให้ราชาเทวะได้เลย
จวงซานฝืนยิ้มมองมู่ชิงเกอด้วยความกังวล
ความจริง สองเงาร่างที่ต่อสู้กันด้วยความรวดเร็วสูงสุดกลางอากาศนั้นไม่สามารถแยกแยะออกได้ว่าใครเป็นใคร
“ชิงเกอต้องไม่เกิดเรื่อง” ปลายนิ้วซีเซียนเสวี่ยสั่นเทา แต่ก็ยังไม่ลืมปลอบใจตัวเอง ท่องคำนี้ในใจซํ้าแล้วซํ้าเล่า