ตอนที่ 804
เขาเขาเขา แล้วก็เขา!
คนหนุ่มทั้งสามโดนพลังเทพปะทะเข้าอย่างจังจนหงายหลังล้มไป
พลังจิตในร่างพวกเขายังไม่เปลี่ยนแปลงทั้งหมด จะสามารถต่อกรพวกลูกศิษย์ดินแดนเทพเหล่านี้ได้อย่างไร พวกเขารู้สึกถึงเลือดลมบริเวณหน้าอกที่เดือด พล่านขึ้นมาทันที ทรมานยิ่งนัก
เจ้าสำนักวิถีโอสถแววตาดุดัน ตบะบำเพ็ญที่ผนึกไว้ตลอดเวลาคลายออกในทันที แต่ในขณะนี้เอง พัดของจีเหยาฮั่วกลับเบนออกนอกเส้นทาง บินไปทางมหาสมุทรดวงดาว
พัดนี้มู่ชิงเกอทำไว้ให้เขา จิตวิญญาณแห่งอาวุธภายในได้ผ่านการหล่อเลี้ยงปลูกฝังจากเขามานานปี เริ่มมีจิตวิญญาณบ้างแล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถเทียบได้กับทวนหลิงหลงของมู่ชิงเกอ
พัดบินออกนอกเส้นทางกะทันหันทำให้หกคนจากดินแดนเทพชะงัก รู้สึกเกินคาดอยู่บ้าง
พวกเขาต่างหันกายมองไปที่มหาสมุทรดวงดาว ส่วนเจ้าสำนักวิถีโอสถนั้นแววตาก็พลันเปล่งประกายแวบหนึ่ง แล้วเก็บงำประกายดุดันของตนเอง สงบนิ่งรอดูเหตุการณ์ต่อไป
เขากระซิบเตือนว่า “มีผู้แข็งแกร่งมาเยือน พวกเจ้าอย่าได้หุนหันพลันแล่น ไม่เช่นนั้น ยังไม่ทันได้เหยียบแผ่นดินเทพมาร พวกเจ้าก็จะต้องตายในมหาสมุทรดวงดาวนี้”
คำพูดของเขาทำให้สีหน้าคนทั้งสามเปลี่ยนไปทันที
เพียงแค่ชั่วครู่เดียวก็ทำให้พวกเขารู้ซึ้งถึงความแตกต่างของแผ่นดินเทพมารกับโลกแห่งยุคกลางแล้ว
พวกเขาอยู่ที่นี่เป็นเพียงชนชั้นล่างสุด เป็นได้เพียงเหยื่อของผู้แกร่งกล้ากว่า
ในมหาสมุทรดวงดาว พัดของจีเหยาชั่ววาดเป็นรูปโค้ง ตกลงในที่ที่ห่างไกล
ลูกศิษย์ดินแดนเทพทั้งหกคนชะงักงันต่างสบตากันแล้วเก็บงำท่าทีเหิมเกริมก่อนหน้านี้
เวลานี้ในบริเวณที่พัดหายไปมีเรืออากาศค่อยๆ เคลื่อนมาลำหนึ่ง
เรืออากาศนั้นมีเครื่องหมายดินแดนฮ่วนเยวี่ยอยู่
“เป็นเรืออากาศของดินแดนฮ่วนเยวี่ย” ลูกศิษย์ดินแดนจั๋วอวี่พูดเสียงเครียด
“ดินแดนฮ่วนเยวี่ย พวกเขามาที่นี่ทำไม” ลูกศิษย์ดินแดนกู่เฟิ่งเองก็พูดขึ้น
เรืออากาศนั้นเห็นได้เด่นชัดในมหาสมุทรดวงดาว ลูกศิษย์ดินแดนเทพเห็น พวกจีเหยาฮั่ว อิ๋งเจ๋อ เว่ยมั่วลี่ ทั้งยังเจ้าสำนักวิถีโอสถเองก็เห็นเช่นกัน
“นี่เป็นอุปกรณ์การคมนาคมที่ใช้กันทั่วไปในแผ่นดินเทพ เรียกว่าเรืออากาศ สามารถใช้สัญจรไปมาในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร เดินทางในมหาสมุทรดวงดาว” เจ้าสำนักวิถีโอสถเห็นทั้งสามคนงุนงงอยู่จึงอธิบายเสียงเบา
เรืออากาศ!
มหาสมุทรดวงดาว?
แผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร?
ที่แท้พวกเขาเพียงแค่เข้ามาในบริเวณแผ่นดินเทพมาร
แต่ยังไม่ทันได้เข้าถึงแผ่นดินเทพมาร
ทั้งสามคนมองเรืออากาศอย่างตื่นตกใจ เรืออากาศค่อยๆ เข้ามาใกล้ ค่อยๆ เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาของพวกเขา
ทันใดนั้น ที่หัวเรืออากาศพลันปรากฎเงาร่างสีแดง ยืนเอามือไพล่หลังข้างหนึ่ง อีกมือหนึ่งถือพัด ปรากฎที่เบื้องหน้าของคนทั้งสาม ทำให้นัยน์ตาของพวกเขาเผยแววตกตะลึงขึ้นในทันที
ราวกับว่าพวกเขาไม่นึกฝันเลยว่าจะได้พบนางที่นี่!
เจ้าสำนักวิถีโอสถเองก็รู้สึกเกินคาด แต่พอเห็นมู่ชิงเกอปรากฎตัวเขาก็แอบโล่งอก
“เป็นเขา!” หลังจากเห็นเงาร่างชุดแดงชัดเจนแล้ว ตาดำของลูกศิษย์สองคนจากดินแดนจั๋วอวี่ก็หดลงทันที สีหน้าพลันเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างมาก
“เขาเป็นใคร” ลูกศิษย์ดินแดนสือฟางถามอย่างสงสัย เขาไม่รู้จักมู่ชิงเกอ เพียงแต่รู้สึกว่าคนที่มานั้นเปี่ยมไปด้วยบารมี น่ากลัวจะไม่ธรรมดา
“ราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ย!” ลูกศิษย์ดินแดนจั๋วอวี่คนหนึ่งพูดเสียงเครียด
“อะไรกัน เขาคือราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ยหรือ เหตุใดเขาจึงมาปรากฎตัวที่นี่ได้” ลูกศิษย์ดินแดนกู่เฟิงเองก็ตื่นตระหนกด้วย
ลูกศิษย์ดินแดนกู่เฟิงอีกคนพูดด้วยสีหน้าน่าเกลียดว่า “ลือกันว่าราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ย มากพรสวรรค์เทียมฟ้า เปรียบดังปีศาจ มีพื้นฐานรากวิญญาณที่ใช้การไม่ได้ แต่กลับรุดหน้าว่องไวดั่งเทพเซียน เข้าสู่ดินแดนฮ่วนเยวี่ยช่วงสั้นๆ ไม่กี่ปี ก็สามารถแย่งชิงฐานะสิบลูกศิษย์ใหญ่ตำหนักหน้าได้จากนั้นในการถกวิถีที่แผ่นดินเทพตะวันออกของพวกเจ้ายังได้ที่หนึ่งไปอีก ทั้งยังขึ้นไปอาบแสงแห่งวิถีได้ถึงชั้นที่ 52 อีกทั้งยังสังหารนายน้อยตระกูลมู่ แย่งภรรยาน้อยราชาเทวะจื่อกวงไป ทั้งมีความสัมพันธ์กับองค์หญิงชูเนี่ยนดินแดนอู๋หวา ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยโปรดปรานเขามาก เข้าดินแดนไม่ถึงร้อยปีก็ให้เขาได้เป็นราชาเทวะน้อย กระทั้ง เขายังต่อสู้เหยียนเสี่ยอันดับหนึ่งของราชาเทวะน้อยจนล่าถอยไปได้ เพียงแต่สิบกว่าปีนี้เหมือนเขาจะหายเงียบไป เหตุใดจึงมาปรากฎตัวที่นี่ได้”
ที่เขาพูดนั้นล้วนเป็นเรื่องที่เล่าลือเกี่ยวกับมู่ชิงเกอ เห็นได้ว่าชื่อเสียงมู่ชิงเกอนั้นได้ร่ำลือกระฉ่อนไปทั่วแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรแล้ว
“เหยียนเสี่ย? ไม่ใช่ราชาเทวะน้อยดินแดนจั๋วอวี่ของพวกเจ้าหรือ” ลูกศิษย์ดินแดนสือฟางมองลูกศิษย์ดินแดนจั๋วอวี่สองคนแล้วถามอย่างข้องใจ
ทั้งสองคนมีสีหน้าน่าเกลียด คนหนึ่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า “ลูกศิษย์ดินแดนจั๋วอวี่ที่ตายในมือเขาไม่ใช่น้อยเลย”
ลูกศิษย์อีกสองดินแดน หลังจากได้ยินคำพูดนี้แล้วก็รู้ได้เลยว่า ราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ยคนนี้มีข้อบาดหมางกับดินแดนจั๋วอวี่มากทีเดียว
“เป็นชิงเกอ” จีเหยาฮั่วได้สติจากการตกตะลึงและพูดกับอิ๋งเจ๋อกับเว่ยมั่วลี่ด้วยความตื่นเต้นยินดี
ยังดีที่นิสัยอีกสองคนค่อนข้างสุขุม ถึงแม้จะตื่นเต้นยินดีเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดเหมือนเขา
เวลานี้พวกเขามองมู่ชิงเกอ รู้สึกเพียงว่านางดูโดดเด่นกว่าเมื่อครั้งอยู่ที่โลกแห่งยุคกลาง ดวงดาวที่นับไม่ถ้วนในมหาสมุทรดวงดาว เมื่อเทียบกับนางแล้วกลาย เป็นจืดชืดไร้แสงสีไป
เรืออากาศค่อยๆ หยุดลงหน้าแท่นบ่อบิน
มู่ชิงเกอมองเห็นคนทั้งสี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังในทันที ความจริงขณะที่นางรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของพัดจีเหยาฮั่ว นางก็คาดเดาได้แล้วว่าใครอยู่ที่นี่
เรื่องขัดแย้งเมื่อสักครู่นี้ถึงแม้นางจะอยู่ไกลมาก แต่สายตาที่เฉียบคมของนางก็ยังเห็นชัดถึงทุกสิ่งจนหมดสิ้น
มู่ชิงเกอก้าวเดินจากเรืออากาศทีละก้าว ค่อยๆ ลงมาจากฟ้า
ลูกศิษย์ดินแดนเทพทั้งหกเมื่อเห็นมู่ชิงเกอแล้วสีหน้าต่างวูบไหว เก็บความดุดันทั้งหมดลง หลุบตาลงตํ่า ก้มตัวค้อมเอวทำความเคารพเขา
“คารวะราชาเทวะน้อยฮ่วนเยวี่ย!”
ท่าทางนั้นช่างต่างกันคนละขั้วกับความยโสโอหังเหนือกว่าผู้ใดเมื่อสักครู่นี้
พูดได้ว่าท่าทีโอหังเมื่อสักครู่มีเท่าไร ท่าทีเคารพในเวลานี้ก็มีมากเท่านั้น
เมื่อเห็นท่าทีที่คนทั้งหกมีต่อมู่ชิงเกอ พวกจีเหยาฮั่วก็พอคาดเดาได้ว่าฐานะของมู่ชิงเกอคงไม่ใช่ธรรมดา
พวกเขาทั้งดีใจแทนมู่ชิงเกอ ทั้งรู้สึกสะท้อนใจ
ระยะห่างระหว่างพวกเขากับมู่ชิงเกอ ถูกทิ้งห่างออกไปมากขึ้นอีกแล้ว
หลายปีนี้พวกเขาไม่กล้าผ่อนคลายพยายามเต็มที่ แต่ตอนนี้พวกเขากลับค้นพบว่ามู่ชิงเกอพยายามมากกว่าพวกเขาเสียอีก!
“เอ่อ…ราชาเทวะน้อย ขอเรียนถามว่าที่ราชาเทวะน้อยมาที่นี่กะทันหัน เพราะเหตุใดหรือ” ลูกศิษย์แดนสือฟาง เดินขึ้นหน้าขึ้นมาหนึ่งก้าวและถามหยั่งเชิงอย่างระมัดระวัง
“รับคน” มู่ชิงเกอตอบเรียบๆ
รับคน?
“ราชาเทวะน้อยจะรับใครหรือ” ลูกศิษย์คนนั้นถามอีก
มู่ชิงเกอค่อยๆ ยกมือชี้ไปที่สี่คนข้างหลัง เอ่ยตามลำดับว่า “เขา เขา เขา แล้วก็เขา”
ทั้งหกคนต่างสบตากัน ยังคงเป็นลูกศิษย์คนนั้นที่เอ่ยขึ้น “เรื่องนี้ ราชาเทวะน้อย เวลานี้ดินแดนจั๋วอวี่แผ่นดินเทพตะวันออกกำลังรับคน ท่านทำเช่นนี้เหมือนจะไม่ค่อยถูกต้องตามธรรมเนียมนัก”
“เจ้ามาคุยเรื่องธรรมเนียมกับข้าหรือ” มุมปากมู่ชิงเกอยกขึ้น แววตานึกสนุก
ทั้งหกคนผวา รู้สึกว่ารอยยิ้มของเขานั้นผุดอันตรายที่เย็นเฉียบออกมา