ตอนที่ 832
ทางเลือกได้เสีย!
“เหมิงเหมิง”
พอมู่ชิงเกอปรากฎตัวขึ้นในช่องว่างก็เรียกเหมิงเหมิงมาทันที
เหมิงเหมิงปรากฎตัวขึ้นที่เบื้องหน้าของนางทันที นัยน์ตาโตนั้นกะพริบปริบๆ ถามด้วยความสงสัยว่า “เจ้านาย ท่านมีเรื่องหาเหมิงเหมิงหรือ”
นางเพิ่งปรากฎตัว หยวนหยวนก็มาปรากฎตัวอยู่ข้างกายนางติดๆ ในอ้อมอกเขายังอุ้มราชันย์โอสถจอมเทพที่กำลังหลับสนิทอย่างระมัดระวังเต็มที่
สายตามู่ชิงเกอกวาดผ่านร่างทั้งสองคนแล้วหยุดอยู่บนร่างของราชันย์โอสถจอมเทพที่กำลังหลับสนิท ยิ้มอย่างจนปัญญาในใจ “พวกเจ้าดูเหมือนจะเคยชินกับชีวิตเช่นนี้แล้ว”
สีหน้าเหมิงเหมิงกับหยวนหยวนชะงักไปแสดง ท่าทีเคอะเขิน
“ก็ไม่ใช่เพราะช่วยเจ้านายดูแลจอมวายร้ายนี่หรือ” เหมิงเหมิงบ่นอุบอิบ
ใบหน้าที่สวยงามของหยวนหยวนดูเขินอายเล็กน้อย บอกมู่ชิงเกอว่า “ลูกพี่ท่านแม่ ข้าส่งนางกลับไปนอนที่หม้อผลาญสวรรค์ก่อนนะ”
มู่ชิงเกอพยักหน้านิดๆ
หยวนหยวนหมุนกายนำเหลียนเฉียวน้อยวิ่งปรู๊ดมุ่งหน้าไปยังห้องปรุงโอสถ
หลังจากเขาไปแล้ว มู่ชิงเกอจึงค่อยๆ เก็บงำรอยยิ้มที่มุมปาก มองเหมิงเหมิงด้วยสายตาที่เคร่งขรึม
“เจ้านาย ท่านต้องการเรียกใช้อะไรว่ามาได้เลย” เหมิงเหมิงดูออกได้ว่าการมาของมู่ชิงเกอในครั้งนี้มีทีท่าแปลกไปจึงถามออกมาก่อน
มู่ชิงเกอมองดูนาง สิ่งที่ผุดขึ้นมาเบื้องหน้าคือร่างนางที่เล็กราวกับนิ้วหัวแม่โป้งเมื่อครั้งนั้น เหมิงเหมิงเรียกได้ว่าเป็นคนแรกๆ ที่อยู่ข้างกายนาง ร่วมผจญสิ่ง ต่างๆ ไปพร้อมกันกับนางไม่เคยแยกจาก
ถึงแม้เหมิงเหมิงจะไม่สามารถร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับนาง แต่กลับเป็นโล่ระวังหลังที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง
“เหมิงเหมิง ข้าต้องการฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้า” มู่ชิงเกอเปิดปากพูด
เหมิงเหมิงผงกศีรษะเต็มที่ เผยรอยยิ้มชื่นบาน “ขอแสดงความยินดีกับเจ้านายเรื่องนี้อยู่ในใจเจ้านายมานาน ในที่สุดก็จะได้เป็นจริงแล้ว”
“เหมิงเหมิง เจ้ามาจากไหนกันแน่ เจ้านายคนก่อนเป็นใครหรือ” มู่ชิงเกออดถามไม่ได้
เหมิงเหมิงทำตาปริบๆ พูดโดยไม่ได้ปิดบังว่า “ขณะที่โลกใบเล็กนี้เกิดขึ้นก็มีข้าอยู่แล้ว เจ้านายคนก่อนของข้าสูญสลายไปนานแล้ว ไม่แน่ว่าเวียนว่ายตายเกิดไปแล้วกี่ครั้ง เหตุใดอยู่ดีๆ เจ้านายจึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาหรือ”
“ข้าต้องการฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้า ข้าเองก็เพิ่งรู้ว่าเก้าชั้นฟ้าแปลงมาจากยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพ ส่วนจิตวิญญาณแห่งอาวุธของมันได้ตายไปแล้ว” มู่ชิงเกอพูด
คำพูดส่วนท้ายนั้นนางยากที่จะเอ่ย มองดูใบหน้าเหมิงเหมิงแล้ว นางก็เปลี่ยนคำพูดทันที “เดิมทีข้าคิดว่าเก้าชั้นฟ้าสร้างจากหินภูเขา หากใช้วิธีการหล่อหลอม หล่อหลอมใหม่ให้เป็นเนื้อเดียวกันก็ใช้ได้แล้ว แต่วันนี้ข้าเพิ่งรู้ว่าข้าคิดง่ายจนเกินไปแล้ว”
เหมิงเหมิงผงกศีรษะ “ไม่มีจิตวิญญาณแห่งอาวุธ ต่อให้เจ้านายหลอมเก้าชั้นฟ้าเป็นเนื้อเดียวกันก็ เป็นเพียงสิ่งไร้ชีวิต ทั้งยังเปราะบางมากนัก”
มู่ชิงเกอเม้มปากแน่นมองเหมิงเหมิง ดวงตาที่ใสกระจ่างปรากฎแววต่อต้าน และค่อยๆ เอ่ยปากว่า “เหมิงเหมิง ข้าต้องการเจ้า”
เหมิงเหมิงชะงัก เริ่มเข้าใจความหมายของมู่ชิงเกอ
เพียงแต่นางราวกับคาดเดาได้ แต่ไม่ได้ขอคำยืนยันจากมู่ชิงเกอ เพียงรอให้มู่ชิงเกอพูดออกมาเอง
“การฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้าที่แท้จริง ต้องอาศัยจิตวิญญาณแห่งอาวุธดวงใหม่ จิตวิญญาณแห่งอาวุธชนิดไหนกันที่สามารถคํ้าจุนดินแดนได้ทั้งแถบหรือโลกทั้งโลกได้นอกจากเจ้าแล้วข้านึกถึงอย่างอื่นไม่ออกเลย ดังนั้นข้าจึงอยากขอให้เจ้าเป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธใหม่ของเก้าชั้นฟ้า” มู่ชิงเกอบอกคำขอร้องของตัวเองออกมาจนได้
นี่เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้าได้
“ลูกพี่ท่านแม่!” ทันใดนั้น เสียงหยวนหยวนก็ดังมาจากที่ไกลออกไป
เขาปรากฎตัวอย่างฉับพลันระหว่างมู่ชิงเกอกับเหมิงเหมิง ถามด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “ลูกพี่ท่านแม่ การทำเช่นนี้จะเป็นอันตรายต่อเหมิงเหมิงหรือไม่”
เหมิงเหมิงเงยหน้ามองหยวนหยวนด้วยแววตาสั่นไหว
แต่เวลานี้หยวนหยวนไม่ทันสังเกตเห็น ยังคงจับจ้องที่มู่ชิงเกอ รอคอยคำตอบจากนาง
แววตาของหยวนหยวนเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นต่อมู่ชิงเกอ ทั้งเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดต่อความปลอดภัยของเหมิงเหมิง
ราวกับว่า เขาหวังที่จะได้ยินคำพูดที่ทำให้เขาวางใจได้จากปากของมู่ชิงเกอ
แต่มู่ชิงเกอกลับพูดเสียงเครียดภายใต้การเฝ้ารอของเขาว่า “ข้าไม่รู้”
ไม่รู้
คำพูดนี้ทำให้หยวนหยวนตกตะลึงถูกตรึงแน่นอยู่กับที่
มู่ชิงเกอหลุบตาลงแล้วถอนหายใจว่า “เรื่องเช่นนี้ ข้าไม่เคยทำมาก่อน ทั้งไม่สามารถหาตัวอย่างได้ ดังนั้น ข้าจึงไม่รู้ว่าหลังจากทำเช่นนี้แล้วจะมีผลกระทบอะไรต่อเหมิงเหมิงบ้าง”
“เช่นนั้นให้ข้าไปเถอะ! ข้าเองก็เป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธ!” หยวนหยวนพูดอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิด
“เจ้าหรือ” สายตามู่ชิงเกอมองมาที่ตัวเขาอีกครั้ง แล้วค่อยๆ ส่ายหน้า “พลังของเจ้ายังไม่เพียงพอ”
นี่ไม่ใช่การประชดประชันแต่เป็นความจริง
หยวนหยวนฟื้นตื่นขึ้นมาก็หมายความว่าทวนหลิงหลงจะค่อยๆ แปลงจากยุทธภัณฑ์ชนมหาเทพไปเป็นยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นยุทธภัณฑ์ ชั้นจอมเทพ เขาเองก็ไม่ใช่จิตวิญญาณแห่งอาวุธของยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพ อย่างมากก็เป็นเพียงจอมเทพที่ขาดอีกครึ่งก้าว
เพียงแต่ลักษณะพิเศษของเขาจึงทำให้ขณะที่อยู่ที่เขาเซียนเปิ่นเฉ่า ป๋อเข่าเข้าใจผิดว่าเขาเป็นยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพ
หยวนหยวนเดิมทีเป็นวิญญาณพญาเพลิง ขณะที่วิญญาณโบยบินออกไปนั้น มีจิตเทพเหลือค้างอยู่ส่วนหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจจึงถูกมู่ชิงเกอหลอมเข้าไปในทวนหลิงหลงแล้วค่อยๆ หล่อเลี้ยงขึ้นมา
ส่วนเหมิงเหมิงเล่า ตัวนางเองก็คือจิตวิญญาณแห่งอาวุธของช่องว่างอยู่แล้ว เวลานี้ให้นางไปเป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธของช่องว่างอีกแห่งหนึ่งก็คล้ายกับการแยกวิญญาณออกจากร่างเดิมแล้วใส่เข้าไปในร่างใหม่เช่นนั้น
ขั้นตอนนี้ย่อมจะต้องเจ็บปวดทั้งยังคาดเดาถึงผลที่จะได้รับยากยิ่ง
ดังนั้นมู่ชิงเกอจึงใช้วิธีการถามโดยไม่ได้บีบบังคับ
“วิธีของเจ้านายไม่ใช่ทำไม่ได้ ความจริงแล้วก็เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น” เหมิงเหมิงเอ่ยขึ้นกะทันหัน
พอนางพูดก็ทำให้ทั้งมู่ชิงเกอและหยวนหยวนต่างมองไปที่นางพร้อมกัน
“มีเพียงจุดเดียวเท่านั้นที่เจ้านายอาจจะคิดผิด” เหมิงเหมิงว่า
มู่ชิงเกอถาม “มีอะไรหรือ”
เหมิงเหมิงว่า “ข้าไม่สามารถแยกออกจากช่องว่างปัจจุบันได้หากต้องการให้ข้าเป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธใหม่ของเก้าชั้นฟ้า จะต้องหลอมรวมช่องว่างของ เจ้านายทั้งหมดเข้าไปในเก้าชั้นฟ้าด้วย ซึ่งหมายความว่า หลังจากนั้นแล้วเจ้านายก็จะไม่มีช่องว่างอีกต่อไป แน่นอนว่าเจ้านายมีพลังพิเศษช่องว่าง ทั้งเป็นชั้น ศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง สามารถผ่าเปิดช่องว่างใหม่ได้อีก แต่ล้วนเป็นช่องว่างในชั้นเริ่มแรกราวกับความว่างเปล่า หากจะทำให้เป็นช่องว่างอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้น่า กลัวว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายหมื่นปี ดังนั้นสิ่งที่เจ้านายสมควรไตร่ตรองก็คือท่านจะยอมทอดทิ้งมันไปหรือไม่”
มู่ชิงเกอชะงัก นางนึกไม่ถึงเลยว่านางไม่เพียงแต่ต้องให้เหมิงเหมิงเลือก นางเองก็ยังต้องชั่งระหว่างผลดีผลเสียของช่องว่างนี้ด้วย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่องว่างที่เป็นตัวแทนของเหมิงเหมิงนี้ราวกับโลกเล็กๆ ใบหนึ่ง ทั้งต้นไม้ใบหญ้า หอคอย บ้านเรือนมีพร้อมทุกอย่าง ที่สำคัญที่สุดนั้น มันยังมี แหล่งทรัพยากรที่วิเศษมากมาย ทั้งยังสามารถนำคนใส่เข้าไปได้อีก
หากสูญเสียไป สำหรับมู่ชิงเกอแล้วก็เท่ากับขาดไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ในการพึ่งพิงให้ชีวิตคงอยู่ได้อย่างสุขสบายไป
ช่องว่างใหม่ที่นางจะผ่าเปิดยังต้องใช้เวลาอีกยาวนานนักเพื่อให้พัฒนาขึ้นมาได้
เพียงแต่เมื่อเปรียบเทียบผลได้เสียของช่องว่างแล้ว สิ่งที่นางใส่ใจมากกว่าคือหากทำเช่นนี้แล้ว จะมีผลกระทบอย่างไรต่อเหมิงเหมิงหรือไม่
“เจ้าเพียงบอกข้าว่า การทำเช่นนี้จะทำร้ายเจ้าหรือไม่” มู่ชิงเกอถาม
ที่นางถามเช่นนี้ เห็นชัดว่านางได้ตัดสินใจแล้ว ช่องว่างนั้นนางสามารถทอดทิ้งได้ แต่การฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้า จะให้เหมิงเหมิงสละชีวิตไม่ได้เด็ดขาด!