ตอนที่ 836
ที่แท้เจ้าอยู่นี่เอง!
เคล็ดวิชาเทวะ!
เป็นเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างส่วนที่เหลือ!
มู่ชิงเกอมองดูเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างส่วนที่เหลือซึ่งแสงลีทองจางหายไปแล้วในมืออย่างไม่อยากจะเชื่อ เพียงแต่ยังไม่ทันที่นางจะดูให้ชัดเจน เคล็ดวิชาส่วนที่เหลือนั้นก็ราวกับสามารถรับรู้ได้ เกิดเสียง ‘ชิ้ว’ แล้วแทรกเข้าไปในหว่างคิ้วของนาง
ร่างมู่ชิงเกอชะงักงันหลับตาทั้งสองข้าง
เก้าชั้นฟ้าที่อยู่ตรงใต้เท้านางเกิดการเปลี่ยนแปลง บนหินทองอวิ่นเฉวียนเริ่มปรากฎพืชสีเขียวปกคลุมแล้ว ค่อยๆ ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่ทุกหัวระแหง
ส่วนปัญญาเทวะของมู่ชิงเกอ เคล็ดวิชาส่วนที่เหลือในสมองนางกำลังหลอมรวมกับเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือที่เพิ่งบินออกมาจากเก้าชั้นฟ้า
หลังจากรวมกันแล้ว เคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างยังคงมีส่วนแหว่งไปหน่อยหนึ่ง!
‘ที่แท้เจ้าก็ซ่อนอยู่ที่นี่เอง! รอคอยเจ้าของอยู่เงียบๆ’ มู่ชิงเกอมองดูเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างที่แหว่งไปแล้วคิดในใจ
เคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างครั้งนั้นถูกแยกออกเป็นหกส่วน
ส่วนหนึ่งถูกทำลายไป แต่มู่ชิงเกอก็จับพลัดจับผลูรู้ถึงเนื้อความภายในนั้นได้
เวลานี้ห้าส่วนที่เหลือนางได้มาแล้วสี่ส่วน ยังคงเหลือก้าวสุดท้ายอีกเพียงก้าวเดียว เคล็ดวิชาเทวะก็จะครบสมบูรณ์แล้ว
มู่ชิงเกอตื่นเต้นยินดีอยู่เงียบๆ เคล็ดวิชาเทวะทั้งสามส่วน นางเฝ้าตามหามาตลอดเวลา เวลานี้มองเห็นเส้นชัยแล้ว เพียงแต่ส่วนที่ขาดหายไปนั้นเป็นส่วนที่ต่อเนื่องกัน เมื่อยังหาไม่พบ ถึงแม้มู่ชิงเกอได้ส่วนนี้มาแล้วก็ยังไม่สามารถอ่านให้เข้าใจได้อยู่ดี
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างส่วนที่เหลือสุดท้าย ส่วนที่ถูกค้นหามาตลอดแต่ไม่มีเบาะแสใดๆ กลับซุกซ่อนอยู่ในซากปรักหักพังของเก้าชั้นฟ้า นี่เป็นเรื่องที่เกินคาดคิดและน่าตื่นเต้นยินดียิ่งนัก
มู่ชิงเกอถอยออกจากปัญญาเทวะแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ภาพที่สะท้อนเข้ามาในสายตาทำให้นัยน์ตานางเปล่งแสงแวววับออกมาทันใด
เก้าชั้นฟ้าได้กลายสภาพแล้วโดยสิ้นเชิง กลิ่นอายความตายเข้มข้นไร้ซึ่งชีวิตราวกับซากที่ถูกทอดทิ้งหายไปไม่เหลือให้เห็นแม้แต่เงา เก้าชั้นฟ้าเวลานี้มีชีวิตชีวาทั้งยังมีจิตวิญญาณอยู่ทั่วไป
มู่ชิงเกอไม่เคยเห็นเก้าชั้นฟ้าเมื่อหมื่นปีก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่สถานที่ที่อยู่เบื้องหน้านี้กลับทำให้นางรู้สึกว่า สมควรที่จะใช้ชื่อ เก้าชั้นฟ้า!
ความเปลี่ยนแปลงของเก้าชั้นฟ้ายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง หินทองอวิ่นเฉวียนถูกปกคลุมอยู่ภายใน ทิวทัศน์ ยอดเขาประหลาดลึกลํ้า นํ้าตกท่ามกลางความเขียวขจี ขุนเขาซับซ้อนขึ้นลงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในเก้าชั้นฟ้า ไม่เพียงเท่านั้นยังมีทั้งเวียงวัง ตำหนักหอคอย ลานกว้าง แท่นบูชาต่างๆ ล้วนค่อยๆ ปรากฎขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
สายตาของผู้คนบนพื้นดินต่างได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเก้าชั้นฟ้า
นอกจากทำให้พวกเขาตื่นตกใจแล้วยังเกิดความตื่นเต้นยินดีชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
“นี่คือเก้าชั้นฟ้า! นี่คือเก้าชั้นฟ้าของพวกเรา!”
“นี่คือ เก้าชั้นฟ้าที่แท้จริง! ”
“นายน้อยทำสำเร็จแล้ว! ได้ฟื้ฟูเก้าชั้นฟ้าขึ้นมาแล้วจริงๆ!”
“นายน้อยเป็นความหวังของตระกูลมู่พวกเราจริงๆ!”
“เก้าชั้นฟ้า…เก้าชั้นฟ้า…พวกเราไม่ได้เห็นมาหมื่นปีแล้ว…”
ตระกูลมู่เหลือเดนชราคนหนึ่งขณะที่เห็นเก้าชั้นฟ้าบนท้องฟ้าก็คุกเข่าลงบนพื้นอย่างอดไม่อยู่ นํ้าตาไหลพราก
เมื่อมีคนแรกย่อมต้องมีคนต่อๆ ไป พวกเขาต่างพากันคุกเข่าบนพื้นดินแหงนหน้ามองเก้าชั้นฟ้าที่ลอยอยู่ระหว่างท้องฟ้าและพื้นดิน แล้วปิดหน้าร้องไห้โฮ
พวกเขาร้องไห้เสียงดังลั่น ร้องโดยไม่กริ่งเกรงใดๆ ร้อง ให้กับความอัดอั้นตลอดหมื่นปีมานี้ทั้งยังความแค้นเมื่อหมื่นปีก่อน
เก้าชั้นฟ้า!
เก้าชั้นฟ้า!
เก้าชั้นฟ้าของพวกเขา เก้าชั้นฟ้าของตระกูลมู่ ในที่สุดก็ได้…กลับคืนมาแล้ว!
แต่จะโทษพวกเขาที่ระบายอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่ โทษที่ต่างพากันร้องไห้ราวกับเด็กน้อยไม่ได้ เนื่องจาก เก้าชั้นฟ้า ก็คือที่พึ่งทางใจของพวกเขา เป็นพลังขับเคลื่อนให้พวกเขาทนอยู่มานานได้ถึงหมื่นปี
ตระกูลมู่เหลือเดนเหล่านี้ต่างร้องไห้จนลงไปกลิ้งเกลือกบนพื้น ปิดหน้ารํ่าไห้ ปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดแน่นมายาวนานถึงหมื่นปี
โย่วเหอ ฮวาเยวี่ย มั่วหยาง ไป๋สี่ หยินเฉิน หยวนหยวน กับเหล่าองครักษ์เขี้ยวมังกรไม่ได้ทำเช่นนั้น เนื่องจาก พวกเขาแต่ไหนแต่ไรมาก็ยอมรับมู่ชิงเกอเพียงคนเดียว เก้าชั้นฟ้าสำหรับพวกเขาแล้วคือความตกตะลึง เป็นเพียงความตกตะลึงเท่านั้น
ซวีซีวกับราชครูก็สะเทือนใจเช่นเดียวกัน ความรู้สึกของคนทั้งสองไม่ได้เผยออกมาเหมือนคนอื่น แต่ในความสงบนิ่งนั้น กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่รุนแรงอย่างยิ่ง
เข่าของคนทั้งคู่ค่อยๆ งอลง คุกเข่าอยู่บนพื้นดินแหงนมองการปรากฎของเก้าชั้นฟ้า
รอมาแล้วหมื่นปี เฝ้าคอยมาถึงหมื่นปี วันนี้พวกเขารอจนได้เห็นแล้ว
ตระกูลมู่ที่พลีชีพไปครั้งนั้น ไม่ได้พลีชีพอย่างสูญเปล่า!
ในพริบตานั้นพวกเขาราวกับเห็นภาพเลือดชโลมเก้าชั้นฟ้าเมื่อหมื่นปีที่แล้ว เพียงแต่หลังจากพริบตาเดียวนั้นก็สลายหายไป ที่คงเหลืออยู่นั้นก็คือเก้าชั้นฟ้าในเวลานี้
เก้าชั้นฟ้านี้เป็นเหมือนเมื่อหมื่นปีที่แล้ว แต่ก็ราวกับมีส่วนที่แตกต่างไปบ้างเล็กน้อย
หลังจากตื่นเต้นยินดีและระบายอารมณ์ความรู้สึกกันแล้ว เหล่าตระกูลมู่เหลือเดนจึงสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของเก้าชั้นฟ้า
เวลานี้หมู่เมฆลอยมาชุมนุมล้อมรอบเก้าชั้นฟ้าโดยไม่สลายหายไป หนุนนำให้เก้าชั้นฟ้าราวกับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเทพเซียน คนธรรมดาจะล่วงเกินดูหมิ่นไม่ได้ มนุษย์เทพและมนุษย์ธรรมดาล้วนต้องเคารพ!
นี่คือบารมีของเก้าชั้นฟ้า เป็นที่สถิตของจอมเทพซึ่ง เป็นเทพเหนือเทพ!
ทันใดนั้นท้องฟ้าพลันบังเกิดแสงสีสว่างไสวครอบคลุมท้องฟ้า เก้าชั้นฟ้าไว้ หมู่เมฆที่รวมตัวบนท้องฟ้าค่อยๆ กระจายหายไป ทำให้แสงสีสว่างไสวนั้นครอบคลุมเก้าชั้นฟ้าให้ดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เปรี้ยง!
เสียงฟ้าร้องดังลั่นราวกับเสียงรัวกลองฉลองชัย
สะเทือนจนแผ่นดินภูเขาต่างฟื้นตื่นขึ้นมารับรู้บารมีที่มาจากเก้าชั้นฟ้า ยินยอมศิโรราบให้
บนท้องฟ้าแว่วเสียงร้องของนกดังมา เหล่าวิหคปักษา ล้วนทำความเคารพ เหล่าสัตว์ล้วนก้มหน้าค้อมหัวให้
นี่คือเก้าชั้นฟ้า!
เป็นสุดยอดของความศักดิ์สิทธิ์ในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร!
เสียงฟ้าร้องดังไม่หยุดแผ่กระจายออกจากเก้าชั้นฟ้า ขยายไปทั่วแผ่นดินเทพตะวันตก แผ่นดินเทพเหนือ แผ่นดินเทพตะวันออก แผ่นดินเทพใต้ กระทั้งแดนมารรกร้าง
แผ่นดินเทพมารทั้งหมด เวลานี้ล้วนถูกสั่นสะเทือน
หยินเฉินยืนอยู่กับที่ใช้กำลังบีบก้อนหยกในมือ ขณะที่ก้อนหยกสว่างวาบขึ้นมานั้น หยกในมือของพวกซ่งเทียนจี๋ที่ซุ่มอยู่ในแผ่นดินเทพตะวันตกทั้งสี่ดินแดนก็สว่างขึ้นมาด้วย
เสียงฟ้าร้องบนท้องฟ้าดังอยู่ข้างหูพวกเขาเช่นกัน
เวลานี้พวกเขาไม่มีเวลามาประหลาดใจว่าเสียงฟ้าที่ร้องราวรัวกลองนี้มาได้อย่างไร แต่หลังจากที่ได้รับคำสั่งให้เคลื่อนไหวแล้วก็เริ่มจัดการเรื่องต่างๆ อย่างเงียบเชียบ
ที่ชายแดนแผ่นดินเทพตะวันตกกับแดนมาร ภายในสิ่งกีดขวางนั้น ดวงตาสีอำพันของซือมั่วสะท้อนภาพดินแดนอันห่างไกลท่ามกลางท้องฟ้าที่มีแสงสีสวยงาม
ภาพจำแลง…นั่นเป็นตำหนักบนเขาที่สวยงามลํ้าเลิศ ข้างหูเขานั้นยังแว่วเสียงฟ้าร้องดังมาครืนๆ
“เก้าชั้นฟ้า…” เขาพึมพำออกมา
ทันใดนั้นสายตาเขากวาดผ่านทหารมารนับไม่ถ้วนที่ห้อมล้อมเขา บอกพวกเขาว่า “ข้าจะไปฆ่าคน พวกเจ้ารออยู่ก่อน”
แทบจะเวลาเดียวกันนั้นพื้นที่ต่างๆ ในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร ราวกับเห็นภาพจำแลงของเก้าชั้นฟ้าปรากฎวับๆ แวมๆ ขึ้นบนท้องฟ้า ทั้งยังเสียงฟ้าร้องสั่นสะเทือนแก้วหูนั้นด้วย
ในป่าอสูร ราชาเฟิ่งแหงนหน้าขึ้นเห็นฉากนี้นัยน์ตาพลันเปล่งประกายสดใส
โห่วละสายตาบอกเขาว่า “ถึงเวลาแล้ว เชิญราชาเฟิ่ง นำคนไปดินแดนอู๋หวา ส่วนข้าก็ต้องไปแผ่นดินเทพตะวันตกสักเที่ยวแล้ว”
พูดจบเขาก็จากไปทันที เพื่อไปสมทบกับเผ่าภูติภูเขา และมุ่งหน้าไปยังแผ่นดินเทพตะวันตก
บนแผ่นดินเทพตะวันออก ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยยืนอยู่ในวังราชาเทวะ ขณะที่เกิดเสียงฟ้าร้องดัง เขาเองก็ได้เห็นภาพจำแลงของเก้าชั้นฟ้าบนท้องฟ้าเช่นกัน
พริบตาเดียว เขาไม่เอ่ยอะไรก็ฉีกขาดช่องว่างแล้วก้าวเข้าไปทันที…