ตอนที่ 851
เคล็ดวิชาส่วนสุดท้ายที่เหลือ
มู่ชิงเกอกับซือมั่วเดินจูงมือเข้ามายืนอยู่ท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่ปลิวว่อน เงาร่างหนึ่งแดงหนึ่งดำช่าง สอดรับกันได้ดียิ่ง ทุกภาพล้วนสวยงาม
แต่ภาพที่สวยงามตระการตานี้กลับทำให้ ราชาเทวะเส้าเทียนที่ถูกซือมั่วจับได้แล้วโยนเข้ามาใน ช่องว่างรอให้มู่ชิงเกอจัดการด้วยมือตัวเองรู้สึกสะเทือนใจอย่างแรง
เส้าเทียนตัวแข็งทื่อ นัยน์ตาจับจ้องมือที่เกาะเกี่ยวกันทั้งสิบนิ้วนั้น
สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปมา ทั้งสะท้าน ทั้งเกินคาดคิด ทั้งโกรธแค้น ทั้งประหลาดใจ… อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ผสมปนเปกันอยู่บนใบหน้าเขา กลายเป็นสีหน้าที่สุดแสนประหลาด
กระทั้งเขาฟื้นคืนสติจากภาพนี้จึงแผดเสียงโหดเหี้ยมเค้นถามว่า “ตระกูลมู่สมคบเผ่ามารจริงๆ หมื่นปีก่อนข้าไม่ได้ใส่ความพวกเจ้าตระกูลมู่! ไม่ใช่เลย! น่าเสียดายที่ชาวโลกยังถูกเจ้าปิดหูปิดตาเอาไว้!”
“สมคบหรือ” มู่ชิงเกอหัวเราะเยาะ
เส้าเทียนตาแทบถลนออกมา สายตาส่องประกายความแค้นรุนแรง “ผู้ชายสองคนทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงเช่นนี้น่าอับอายขายหน้ายิ่งนัก! น่าอับอายขายหน้า!”
มู่ชิงเกอคลายมือซือมั่วออกแล้วค่อยๆ นั่ง ยองๆ ลงตรงหน้าเส้าเทียน มือนางวางอยู่บนหัวเข่ามองดูเขาอย่างเย้ยหยัน พูดด้วยนํ้าเสียงนึกสนุกว่า “ข้าชอบ มีอะไรไหม”
“เจ้า!” เจ้าเทียนแค้นใจนัก แต่เวลานี้เขาเป็นนักโทษที่สู้ก็ไม่ได้หนีก็ไม่รอด
มู่ชิงเกอค่อยๆ ยืนขึ้นก้มมองดูเขาแล้วพูดอย่างเย็นเฉียบว่า “เส้าเทียน ใจเจ้านั้นเหี้ยมโหดนัก ถึงอย่างไรก็เป็นดินแดนเส้าเทียนที่เจ้าดูแลมาหลายหมื่นปี ลูกศิษย์ในดินแดนมีนับไม่ถ้วน เจ้าต้องการให้ตัวเองหนีรอด ถึงขนาดฆ่าพวกเขาจนตายทั้งหมด แต่ว่าการทำเช่นนี้ทำให้งานข้าน้อยลงไปมาก พูดไปแล้วข้ายังต้องขอขอบใจเจ้าด้วยซํ้า”
“ฮึ! เลือดชั่วของเผ่าเทพ! ตระกูลมู่เรียกตัวเองว่าเทพสงครามของเผ่าเทพแต่แอบสมคบกับเผ่ามาร ตลอดเวลา เวลานี้คนทั้งโลกถูกปิดบัง ก้าวต่อไปพวกเจ้าก็คงร่วมกันเปิดศึกภายในภายนอก บุกโจมตีแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรแล้วซินะ!” เส้าเทียนเอ่ยขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
มู่ชิงเกอกลับเยาะเย้ยว่า “เส้าเทียน อย่าได้ยกตัวเองราวกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าสามารถฆ่าลูกศิษย์เจ้าด้วยน้ำมือเจ้าเองได้ มีหรือที่จะไยดีกับความเป็นความตายของคนอื่น อีกทั้งสายตาเจ้าทำไมจึงตื้น เขินนัก เชื่อจริงๆ หรือว่าเทพมารสองเผ่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้”
พูดจบนางก็หันกายไปหาซือมั่ว
นัยน์ตาเส้าเทียนสาดประกายเหี้ยมเกรียมนางไม่เห็นแต่ถึงแม้เห็นแล้วนางก็ไม่ใส่ใจ
“ฆ่าทิ้งเถอะ” มู่ชิงเกอบอกซือมั่ว
ซือมั่วอมยิ้มพยักหน้า นัยน์ตาแฝงความรักและตามใจตอบว่า “ได้”
ทั้งคู่ตัดสินชะตาชีวิตตัวเองง่ายดายเช่นนี้ ทำให้เส้าเทียนเครียดขึ้นมา “พวกเจ้าฆ่าข้าไม่ได้!”
มู่ชิงเกอชำเลืองมอง หางตาผุดแววเย้ยหยัน ราวกับเยาะเย้ยเส้าเทียนว่า เขาตกเป็นนักโทษเช่นนี้แล้ว ยังมีคุณสมบัติอะไรที่มาพูดคำนี้ได้อีก
เส้าเทียนเข้าใจความหมายในสายตามู่ชิงเกอจึงกัดฟันพูดทันทีว่า “มู่ชิงเกอ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่า ยังมีเคล็ดวิชาเทวะส่วนที่เหลืออยู่กับข้าส่วนหนึ่ง หากพวกเจ้าฆ่าข้าแล้วก็จะไม่มีวันหาเจออีก!”
มู่ชิงเกอค่อยๆ หันกายมาเผชิญหน้าเส้าเทียนอีกครั้งแล้วเอ่ยว่า “เจ้าคิดจะข่มขู่ข้าหรือ”
หางคิ้วนางกระดกขึ้นเล็กน้อย
สีหน้าเส้าเทียนมืดดำจนน่าเกลียด ประกายตาโหดเหี้ยม “ไม่ได้ข่มขู่แต่เตือนเจ้าเท่านั้น”
มู่ชิงเกอหรี่ตาสองข้างลงมองเส้าเทียนอย่างใช้ความคิด
อีกครู่หนึ่งนางจึงค่อยเอ่ยปากว่า “ส่วนที่เหลืออยู่ไหน”
เส้าเทียนยิ้มเยาะ “เจ้านึกว่าข้าจะมอบของคุ้มกันชีวิตนี้ให้เจ้าง่ายๆ หรือ”
“แล้วเจ้าจะเอาอะไร” มู่ชิงเกอถามอย่างสงบ
แววตาเส้าเทียนสั่นไหวหลายครั้ง เขาแหงนหน้ากัดฟันแน่นพูดอย่างเคืองแค้นว่า “ครั้งนี้ข้าพลาดเอง เวลานี้ตกอยู่ในสภาพจนตรอกเช่นนี้ แม้แต่ดินแดนเส้าเทียนก็สูญสิ้นไปแล้ว นับว่าความแค้นกับตระกูลมู่เจ้าหมดสิ้นกันไป ข้าสามารถมอบส่วนที่เหลือให้เจ้าได้ ไหนๆ หมื่นปีมานี้ข้าก็ได้จำเนื้อความในนั้นได้จนขึ้นใจแล้ว เพียงแต่พวกเจ้าต้องปล่อยข้า ให้ข้าจากไปอย่างปลอดภัย”
“ปล่อยเจ้าไป จากนั้นก็ต้องคอยระวังตลอดทุกวันว่าเจ้าจะมาฆ่าข้าล้างแค้น เส้าเทียน เจ้าคิดว่าตัวเองโง่หรือคิดว่าข้าโง่กันแน่” มู่ชิงเกอหัวเราะเยาะ
กล้ามเนื้อบนใบหน้าเส้าเทียนกระตุกอย่างแรง “ข้าสาบานได้ว่าจะออกจากแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร ไม่หวนกลับมาอีก” เวลานี้เขาต้องการเพียงรักษาชีวิต เรื่องอื่นนั้นค่อยว่ากันวันหลัง
เรื่องแก้แค้นน่ะหรือ
เหอะ ต้องแก้แค้นแน่นอน! แต่ต้องมีชีวิตอยู่ก่อนไม่ใช่หรือ
การคิดคำนวณในดวงตาเส้าเทียนซุกซ่อนไว้อย่างมิดชิด เขากำลังเสี่ยงใช้เคล็ดวิชาเทวะส่วนที่เหลือยั่วยวนมู่ชิงเกอ ขอเพียงอีกฝ่ายทนความยั่วยวนนี้ไม่ได้ พยักหน้าแล้วเขาก็จะมีโอกาสรอด
‘เสี่ยวเกอเอ๋อร์ ตามปกติแล้วคนที่อยู่ในขั้นนี้ ล้วนเก็บของสำคัญไว้ในโลกใบเล็กของตัวเอง โลกใบ เล็กชนิดนี้เกี่ยวพันกับปัญญาเทวะของเจ้าของ หากเขาตายแล้วโลกใบเล็กก็จะปิดตัวเองลงถาวร กระทั่งทำลายตัวเอง’ ซือมั่วถ่ายทอดเสียงให้มู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอฟังแล้วนัยน์ตาที่ใสกระจ่างก็เปลี่ยนแปลงไปแวบหนึ่ง
จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นภายใต้สายตาเฝ้ารอของเส้าเทียน “ได้ เพียงแค่เจ้ามอบเคล็ดวิชาเทวะส่วนที่เหลือมา ข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้าและจะปล่อยเจ้าไป”
เส้าเทียนแค่นเสียงออกมา “ข้าไม่เชื่อเจ้า นอกจากเจ้าจะปล่อยข้าออกไปก่อน รอให้ข้ารู้สึกว่า ปลอดภัยแล้วก็จะให้เคล็ดวิชาส่วนที่เหลือแก่เจ้า”
“ข้าก็ไม่เชื่อเจ้าเหมือนกัน” มู่ชิงเกอพูดต่อ “คิดจะจากไปก่อนนั้นเป็นไปไม่ได้ ทางเลือกคือ วางเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือไว้หรือเจ้าตาย มีเพียงสองทางเลือก เจ้าอย่าได้คิดต่อรองกับข้าอีก”
สีหน้าเส้าเทียนมืดดำ ใบหน้าบิดเบี้ยวจากความโกรธเกรี้ยวจนผิดรูป
“เจ้าไม่กลัวข้าทำลายเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือหรือ” เส้าเทียนพูดอย่างไม่ยอมแพ้
มู่ชิงเกอกลับตอบว่า “ข้ามู่ชิงเกอพูดคำไหนคำนั้น บอกว่ามอบเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือแล้วไม่ฆ่าเจ้า จะปล่อยเจ้าไปก็ปล่อยเจ้าไป หากเจ้าไม่เชื่อก็ทำลายเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือไปเลย แต่ก่อนนี้ไม่มีเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือข้าก็ยังเดินมาได้ถึงขั้นนี้ ต่อไปแม้ไม่มีเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือข้าก็ยังเดินสูงขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆ”
คำพูดของนางทำให้ใจเส้าเทียนเริ่มไขว้เขว
เขาไม่เชื่อมู่ชิงเกอ แต่เวลานี้ก็ไม่มีทางเลือก พลังการข่มขู่ของเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือราวกับไม่ได้ยิ่ง ใหญ่ตามที่เขาคาดคิดไว้แต่แรก
“ในเมื่อเจ้าไม่ไยดีเช่นนั้นข้าก็จะทำลายมันไปเสีย ไหนๆ ก็หนีความตายไม่พ้น ก่อนตายได้ทำลาย เคล็ดวิชาเทวะของตระกูลมู่ก็นับว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งแล้ว” เส้าเทียนจับจ้องนัยน์ตาของมู่ชิงเกอ เค้นเสียงลอดไรฟัน
แต่สีหน้ามู่ชิงเกอกลับ ดูเฉยเมยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น
แววตาเส้าเทียนผุดความโหดเหี้ยม เขารู้ว่ามู่ชิงเกอแกล้งทำให้เขาเห็น ดังนั้นจึงต้องดูว่าใครจะทนได้มากกว่ากัน แต่เขาพูดออกมาจนขนาดนี้แล้วมู่ชิงเกอก็ยังคงเฉยเมย
“ปัญญาเทวะของข้าได้หลอมรวมกับเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ข้าเพียงแค่คิดก็ สามารถป่นให้เป็นผุยผงได้” เส้าเทียนข่มขู่อีก
ส่วนมู่ชิงเกอก็ยังคงไม่มีการตอบรับใดๆ สีหน้าสงบราวกับนํ้านิ่ง
“เจ้ายอมทิ้งได้จริงๆ รึ” เส้าเทียนพูดด้วยเสียงเคืองแค้น
มุมปากของมู่ชิงเกอกระดกขึ้น ในรอยยิ้มนั้นซ่อนความเย้ยหยันเอาไว้
แววตาเส้าเทียนเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่อยากตาย เขากัดฟันพูดว่า “นับว่า เจ้าแน่!”
พูดจบแสงสีทองสายหนึ่งก็พุ่งออกจากหว่างคิ้วของเขามุ่งไปทางมู่ชิงเกออย่างรวดเร็ว มู่ชิงเกอหมุน ตัวยื่นมือจับแสงสีทองนั้นไว้…