Skip to content

พลิกปฐพี 852

ตอนที่ 852

ใครเล่นงานใครกันแน่

‘เคล็ดวิชาเทวะส่วนที่เหลือ!’ แสงสีทองที่มู่ชิงเกอกำไว้ในมือค่อยๆ จางหายไป ปรากฎส่วนหนึ่งของ หนังสือที่เก่าขาดออกมาให้เห็น

มู่ชิงเกอกำเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือไว้แน่น เกิดความตื่นเต้นภายในจิตใจ

นางก้าวเดินมาตลอดจากหลินชวนจนถึงแผ่นดินเทพมารจนสามารถรวบรวมเคล็ดวิชาเทวะทั้งส่วนบนส่วนกลางและส่วนล่างได้ครบสมบูรณ์ในที่สุด

เคล็ดวิชาส่วนที่เหลือถูกนางกำไว้ในมือ ทันใดนั้นก็มีมือใหญ่ยื่นเข้ามานำเคล็ดวิชาไปจากมือนาง มู่ชิงเกอชะงักแล้วมองดูซือมั่ว

ซือมั่วกลับลูบคลำเคล็ดวิชาส่วนที่เหลืออยู่นิ่งๆ

“อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวนดังมาจากราชาเทวะเส้าเทียน

มู่ชิงเกอมองไปเห็นเขากำลังกุมศีรษะแสดงอาการเจ็บปวด

เส้าเทียนใช้สองมือสิบนิ้วขยุ้มเข้าไปในเส้นผม ทั้งปากทั้งจมูกพ่นสิ่งโสโครกออกมา เบิกตาโพลงทั้ง สองข้าง เส้นเอ็นเขียวปูดนูนขึ้นมาบนหน้าผาก การที่สามารถทำให้ราชาเทวะคนหนึ่งเจ็บปวดได้ปานนี้ ความเจ็บปวดนั้นย่อมเกินกว่าที่จะคาดคิดได้

มู่ชิงเกอมองดูเขา ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจ ในทางตรงกันข้ามกลับมีดวงตาเย็นเฉียบ นางไม่โง่ ซือมั่วเพียงลูบเบาๆ บนเคล็ดวิชาก็สามารถทำให้เส้าเทียนเจ็บปวดถึงเพียงนี้ หมายความว่าเส้าเทียนเล่นตุกติกกับเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือนั้นไว้แล้ว

“แยกวิญญาณเทพออกมาอยู่ในเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือเพราะคิดจะทำอะไรหรือ” แววตาซือมั่วเย็น เฉียบตกอยู่บนร่างที่เจ็บปวดของเส้าเทียน

ทำอะไรหรือ

แววตามู่ชิงเกอเย็นเฉียบกว่า

การที่เส้าเทียนทำเช่นนี้ย่อมไม่ได้ประสงค์ดี

มู่ชิงเกอยิ้มอย่างเย้ยหยัน “เส้าเทียน เจ้าคงคิดว่าพอข้าได้รับเคล็ดวิชาส่วนที่เหลือแล้ว คงต้องรีบร้อนเก็บมันไว้ในปัญญาเทวะเพื่อหลอมรวมกับส่วนอื่นๆ ส่วนวิญญาณเทพที่เจ้าซ่อนอยู่ในนั้นก็สามารถถือโอกาสลอบชมเคล็ดวิชาที่สมบูรณ์ หากเจ้าออกไปได้โดยสะดวก นอกจากจะไม่สูญเสียแล้วกลับได้เคล็ดวิชาฉบับสมบูรณ์อีก หากพวกเราเปลี่ยนใจฆ่าเจ้า เจ้าก็ยังเหลือส่วนหนึ่งของวิญญาณเทพซ่อนอยู่ภายในสติของข้า ขอเพียงวิญญาณเทพไม่สูญสลายเจ้าก็มีโอกาสโจมตีกลับได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามผู้ชนะสุดท้ายยังคงเป็นเจ้าใช่หรือไม่”

เส้าเทียนลืมตามองด้วยความทรมาน นัยน์ตาแดงเถือกจ้องดูมู่ชิงเกอกับซือมั่วอย่างไม่ยอมแพ้

แผนที่เขาคิดว่าซ่อนเร้นอย่างดีของเขา สุดท้ายแล้วก็ยังพังทลายลงในนํ้ามือของชายคนนี้

ไม่ยอม

ไม่ยอม

เส้าเทียนจ้องซือมั่วเขม็ง ความคลั่งแค้นภายในจิตใจล้นทะลักออกมา

“ฆ่าเลย” มู่ชิงเกอบอกซือมั่วเรียบๆ

นัยน์ตาเส้าเทียนเบิกกว้างขึ้นมา พูดอย่างรวดเร็วว่า “มู่ชิงเกอเจ้ากลับคำ! เจ้ารับปากว่าไม่ฆ่าข้า จะปล่อยข้าไป!”

มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ “เจ้าคิดร้ายกับข้าก็คือไม่จริงใจในการแลกเปลี่ยน เวลานี้ยังจะมาว่าข้า เส้าเทียนหนังหน้าเจ้านี่ช่างหนาจริงนะ!”

สีหน้าเจ้าเทียนเปลี่ยนไปฉับพลัน มองมู่ชิงเกอด้วยความแค้นเคือง

มู่ชิงเกอยิ้มเยาะว่า “อย่าคิดว่าข้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า ข้าบอกว่าไม่ฆ่าเจ้าก็จะไม่ฆ่าเจ้า แต่เจ้าลองทบทวนให้ดีๆ ที่ข้าพูดคือข้าไม่ฆ่าเจ้า แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ฆ่าเจ้า ข้ากับเจ้ามีความแค้นเรื่องเก้าชั้นฟ้า เมื่อหมื่นปีก่อน ส่วนเจ้ากับเขา…หรือว่าเจ้าลืมแล้ว ไม่นานนี้เจ้าเพิ่งเข้าแดนมารไปลอบสังหารเขามา” พูดแล้ว นางก็ยกมือชี้ไปที่ซือมั่ว

จนถึงเวลานี้เส้าเทียนจึงรู้ตัวว่า คำพูดมู่ชิงเกอได้วางแผนดักไว้แล้ว

เขาเชื่อมาตลอดว่าทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน คำพูดของมู่ชิงเกอก็เหมือนเป็นตัวแทนของทุกสิ่ง ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายกลับเล่นคำเหมือนเด็ก เขาเองก็ไม่ทันไหวตัวจึงตกลงในกับดักนี้

ตาของเส้าเทียนเบิกกว้าง ร้องเสียงหลงว่า “เจ้าได้เคล็ดวิชาเทวะแล้วทำไมยังจะฆ่าข้าอีก!”

“ฮึ เจ้านึกว่าเลือดตระกูลมู่เมื่อหมื่นปีก่อนไหลทิ้งไปเปล่าๆ หรือ เส้าเทียน จุดจบของเจ้าวันนี้ ต้อง โทษความโลภของเจ้า เจ้าขุดหลุมฝังตัวเองแท้ๆ!” มู่ชิงเกอพูดด้วยใบหน้าเย็นชา นัยน์ตาใสกระจ่างคู่นั้นไม่มีความรู้สึกแม้แต่นิด

ซือมั่วเดินเข้ามาได้เวลาพอดี ดูดวิญญาณเทพของเส้าเทียนออกจากร่างของเขาทันที

ความเจ็บปวดของวิญญาณเทพที่ถูกดูดออกจากร่างนั้นมากมายกว่าเมื่อครู่นี้หลายเท่านัก เส้าเทียน เจ็บปวดจนแทบหมดสติไปหลายครั้ง เสียงร้องโหยหวนดังลั่นไปทั่วโลกใบเล็กของซือมั่ว

หลังจากวิญญาณเทพของเขาถูกดูดออก จากร่างหมดแล้ว ร่างกายก็เหี่ยวแห้งลงไปอย่างรวดเร็ว

มู่ชิงเกอมือไวตัดศีรษะของเขาออกมาทันที ธงเลือดของนางที่อยู่ข้างนอกยังขาดศีรษะนี้เท่านั้น

“อ๊าก!” วิญญาณเทพของเส้าเทียนดิ้นรนในมือซือมั่วไม่หยุด

มู่ชิงเกอมองซือมั่วด้วยความประหลาดใจ “เจ้าคิดจะทรมานเขาหรือ”

แม้จะถามเช่นนี้แต่นางก็ไม่คิดว่า ซือมั่วจะเด็กถึงขั้นไปทรมานคนที่ต้องตายแน่นอนอยู่แล้ว

ความจริงสำหรับพวกเขาแล้ว เส้าเทียนไม่ใช่ศัตรูที่ควรคู่อีกต่อไป

“ไม่ได้คิดเช่นนั้น แต่เก็บเขาไว้ยังมีประโยชน์อยู่” ซือมั่วสั่นศีรษะนิดๆ อธิบายให้มู่ชิงเกอฟัง

“มีประโยชน์หรือ” มู่ชิงเกอถามด้วยความสงสัย

ซือมั่วพยักหน้า “โลกใบเล็กของราชาเทวะ ถูกควบคุมด้วยวิญญาณเทพและปัญญาเทวะ ขอเพียง วิญญาณเทพไม่ดับสลาย ปัญญาเทวะก็ยังคงอยู่ โลกใบเล็กก็ยังคงอยู่ด้วย เขามีความโลภมากเช่นนี้อีกทั้งเป็นราชาเทวะมานานแล้วเช่นนี้ ไม่รู้ว่ารวบรวมของวิเศษมามากมายเท่าไร หรือเสี่ยวเกอเอ๋อร์ไม่สนใจ”

พูดจบนัยน์ตาสีอำพันของเขาผุดรอยยิ้มบางๆ

นัยน์ตามู่ชิงเกอเกิดประกาย “ในเมื่อเป็น เช่นนี้เจ้าก็ไม่รีบบอก ทำให้ข้าต้องเสียเวลาเปลืองนํ้าลาย ปะทะคารมกับเขาตั้งนาน”

“เคล็ดวิชาเทวะสำคัญต่อเจ้ายิ่งนัก หากเขายินดีมอบให้เองย่อมจะดีที่สุด” ซือมั่วบอกเหตุผลของเขาออกมา

ตามด้วยฟาดฝ่ามือไปที่หน้าผากวิญญาณเทพของเส้าเทียน บังคับให้เขาเปิดโลกใบเล็กของเขาออก

เบื้องหน้ามู่ชิงเกอปรากฎทางเข้าแห่งหนึ่ง

ซือมั่วบอกนางว่า “ข้าจะต้องอยู่ด้านนอก ควบคุมวิญญาณเทพของเขาจึงเข้าไปไม่ได้ เจ้าเข้าไป จะต้องระมัดระวังตัวให้ดี มีเวลาเพียงราวๆ ครึ่งชั่วยาม เจ้าต้องรีบไปรีบมา หากมีของมากเกินไปอย่างมากก็เก็บมาให้หมดแล้วค่อยมาคัดทีหลัง”

เวลานี้ซือมั่วยังไม่รู้ว่า ช่องว่างของมู่ชิงเกอได้หลอมรวมกับเก้าชั้นฟ้าโดยสมบูรณ์ เหมิงเหมิงก็กลายเป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธใหม่ของเก้าชั้นฟ้าแล้ว

มู่ชิงเกอเวลานี้ไม่มีทั้งช่องว่างไม่มีทั้งโลกใบเล็ก

แต่กระเป๋าจัดเก็บกลับมีไม่น้อย เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะพอขนของทั้งหมดในนั้นได้หรือไม่

‘เฮ้อ หลังจัดการเรื่องนี้เสร็จคงต้องหาสักโลกหนึ่งมาบุกเบิกโลกใบเล็กของตัวเอง ไม่เช่นนั้นไม่สะดวกเลยจริงๆ’ มู่ชิงเกอบ่นอยู่ในใจ

นางเข้าไปในโลกใบเล็กของเส้าเทียน

มู่ชิงเกอไม่มีเวลาชื่นชมโลกใบเล็กที่เส้าเทียนสร้างขึ้นมาด้วยความเหนื่อยยาก แต่เก็บของที่ดูแล้วน่า จะใช้ประโยชน์ได้เก็บไว้ในกระเป๋าจัดเก็บของนางทันที

เวลาจำกัด นางจึงทำได้เพียงนำของออกมา เท่าที่จะทำได้

หลังครึ่งชั่วยามแล้ว นางก็กระโดดออกมาจากโลกใบเล็ก ส่วนวิญญาณเทพของเส้าเทียนก็ค่อยๆ สลายหายไปในมือของซือมั่ว

“จุ๊ๆๆ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคหนึ่งตายไปเช่นนี้เอง” มู่ชิงเกอส่ายหน้าจุปากพูด

ซือมั่วยิ้มพูดว่า “ในโลกนี้ แบ่งแยกเพียงแข็งแกร่งและอ่อนแอ หากพวกเราพบคนที่แข็งแกร่งกว่า ก็จะเป็นเหมือนเขา ความเป็นตายถูกกำไว้ในมือของคนอื่น”

“ดังนั้น พวกเราจะต้องแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น” มู่ชิงเกอพูดด้วยแววตาที่มั่นคง

ซือมั่วยกมือลูบผมมู่ชิงเกอเบาๆ พยักหน้าว่า “ข้าอยู่กับเจ้า ไม่ว่าสถานที่ใดเวลาใด พวกเราล้วนไม่ แยกจากกัน ชื่นชมทิวทัศน์ฟ้าดินร่วมกัน เผชิญศัตรูคู่อาฆาตร่วมกัน”

“อืม” มู่ชิงเกอแหงนหน้านิดๆ มุมปากผุดรอยยิ้มบางๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version