ตอนที่ 854
ข้าราชาเทวะจะประกาศเรื่องใหญ่
ผู้ดูแลตระกลูซางหลายคนร่วมกับผู้อาวุโสรองกับผู้อาวุโสสามต่างพุ่งเข้าไปในห้องซางซุนหวาง
“ท่านผู้นำตระกูลนี่มันเรื่องอะไรกันหรือ”
เวลานี้บนร่างพวกเขารวมทั้งร่างซางซุ่นหวางต่างผุดแสงสีแดงออกมาทำให้เหตุการณ์ดูน่าประหลาดยิ่งนัก
ใบหน้าซางซุนหวางงุนงงมีสีหน้าไม่ชอบใจนัก เขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะมีความหมายอะไรต่อตระกูลซาง
“ท่านตา!” มู่เสวี่ยอู่ก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยร่างที่ผุดแสงสีแดง
แววตานางมีความกังวลอยู่บ้าง นางใช้สายตากวาดผ่านทุกคนในห้องจนหยุดอยู่ที่ซางซุ่นหวางแล้ว บอกเขาว่า “ท่านตา พวกเราไปถามเหล่าผู้อาวุโสไท่ซ่าง ดีกว่า!”
“ใช่! ถูกต้อง พวกเราไปหาเหล่าผู้อาวุโสไท่ซ่าง พวกเขามีความรู้กว้างขวางควรจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลซาง” ผู้อาวุโสรองกล่าว
คนอื่นๆ ต่างผงกศีรษะเห็นด้วย
ซางซุนหวางไม่ได้รอช้าพยักหน้าว่า “ได้ ข้าจะไปถามดู พวกเจ้ารออยู่ในบ้านคอยปลอบใจผู้คนอย่าได้ตื่นตกใจเกินไปจนวุ่นวาย”
พูดจบเขาบอกมู่เสวี่ยอู่ว่า “เสวี่ยอู่ เจ้าไปพร้อมกับข้า”
มู่เสวี่ยอู่ผงกศีรษะแล้วตาหลานสองคนก็วิ่งไปยังพื้นที่ของตระกูลทันที เมื่อพวกเขาไปถึงก็เข้าไปในเขตบำเพ็ญของเหล่าผู้อาวุโสอย่างรีบเร่ง พบว่าเหล่าผู้อาวุโสไพ่ซ่างต่างนั่งขัดสมาธิอยู่บนแผ่นรองนั่ง บนร่างพวกเขาล้วนผุดแสงสีแดงโดยไม่มีข้อยกเว้น
“ผู้อาวุโสไท่ซ่าง!” ซางซุ่นหวางเรียกไปทีหนึ่ง
ผู้อาวุโสไท่ซ่างซึ่งเป็นหัวหน้าค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาชราคู่นั้นบังเกิดอารมณ์ตื่นเต้นพูดว่า “ผู้นำ ตระกูล เจ้ามาแล้ว!”
“ผู้อาวุโสไท่ซ่าง เกิดอะไรขึ้นหรือ” ซางซุ่นหวางแบสองมือออกแล้วมองแสงสีแดงที่ผุดออกจากร่าง
และพูดด้วยความตื่นกลัว
ผู้อาวุโสไท่ซ่างพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เพราะเจ้าหนูชิงเกอ!”
“ชิงเกอ!”
“ลูกพี่!”
ซางซุนหวางกับมู่เสวี่ยอู่พูดขึ้นพร้อมกัน
“หรือว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับชิงเกอหรือ” ซางซุ่นหวางถามเสียงหลง
เวลานี้เหล่าผู้อาวุโสไท่ซ่างต่างลืมตา หลังจากสบตากันแล้วต่างเห็นความตื่นเต้นยินดีในดวงตาของ ฝ่ายตรงข้าม
พวกเขาบอกซางซุ่นหวางพร้อมกันว่า “ใช่แล้ว เพราะหลานสาวคนดีของเจ้า พวกเราตระกูลซางจะได้กลับมาเชิดหน้าชูตากันอีกครั้งแล้ว”
ซางซุ่นหวางสะดุ้งขึ้นมาเบิกตาโพลงทั้งสองข้าง แล้วพูดอย่างสั่นสะท้านว่า “เหล่าผู้อาวุโสไท่ซ่างหมายความว่าเจ้าหนูชิงเกอคนนี้สามารถอยู่ในแผ่นดินเทพมารทั้งชุบชีวิตสายเลือดตระกูลซางได้แล้วหรือ”
“ถูกต้อง!” หัวหน้าผู้อาวุโสไท่ซ่างพยักหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เยี่ยมจริงๆ เลย ถึงแม้พวกเราไม่เคยได้ข่าวลูกพี่ แต่เวลานี้นางสามารถชุบชีวิตสายเลือดตระกูลซางได้แล้วย่อมจะต้องอยู่รอดปลอดภัย ท่านตาดีจริงๆ เลย” มู่เสวี่ยอู่ตื่นเต้นตามไปด้วย
ซางชุ่นหวางผงกศีรษะด้วยความสะท้อนใจ “ใช่แล้ว เด็กคนนี้จากไปทียี่สิบกว่าปี เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนป่านนี้ยังไม่เคยส่งมาแม้แต่จดหมาย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยพวกเราก็รู้ว่านางปลอดภัยดีอยู่”
บนเก้าชั้นฟ้า มู่ชิงเกอมองดูเลือดตัวเองค่อยๆ ห่อหุ้มเรือเล็กลำนี้ไว้จนมิดชิด เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกแห่งยุคกลางนั้นนางไม่รู้เลยแม้แต่นิด
ทันใดนั้น ขณะที่เลือดซึ่งไหลอยู่ในเรือลำเล็กไปรวมตัวอยู่ในที่เดียวก้นเรือเล็กลำนั้นก็ราวกับมีชีวิตขึ้นมากลายเป็นลำแสงสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในหว่างคิ้วของมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอสะดุ้งแล้วหลับตาสองข้าง
‘เรือต้าเซียน เป็นยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพที่ข้าใช้พลังทั้งชีวิตสร้างขึ้นมา ยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพนี้ต่างกับอย่างอื่น จะต้องควบคุมโดยเชื้อสายตระกูลซางเท่านั้น โดยใช้วิญญาณเทพเป็นวิญญาณแห่งยุทธภัณฑ์หลอมเป็นเนื้อเดียวกับเรือนี้ เรือต้าเซียนมีความหมายตามชื่อ หมายถึงสามารถอาศัยเรือลำนี้ท่องไปได้ถึงสามพันโลกได้ตามแต่ใจคิด กระทั้งสามารถเข้าไปในโลกหลักตามตำนานได้ วาสนานั้นมีไปมีมา ข้าขอเพียงให้ชนรุ่นหลังที่ได้เรือลำนี้ไปใช้งานมันด้วยจิตสุจริต’
มู่ชิงเกอลืมตาด้วยความสะท้านใจ นางเข้าใจแล้วว่าที่บรรพชนตระกูลซางเอ่ยถึงสิ่งของที่เหลือไว้ให้ นางชิ้นหนึ่งนั้นคืออะไร ที่แท้ก็คือเรือต้าเซียนที่เหมือนกับปีศาจลำนี้นี่เอง
สามพันโลกนั้นไม่ใช่โลกแห่งยุคกลางหรือโลกหลินชวน…
สามารถขนานนามเป็นโลกต้าเชียนหรือพันใหญ่ได้ ตอนนี้บรรดาโลกที่นางรู้จักแล้วคงมีแต่แผ่นดินเทพมารเท่านั้น ส่วนโลกแห่งยุคกลางและโลกหลินชวนนั้นเป็นเพียงโลกที่อิงอยู่กับโลกเสี่ยวเซียนหรือพันเล็ก เป็นเพียงโลกธรรมดาเท่านั้น
หากทฤษฎีต้นไม้โลกเป็นความจริง สามพันโลกก็คือกิ่งก้านอื่น
เมื่อมีเรือต้าเซียนแล้ว นางก็สามารถกระโดดได้ตามใจเข้าไปในโลกต้าเซียนอื่นโดยไม่ได้รับผลกระทบใด
นี่เป็นการฝืนกฎแห่งสวรรค์จริงๆ
ขณะที่มู่ชิงเกอเข้าใจถึงการใช้งานของเรือต้าเซียน ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือมีความหวังที่จะหาเจียงหลีพบแล้ว
การหายสาบสูญของเจียงหลี ซือมั่วช่วยนางตามหาทั้งโลกมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนกับโลกเสี่ยวเซีย น แต่ก็ล้วนไม่ได้ผล โอกาสเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ นางตกเข้าไปในโลกต้าเซียนอื่น
คล้ายกับโลกต้าเซียนที่เผ่าอี้อาศัยอยู่ หากไม่ใช่เพราะสงครามใหญ่ระหว่างเทพมารทำให้เกิดรอยปริ แยกขึ้น พวกเขาจะเข้ามาถึงที่นี่ไม่ได้โดยเด็ดขาด
ทำนองเดียวกัน พวกเขาจะไปโลกต้าเซียนอื่นได้ ก็ยากเย็นแสนสาหัส
ส่วนเรือต้าเซียนก็สามารถทดแทนจุดนี้ได้
มู่ชิงเกอเข้าใจในทันทีว่าถึงคำพูดสุดท้ายของบรรพชนตระกูลซางก่อนจากไปและคำพูดของโห่วที่ว่า ทุกอย่างล้วนเกิดจากความละโมบโลภมากเนื่องจากอยากก้าวเข้าสู่ขั้นที่สูงกว่า
ไม่ว่าจะเป็นราชันย์โอสถจอมเทพ เคล็ดวิชาเทวะ เรือต้าเซียน หรือเน่ยตันของโห่ว
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความหวังในการออกจากโลกต้าเซียนนี้ มิน่าเล่าพวกเส้าเทียนถึงพยายามแย่งชิง
อารมณ์ของมู่ชิงเกอสงบลงมากแล้ว
นางนำสิ่งของที่เหลือของเส้าเทียนมาคัดเลือก แบ่งประเภทแล้วเก็บไว้ในโลกใบเล็กที่นางบุกเบิกใหม่ ส่วนเรือต้าเซียนนั้น นางยังไม่อยากให้มีคนรู้เห็น
เหตุผลของการครองของวิเศษจนทำให้มีเคราะห์นั้นนางเข้าใจดีอยู่ ในเมื่อไม่มีใครรู้แล้วเหตุใดนางจะต้องไปบอกให้ชาวบ้านรู้ด้วยเล่า
เรื่องเรือต้าเซียนนั้น มู่ชิงเกอคิดเพียงให้ซือมั่วร่วมรับรู้ด้วยเท่านั้น
ทั้งคู่เคยนัดแนะกันว่าหลังจากเรื่องราวทุกอย่างสงบลงแล้วจะท่องเที่ยวสามพันโลกไปด้วยกัน ไปค้นหาโลกหลักตามตำนาน เวลานี้เครื่องมือใช้เดินทางมีอยู่แล้ว ต้องดูว่าเมื่อไรที่พวกเขาสามารถวางทุกสิ่งทุกอย่างได้ด
ไม่คิดรอและไม่สามารถรอได้
ขณะที่มู่ชิงเกอเดินออกจากห้องลับได้ตัดสินใจเรื่องสำคัญยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง
ขณะอยู่ที่หลินชวนนางเคยรับปากซือมั่ว เรื่องที่นางพูดไว้ก็สมควรเป็นจริงได้แล้ว ถึงแม้ว่าคำพูดนั้นแม้แต่ซือมั่วยังเข้าใจว่านางพูดเล่น แม้เรื่องที่จะทำนั้นจะสะเทือนฟ้าดินมากมายเพียงไร
แต่เรื่องที่สมควรทำนางก็จะต้องทำ
“ส่งเทียบเชิญให้แผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร เชิญราชาเทวะและราชาเทวะน้อยทุกดินแดนมาเก้าชั้นฟ้า ทั้งเผ่าเฟิ่งหวงในป่าอสูรและเผ่าภูติภูเขาล้วนเชิญมาให้หมด บอกพวกเขาว่า หนึ่งเพื่อฉลองการฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้า สองข้ามีเรื่องใหญ่จะประกาศ!” มู่ชิงเกอเดินออกมาแจ้ง ให้ซวีซิว ราชครู หยินเฉิน ชูเนี่ยน ไป๋สี่ มั่วหยาง…ได้รู้
ทุกคนต่างตกตะลึงมองนางด้วยความงุนงง
เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่อะไรหรือ
แต่มู่ชิงเกอไม่ได้อธิบาย แววตาที่คมกริบใสแจ๋วกวาดผ่านทุกคน เลิกปลายคิ้วเล็กน้อยแล้วเปิดปากว่า “ยังงงกันอยู่ทำไม”
ชูเนี่ยนเพิ่งมาถึงเก้าชั้นฟ้าเพียงไม่กี่วัน บอกมู่ชิงเกอว่า “ข้าจะไปป่าอสูร”
พูดจบก็แปลงเป็นเฟิ่งหวงเก้าสีกางปีกบินไป