ตอนที่ 865
คืนทั้งต้นคืนทั้งดอก!
“ช้าก่อนราชาเทวะเฟิ่งเทียน”
ขณะที่หลียวนกำลังจะจากไปด้วยความโมโห จู่ๆ กลับถูกมู่ชิงเกอเรียกไว้
คนที่เหลือไม่เข้าใจสาเหตุ แต่ตอนที่หลียวนละสายตากลับมามองเห็นความเหยียดหยามในสายตา ของมู่ชิงเกอก็ได้สติกลับมาในชั่วพริบตา นางไม่เคยลืมว่าตนเคยทำอะไรไว้กับซือมั่ว และชายผู้นั้น หลังจากที่ลบล้างคำสาป คาดไม่ถึงว่านานวันแล้วก็ยังไม่มาหาเรื่องตน…
ตอนนั้น นางยังคิดอย่างไร้เดียงสาว่าเขาอาลัยในมิตรภาพเก่า แม้เขาจะปฏิเสธตน แต่ตั้งแต่ต้นจนจบตนก็ยังคงมีมิตรภาพอยู่เล็กน้อย ตอนนี้นางเพิ่งจะได้สติ ที่ซือมั่วไม่ได้ไม่มาหานาง แต่กำลังรออยู่ต่างหาก
รออะไร
นางไม่รู้ แต่ก็เหมือนจะรู้
“เจ้าคิดจะทำอะไร” หลียวนถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว
ส่วนนางกำนัลที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที
ความหวาดกลัวในนํ้าเสียงของนาง ไม่อาจปิดบังใครได้ นี่ทำให้จินกวงและคนทั้งสี่ที่อยู่ใกล้นางที่ สุดต่างขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาเกิดความสงสัย
คาดไม่ถึงว่าพวกเขารู้สึกได้ว่าราชาเทวะเฟิ่งเทียนกำลังกลัว
กลัวอะไร
มู่ชิงเกอเพียงแค่ตะโกนเรียกนางประโยคเดียวก็เท่านั้นเอง
แม้แต่ราชาเทวะจงซานและราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยยังเหลือบตาขึ้นมา กวาดมองไปยังราชาเทวะหญิงที่ เคยมีเพียงคนเดียวบนแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรผู้นี้
“ราชาเทวะเฟิ่งเทียน ท่านตื่นตระหนกเช่นนั้น ทำไมกัน ราชาเทวะมู่เพียงแค่เรียกท่านเท่านั้น” ราชาเทวะเฝินไห่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
หลียวนหนังตากระตุก สูดลมหายใจเข้าลึก ยืดหลังตรง กล่าวอย่างสูงส่งสง่างาม “ข้าจะตื่นตระหนกได้อย่างไร”
นางคิดถี่ถ้วนแล้ว ที่นี่ไม่ใช่แดนมาร ต่อให้จะเป็นเก้าชั้นฟ้าของมู่ชิงเกอ แต่ว่าต่อหน้าราชาเทวะมากมายเพียงนี้ พวกเขาจะทำอะไรตนได้
“ใช่แล้ว ราชาเทวะเฟิ่งเทียน ข้าเพียงแค่เรียกท่าน ไยจะต้องตื่นตระหนกเช่นนี้” มู่ชิงเกอรีบกล่าวต่อ จากราชาเทวะเฝินไห่ด้วยนํ้าเสียงหยอกเย้า
คิดจะหนีหรือ
ไม่มีทาง
วันนี้ที่เชิญนางมาก็เพื่อทวงหนี้!
ตอนแรก เรื่องที่นางสะกดซือมั่วไว้ กระทั่งยังสาปซือมั่ว นางจดจำไว้ในส่วนลึกของจิตใจมาโดย ตลอด ไม่เคยลืมเลือน
“ข้าบอกแล้ว ข้าไม่ได้ตื่นตระหนก!” หลียวนกล่าวเสียงต่ำกัดฟัน นางยังคงแสดงท่าทีสูงส่งเพียบ พร้อม รักษาความสมบูรณ์แบบของนางต่อหน้าทุกคนต่อไป
ทว่า ยิ่งนางเป็นเช่นนี้ รอยยิ้มมุมปากมู่ชิงเกอก็ยิ่งกว้างขึ้น
หลียวนกล่าวด้วยความหงุดหงิด “เจ้าเรียกข้าทำไม ข้าจะไปแล้ว เจ้าจะไม่ให้ไปหรือไร”
มู่ชิงเกอยิ้มกล่าว “ข้าเพียงแค่มีเจตนาดี อยากเตือนสักหน่อย บนคอของท่านคล้ายมีอะไรบางอย่าง”
ลำคอ!
เดิมที คนในลานทั้งหมดล้วนเป็นผู้ชาย อีกทั้งยังไม่ได้สนใจลำคอของหลียวน แต่ว่าเมื่อถูกมู่ชิงเกอเตือนเช่นนี้ นอกจากซือมั่วแล้ว คนทั้งหมดก็มองไปที่คอของหลียวนด้วยความสงสัย
วันนี้หลียวนสวมอาภรณ์ชาววัง งามสง่าสูงส่ง มีเสน่ห์อย่างถึงที่สุด ปกเสื้อปิดคอแน่น เผยให้เห็น เพียงลำคอที่ขาวดุจหิมะและยาวระหงช่วงหนึ่ง
ตอนนี้ เพราะคำพูดของมู่ชิงเกอ หลียวนจึงยกมือไปลูบคอตัวเองตามจิตใต้สำนึก แม้แต่นางกำนัล สองคนข้างหลังนางก็ยังมองไปทางลำคอราชาเทวะของตน
เพียงแต่ หลียวนยังไม่ทันจับ คนที่เหลือต่างก็สังเกตเห็นว่าตำแหน่งที่ลำคอกับปกเสื้อของนางสัมผัส กันนั้นมีผิวหนังที่ต่างไปจากผิวรอบข้างอย่างยิ่งปรากฎขึ้นมา
ผิวบริเวณนั้น ดูทึบทะมึนไม่สว่าง แห้งเหี่ยวมีริ้วรอย ปรากฎความแก่ชราออกมาอย่างชัดเจน
กระทั่ง ข้างบนยังเห็นจุดด่างดำชนิดหนึ่งอย่างชัดเจน
ความจริงแล้ว ผิวแบบนี้ หากปรากฎอยู่บนร่างคนชราคนหนึ่งก็คงไม่ทำให้คนประหลาดใจอะไร แต่ ว่าเมื่อมันปรากฎอยู่บนร่างหลียวน ปรากฎอยู่บนร่างราชาเทวะหญิงชื่อดังที่สูงส่งสง่าผ่าเผย งดงามเพรียบพร้อมผู้หนึ่งกลับทำให้คนประหลาดใจ
หลังจากที่ตกใจเล็กน้อย ดวงตาราชาเทวะหลายคนก็เปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมา
ทว่า ตอนนี้ปลายนิ้วของหลียวนก็แตะเนื้อหนังเหี่ยวย่นส่วนนั้นเบาๆ แล้วเช่นกัน
ความรู้สึกที่ปลายนิ้ว ไม่ใช่ความละเอียดอ่อนเกลี้ยงเกลา เต็มไปด้วยความยืดหยุ่นที่คุ้นเคยในอดีต แต่กลับแห้งราวกับเนื้อไม้เก่าแก่ ทำให้คนรังเกียจ
“กรี๊ด!” หลียวนกรีดร้องเสียงแหลม ถอยไปข้างหลังอย่างตกอกตกใจ
เมื่อนางเคลื่อนไหวเช่นนี้ก็ร้อนไปถึงนางกำนัลรับใช้ข้างหลัง คนทั้งสองพากันก้าวมาข้างหน้าแต่ กลับถูกนางสะบัดมือผลักออก “ไสหัวออกไป!”
มือของหลียวนกุมลำคอของตัวเองแน่น มองไปรอบด้านด้วยสีหน้าหวาดผวา แววตาตื่นตระหนก
และหวาดกลัว
เพียงแต่ เมื่อนางเคลื่อนไหวเช่นนี้กลับทำให้แขนเสื้อกว้างของนางเลิกขึ้นไปถึงศอก เผยให้เห็นแขน เล็กๆ ทั้งหมด
เฮือกกก!
ตอนที่แขนท่อนนั้นของนางปรากฏออกมา รอบด้านก็มีเสียงดัง เป็นเสียงสูดหายใจหนึ่งครา
เหล่าราชาเทวะที่เคยรบมาร้อยครั้ง แม้เขาไท่ซานทลายลงตรงหน้าก็ไม่หวั่นเกรง รวมถึงเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นของมู่ชิงเกอต่างก็สูดลดหายใจเย็นเยียบอย่างอดไม่ได้ พากันเปลี่ยนสีหน้า
ฝ่ามือของหลียวน ยังคงมีผิวที่อ่อนนุ่ม ขาวดุจหิมะไร้ที่ติ นุ่มราวกับไร้กระดูก แต่ว่าตั้งแต่ข้อมือนาง ลงไป ผิวของนางกลับเผยให้เห็นสภาพอีกชนิดหนึ่ง
ชราภาพ เป็นสีดอกเลา หย่อนคล้อย มีรอยย่น…
เหมือนกันกับคนชราเหล่านั้นบนโลกมนุษย์ เต็มไปด้วยร่องรอยที่กาลเวลาทิ้งไว้ ผิวหนังบนแขน เพราะว่าหย่อนคล้อยห้อยตกจึงไม่มีความรู้สึกงดงามเลยแม้แต่นิดเดียว
“แขนข้า!” หลียวนมองไปถึงแขนของตน ภายใต้ความตื่นตกใจจึงปล่อยแขนลงดึงแขนเสื้อลงมาปิด แต่กลับเผยให้เห็นริ้วรอยบนลำคออีกครั้ง
เมื่อถูกคนเห็นแล้ว ปกปิดไปอีกก็ไม่มีประโยชน์
ผิวของหลียวนปรากฎให้เห็นในสภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นี่ทำให้คนในลานคาดเดาอย่างอด ไม่ได้ว่าผิวบนร่างนางจะเหมือนกับแขนที่แห้งเหี่ยวหย่อนหยาน เต็มไปด้วยรอยยับย่นหรือไม่
เมื่อคิดเช่นนี้ ความรู้สึกดีงามเล็กน้อยนั้นที่ยังคงมีต่อหลียวนก็ถูกพังทลายไปจนหมดจด
“ราชาเทวะเฟิ่งเทียน ท่านเป็นอะไรไป” ราชาเทวะจินกวงถามด้วยเจตนาอันดี
แต่ว่าหลียวนกลับกล่าวอย่างลุกลี้ลุกลน “ไม่! ไม่มีอะไร ข้ามีธุระด่วนต้องกลับแดนเฟิ่งเทียน ขอตัวก่อน”
พูดจบ นางก็คิดอยากจะหนีไป
ทว่า ตอนที่นางเตรียมจะผ่าช่องว่างออกไป กลับถูกดีดกลับเข้ามาอย่างแรง
นางหันหน้ามองไปทางที่นั่งราชาเทวะด้วยความตกใจกลัวและโมโห มองเห็นเพียงมือที่เก็บกลับไป อย่างเย็นชาของซือมั่ว
บริเวณที่เสื่อมสภาพบนผิวของหลียวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ผมสีดำขลับที่เต็มไปด้วยความมันวาว ก็เริ่มเปลี่ยนสีร่วงหล่น…
เพียงแค่ชั่วพริบตา รอบกายนาง ก็มีผมยาวของนางร่วงลงมาไม่น้อย
“กรี๊ดดด!” นิ้วมือทั้งสิบของหลียวนพันผมยาวๆ ที่ร่วงลงมาของนาง กรีดเสียงร้องแหลมด้วยความตกใจกลัวออกมา
ตอนนี้เวลานี้ เหตุไม่คาดคิดของร่างกาย ทำให้นางไม่ว่างจะไปซักถามผู้ใด!
ความแปลกประหลาดของร่างกายนาง ทำให้ภายในตำหนักใหญ่เงียบสงบลงมา คนในลาน ล้วน ไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้ใครบ้างจะมองความผิดปกติของนางไม่ออก
“ราชาเทวะเฟิ่งเทียน ฟังว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน แดนเฟิ่งเทียนของท่านรับสมัครเด็กหนุ่มอายุน้อยรูปงามจำนวนมากมาเป็นศิษย์โดยเฉพาะใช่หรือไม่” ตอนนี้มู่ชิงเกอกลับเอ่ยปากขึ้นช้าๆ ในนํ้าเสียงมีความหยอกล้อจางๆ
หัวใจหลียวนเต้นแรง หวาดกลัวขึ้นมาทันที
“แดนเทพเฟิ่งเทียนรับสมัครศิษย์ชาย เรื่องนี้ข้าเองก็เคยได้ยิน” ขณะเดียวกันราชาเทวะสือฟางแห่ง แดนเทพเหนือก็เอ่ยปากกล่าวทันที
ราชาเทวะแห่งแดนเซียนเหนี่ยวก็พยักหน้าเช่นกัน
เพียงแต่ พวกเขาไม่เข้าใจ จู่ๆ มู่ชิงเกอเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร
หลียวนเบิกตาทั้งคู่โต จ้องมองมู่ชิงเกอ ดวงตามีไฟโทสะพ่นออกมา
แต่มู่ชิงเกอกลับไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย กล่าวด้วยนํ้าเลียงที่เต็มไปด้วยการหยอกล้อ ”ข้าเคยได้ ยินว่ามีวิชามารแขนงหนึ่ง สามารถใช้เพศตรงข้ามอายุน้อยมาปรุงเป็นยาชนิดหนึ่งได้ หลังจากใช้แล้วก็จะสามารถรักษาความอ่อนเยาว์ไม่แห้งเหี่ยว ยิ่งเป็นผู้ที่งดงาม ผลลัพธ์ของยาที่กลั่นออกมาได้ก็จะยิ่งดี”