ตอนที่ 867
อย่าโหดร้ายเกินไปเลย!
“วางใจ ท่านตายตอนนี้ไม่ได้ ท่านต้องมองตัวเองแก่ลงทีละนิด ๆ หลังจากนั้นก็มองเลือดเนื้อบนร่างตัวเอง ลอกหลุดทีละชิ้น ๆ สุดท้าย ก็เหลือเพียงโครงกระดูกหนึ่งโครง” มู่ชิงเกอกล่าวเลียงเย็นเยียบ
คำพูดของนาง ทำให้ดวงตาหลียวนปรากฏความหวาดกลัว
‘ไม่! ข้าไม่อยากมองตัวเองแก่ลง น่าเกลียดลง กลายเป็นสัตว์ประหลาด!’ หลียวนตะโกนในใจ
มู่ชิงเกอจ้องมองนางอย่างเย็นชา “ทั้งหมดนี้เป็นท่านที่หาเรื่องใส่ตัว นี่เองก็เป็นผลสะท้อนกลับของวิชามารนั้น”
แน่นอน ผลลัพธ์เช่นนี้ ไม่ใช่การสะท้อนกลับของวิชามารนั้น แต่เป็นผลจากยาพิษของมู่ชิงเกอ เพียงแต่ตอนนี้ นางย่อมไม่อาจอธิบายได้
“เป็นเจ้า! เป็นเจ้าใช่หรือไม่!” ทันใดนั้น ในสมองหลียวนก็มีแสงสว่างหนี่งสายวาดผ่าน
จู่ ๆ นางก็นึกขึ้นได้ธูปเหล่านั้นที่ตนกลั่น ประสิทธิ์ภาพสั้นลงเรื่อย ๆ หลังจากที่มู่ชิงเกอไปยังดินแดนเฟิ่งเทียน
ก่อนหน้านี้ นางไม่เคยคิดถึงด้านนี้มาก่อน ทว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของมู่ชิงเกอและซือมั่วถูกเปิดเผย ในที่สุดหลียวนก็เกิดการคาดเดานี้
มุมปากมู่ชิงเกอยกขึ้นเบา ๆ ในดวงตามีความหยอกล้อและเย็นชา “ท่านกล้าฝันลม ๆ แล้ง ๆ กับผู้ชายของข้า ข้าก็ย่อมต้องลงมือสั่งสอน ข้าเองก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่ช่วยท่านอีกหนึ่งแรงก็เท่านั้นเอง”
การคาดเดาถูกมู่ชิงเกอยอมรับ ในใจหลียวนก็ตกใจอย่างยิ่ง นางมองไปรอบด้าน แต่กลับพบว่าคนทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวา หรือว่านางกำนัลรับใช้ของตนเองล้วนไม่มีการตอบสนองใด ๆ ต่อคำพูดของมู่ชิงเกอ ราวกับว่าไม่ได้ยิน
“เจ้า! เจ้าทำอะไร” หลียวนกล่าวด้วยความหวาดผวา
ตอนนี้ เสียงของนางแหบพร่าจนเหมือนยายแก่หนึ่งคน แม้แต่ตัวนางเองยังรู้สึกรังเกียจ
“รู้สึกไม่รื่นหูหรือ” จู่ ๆ มู่ชิงเกอก็เผยรอยยิ้มแปลกประหลาดออกมา รอยยิ้มนี้ทำให้หัวใจหลียวนสะดุ้ง บนสันหลังมีความรู้สึกเย็นเยียบหนึ่งกลุ่มวิ่งผ่าน นางอ้าปาก คิดอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับพบว่า เสียงที่แหบแห้งไม่น่าฟังของตน คาดไม่ถึงว่าหายไปแล้ว กระทั้งลำคอของนางก็ส่งเลียงออกมาไม่ได้อีกแม้แต่นิดเดียว!
‘เป็นเจ้า!’ หลียวนถลึงตาโต เงยหน้ามองไปยังมู่ชิงเกอด้วยความตกใจกลัว แต่นางกลับส่งเสียงไม่ออกเลยแม้แต่น้อย ส่วนพลังเทพของนางก็ถูกปิดกั้น ปัญญาเทวะถูกกัก แม้แต่เสียงยังส่งออกไปไม่ได้
มู่ชิงเกอยืดหลังตรงช้า ๆ มองลงมาที่หลียวน เอ่ยปากอย่างเย็นชา “ดูท่าแล้ว ผลสะท้อนกลับนี้ของนางจะกระทบไปถึงเสียงแล้ว หลังจากนี้ก็ไม่อาจพูดได้อีกต่อไป”
“สตรีเช่นนี้ จะสนใจนางอีกทำไม” เฝินไห่สะบัดแขนเสื้ออย่าง เหยียดหยาม
ราชาเทวะสือฟางเองก็มองหลียวนอย่างเย็นชา เอ่ยปากด้วยความเฉยเมย “ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีการลงโทษ”
เขาพูดเช่นนี้ออกไป นางกำนัลรับใช้ทั้งสองของหลียวน ก็คุกเข่าลงบนพื้นทันที โขกศีรษะขออภัย อย่างไรเสีย ราชาเทวะยังประสบหายนะ นางกำนัลรับใช้เช่นพวกนางจะหนีไปไหนได้
“นี่…ดินแดนเฟิ่งเทียนไม่ได้แต่งตั้งราชาเทวะองค์น้อย ซํ้าตอนนี้ หญิงแก่ผู้นี้ก็ไม่อาจปล่อยให้นางเป็นราชาเทวะได้อีก จัดการอย่างไรยังนับว่ายุ่งยากจริง ๆ ” ราชาเทวะเซียนเหนี่ยวแบมือกล่าว
ดูเหมือนว่า ตอนนี้ดินแดนเฟิ่งเทียนจะกลายเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ ทำให้พวกเขาปวดหัว
“ราชาเทวะคนใหม่ของดินแดนเฟิ่งเทียนไม่มีปัญหา เลือกคนที่มีอำนาจแข็งแกร่งที่สุด และมีบารมีที่สุดในกลุ่มพวกนางลูกศิษย์มารับหน้าที่ก็ได้แล้ว ตอนนี้ไห่เทียนฝั่งนั้น ไม่ใช่ว่ากำลังวุ่นวายอยู่หรือ เพิ่มดินแดนเพิ่งเทียนเข้าไปอีกหนึ่งแห่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ที่ต้องหารือก็คือหญิงอำมหิตผู้นี้…” สายตาราชาเทวะจินกวงตกลง บนร่างหลียวนช้า ๆ กล่าวเสียงเย็นเยียบ “ไม่รู้ว่านางทำร้ายเด็กหนุ่มผู้มีความสามารถในเผ่าเทพของเราไปมากน้อยเท่าไร ตอนนี้การกระทำผิดถูกเปิดโปง หากไม่ลงโทษให้หนัก ภายหลังมีคนเลียนแบบจะทำอย่างไร อีกอย่าง ข้าคิดว่าศิษย์หญิงเหล่านั้นในดินแดนเฟิ่งเทียนก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดรอบหนึ่ง ดูว่ามีผู้สมรู้ ร่วมคิดกับนักโทษผู้นี้ด้วยหรือไม่”
“ข้าเห็นด้วย!”
“ข้าก็เห็นด้วย!”
“เห็นด้วย!”
เมื่อราชาเทวะจินกวงพูดจบ ทุกคนก็พากันคล้อยตาม
กระทั่งราชาเทวะจงซานก็เห็นด้วย ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยที่แม้จะไม่เอ่ยปาก แต่กลับพยักหน้าอยู่เช่นเดียวกัน
“เช่นนั้นก็ปรึกษากันเสียหน่อย ควรจะลงโทษหญิงผู้นี้อย่างไรดี” ราชาเทวะจินกวงชี้ไปยังหลียวนที่หมอบอยู่บนพื้น
สิ้นหวังลงแล้ว นางยังพูดอะไรได้อีก หลียวนเงยหน้า มองซือมั่ว
แต่ว่า ทั้งใบหน้าเขากลับเย็นชา ไม่มีท่าทีสงสารเลยแม้แต่น้อย ชั่วพริบตานั้น หลียวนรู้สึกได้ว่าหัวใจของตนแหลกสลายเป็นฝุ่นผง ทันใดนั้น ร่างของมู่ชิงเกอก็เคลื่อนลงมาเบา ๆ บังทัศนวิสัยของนาง และตอนนี้เอง คนที่เหลือก็กำลังหารือถึงบทลงโทษของหลียวน
“สตรีแบบนี้ ฆ่าทิ้งยังน่ารังเกียจ ไม่สู้เนรเทศนางไปที่มหาสมุทรดวงดาวแล้วแต่บุญกรรม” เฝินไห่เสนอขึ้นเป็นคนแรก
“วิธีนี้ไม่เลว แต่หากนางหนีไปจะทำอย่างไร” ราชาเทวะเซียนเหนี่ยว พูดจบก็กล่าวเตือนสติอีกครั้ง
“หนีหรือ” ราชาเทวะเฝินไห่ยิ้มเยาะ “ลบล้างรากวิญญาณของนาง ขจัดปัญญาเทวะของนาง ทำลายพลังเทพของนาง ดูสิว่านางจะหนีอย่างไร”
‘ไม่! ไม่เอา…!’ หลียวนได้ยินคำพูดของพวกเขาชัดเจนแจ่มแจ้ง นางไม่อยากถูกเนรเทศไปที่มหาสมุทรดวงดาว ไม่อยากมองร่างกายตัวเองเน่าเปื่อยลงทีละส่วน ๆ นางยกมือพุ่งไปที่ดวงตาทั้งสองของตน
แต่ว่า ตอนที่ปลายนิ้วกำลังจะจิ้มดวงตาทั้งคู่ของตนบอด มือของนางกลับขยับไม่ได้แล้ว
“ท่านอยากควักลูกตาเอง ไม่ให้รับรูอะไรงั้นหรือ ข้าไม่อนุญาต ท่านไม่เพียงแต่ตาบอดไม่ได้แล้ว ยังตายไม่ได้ด้วย ข้าจะทำให้ท่านรู้สึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านเจ็บปวดที่สุด แล้วค่อยตายจากไปเงียบ ๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์เกินผู้ใด” มู่ชิงเกอกล่าวอย่างเย้ยหยัน
“ตกลงเช่นนี้แล้วกัน” ราชาเทวะซุ่ยซิงกล่าวอย่างรวบรัด เขาไม่อยากมองหลียวนอีกแม้แต่แวบเดียว
“ข้าจะลบล้างรากวิญญาณนางก่อน” ราชาเทวะสือฟ่างยื่นมือออกไปทันที พลังหนึ่งกลุ่มโจมตีเข้าไปในกระหม่อมของนาง
พรูด!
หลียวนกระอักเลือดออกมาหนึ่งครา เพียงแต่ตอนนี้นางพูดไม่ได้ แม้แต่เสียงร้องที่เจ็บปวดก็ร้องไม่ออก
ดวงตาทั้งคู่ของนางแดงก่ำ กระจายเต็มไปด้วยเส้นเลือด ใบหน้าแก่ชรา แห้งเหี่ยวซีดเซียวต่อไป
“ข้าจะทำลายพลังเทพของนาง” ราชาเทวะเซียนเหนี่ยวก็ลงมือเช่นกัน
พลังในฝ่ามือเขา ดึงหลียวนขึ้นมาจากพื้น ตกลงบนจุดตันเถียนส่วนท้องของนางโดยตรง
พรูด!
หลียวนตกลงมาราวกับปุยขาวของเมล็ดหลิวท่ามกลางสายลม โลหิตสดพ่นออกมาอีกครั้ง
“เช่นนั้นให้ข้าขจัดปัญญาเทวะของนางเถิด” ราชาเทวะเฝินไห่กล่าว
ปัญญาเทวะ เมื่อถูกขจัด หลียวนก็จะกลายเป็นสามัญชนคนหนึ่งอย่างสิ้นเชิง สามารถรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับไม่มีทางฟื้นฟูได้อีก พลังหนึ่งกลุ่มโจมตีเข้าที่หว่างคิ้วของหลียวน ทำลายปัญญาเทวะของนางจนแหลกละเอียด
นางอ้าปากกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ดวงตาเต็มไปด้วยโลหิต ความเจ็บปวดทำให้ผิวของนางกลายเป็นสีม่วงแก่ชนิดหนึ่ง ทำให้นางเหมือนศพแห้ง ชวนให้คนหวาดกลัว
ทันใดนั้น เข็มน้ำแข็งสองเล่มก็ยิงออกมาจากข้างหลัง ยิงตรงเข้าไปในกระดูกสะบักของหลียวน เจ็บปวดจนนางแหงนหน้าอ้าปาก เปล่งเสียงร้องที่ไม่มีออกมา น้ำตาใส ๆ สองสายไหลลงจากหางตา
“เข็มน้ำแข็งสองเล่มนี้ทะลุผ่านกระดูกสะบักของนางแล้ว ชั่วชีวิตนี้ของนาง ไม่อาจบำเพ็ญได้อีกต่อไป ไม่ได้แม้กระทั่งวิชามาร” ราชาเทวะจงซานกล่าวอย่างเย็นชา
“เช่นนั้นข้าคงทำได้เพียงกักขังวิญญาณเทพของนางไว้ในร่างกายนางตลอดไป เมื่อร่างนางตายลง วิญญาณเทพก็จะแตกสลายตามไปด้วย” ราชาเทวะจินกวงออกมือ กักวิญญาณเทพของหลียวนได้ทันที ถูกการโจมตีสองชั้นที่ทรมานทั้งวิญญาณเทพและร่างกายรอบนี้ หลียวนทนรับไม่ไหวอยู่นานแล้ว
ทว่าตอนนี้ มู่ชิงเกอกลับโน้มตัวลง เข้าไปใกล้นาง กล่าวเสียงต่ำ “จำไว้ชาติหน้า อย่าได้เพ้อพกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ใช่ของของเจ้า!”