ตอนที่ 876
เก้าชั้นฟ้าคิดจะทำอะไร
ระยะนี้ในแผ่นดินเทพมาร มีข่าวข่าวหนึ่งแพร่สะพัดออกไป
เก้าชั้นฟ้าบอกว่า ต้องการรับบุคคลที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยม คุณธรรมสูงส่ง อุปนิสัยชื่อสัตย์ โดยไม่จำกัดจำนวนในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรเข้ามาในเก้าชั้นฟ้า เมื่อข่าวข่าวนี้แพร่ออกไป ชั่วขณะก็กลบข่าวหมั้นหมายของราชาเทวะมู่แห่งเก้าชั้นฟ้าเมื่อสามวันก่อนไปสิ้น
ผู้ทำหน้าที่คัดเลือกคนที่ต่อแถวยาวเหยียดอยู่นอกเก้าชั้นฟ้าคือมั่วหยางและหยินเฉิน
ข่าวยิ่งแพร่ก็ยิ่งไกล และยังมีคนเดินทางมายังแผ่นดินเทพตะวันตกไม่ขาดสาย เฟิงหลินเยี่ยตู้ในแผ่นดินเทพสี่สมุทรก็กำลังดำเนินการด้วยความเร็วสูง ทุกๆ วันเก้าชั้นฟ้าจะมีใบรายชื่อใหม่ๆ ส่งเข้ามา และเฟิ่งหลินเยี่ยตู้หน่วยข่าวกรองของมู่ชิงเกอหน่วยนี้จะรับผิดชอบ ตรวจสอบรายละเอียดที่มาของคนในใบรายชื่ออย่าง ละเอียดภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
แน่นอนว่าขั้นตอนนี้ล้วนดำเนินการอย่างเป็นความลับ ไม่อาจป่าวประกาศออกไป
แต่ว่า วิธีการรับสมัครคนใหม่เข้ามาโดยไม่จำกัดจำนวนของเก้าชั้นฟ้า ยังคงก่อให้เกิดมรสุมหนึ่งลูกพัดกระพือในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรอยู่ดี
ไม่ว่าจะเป็นเมืองมนุษย์ธรรมดา หรือว่าเมืองมนุษย์เทพ หัวข้อสนทนานี้ต่างก็เป็นหัวข้อสนทนาอันดับหนึ่ง ส่วนอันดับที่สองก็คือข่าวที่มู่ชิงเกอจะจัดงานพิธีสมรสกับเจ้าแห่งมาร อันดับสามคือการเปลี่ย แปลงของแดนเทพในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร
หัวข้อสนทนาอันดับสามนี้ ดูเหมือนไม่มีชื่อของมู่ชิงเกอ ไม่มีชื่อของเก้าชั้นฟ้า แต่ในความเป็นจริง คนที่รู้ เรื่องราวในนั้น ต่างก็ทราบดีว่า ทั้งหมดนี้ล้วนมีความ
เกี่ยวข้องที่ไม่อาจแยกออกจากมู่ชิงเกอ
“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ ช่วงนี้เก้าชั้นฟ้ากำลังรับสมัครคน”
“นี่มีอะไรน่าแปลก ปีนั้นตระกูลมู่เสียหายยับเยิน คนในตระกูลที่เหลืออยู่ก็มีจำนวนไม่มาก ตอนนี้ราชาเทวะมู่ก่อตั้งเก้าชั้นฟ้าขึ้นใหม่อีกครั้ง ทั้งยังประกาศอำนาจทั่วทั้งแผ่นดินเทพตะวันตก เก้าชั้นฟ้ารับสมัครคนไม่ใช่เรื่องปกติที่สุดหรอกหรือ”
“แต่ว่าประกาศรับสมัครคนครั้งนี้เร่งด่วนเกินไปเล็กน้อย พวกเจ้าดูแดนเทพอื่นๆ สิ มีที่ไหนบ้างที่ไม่ค่อยๆ รับสมัคร เก้าชั้นฟ้าทำเช่นนี้ดูเหมือนขาดคนอย่างยิ่งจริงๆ”
“เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราจึงมีโอกาสอย่างไรเล่า เฮ้อที่ปีนั้นพวกเราไม่ถูกคัดเลือกไปยังแดนเทพอื่นๆ ไม่แน่ว่ากำลังรอเก้าชั้นฟ้านี้อยู่ก็เป็นได้”
“ข้ายังได้ยินว่า แดนเทพที่ราชาเทวะเสียชีวิตเหล่านั้น สูญเสียผู้นำ วุ่นวายอย่างยิ่ง มีศิษย์ไม่น้อยจากมา มุ่งหน้าไปยังแผ่นดินเทพตะวันตกคล้ายคิดจะพึ่งพาเก้าชั้นฟ้าแล้ว”
“แต่ว่า ตามข่าวลือ แม้เก้าชั้นฟ้าจะรับสมัครคนอยู่ต่อเนื่อง แต่ขั้นตอนการคัดเลือกก็เข้มงวดอย่างยิ่ง ไม่มีเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวแม้แต่นิดเดียว คนที่ตอนแรกเข้าไม่ได้แม้แต่แดนเทพเช่นพวกเรา ไปเก้าขั้นฟ้าแล้วจะเข้าได้หรือไร”
“นั้นก็ไม่แน่ กล่าวกันว่ารายละเอียดการคัดเลือกของเก้าขั้นฟ้าไม่เหมือนแดนเทพอื่นๆ พวกเราอาจจะมีโอกาส”
“ใช่ๆๆ ไม่ลองเสียหน่อย ใครจะรู้ว่าจะได้หรือไม่ได้”
“เช่นนั้นก็ดี พวกเราดื่มสุราถ้วยนี้ให้หมดแล้วเดินทางไปเก้าชั้นฟ้า ลองเสี่ยงโชคด้วยกัน”
บทสนทนาต่างๆ แทบจะเกิดขึ้นในเมืองแต่ละแห่งบนแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร ทุกวัน กลุ่มคนยาวเหยียดไม่ขาดสาย ต่างก็มารวมตัวกันที่แผ่นดินเทพตะวันตก
ในเก้าชั้นฟ้า มู่ชิงเกอกลับมาจากแดนมารแล้ว
นางกับซือมั่วเข้าใจดี ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะวางเรื่องทั้งหมดลงแล้วอยู่อย่างสงบสุข ซือมั่วกำลังเตรียมการอยู่เงียบๆ นางเองก็ไม่อาจรั้งท้ายได้แม้แต่
ก้าวเดียว
พิธีสมรสก็ต้องเดินหน้า
และภัยร้ายที่ราวกับก้างที่ติดคอนั้นก็ต้องหาวิธีมาจัดการเช่นกัน
เพียงแต่…ช่วงนี้ฝั่งนั้นเงียบสงบเกินไปจริงๆ เงียบสงบจนทำให้คนรู้สึกหวั่นใจอย่างไม่มีสาเหตุ
มู่ชิงเกอนั่งอยู่ในห้องหนังสือของวังราชาเทวะ เงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารราชการหนาๆ มองไปนอกหน้าต่าง ดวงตาที่ใสสะอาดปรากฎความเยือกเย็น และ
ยังมีการครุ่นคิด
ในมือนาง ยังมีใบรายชื่อหนึ่งฉบับ พู่กันหนึ่งด้าม ลายเส้นบนใบรายชื่อยังไม่แห้งดี มีกลิ่นหอมของนํ้าหมึกกระจายออกมา
เสวี่ยหยา กอบเอกสารราชการเข้ามา มองเห็นท่าทางขมวดคิ้วเบาๆ กลางหว่างคิ้วนาง แม้เป็นเช่นนี้ท่าทีครุ่นคิดนี้ก็ไม่อาจทำลายความงามแม้เพียงครึ่งส่วนของ นางได้
แสงอาทิตย์นอกหน้าต่าง ส่องต้องลงบนใบหน้าของมู่ชิงเกอ ขับจนผิวพรรณของนางเปราะบางจนคล้ายลมพัดก็ปลิว เครื่องหน้ายิ่งดูมีมิติงดงาม
เสวี่ยหยาจ้องมองนางจนตะลึงงัน จากนั้นจึงได้สติกลับมา เดินไปข้างหน้าต่อ
เมื่อนางเข้าไปใกล้ มู่ชิงเกอก็เก็บอารมณ์วางสายตาลงบนเอกสารที่นางกอบเข้ามา
“ราชาเทวะ นี่คือเอกสารที่เฟิงหลินเยี่ยตู้ส่งมาล่าสุด” เสวี่ยหยาแบ่งประเกทเอกสารลงอย่างเรียบร้อย
เอกสารบนโต๊ะหนังสือนี้ต่างก็วางกองตามเขต พื้นที่ ตามเวลา เพื่อให้มู่ชิงเกอหยิบได้สะดวก ยังมีอีกส่วนหนึ่ง เป็นใบรายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่หยินเฉินและมั่วหยางส่งเข้ามา
คนทั้งหมดต่างก็คิดว่า การประเมินผลของเก้าชั้นฟ้ามีเพียงมั่วหยางและหยินเฉินที่เป็นผู้ดูแล แต่พวกเขากลับไม่ทราบว่าใบรายชื่อที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก เหล่านี้จะส่งมาที่มู่ชิงเกอและคัดเลือกโดยนางหนึ่งรอบ หลังจากนั้นก็ร่างใบรายชื่อออกมาส่งให้เฟิงหลินเยี่ยตู้ ทำการตรวจสอบภูมิหลัง จากนั้นเฟิงหลินเยี่ยตู้ก็จะตรวจสอบผลลัพธ์และส่งกลับมา หลังจากที่บ่าวทั้งสี่คัดเลือกอีกหนึ่งรอบแล้วก็จะส่งคนที่คัดเลือกออกมาไปให้มู่ชิงเกอและตัดสินใจโดยนางอีกครั้ง
“อืม” มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ พู่กันในมือจรดลงบนสมุด เขียนชื่อไม่กี่ชื่อ จากนั้นจึงวางพู่กันลง ยื่นสมุดให้เสวี่ยหยา “ส่งไป”
เสวี่ยหยาใช้สองมือรับไว้พยักหน้าเบาๆ
นางลังเลเล็กน้อย เม้มปากกล่าวถาม “ราชาเทวะ เหตุใดพวกเราต้องทำการคัดเลือกที่ซับซ้อนและละเอียดเพียงนี้ด้วย”
มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นจากเอกสารราชการ มองนางแล้วกล่าว “ช่วงเวลาพิเศษวิธีการพิเศษ พวกเราต้องการผู้ที่ไว้ใจได้ ภักดี เชื่อฟังคำสั่งหนึ่งกลุ่มโดยด่วนเพื่อตั้งเป็นกองทัพ ข้าไม่มีเวลามาค่อยๆ อบรม ทำได้เพียงเลือกผู้ที่ดีเลิศที่สุดออกมา”
เสวี่ยหยาถอยออกไปคล้ายเข้าใจคล้ายไม่เข้าใจ
หลังจากที่นางเดินออกไปแล้ว มู่ชิงเกอกลับพิงพนักพิง จ้องมองเอกสารที่กองดั่งภูเขาบนโต๊ะ เม้มปากไม่พูด
ยุคนั้นในชาติที่แล้วของนาง เมื่อประเทศคัดเลือกทหาร หลังจากผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวดแล้ว ก็ทำการตรวจสอบฐานะภูมิหลังเช่นเดียวกัน ตรวจดู คุณลักษณะจากด้านข้าง ตลอดจนสิ่งแวดล้อมในครอบครัวที่อาจส่งผลกระทบต่อคนผู้นี้ได้
ตอนนี้ในการรับสมัครกองทัพเก้าชั้นฟ้า นางเองก็เลือกใช้วิธีนี้ มีประสิทธิ์ภาพเพียงพอที่จะช่วยให้นางคัดผู้ที่ภูมิหลังไม่ธรรมดา ฐานะซับซ้อนจำนวนหนึ่งออก ไปได้
คนทั้งหมดต่างก็คิดว่าเพราะเก้าชั้นฟ้าสถาปนาขึ้นใหม่ ต้องการกำลังคนจำนวนมากจึงรับสมัครคน
แต่ในความเป็นจริง มู่ชิงเกอกลับกำลังเตรียมการเพื่ออนาคตอยู่
“ทหาร” มู่ชิงเกอตะโกนหนึ่งครา
นอกประตูมีองครักษ์เขี้ยวมังกรเข้ามาทันที
ผู้ที่คุ้มกันอยู่ข้างกายมู่ชิงเกอในช่วงนี้คือ องครักษ์เขี้ยวมังกร องครักษ์ประจำกายของนางตลอดกาล
“คุณชาย” เมื่อองครักษ์เขี้ยวมังกรเข้ามาก็ทำความเคารพตามแบบทหารต่อมู่ชิงเกอ ไม่ว่ามู่ชิงเกอจะมียศสูงเพียงใด และไม่ว่านางจะมีคำเรียกมากน้อยเพียงใด ในใจพวกเขา มู่ชิงเกอก็ยังเป็นคุณชายตลอดไป
มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ กล่าวกับเขา “เจ้าไปบอกมั่วหยาง ศิษย์ของแดนเหว่ยอี้ แดนไห่เทียน แดนอู๋หวา ให้รับอภิสิทธิ์พิเศษในการตรวจสอบก่อน ศิษย์ของแดนจั๋วอวี่และแดนเฟิ่งเทียน ไม่เอาทั้งหมด”
“ขอรับ” องครักษ์เขี้ยวมังกรรับคำสั่งถอยออกไป
มู่ชิงเกอถอนหายใจยาวอย่างผ่อนคลาย คิ้วที่ขมวดมุ่นก็คลายลง แดนจั๋วอวี่มีความแค้นกับนางอย่างลึกลํ้า นางไม่ว่างไปแยกแยะความคิดของคนเหล่านี้อีก อย่างการแสดงท่าทีเหล่านั้นของศิษย์แดนจั๋วอวี่ก็ไม่อาจทำให้นางสนใจได้ สำหรับแดนเฟิ่งเทียน…นางไม่ได้อคติ เพียงแต่พวกนางอยู่ภายใต้การบัญชาของหลียวน ส่วนใหญ่ล้วนไม่มีประสบการณ์ในการรบจริง