ตอนที่ 886
รวมตัวอีกครั้ง ชมโอสถ
“ไปด้วยกันหรือ”
มู่เสวี่ยอู่กับซางซุนหวางต่างตกตะลึง
มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ “อีกไม่นานข้าจะเข้าพิธีสมรส ตั้งใจกลับมารับพวกท่านไปเข้าร่วมพิธี”
พิธีแต่งงานยิ่งใหญ่ถูกนางเอ่ยออกมาอย่างไม่มีความเหนียมอายของสตรีเลยแม้แต่น้อย
ซางซุ่นหวางกับมู่เสวี่ยอู่ตะลึงงันอยู่กับที่ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร
ตกใจ ดีใจ ตื่นเต้น ไม่คาดคิด ความรู้สึกต่างๆ พัวพันเข้าด้วยกัน ซางซุนหวางอ้าปากหลายครั้ง ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
“ลูกพี่จะแต่งงานแล้ว เช่นนั้นข้าจะเตรียมของขวัญให้ลูกพี่!” ท้ายที่สุดยังคงเป็นมู่เสวี่ยอู่ที่ได้สติกลับมา
“ใช่ๆๆ!” ซางซุ่นหวางเองก็ได้สติกลับมาฉับพลัน กล่าวอย่างตื่นเต้นทันที “นี่เป็นงานใหญ่ ต้องเตรียมการให้ดี”
พูดพลางมองมู่ชิงเกออย่างตำหนิ “เจ้าเด็กคนนี้ เรื่องใหญ่เพียงนี้เหตุใดถึงไม่หาวิธีมาบอกพวกข้าก่อนสักหน่อย พวกข้าจะได้จัดเตรียมล่วงหน้าให้เรียบร้อย”
มู่ชิงเกอยิ้มกล่าว “แล้วนี่ข้าไม่ได้มาบอกด้วยตัวเองหรือ”
“จะพอได้อย่างไร” ซางซุนหวางถลึงตา กล่าวถาม “จะไปเมื่อไหร่ ไม่ได้ เจ้าต้องกำหนดเวลาให้ข้า หลานสาวคนโตของข้าจะออกเรือน ข้าต้องเตรียมการให้ดี”
มู่ชิงเกอยิ้มอย่างจนใจ “อันที่จริงไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งสิ้น”
“ไม่ได้เด็ดขาด!” ซางซุ่นหวางปฏิเสธตรงๆ
ข่าวดีของมู่ชิงเกอทำให้เขาลืมแม้แต่จะไต่ถามเรื่องราวที่สายเลือดตระกูลซางตื่นขึ้น ตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรสำคัญไปกว่าการเตรียมงานแต่งงานให้นางแล้ว
“ข้ายังต้องไปรับท่านปู่และคนอื่นๆ ที่หลินชวน สามวันให้หลังข้าจะกลับมารับพวกท่านไปพร้อมกัน” มู่ชิงเกอพูดแผนการของตัวเองออกมา
แผ่นดินเทพมารฝั่งนั้น แม้ว่าซือมั่วจะเฝ้าดูอยู่ นางเองก็ไม่อาจเสียเวลาอยู่ที่นี่นานเกินไปได้
มู่ชิงเกอยังไม่ลืมว่าเผ่าอี้เหล่านั้นต้องการชีวิตของซือมั่ว
“สามวันหรือ” ซางซุนหวางขมวดคิ้วกล่าวพึมพำ “เวลากระชั้นชิดเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอ”
มู่ชิงเกอพยักหน้า “เช่นนั้นก็ดี ข้าจะไปสำนักวิถีโอสถเที่ยวหนึ่งก่อน แล้วตรงไปยังหลินชวน พวกท่านจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รอข้าอยู่ในบ้าน”
มู่ชิงเกอพูดจบก็หมุนตัวจากไป หายไปต่อหน้าพวกเขา
ซางซุ่นหวางถอนหายใจยาว “พี่สาวผู้นี้ของเจ้า มักจะงานยุ่งวุ่นวาย ตอนนี้ในที่สุดก็มีเวลามาคิดเรื่องของตัวเองแล้ว”
มู่สวี่ยอู่ประคองแขนของซางซุนหวาง กล่าวด้วยนํ้าเสียงเด็ดเดี่ยว “ท่านตาวางใจเถิด ข้าจะพยายามแข็งแกร่งขึ้นเพื่อช่วยงานท่านพี่”
“เด็กดี พวกเจ้าต่างก็เป็นเด็กดี” ซางซุ่นหวางกล่าวชม
มู่ชิงเกอเดินทางจากเมืองฝูซาไปถึงสำนักวิถีโอสถภาคตะวันออกเพียงแค่พริบตาเดียว
ก่อนหน้านี้ ต้องใช้เส้นทางคดเคี้ยวหลายครา ทว่าตอนนี้กลับขอเพียงชั่วพริบตาก็ไปถึงได้แล้ว
ปัญญาเทวะของนางจดจำตำแหน่งของเหมยจื่อจ้ง จ้าวหนานซิง ซางจื่อซู จูหลิงอยู่ก่อนแล้ว มู่ชิงเกอพลิ้วกายลงตรงหน้าพวกเขาทันที
พวกเขาทั้งสี่คล้ายเพิ่งจะบำเพ็ญเสร็จ กำลังถกเถียงวิถีโอสถอยู่ด้วยกัน
การที่มู่ชิงเกอปรากฎตัวกะทันหันทำให้ทั้งสี่คนดีใจจนบ้าคลั่งขึ้นมาในชั่วขณะ
“ชิงเกอ!”
“ชิงเกอ!”
คนที่วิ่งเข้ามาก่อนก็คือแม่นางทั้งสองคน
กว่าสิบปีที่ไม่ได้เจอ ตอนนี้ได้พบหน้าอีกครั้ง แม้แต่ซางจื่อซูที่นิสัยสุขุมยังเผยอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน
เหมยจื่อจ้งและจ้าวหนานชิงก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น ยิ้มน้อยๆ ให้มู่ชิงเกอ
ห้าคนพบหน้า แม้ว่าจากกันไปนาน แต่ก็ยังคงมีความรู้สึกชัดเจนจนไม่ต้องเอ่ยปากชนิดหนึ่ง
“น่ายินดีจริงๆ” จูหลิงยิ้มกล่าว
มู่ชิงเกอเดินไปหาคนทั้งสี่กล่าวกับพวกเขา “ช่วงนี้พวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
“พวกเรากำลังพยายามก้าวเข้าไปในแผ่นดินเทพมาร” จ้าวหนานชิงกล่าว
“จริงด้วย เหยาชิงไห่กับซีเซียนเสวี่ยหายตัวไปแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นานเจ้าสำนัก รวมถึงจีเหยาฮั่วก็ขึ้นไปแล้ว เจ้าได้เจอหรือไม่” จูหลิงกล่าวถาม
มู่ชิงเกอพยักหน้า “พวกเขาทั้งหมดสบายดีอย่างยิ่ง เพราะความผิดพลาดเหยาชิงไห่กับซีเซียนเสวี่ยยังผ่านเคราะห์อัสนีไม่สำเร็จก็เข้าไปในแผ่นดินเทพมาร แล้ว ต้องผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย แต่ตอนนี้ทุกคนสบายดีอย่างยิ่ง สำหรับเจ้าสำนัก ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่าเขาเซียนเปิ่นเฉ่าบนแผ่นดินเทพมาร อยู่ด้วยกันกับเหล่าอาจารย์ปรุงยาบนแผ่นดินเทพ จีเหยาฮั่วและคนอื่นๆ อยู่ที่เสี่ยวเทียนอี้ กำลังเปลี่ยนถ่ายพลัง หลังเปลี่ยนถ่ายเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่แผ่นดินเทพ”
“พวกเขา อยู่ในโลกเดียวกันกับเจ้าหมดแล้วหรือ” เหมยจื่อจ้งกล่าวอย่างเรียบเฉย ในดวงตาที่ละจากอารมณ์ในโลกคู่นั้นมีความผิดหวังปรากฎขึ้นมาจางๆ
สามคนที่เหลือไหนเลยจะไม่เป็นเช่นนี้
เดิมพวกเขาก็มาจากสถานที่เดียวกัน แต่ว่ามู่ชิงเกอโดดเด่นเกินไป ทำให้พวกเขาทำได้เพียงไล่ตามอยู่ข้างหลังอย่างสุดชีวิต พวกเขาอยากฝ่าฟันอุปสรรคไปพร้อมกับมู่ชิงเกอ แต่หลายครั้งหลายคราว สิ่งที่ได้รับกลับเป็นการคุ้มครองของมู่ชิงเกอ
แม้ว่าหลายปีนี้มู่ชิงเกอจะเข้าไปในแผ่นดินเทพมาร แต่เพราะว่าพวกเขามีความสัมพันธ์อันดีกับมู่ชิงเกอจึงทำให้ตระกูลใหญ่ต่างๆ ในโลกแห่งยุคกลางเป็นมิตรกับพวกเขาอย่างถึงที่สุด
บุญคุณบางอย่าง ตัวมู่ชิงเองก็ยังไม่รู้ แต่ว่าพวกเขากลับไม่อาจลืม
“อย่าคิดเช่นนี้ ศิษย์พี่ทั้งหลายต่างก็เป็นผู้มีพรสวรรค์ลํ้าเลิศ เข้าสู่แผ่นดินเทพมารเป็นเรื่องเร็วหรือช้าเท่านั้น” มู่ชิงเกอปลอบใจหนึ่งประโยค
ปัญญาเทวะกวาดผ่านตบะบำเพ็ญของคนทั้งสี่และยิ้มขึ้นมาทันที “ดูท่าแล้ว พวกท่านห่างจากการขึ้นสู่แผ่นดินเทพมารไม่มากแล้ว พวกท่านจำไว้ หลังจากขึ้นไปแล้ว พวกท่านจะมีโอกาสเลือกหนึ่งครั้ง ข้าอยู่ที่เก้าชั้นฟ้าบนแผ่นดินเทพ ตะวันตก หากพวกท่านสมัครใจ สามารถมาหาข้าได้ หากอยากไปแดนเทพอื่นๆ ดู ก็สามารถเลือกได้ตามอิสระ”
“พวกข้าต้องไปหาเจ้าแน่นอน!” ซางจื่อซู รีบกล่าว
“ใช่! จื่อซูพูดอย่างไรก็เอาอย่างนั้น! ข้าฟังจื่อ ซูหมด” จ้าวหนานซิงพูดพลางฉวยโอกาสจับมือของซางจื่อซูมาไว้ในมือใหญ่ของตนเอง
ทำเอาซางจื่อซูเขินอายไปทั้งใบหน้า กระทืบเท้าเคืองแค้น
เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองใกล้ชิดมากขึ้น มู่ชิงเกอก็รู้สึกดีใจจากใจจริง
ทักทายกันรอบหนึ่ง คนทั้งห้าจึงนั่งลงในสำนัก
ไม่ได้พบกันนานเพียงนั้น พวกเขารู้ว่ามู่ชิงเกอจะต้องไปถึงระดับที่สูงจนไม่อาจปีนป่ายเป็นแน่ แต่ว่าระหว่างพวกเขากลับไม่มีช่องว่างเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงพูดคุยกันเปิดเผยอย่างในวันวาน
“จริงสิ” มู่ชิงเกอคิดครู่หนึ่งก็ยกมือโบก หม้อผลาญสวรรค์ก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าคนทั้งห้า
“เสี่ยวเฮยของเจ้านี่” จ้าวหนานชิงตาลุกวาว
แต่จูหลิงกลับยิ้มกล่าว “เป็นเสี่ยวเฮย และยังเป็นหม้อผลาญสวรรค์ที่ดูหล่อเหลาขึ้นอีกเล็กน้อย”
“พวกท่านดูสิว่าข้างในมีอะไร” มู่ชิงเกอยิ้มกล่าว
คนทั้งสี่เขยิบเข้ามา ละสายตามองเข้าไปในหม้อ พบว่าก้นหม้อมีเด็กผู้หญิงที่น่ารักอย่างถึงที่สุดหนึ่งคน กำลังนอนหลับฝันหวานอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ
“ชิงเกอ! กระทั้งลูกเจ้าก็มีแล้วหรือ” จ้าวหนานชิงกล่าวอย่างตกใจ
เหมยจื่อจ้งสีหน้าเปลี่ยนไป
“พูดเหลวไหลอะไร! หากเป็นลูกของชิงเกอจะวางอยู่ในหม้อหลอมหรือ” จูหลิงกลอกตา
มู่ชิงเกอกล่าวอย่างขบขัน “ยังคงเป็นศิษย์พี่จูหลิงที่ฉลาด! นี่ไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่เป็นราชันย์โอสถจอมเทพ”
“ราชันย์โอสถจอมเทพ!”
คนทั้งสี่ร้องอุทานพร้อมกัน
มู่ชิงเกอพยักหน้า กล่าวกับพวกเขา “ข้าทิ้งนางไว้กับหม้อผลาญสวรรค์พวกท่านทำความเข้าใจวิถีโอสถบนร่างนาง บางทีอาจได้รับประโยชน์อะไรบ้าง”
“ขอบคุณเจ้า ชิงเกอ” เหมยจื่อจ้งขอบคุณจากใจจริง
มู่ชิงเกอส่ายหน้ายิ้มบางๆ “แค่นี้เอง ตอนข้าจะไปแล้วค่อยมาเอาคืน”