Skip to content

พลิกปฐพี 889

ตอนที่ 889

คุณชายดื่มสุราฟังเพลง

“ลูกพี่ ท่านไปคราวนี้เป็นเวลากว่าสิบปี ลูกๆ ของข้าโตหมดแล้วกลับยังไม่เคยพบท่านผู้อาวุโสผู้นี้เลย” เจ้าอ้วนแซ่เซ่าเติมไฟลงไปในเตาถ่านและกล่าวหยอก ล้อ แม้ว่าพวกเขาจะไม่กลัวความหนาว แต่ก็ยังรู้สึกว่าในฤดูหนาวนี้ มีเตาไฟอยู่ข้างกายก็สามารถสร้างบรรยากาศได้ดียิ่งขึ้น

มู่ชิงเกอยกมุมปาก ส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา

ใช่แล้ว ช่วงเวลาหลายสิบปี ที่แผ่นดินเทพมารเป็นเพียงเรื่องที่ผ่านไปในชั่วพริบตา แต่ที่หลินชวน ลูกของสหายในวันวานกลับโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ส่วนนาง กลับเลื่อนขั้นเป็นผู้อาวุโสโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

“เจ้าอ้วน ข้าจะแต่งงานแล้ว เจ้าจะไปร่วมงานที่แผ่นดินเทพมารหรือไม่” มู่ชิงเกอวางแก้วสุราในมือลงเหลือบตาขึ้นกล่าวถาม

บนใบหน้าที่อ้วนตุ๊ต๊ะของเจ้าอ้วนแช่เช่าปรากฎรอยยิ้ม หนวดบนแก้มก็ขยับด้วยเล็กน้อย “ยินดีกับลูกพี่ก่อน แต่ว่าข้าไม่ไปดีกว่า ชั่วชีวิตนี้เนื้อกว่าร้อยจินของข้าไม่เคยออกจากหลินชวน เริ่มจะขี้เกียจแล้ว ข้าไม่ไปทำให้ลูกพี่ขายหน้าดีกว่า วันนี้ มาฉลองงานแต่งลูกพี่ล่วงหน้ากับเจ้าอ้วนแซ่เช่าเถอะ”

เขายกแก้วสุราบนโต๊ะขึ้น ส่งให้มู่ชิงเกอหนึ่งใบ ตนถือไว้เองหนึ่งใบ ยกแก้วขึ้นหามู่ชิงเกอ เขากล่าว “ขอให้ลูกพี่ข้ากับพี่เขยถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร รักใคร่ปรองดอง รักกันยิ่งยืนนาน…”

เขาพูดคำอวยพร จำนวนมาก ท้ายที่สุดก็ยักคิ้วหลิ่วตากล่าวหนึ่งประโยค

“ที่สำคัญที่สุดก็คือ มีลูกชายไวๆ”

มู่ชิงเกอก็ไม่ได้เขินอาย แสยะปากยิ้ม “ขอบใจ”

ทั้งสองดื่มสุราในแก้มหมดพร้อมกัน มองหน้ายิ้มให้กัน

เรือหรูค่อยๆ เข้าใกล้ฝั่ง มู่ชิงเกอกับเจ้าอ้วนแซ่เซ่าเดินออกมาจากเรือ เหยียบดอกไม้ที่ร่วงโรย รวมถึงดินปนดอกไม้ขึ้นมาบนฝั่ง ทั้งสองเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ ในมือเจ้าอ้วนแซ่เซ่าถือไหสุราหลายใบ ขับให้ร่างกายที่อ้วนกลมนั้นของเขาดูเด่นขึ้นมาจริงๆ

“ลูกพี่ ก่อนหน้านี้พวกเรามาที่นี่ล้วนมีหญิงงามในอ้อมอก ตอนนี้พวกเรากลับไม่มีความสนใจนั้นแล้ว” เจ้าอ้วนแซ่เซ่ายิ้มกล่าว

หวนนึกถึงอดีตที่ผ่านมา ดวงตาทั้งคู่ของมู่ชิงเกอก็หรี่เล็กราวกับจันทรา อมยิ้มพยักหน้า

วัยหนุ่มสาวบ้าคลั่งอารมณ์ร้อน ปล่อยตัวเต็มที่ อย่างในอดีตไม่ได้หายสาบสูญไป แต่กลับผ่านไปตามกาลเวลา เพิ่มขึ้นตามประสบการณ์ เติบโตตามอายุ แตกต่างตามหน้าที่ และเปลี่ยนเป็นเก็บอารมณ์สงวนท่าทีมากขึ้น

“ฮ่าๆๆๆ” จู่ๆ มู่ชิงเกอก็เงยหน้าหัวเราะร่า

ถึงแม้ตอนนี้นางจะอยู่ในอาภรณ์สตรี แต่การหัวเราะอย่างสบายอารมณ์เช่นนี้กลับมองไม่เห็นถึงความไม่เหมาะสมใดๆ กลับยิ่งเพิ่มความงดงาม หัวเราะเสร็จนางก็กล่าวกับเจ้าอ้วนแซ่เช่า “เจ้าอ้วน วันนี้พวกเรามาระลึกถึงความรู้สึกวัยเยาว์กันเถอะ”

วันนี้ วางทุกอย่างลง ไร้การผูกมัดเหมือนในวัยเยาว์ดื่มสุราฟังเพลง

“ได้” เจ้าอ้วนแซ่เซ่ายิ้มพลางออกแรงพยักหน้า

การจากไปของมู่ชิงเกอ ที่จากไปด้วยคือความทรงจำของหนุ่มน้อยจอมเสเพลของเขา อีกทั้งยังมีความผูกพันของพี่น้อง

ทั้งสองคนเดินอยู่ในป่าท้อ วางแผนจะไปยัง ‘ป่าเขียวทึบดอกไม้เบ่งบานและหมู่บ้าน’ ที่เคยเล่นสนุกผืนนั้น กลีบดอกท้อร่วงลงมาไม่ขาดสาย ตกลงพร้อมกับ เกล็ดหิมะบนฟ้า ร่วงลงบนร่าง บนศีรษะ และใต้เท้าของทั้งสองคน

เดินไปได้ไม่นาน เสียงพิณเสียงหนึ่งก็ดังเข้ามา

มู่ชิงเกอหยุดเท้า เจ้าอ้วนแช่เช่าก็หยุดเช่นกัน ทั้งสองสบตากับปราดหนึ่ง เสียงพิณนี้พวกเขาคุ้นเคย เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้เขาเองก็มาที่นี่เช่นกัน

“หลังจากที่ลูกพี่ขึ้นไปยังแดนเทพครั้งก่อน ฝ่าบาทกลับเริ่มหันมาสนใจเรื่องวังหลัง บัดนี้ มีองค์ชายสององค์ องค์หญิงหนึ่งองค์แล้ว แม้เทียบกับสายเลือดราชนิกุลแคว้นอื่นยังคงน้อยนัก แต่ก็นับว่ามีคนสืบทอดแล้ว” เจ้าอ้วนแซ่เช่ากล่าวกับมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว พยักหน้าอย่างไม่สงสัย

เจ้าอ้วนแซ่เช่ากล่าวต่อ “ฝ่าบาททรงเข้มงวดกับองค์ชายทั้งสองพระองค์ยิ่งนัก แต่กลับรักและเอ็นดูองค์หญิงน้อยอย่างยิ่ง สำหรับมารดาของพวกเขา…ก็เพียงแค่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ดังนั้นในวังหลังของฝ่าบาทจึงเรียกได้ว่าปรองดอง”

มู่ชิงเกอเม้มปากไม่พูด จ้องมองที่ที่เสียงพิณลอยเข้ามาในป่าท้อ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เจ้าอ้วนแซ่เช่ามองเจตนาของนางออก กล่าวโน้มน้าว “ลูกพี่อย่าได้ถือสา ฝ่าบาทก็เป็นคนเช่นนี้ หากตอนนั้นท่านไม่เข้าวังบีบบังคับเขา เกรงว่าตอนนี้ข้างกายเขา จะไม่มีคนเหลือแม้แต่คนเดียว ยิ่งไปกว่านั้น มนุษย์บนโลก เมื่อได้ของบางอย่างมาก็จำเป็นต้องวางของอีกอย่างลง”

สายตามู่ชิงเกอเคลื่อนไปบนร่างเจ้าอ้วนแซ่เซ่า ยกริมฝีปากยิ้มเอ่ยหยอกล้อ “เจ้าเข้าใจหลักการไม่น้อยเลย”

ใบหน้าเจ้าอ้วนแซ่เซ่าภูมิใจอย่างถึงที่สุด “แน่นอนอยู่แล้ว ดูด้วยว่าลูกพี่ข้าเป็นใคร อันที่จริง ลูกพี่ไม่ต้องรู้สึกผิด ทางเลือกทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นทางเลือกที่ฝ่าบาทเลือกเอง ทำเรื่องบางเรื่องเพื่อคนที่อยู่ในใจตนได้นั้นเป็นความสุข หาใช่ความทุกข์ไม่”

เขาพูดพลางตีอกตัวเอง กล่าวด้วยความภูมิใจ “เหมือนอย่างข้า ช่วยลูกพี่ ดูแลที่นี่ได้ ข้าก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างยิ่ง”

“ขอบคุณ เจ้าอ้วน” มู่ชิงเกอกล่าวอย่างตั้งใจ

เจ้าอ้วนแซ่เซ่ากล่าว “ระหว่างท่านและข้ามีอะไรให้ต้องขอบคุณกัน”

หยุดครู่หนึ่ง เสียงพิณยังดังต่อเนื่อง เจ้าอ้วนแซ่เซ่ากล่าวถาม “อยากเดินไปหรือไม่ ครั้งนี้แม้ท่านกลับมาเงียบๆ แต่เกรงว่าคงจะไปถึงหูเขาแล้ว”

มู่ชิงเกอคิดครู่หนึ่ง พยักหน้ากล่าว “ในเมื่อบังเอิญเจอแล้ว ก็ไปดูเสียหน่อยเถอะ”

หลังจากนั้น นางก็ก้าวเท้าเดินทางไปยังที่ที่เสียงพิณลอยเข้ามา เจ้าอ้วนแซ่เซ่าย่อมตามอยู่ข้างหลังนาง เขาในตอนนี้ไม่ได้วิตกกังวลเมื่อพบเจอราชนิกุลนาน

แล้ว

มู่ชิงเกอกับ เจ้าอ้วนแซ่เซ่าเลี้ยวไปเลี้ยวมาอยู่ในป่าท้อ มาถึงด้านนอกศาลาแปดเหลี่ยมเมื่อครั้งนั้น

มองผ่านกิ่งไม้กลีบดอกไม้พวกเขาเห็นรางๆ ว่า ในศาลาแปดเหลี่ยม มีเงาร่างสีเหลืองอ่อนหนึ่งร่างกำลังนั่งดีดพิณอยู่ในนั้น และข้างๆ เขา ยังมีเงาร่างใหญ่หนึ่ง เล็กหนึ่งสองคนฟังอยู่เงียบๆ

มู่ชิงเกอยืนอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินเข้าไป เมื่อนางปรากฎตัวก็ดึงดูดความสนใจของคนทั้งสามในศาลาทันที หลังจากที่เห็นคนในศาลาชัดเจนแล้ว ตัวมู่ชิง

เกอเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

เงาร่างใหญ่หนึ่งเล็กหนึ่งสองคนนั้น คนตัวเล็กเป็นเด็กผู้หญิงผิวขาวหน้าตางามสง่า เครื่องหน้าทั้งห้าสวยประณีต ส่วนคนตัวใหญ่ คาดไม่ถึงว่าเป็นฉินอี้เหยา

นางกลับมาหลินชวนตั้งแต่เมื่อใด

“ชิงเกอ” ฉินอี้เหยาลุกขึ้นยืนอย่างตื่นตะลึง มองหญิงสาวที่สวมชุดเกราะกระโปรงแดงแล้วกล่าว

ฉินจิ่นเฉินก็หยุดดีดพิณแล้วเช่นกันมองนางนิ่งๆ

มีเพียงเด็กผู้หญิงคนนั้นที่มองคนทั้งสองข้างกายอย่างสับสนงุนงง จากนั้นจึงมองมู่ชิงเกออย่างสงสัย

“ท่านน้างามยิ่งนัก” เสียงเด็กที่อ่อนนุ่มทำลายความตื่นตะลึงและเงียบสงัดของการพบเจอกันอีกครั้งลง

มู่ชิงเกอยกริมฝีปากยิ้ม พูดหนึ่งประโยค “ไม่เจอกันนาน”

สถานที่งดงามเงียบสงบที่ถูกมู่ชิงเกอและเจ้าอ้วนแซ่เซ่าค้นพบผืนนั้น มีเสียงเล่นสนุกดังเข้ามา เสียงหัวเราะ ‘คิกๆๆ’ ที่ไม่เหมือนเสียงหัวเราะอ่อนหวานอย่าง เมื่อก่อนดังมาจากเด็กผู้หญิงบนพื้นหิมะ ผู้ที่เล่นขว้างหิมะกับเด็กผู้หญิงย่อมเป็นเจ้าอ้วนแซ่เซ่า

อีกฝั่งหนึ่ง ผ้าไหมหนึ่งผืนปูอยู่บนพื้น เตาถ่านสองใบขับไล่ไอหนาวรอบด้าน คนทั้งสามนั่งหันหน้าเข้าหากัน

“องค์หญิงน้อยน่ารักยิ่งนัก” สายตาของมู่ชิงเกอละออกจากร่างของเด็กผู้หญิงมาตกที่ฉินจิ่นเฉิน

ฉินจิ่นเฉินยิ้มบางๆ ดวงตาที่มองทุกสิ่งได้อย่างถ่องแท้คู่นั่นปรากฎความอ่อนโยนของผู้เป็นพ่อออกมา “ขอบคุณ”

“สุขภาพตอนนี้ ดื่มสุราได้หรือไม่” มู่ชิงเกอยกไหสุราขึ้น ด้วยความสามารถของนาง ย่อมดูออกว่าสุขภาพของฉินจิ่นเฉินเป็นอย่างไร เพียงแค่ถามเป็นมารยาทเท่านั้นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version