Skip to content

พลิกปฐพี 891

ตอนที่ 891

ข้ามารับคน

มู่ชิงเกอผ่าช่องว่าง ทะลุจากโลกแห่งยุคกลางเข้าไปในแผ่นดินเทพมารโดยตรง

เรืออากาศนำมาเพื่อป้องกันอันตรายที่จะนำมาสู่ญาติพี่น้องระหว่างขั้นตอนการทะลุผ่านมิติ

“เอาล่ะ พวกเรามาถึงแล้ว”

คนทั้งหมดบนเรืออากาศ รู้สึกว่าเพียงผ่านไปชั่วขณะก็ได้ยินเสียงของมู่ชิงเกอ

ถึงแล้วหรือ

นี่ถึงแล้วหรือ

เร็วเพียงนี้เชียว

ไม่นานนัก มู่ชิงเกอก็เข้ามาในเรือ ทะลุเข้ามายังห้องโดยสารบนเรือ ปรากฎตัวอยู่หน้าพวกเขา

“เกอเอ๋อร์เร็วเพียงนี้ก็เข้ามาในแผ่นดินเทพมารแล้วหรือ” มู่ซงถามอย่างแปลกใจ

มู่ชิงเกอมองความสงสัยเต็มใบหน้าทุกคนแล้ว ยิ้มกล่าว “รู้สึกว่าเร็วเกินไปหน่อยใช่หรือไม่”

ทุกคนพยักหน้า

เร็วเกินไปจริงๆ แผ่นดินเทพมารในจินตนาการพวกเขาก็เหมือนกลุ่มเมฆที่สูงที่สุดบนขอบฟ้า มองเห็น แต่ไม่อาจเอื้อมแตะ ตอนที่มู่ชิงเกอเข้ามาในแผ่นดินเทพมารก็เสียเวลาไปมาก ยากลำบากไม่น้อย

“เข้าสู่ตบะบำเพ็ญขั้นศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงก็จะสามารถเปิดช่องว่าง ไปมาตามอำเภอใจได้ไปกลับเพียงแค่พริบตาเดียว” มู่ชิงเกอกล่าวอธิบาย

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้

ได้ฟังคำพูดของมู่ชิงเกอ ทุกคนจึงเข้าใจ

“ตอนนี้พวกท่านออกมาเดินเล่นได้แล้ว” มู่ชิงเกอกล่าว

ไม่ต้องอุดอู้อยู่ในห้องโดยสารบนเรือแล้ว

ข่าวนี้ทำให้ทุกคนดีใจ พากันลุกขึ้นยืนเดินตามมู่ชิงเกอออกมาจากห้องโดยสาร มาถึงดาดฟ้าเรือ

“โห ที่นี่สวยยิ่งนัก” มู่อี้เฉินถูกแสงดาวโดยรอบปกคลุม กล่าวอย่างตกใจ

มู่เสวี่ยอู่ก็ดำดิ่งอยู่ในทิวทัศน์งดงามของมหาสมุทรดวงดาวแห่งนี้ ยากจะถอยออกมา กล่าวพึมพำ “สวยยิ่งนัก”

“ที่นี่สวยอย่างยิ่งจริงๆ นี่คือแผ่นดินเทพมารหรือ” ซางหลันรั่วยืนอยู่ข้างๆ มู่ชิงเกอ ในดวงตาถูกทิวทัศน์ตรงหน้าดึงดูดภาพฝันราวกับเด็กสาวขึ้นมา

มู่ชิงเกอพลางหยิบยาลูกกลอนที่เตรียมไว้ก่อนแล้วออกมา พลางอธิบาย “ที่นี่คือมหาสมุทรดวงดาว แผ่นดินเทพมารแบ่งเป็นแผ่นดินเทพสี่สมุทรและดินแดนมารรกร้าง ดินแดนมารอยู่อีกฝั่งหนึ่งของมหาสมุทรดวงดาว เป็นแผ่นดินใหญ่ที่สมบูรณ์ผืนหนึ่ง ส่วนแผ่นดินเทพสี่สมุทร ก็คือแผ่นดินใหญ่สี่ส่วนที่แบ่งอยู่ในมหาสมุทรดวงดาวผืนนี้ เรืออากาศลำนี้ ก็คือยานพาหนะที่ธรรมดาที่สุดซึ่ง เดินทางไปมาระหว่างแผ่นดินเทพแต่ละแห่ง”

มู่ชิงเกอแบ่งยาลูกกลอนในมือให้ทุกคน

ซางซุนหวางถือยาลูกกลอนในมือ กล่าวด้วยความสงสัย “เกอเอ๋อร์กินยาเพื่ออะไรหรือ”

มู่ชิงเกอกล่าว “พลังของแผ่นดินเทพมารต่างจากหลินชวนกับโลกแห่งยุคกลาง เมื่อกินยานี้เข้าไปจะสามารถช่วยพวกท่านชดเชยแรงกดดันจากตัวของแผ่นดินใหญ่ได้ส่วนใหญ่ เพียงแต่ได้เพียงชั่วคราว ตอนนี้พวกท่านยังอยู่ในมหาสมุทรดวงดาว สัมผัสพลังได้ไม่มาก แต่เมื่อเข้าไปในแผ่นดินเทพแล้ว หากไม่มียานี้คอยช่วย ไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็อาจจะถูกพลังของแผ่นดินใหญ่บดทับจนแหลกเป็นเถ้าถ่านได้”

ทุกคนพยักหน้า พากันทานยาที่มู่ชิงเกอส่งให้

“เกอเอ๋อร์ตระกูลมู่” มู่ซงถามขึ้นอย่างอดไม่ได้

มู่ชิงเกอละลายตามองเขา ยิ้มน้อยๆ “ท่านปู่ ตระกูลมู่อยู่ที่แผ่นดินเทพตะวันตก” ทันใดนั้น นางก็อธิบาย ‘วิทยาศาสตร์’ อย่าง่ายๆ ให้คนในบ้านฟัง “แผ่นดินเทพ สี่สมุทรมีแดนเทพเป็นแดนหลัก เดิมทีในแผ่นดินเทพสี่สมุทรมีทั้งหมดสิบหกแดนเทพ แต่ว่าตอนนี้ กำจัดแดนที่ถูกคัดออก แดนที่เหลือเพียงแต่ชื่อก็มีอยู่เพียงแปดแดน ส่วนตระกูลมู่ของเราในแผ่นดินเทพตะวันตก ก็คือแดนเทพเพียงแดนเดียว เก้าชั้นฟ้า”

เก้าชั้นฟ้า

มู่ซง มู่เหลียนเฉิง มู่อี้เฉิน มู่เสวี่ยอู่ คนตระกูลมู่ทั้งหลาย เมื่อได้ยินชื่อชื่อนี้แล้วต่างก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าโลหิตที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย

มู่ซงสูดหายใจเข้าลึก กล่าวด้วยความรู้สึกล้นเอ่อ “ข้ามู่ซงไม่มีปัญญาออกมาจากหลินชวน แต่กลับมีหลานสาวที่ดีคนหนึ่ง”

เขาพูดพลางมองซางหลันรั่วและกล่าวอย่างจริงใจ “ลูกสะใภ้ เจ้าคือผู้สร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ในตระกูลมู่ของข้า ลูกสามคน แต่ละคนล้วนโดดเด่นถึงเพียงนั้น”

ซางหลันรั่วที่ถูกชมแก้มแดงขึ้นและกล่าวทันที “ท่านพ่อ อย่าพูดเช่นนี้ หลันรั่วรับไว้ไม่ได้”

แต่ซางซุนหวางกลับหัวเราะร่ากล่าว “ฮ่าๆๆๆ ในนี้ก็มีสายเลือดตระกูลซางของข้าด้วยนี่”

มู่ชิงเกอยิ้มน้อยๆ เม้มปากไม่พูด

ไม่ว่าภาระบนบ่าตนจะหนักเพียงใด ขวากหนามข้างหน้าจะสูงเพียงใด หรือจะมีอุปสรรคอันตรายมากน้อยเพียงใดรออยู่ ขอเพียงได้เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มที่สบายใจของคนในครอบครัว ทุกอย่างก็คุ้มค่า

เพื่อให้คนในบ้านปรับตัวกับพลังของแผ่นดินเทพมารช้าๆ เรืออากาศจึงขับเคลื่อนอยู่ในมหาสมุทรดวงดาวช้าอย่างยิ่ง

ผ่านไปเกือบสิบวันจึงเข้าใกล้แผ่นดินเทพตะวันตก

เมื่อเรืออากาศเทียบฝั่ง มู่ซงก็กวาดสายตาเฉียบแหลมไปเห็นคนที่คุ้นเคยหลายคน “เจ้าหนุ่มมั่วหยาง เด็กน้อยโย่วเหอ ฮวาเยวี่ย”

ผู้ที่รับคำสั่งมารับคนที่นี่ แน่นอนว่าเป็นพวกมั่วหยางสามคน

ทั้งสามพาองครักษ์เขี้ยวมังกรมารออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นมู่ซง ในดวงตาของพวกเขาก็ดูตื่นเต้นขึ้นรางๆ

แต่กลับไม่ลืมกฎระเบียบ พากันคำนับกล่าว “นายท่านผู้เฒ่า”

“พอแล้วๆ พวกเจ้าล้วนเป็นบ่าวคนสนิทของเกอเอ๋อร์ตอนนี้ก็กลายเป็นยอดฝีมือเก่งกาจ ผู้ชรารับการคำนับของพวกเจ้าไม่ได้หรอก” มู่ซงหัวเราะกล่าว

พวกมั่วหยางสามคน พูดได้ว่าเติบโตมาในตระกูลมู่ อยู่ข้างกายมู่ชิงเกอมาตั้งแต่เล็ก ย่อมได้รับการเอาใจใส่จากมู่ซงเช่นกัน

มู่ชิงเกอส่งคนในครอบครัวลงจากเรือทีละคน และกล่าวกับพวกเขา “ข้ายังต้องไปรับคนจำนวนหนึ่งที่แดนเทพตะวันออก ท่านปู่ ท่านตา ท่านพ่อท่านแม่ เสวี่ย อู่ อี้เฉิน พวกท่านตามพวกมั่วหยางกลับไปที่เก้าชั้นฟ้าก่อน ไม่ว่าจะมีเรื่องใดๆ สามารถบอกพวกเขาได้ พวกเขาจัดการได้หมด ข้าจะกลับมา เร็วก็สามวัน ช้าก็ห้าวัน”

“เจ้าไปทำธุระของเจ้าเถิด ไม่ต้องเป็นห่วงพวกข้า” มู่ซงกล่าว

มู่เหลียนเฉิงกล่าวกับมู่ชิงเกอ “เกอเอ๋อร์อย่าหักโหมเกินไป รักษาสุขภาพด้วย”

มู่ชิงเกอยิ้มน้อยๆ พยักหน้า หลังจากมองญาติๆ ขึ้นรถลากที่เตรียมไว้เสร็จแล้ว นางจึงหันหลังออกไป

ครั้งนี้ นางไม่ต้องใช้เรืออากาศ แต่ผ่านช่องว่างไปโดยตรง ชั่วพริบตาก็ถึงแดนฮ่วนเยวี่ยบนแผ่นดินเทพตะวันออกแล้ว

มู่ชิงเกอปรากฎตัวอยู่ในวังราชาเทวะโดยตรง มองเห็นอดีตราชเทวะเดินออกมาจากวังราชาเทวะพอดี

อดีตราชาเทวะมองเห็นมู่ชิงเกอยืนอยู่หน้าวังราชาเทวะก็ตกตะลึง เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา ผ่านไปหลายชั่วพริบตา เขาจึงเดินเข้ามาหานาง กล่าวถาม “เด็กน้อย เจ้าโผล่มาที่นี่ได้อย่างไร”

มู่ชิงเกอยิ้มน้อยๆ “ข้ามาพบราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย แลกของบางอย่าง และถือโอกาสรับคน”

ในใจอดีตราชาเทวะเข้าใจในชั่วขณะ เขายิ้มน้อยๆ ทอดถอนใจ “ตอนนั้นคิดว่าเจ้าเป็นหน่ออ่อนอันดี แต่กลับไม่คิดว่า เจ้าจะมีภูมิหลังที่ใหญ่ถึงเพียงนี้ เป็นดัง คาด ของของตระกูลมู่ ท้ายที่สุดก็ยังต้องกลับคืนสู่ตระกูลมู่ เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่า เจ้าจะพาคนมหาศาลเข้าแสงแห่งวิถีได้ซํ้ายังเปิดเผยเนื้อหาเคล็ดวิชาเทวะสู่ สาธารณะ ปณิธานเหล่านี้ ผู้ชรายังเทียบไม่ได้”

“อดีตราชาเทวะกล่าวเกินไปแล้ว” สีหน้ามู่ชิงเกอปกติ ไม่ได้เผยสีหน้าภูมิใจออกมาด้วยเหตุนี้

อดีตราชาเทวะพยักหน้าด้วยความชื่นชมยิ่งขึ้น กล่าวอย่างจนใจ “บุคคลที่ดีเด่นเช่นนั้น เหตุใดถึงไม่ใช่คนของแดนฮ่วนเยวี่ยนะ”

เขาพูดพลางกล่าวต่อ “ไปเถิดเจ้า ข้าพูดจาเรื่อยเปื่อยอยู่ตอนนี้ เกรงว่าเขาจะรับรู้ได้นานแล้วว่าเจ้ามา”

มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ

อดีตราชาเทวะเอามือไพล่หลังเดินเตร่ออกไปไกลอย่างช้าๆ มู่ชิงเกอมองส่งเขาจากไปแล้วก็เดินตรงไปในวังราชาเทวะ

เพียงแต่ นางเพิ่งจะก้าวเข้าวังราชาเทวะ ทัศนียภาพตรงหน้าก็พลันเปลี่ยน มาปรากฎตัวอยู่บนเทือกเขาแห่งหนึ่ง…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version